ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม

aass012
aass012ครู en โรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
(Exponential Function and Logarithm Function)
ข้อกาหนด เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวก
บทนิยาม
aaaaa
n
 ... ( n ตัว) เมื่อ a เป็นจานวนจริงใด ๆ
n เป็นจานวนเต็มบวก
เรียก a ว่า ฐาน (base)
เรียก n ว่า เลขชี้กาลัง ( exponent)
เรียก n
a ว่า เลขยกกาลัง (power)
ทฤษฎีบท (Theorem)
ถ้า a , b เป็นจานวนจริงที่ไม่เป็น 0 และ m , n เป็นจานวนเต็ม จะได้
(1) nmnm
aaa


(2) mnnm
a)a( 
(3) nnn
baab )(
(4) n
nn
b
a
b
a






(5) mn
nm
m
n
a
a
a
a



1
(6) 1a
0

(7) n
n
a
1
a 

; n เป็นจานวนเต็มบวก
0
0 ไม่นิยาม
ตัวอย่างที่ 2
(1) 103
.10-4
= 103+(-4)
= 10-1
=
10
1
(2) X4
X5
= X4+5
= X9
(3) ถ้า 0X  แล้ว X.X-1
= X1+(-1)
= X0
= 1
ตัวอย่างที่ 3
(1) 6422)2(
62323


(2)
729
1
3
1
33)3( 6
6)3)(2(32


(3) ถ้า 0x  แล้ว 2
2)2)(1(21
x
1
xx)x( 

ตัวอย่างที่ 4
(1) 2222
x9x3)x3( 
(2) x4x4)x(2)x2(
2)(222 2
1
2
1
2
1

(3) 623223
1021.1)10()1.1()101.1(


ตัวอย่างที่ 5
(1) ถ้า 0y  แล้ว 2
2
2
y
x
)
y
x
( 
(2)
4
x
4
x
2
)x(
2
x
2)
2
1(
2
22
1
2
2
1











ตัวอย่างที่ 6
(1)
10
1
101010
10
10 123)2(3
2
3




(2) 128222
2
2 725)2(5
2
5



(3) ถ้า 0x  แล้ว 235
5
3
xx
x
x


รากที่ n ในระบบจานวนจริง และจานวนจริงในรูปกรณฑ์
บทนิยาม ถ้า n เป็นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และถ้า a, x เป็นจานวนจริงซึ่งสอดคล้องกับ
สมการ xn
= a แล้วเราเรียก x ว่าเป็นรากที่ n ของ a
ตัวอย่างที่ 1 (1) รากที่ 2 ของ 4 คือ 2 และ -2 เพราะว่า (2)2
= 4 และ (-2)2
= 4
(2) รากที่ 3 ของ -8 คือ -2 เพราะว่า (-2)3
= -8
(3) รากที่ 6 ของ 64 มีสองจานวนคือ 2 หรือ -2
(4) รากที่ 6 ของ -64 ที่เป็นจานวนจริงไม่มีเลย
(5) รากที่ 3 ของ 64 มีจานวนเดียวคือ 4
(6) รากที่ 3 ของ -64 มีจานวนเดียวคือ -4
ข้อสังเกต
(1) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคู่แล้ว จานวนบวกแต่ละจานวนจะมีรากที่ n เป็น
จานวนจริงสองจานวน รากหนึ่งจะเป็นจานวนบวก และอีกรากหนึ่งเป็น
จานวนลบ
(2) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคู่ แล้วจานวนลบแต่ละจานวนจะไม่มีรากที่ n ที่เป็น
จานวนจริง
(3) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคี่ แล้ว จานวนจริงแต่ละจานวนจะมีรากที่ n เป็นจานวน
จริงเพียงจานวนเดียว รากที่ n ของจานวนบวกเป็นจานวนบวกและรากที่ n
ของจานวนลบก็เป็นจานวนลบ
บทนิยาม ถ้า n เป็นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และ a เป็นจานวนจริง ( ยกเว้นกรณีที่ n เป็น
จานวนคู่ และ a เป็นจานวนลบ ) แล้วเรากาหนดความหมายของ n a ดังนี้
n
a = n
a
1
สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับรากที่ n ของจานวนจริง
(ก) เครื่องหมาย n เรียกว่า เครื่องหมาย กรณฑ์ ( Radical) และเรียก n ว่าเป็นอันดับ
ของกรณฑ์ ( อันดับของ กรณฑ์)
(ข) n a อ่านว่า กรณฑ์อันดับที่ n ของ a หรือรากที่ n ของ a
(ค) 2 a นิยมเขียนแทนด้วย a
ทฤษฎีบทเกี่ยวกับรากที่ n ของจานวนจริง
ถ้า a และ b เป็นจานวนจริง และ m ; n เป็นจานวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า 1 โดยที่ n a
และ n b หาค่าได้แล้ว
1.  nn a = a
2. n ab = nn ba 
3. n
b
a
=
n
n
b
a
; b  0
4.
n n
a =



คี่nเป็ นจำนวน;a
คู่nเป็ นจำนวน;a
5. m n a = mn a
6. kn km
a =
n m
a ; k เป็นจานวนเต็มบวก
7. n m
a =
m
n
a







 1
= n
m
a
8. n 0 = 0
9. n
1 = 1
การบวกและการลบของจานวนที่ติดกรณฑ์
ข้อตกลง
จะนาจานวนที่ติดกรณฑ์ มาบวกหรือลบกันได้ต่อเมื่อจานวนนั้น ๆ ต้องมีคุณสมบัติครบ 2
ประการ คือ
1. อันดับของกรณฑ์ต้องเท่ากัน
2. จานวนที่อยู่ภายใต้กรณฑ์ต้องเท่ากัน
และเวลาบวกหรือลบกันให้นา " สัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาบวกหรือลบ " เท่านั้น
ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ 323335 
แนวคิด นาสัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาบวก ลบ กัน
323335  =   3235 
= 36
ตัวอย่างที่ 4 จงหาค่าของ 32712 
แนวคิด จะต้องทาตัวเลขภายใต้กรณฑ์ให้เท่ากันเสียก่อน แล้วจึงนามาบวกลบกัน
จะได้ 32712  = 33.93.4 
= 33332 
=   3132 
= 34
การคูณกรณฑ์ด้วยกรณฑ์
ข้อตกลง
1. จะนากรณฑ์มาคูณกันได้ก็ต่อเมื่ออันดับกรณฑ์ต้องเท่ากัน
2. เมื่ออันดับกรณฑ์เท่ากันก็ให้นาตัวเลขภายใต้กรณฑ์มาคูณกัน
3. นาสัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาคูณกัน
ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ    225273
แนวคิด จะเห็นว่าคูณกันได้เลยตามข้อตกลง
จะได้    225273 =   2.5.72.2.3
= 7012
ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ   3535 
แนวคิด
  3535  =       33533555 
= 5 - 3
= 2
ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ   3522 3
แนวคิด จะเห็นว่าโจทย์ที่ให้อันดับของกรณฑ์ตัวตั้งกับตัวคูณไม่เท่ากัน ต้องทาให้เท่ากันเสียก่อน
โดยนาอันดับของกรณฑ์ที่ทั้งตัวตั้งและตัวคูณมาหา ค.ร.น. โดยใช้ทฤษฎีบทข้อ 6 เข้าช่วย
km kn
a =
m n
a
จะได้ 3
2 =
2.3 2
2 = 6
4
3 =
3.2 3
3 = 6
27
  35223
 =   66
27542
=  6
27.45.2
= 6
10810
การคูณโดยอาศัยรูปผลต่างกาลังสอง
)))((
22
bababa 
ดังนั้น bababa  ))((
รูปผลต่างกาลังสองจะนามาใช้ในการแก้ปัญหาโจทย์เกี่ยวกับกรณฑ์ในกรณีที่ตัวส่วนติดกรณฑ์
การหารกรณฑ์ด้วยกรณฑ์
ข้อตกลง
1. จะนากรณฑ์มาหารกันได้ก็ต่อเมื่ออันดับของกรณฑ์ต้องเท่ากัน
2. เมื่ออันดับของกรณฑ์เท่ากันก็ให้นาตัวเลขภายใต้กรณฑ์มาหารกัน
3. ถ้าตัวส่วนติดกรณฑ์ต้องใช้รูปผลต่างกาลังสองแก้ปัญหา
ตัวอย่างที่ 8 จงหาค่าของผลหารต่อไปนี้
( 1 )
2
32
แนวคิด จากโจทย์จะเห็นว่าอันดับของกรณฑ์เท่ากัน สามารถกระทากันได้เลย
จะได้
2
32
=
2
32
= 16 = 4
( 2 )
2
15
แนวคิด จะเห็นว่าอันดับของกรณฑ์เท่ากัน แต่ผลหารไม่ลงตัว จะต้องทากรณฑ์ของตัวส่วนให้
หมดไป
โดยนา 2 คูณทั้งตัวเศษและตัวส่วน
จะได้
2
15
=
2
30
22
215



( 3 )
3
23
แนวคิด จะเห็นว่าอันดับกรณฑ์ไม่เท่ากันต้องเปลี่ยนเป็นกรณฑ์อันดับ 6
จะได้
3
23
=
6 3
6
3.2 3
2.3 2
3
4
3
2

=
  
6 6
6
6 36 3
6 36
3
274
33
34



=
3
1086
ตัวอย่างที่ 9 จงทาให้ส่วนไม่มีเครื่องหมายกรณฑ์
( 1 )
35
1

=
 
  3535
351


=
35
35


=
2
35 
ข้อสังเกต จากตัวอย่างข้างต้น   3535  เราสามารถใช้
รูปผลต่างกาลังสองมาใช้แก้ปัญหา
   bababa 
สรุป
1. กรณฑ์ เหมือนกันเท่านั้นจึงจะบวกลบกันได้
2. กรณฑ์ อันดับเดียวกันเท่านั้น จึงจะคูณ หารกันได้
3. การเปรียบเทียบ กรณฑ์ จะเปรียบเทียบได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณฑ์อันดับเดียวกัน
การหารากที่สองของจานวนที่อยู่ในรูป y2x 
นักเรียนพิจารณาการกระจายต่อไปนี้
ab2)ba(bab2a)ba(
22222

ab2)ba()b(b.a2)a()ba(
222

ดังนั้น
ba)ba(ab2)ba(
2

ถ้า

 Rb,a ซึ่ง x = a + b และ y = ab ;
1. ab2)ba(  = ba 
2. ab2)ba(  = ba  =
0เมื่อb
bเมื่อa
ab
ba







3. รากที่สองของ )ba(ab2)ba( 
4. รากที่สองของ )ba(ab2)ba( 
5.
2
)ba(ab2)ba( 
ตัวอย่างที่ 1 จงหารากที่สองของ 9610 
แนวคิด 1. พยายามแยกตัวประกอบ(Facter)ตัวที่อยู่ในกรณฑ์
2. หน้ากรณฑ์สัมประสิทธิ์ต้องเป็น 2
จะได้ 9610  = 24.410 
= 24210 
= 4.62)46( 
=
2
)46( 
=
2
)26( 
ดังนั้น รากที่สองของ 9610  = 24210 
= 2
)26( 
= )26( 
ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ 625 
แนวคิด 625  = 2.32)23( 
= 2
)23( 
= 23 
ตัวอย่างที่ 3 จงหารากที่สองของ 5818 
แนวคิด 5818  = 5818 
= 5.4218
2

= 80218 
= 8.102)810( 
= )810( 
= 2210( 
การแก้สมการจานวนที่อยู่ในรูปเครื่องหมายกรณฑ์
หลักการแก้สมการ ( การหาเซตคาตอบ)
เป้าหมายหลัก คือ ต้องทาให้ตัวแปรและตัวเลขในสมการไม่ติดกรณฑ์
1. ถ้ามีเพียงหนึ่งกรณฑ์ ให้ย้ายข้างให้เหลือกรณฑ์ตัวเดียว
2. ถ้ามีกรณฑ์ 2 ตัว ให้ย้ายไปอยู่ข้างละ 1 ตัว
3. ในกรณฑ์ที่มีกรณฑ์มากให้แบ่งกรณฑ์ไปอยู่แต่ละข้างให้ยึดหลักว่า " ผลบวกของ
สัมประสิทธิ์ของตัวแปรทั้งสองข้างนั้นต้องเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด"
4. ยกกาลังเพื่อให้กรณฑ์หมด โดยนา a)a(
nn  มาใช้
5. แก้สมการตามปกติ
6. ตรวจคาตอบที่ได้ว่าสมการเป็นจริงหรือไม่
ตัวอย่างที่ 1 จงหาเซตคาตอบจากสมการ x119x 
แนวคิด 9x  = x - 11
2
)9x(  =
2
)11x(  (ยกกาลังสองทั้งสองข้าง)
x + 9 = 121x22x
2

112x23x
2
 = 0
)16x)(7x(  = 0
 16,7x 
ตรวจคาตอบ
1. กรณี x = 7 จะได้ 71197  เป็นเท็จ ดังนั้น 7 ไม่เป็นคาตอบของสมการ
2. กรณี x = 16 จะได้ 1611916  เป็นจริง ดังนั้น 16 เป็นคาตอบของสมการ
ดังนั้น เซตคาตอบของสมการ คือ  16
ตัวอย่างที่ 2 จงหาเซตคาตอบของสมการ 011x8x 
แนวคิด 8x  = 11x 
2
)8( x =  2
11x  (ยกกาลังสองทั้งสองข้าง)
8x  = 11x21x 
1x2  = 8
1x  = 4 ( ย้าย 2 มาหาร 8)
2
)1x(  = 2
4 ( ใช้กฎ a)a(
nn  )
x - 1 = 16
x = 17
ตรวจคาตอบ
1117817  = 0
1169  = 0
3 - 4 + 1 = 0
0 = 0 สมการเป็นจริง
 เซตคาตอบคือ  17
ตัวอย่างที่ 3 จงแก้สมการ 4x53x42x31x2 
แนวคิด จะเห็นว่าโจทย์ข้อนี้มี 4 กรณฑ์ ให้แบ่งเป็นข้างละ 2 กรณฑ์ โดยพยายามให้ผลบวกของ
สัมประสิทธิ์ของ x ทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน แล้วยกกาลังสองทั้งสองข้าง 2
ครั้ง
จะได้ 4x51x2  = 2x33x4 
2
)4x51x2(  =
2
)2x33x4( 
)4x5)(1x2(2)4x5()1x2(  =
)2x3)(3x4(2)2x3()3x4( 
)4x5)(1x2(  = )2x3)(3x4( 
 2
)45)(12(  xx =  2
)23)(34(  xx
4x13x10
2
 = 6x17x12
2

2x4x2
2
 = 0 ( นา 2 มาหารทุก
เทอม)
x2
- 2x + 1 = 0
(x-1) (x-1) = 0
x = 1
ตรวจคาตอบ
4)1(51)1(2  = 2)1(33)1(4 
11  = 11 
1 - 1 = 1 - 1
0 = 0 สมการเป็นจริง
 เซตคาตอบ = { 1 }
กราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล
นิยาม ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล คือ ฟังก์ชันที่อยู่ในรูป
  1a,0a,ayRRy,xf
x


จากสมการ y = ax
จะเรียก a ว่า ฐาน ( base) ซึ่งแบ่งการพิจารณาค่าของ a ออกได้ 2 ช่วง
เมื่อนามาเขียนกราฟได้ดังนี้
กรณี 0 < a < 1 กรณี a > 1
y y
(0,1) (0,1)
0 0
ข้อสังเกตจากกราฟ
1. กราฟของฟังก์ชัน y =ax
, a > 0 , a 1 จะผ่านจุด (0,1)
2. ถ้า 0 < a < 1 โดเมนเพิ่มขึ้น เรนจ์จะลดลง
เรียก y = ax
เป็นฟังก์ชันลด ( Decreasing Function)
3. ถ้า a > 1 โดเมนเพิ่มขึ้น เรนจ์จะเพิ่มขึ้น
เรียก y = ax
เป็นฟังก์ชันเพิ่ม ( Increasing Function)
4. ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล เป็นฟังก์ชัน 1 - 1 จาก R ไปทั่วถึง R+
(one to one onto)
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล เป็นฟังก์ชัน 1 - 1 หมายความว่า ถ้า ax
= ay
แล้ว x = y
R R+
f :

R
ทั่วถึง
11
R
x x
ตัวอย่างที่ 1 ฟังก์ชันที่กาหนดให้ต่อไปนี้ เป็นฟังก์ชันเพิ่มหรือฟังก์ชันลด
1. y =
x






5
1
2. y = 3x
3. y = 3-x
แนวคิด
1. ฟังก์ชันลด เพราะ
5
1
เป็นฐาน ซึ่ง 0<
5
1
<1
2. ฟังก์ชันเพิ่ม เพราะ 3 เป็นฐาน ซึ่ง 3 > 1
3. ฟังก์ชันลด เพราะ y = 3-x
=
x
x
3
1
3
1






 ดังนั้น
3
1
เป็นฐาน
ซึ่ง 0 <
3
1
<1
สมการเอกซ์โพเนนเชียล
สมการเอกซ์โพเนนเชียล คือ สมการที่มีตัวแปรเป็นเลขชี้กาลัง โดยที่ฐานเป็นค่าคงตัว
หลักการทั่วไปในการแก้สมการ
1. ถ้าโจทย์มี 2 พจน์ ให้จัดพจน์แต่ละพจน์ไว้คนละข้างของสมการ ทาฐานของเลขยก
กาลังให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง
2. ถ้าโจทย์มีมากกว่า 2 พจน์ ให้จัดข้างใดข้างหนึ่งของสมการให้เท่ากับศูนย์ แยกตัว
ประกอบ ( factor) แล้วพิจารณาค่าของตัวแปร
ตัวอย่างที่ 1 จงแก้สมการ 2x
= 8
แนวคิด ทาฐานให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง
จะได้ 2x
= 23
 x = 3
ตัวอย่างที่ 2 จงแก้สมการ 5x
=
125
1
แนวคิด ทาฐานให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง
จะได้ 5x
= 3
5
1
5x
= 53
 x = -3
ตัวอย่างที่ 3 จงหาเซตคาตอบของสมการ   642
1

xx
แนวคิด โจทย์ข้อนี้ เป็นลักษณะโจทย์ 2 พจน์ ต้องทาฐานให้เท่ากัน เทียบเลขชี้กาลัง
แล้วแก้สมการปกติ
จะได้ (2x
)x-1
= 64
xx 
2
2 = 64 = 26
 x2
– x = 6
x2
– x – 6 = 0
(x-3)(x+2) = 0
จะได้ x = 3, -2
 เซตคาตอบของสมการคือ { -2 , 3 }
1 de 14

Recomendados

หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1 por
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1กอล์ฟ กุยช่ายเอกวิทย์
13.8K vistas39 diapositivas
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา por
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาkrurutsamee
13.7K vistas11 diapositivas
โจทย์ปัญหา por
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาAon Narinchoti
212.7K vistas11 diapositivas
แบบทดสอบ เรื่อง การคูณและการหารเลขยกกำลัง2 por
แบบทดสอบ เรื่อง การคูณและการหารเลขยกกำลัง2แบบทดสอบ เรื่อง การคูณและการหารเลขยกกำลัง2
แบบทดสอบ เรื่อง การคูณและการหารเลขยกกำลัง2ทับทิม เจริญตา
44.5K vistas4 diapositivas
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ปลาย por
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ปลายโครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ปลาย
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ปลายInmylove Nupad
20.4K vistas4 diapositivas
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต por
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซตแบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซตkroojaja
9.3K vistas4 diapositivas

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

ตัวอย่างแผนพอเพียงกับคณิตศาสตร์ por
ตัวอย่างแผนพอเพียงกับคณิตศาสตร์ตัวอย่างแผนพอเพียงกับคณิตศาสตร์
ตัวอย่างแผนพอเพียงกับคณิตศาสตร์ทับทิม เจริญตา
101.6K vistas41 diapositivas
คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับ por
คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับคณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับ
คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับTutor Ferry
11.3K vistas22 diapositivas
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1 por
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1คุณครูพี่อั๋น
79.4K vistas279 diapositivas
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1 por
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1guychaipk
20.9K vistas40 diapositivas
ช่วงและการแก้อสมการ por
ช่วงและการแก้อสมการช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการAon Narinchoti
46.6K vistas7 diapositivas
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน) por
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)sawed kodnara
55.3K vistas6 diapositivas

La actualidad más candente(20)

คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับ por Tutor Ferry
คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับคณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับ
คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่องสมบัติของจำนวนนับ
Tutor Ferry11.3K vistas
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1 por guychaipk
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1
หน่วยที่ 4 พื้นฐานทางเรขาคณิต ม.1
guychaipk20.9K vistas
ช่วงและการแก้อสมการ por Aon Narinchoti
ช่วงและการแก้อสมการช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการ
Aon Narinchoti46.6K vistas
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน) por sawed kodnara
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.5 พื้นฐาน)
sawed kodnara55.3K vistas
สมบัติของเลขยกกำลัง por yingsinee
สมบัติของเลขยกกำลังสมบัติของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลัง
yingsinee192.3K vistas
คณิตศาสตร์ ม.4 เรื่องเซต por Tutor Ferry
คณิตศาสตร์ ม.4 เรื่องเซตคณิตศาสตร์ ม.4 เรื่องเซต
คณิตศาสตร์ ม.4 เรื่องเซต
Tutor Ferry35.9K vistas
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix) por Thanuphong Ngoapm
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)
Thanuphong Ngoapm30.6K vistas
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรม por sawed kodnara
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรมบทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
sawed kodnara17.9K vistas
แบบทดสอบหน่วยที่ 1 กรณฑ์ที่สอง por Sathuta luamsai
แบบทดสอบหน่วยที่ 1  กรณฑ์ที่สองแบบทดสอบหน่วยที่ 1  กรณฑ์ที่สอง
แบบทดสอบหน่วยที่ 1 กรณฑ์ที่สอง
Sathuta luamsai76.5K vistas
แบบทดสอบ เรื่อง การวัด por Piriya Sisod
แบบทดสอบ  เรื่อง การวัดแบบทดสอบ  เรื่อง การวัด
แบบทดสอบ เรื่อง การวัด
Piriya Sisod67.2K vistas
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึ... por yindee Wedchasarn
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึ...เอกสารประกอบการเรียน เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึ...
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึ...
yindee Wedchasarn15.7K vistas
คณิตศาสตร์_ป.5_หน่วยที่ 6_การบวก_การลบ_การคูณ_การหารเศษส่วน (1).doc por amppbbird
คณิตศาสตร์_ป.5_หน่วยที่ 6_การบวก_การลบ_การคูณ_การหารเศษส่วน (1).docคณิตศาสตร์_ป.5_หน่วยที่ 6_การบวก_การลบ_การคูณ_การหารเศษส่วน (1).doc
คณิตศาสตร์_ป.5_หน่วยที่ 6_การบวก_การลบ_การคูณ_การหารเศษส่วน (1).doc
amppbbird618 vistas
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต por kanjana2536
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต
kanjana2536 6.9K vistas
แผนการสอน เรื่อง ปริมาตรและพื้นที่ผิว por Duangnapa Jangmoraka
แผนการสอน เรื่อง ปริมาตรและพื้นที่ผิวแผนการสอน เรื่อง ปริมาตรและพื้นที่ผิว
แผนการสอน เรื่อง ปริมาตรและพื้นที่ผิว
Duangnapa Jangmoraka32.9K vistas

Similar a ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม

ข้อสอบจำนวนจริง por
ข้อสอบจำนวนจริงข้อสอบจำนวนจริง
ข้อสอบจำนวนจริงkruaunpwk
30K vistas10 diapositivas
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ por
สรุปสูตรคณิตศาสตร์สรุปสูตรคณิตศาสตร์
สรุปสูตรคณิตศาสตร์wisita42
3.3K vistas17 diapositivas
อสมการ por
อสมการอสมการ
อสมการkrusongkran
18.8K vistas10 diapositivas
ตัวกำหนด(Determinant) por
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)kroojaja
207 vistas79 diapositivas
Realnumbers por
RealnumbersRealnumbers
Realnumbersjariya221
375 vistas21 diapositivas
บทที่1 จำนวนจริง por
บทที่1 จำนวนจริงบทที่1 จำนวนจริง
บทที่1 จำนวนจริงBombam Waranya
12K vistas18 diapositivas

Similar a ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม(20)

ข้อสอบจำนวนจริง por kruaunpwk
ข้อสอบจำนวนจริงข้อสอบจำนวนจริง
ข้อสอบจำนวนจริง
kruaunpwk30K vistas
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ por wisita42
สรุปสูตรคณิตศาสตร์สรุปสูตรคณิตศาสตร์
สรุปสูตรคณิตศาสตร์
wisita423.3K vistas
อสมการ por krusongkran
อสมการอสมการ
อสมการ
krusongkran18.8K vistas
ตัวกำหนด(Determinant) por kroojaja
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)
kroojaja207 vistas
Realnumbers por jariya221
RealnumbersRealnumbers
Realnumbers
jariya221375 vistas
บทที่1 จำนวนจริง por Bombam Waranya
บทที่1 จำนวนจริงบทที่1 จำนวนจริง
บทที่1 จำนวนจริง
Bombam Waranya12K vistas
สรุปตรีโกณมิติ por Thphmo
สรุปตรีโกณมิติสรุปตรีโกณมิติ
สรุปตรีโกณมิติ
Thphmo78.8K vistas
เลขยกกำลังและลอการิทึม por Jiraprapa Suwannajak
เลขยกกำลังและลอการิทึมเลขยกกำลังและลอการิทึม
เลขยกกำลังและลอการิทึม
Jiraprapa Suwannajak77.5K vistas
Pat 1 พฤศจิกายน 2557 por the_pinkk
Pat 1 พฤศจิกายน 2557Pat 1 พฤศจิกายน 2557
Pat 1 พฤศจิกายน 2557
the_pinkk506 vistas
สรุปสูตร ม.1 por krutew Sudarat
สรุปสูตร ม.1สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1
krutew Sudarat49.2K vistas
Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1 por yinqpant
Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1
Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1
yinqpant11.7K vistas
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย por Coo Ca Nit Sad
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลายสรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
Coo Ca Nit Sad15.2K vistas
เจาะลึกแนวข้อสอบPat1 พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท por Tutor Ferry
เจาะลึกแนวข้อสอบPat1 พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบทเจาะลึกแนวข้อสอบPat1 พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
เจาะลึกแนวข้อสอบPat1 พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
Tutor Ferry1.6K vistas
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท por Chokchai Taveecharoenpun
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบทเจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001 por Thidarat Termphon
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
Thidarat Termphon174.3K vistas

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม

  • 1. ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม (Exponential Function and Logarithm Function) ข้อกาหนด เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวก บทนิยาม aaaaa n  ... ( n ตัว) เมื่อ a เป็นจานวนจริงใด ๆ n เป็นจานวนเต็มบวก เรียก a ว่า ฐาน (base) เรียก n ว่า เลขชี้กาลัง ( exponent) เรียก n a ว่า เลขยกกาลัง (power) ทฤษฎีบท (Theorem) ถ้า a , b เป็นจานวนจริงที่ไม่เป็น 0 และ m , n เป็นจานวนเต็ม จะได้ (1) nmnm aaa   (2) mnnm a)a(  (3) nnn baab )( (4) n nn b a b a       (5) mn nm m n a a a a    1 (6) 1a 0  (7) n n a 1 a   ; n เป็นจานวนเต็มบวก 0 0 ไม่นิยาม ตัวอย่างที่ 2 (1) 103 .10-4 = 103+(-4) = 10-1 = 10 1 (2) X4 X5 = X4+5 = X9 (3) ถ้า 0X  แล้ว X.X-1 = X1+(-1) = X0 = 1
  • 2. ตัวอย่างที่ 3 (1) 6422)2( 62323   (2) 729 1 3 1 33)3( 6 6)3)(2(32   (3) ถ้า 0x  แล้ว 2 2)2)(1(21 x 1 xx)x(   ตัวอย่างที่ 4 (1) 2222 x9x3)x3(  (2) x4x4)x(2)x2( 2)(222 2 1 2 1 2 1  (3) 623223 1021.1)10()1.1()101.1(   ตัวอย่างที่ 5 (1) ถ้า 0y  แล้ว 2 2 2 y x ) y x (  (2) 4 x 4 x 2 )x( 2 x 2) 2 1( 2 22 1 2 2 1            ตัวอย่างที่ 6 (1) 10 1 101010 10 10 123)2(3 2 3     (2) 128222 2 2 725)2(5 2 5    (3) ถ้า 0x  แล้ว 235 5 3 xx x x  
  • 3. รากที่ n ในระบบจานวนจริง และจานวนจริงในรูปกรณฑ์ บทนิยาม ถ้า n เป็นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และถ้า a, x เป็นจานวนจริงซึ่งสอดคล้องกับ สมการ xn = a แล้วเราเรียก x ว่าเป็นรากที่ n ของ a ตัวอย่างที่ 1 (1) รากที่ 2 ของ 4 คือ 2 และ -2 เพราะว่า (2)2 = 4 และ (-2)2 = 4 (2) รากที่ 3 ของ -8 คือ -2 เพราะว่า (-2)3 = -8 (3) รากที่ 6 ของ 64 มีสองจานวนคือ 2 หรือ -2 (4) รากที่ 6 ของ -64 ที่เป็นจานวนจริงไม่มีเลย (5) รากที่ 3 ของ 64 มีจานวนเดียวคือ 4 (6) รากที่ 3 ของ -64 มีจานวนเดียวคือ -4 ข้อสังเกต (1) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคู่แล้ว จานวนบวกแต่ละจานวนจะมีรากที่ n เป็น จานวนจริงสองจานวน รากหนึ่งจะเป็นจานวนบวก และอีกรากหนึ่งเป็น จานวนลบ (2) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคู่ แล้วจานวนลบแต่ละจานวนจะไม่มีรากที่ n ที่เป็น จานวนจริง (3) ถ้า n เป็นจานวนเต็มคี่ แล้ว จานวนจริงแต่ละจานวนจะมีรากที่ n เป็นจานวน จริงเพียงจานวนเดียว รากที่ n ของจานวนบวกเป็นจานวนบวกและรากที่ n ของจานวนลบก็เป็นจานวนลบ บทนิยาม ถ้า n เป็นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และ a เป็นจานวนจริง ( ยกเว้นกรณีที่ n เป็น จานวนคู่ และ a เป็นจานวนลบ ) แล้วเรากาหนดความหมายของ n a ดังนี้ n a = n a 1 สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับรากที่ n ของจานวนจริง (ก) เครื่องหมาย n เรียกว่า เครื่องหมาย กรณฑ์ ( Radical) และเรียก n ว่าเป็นอันดับ ของกรณฑ์ ( อันดับของ กรณฑ์) (ข) n a อ่านว่า กรณฑ์อันดับที่ n ของ a หรือรากที่ n ของ a (ค) 2 a นิยมเขียนแทนด้วย a
  • 4. ทฤษฎีบทเกี่ยวกับรากที่ n ของจานวนจริง ถ้า a และ b เป็นจานวนจริง และ m ; n เป็นจานวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า 1 โดยที่ n a และ n b หาค่าได้แล้ว 1.  nn a = a 2. n ab = nn ba  3. n b a = n n b a ; b  0 4. n n a =    คี่nเป็ นจำนวน;a คู่nเป็ นจำนวน;a 5. m n a = mn a 6. kn km a = n m a ; k เป็นจานวนเต็มบวก 7. n m a = m n a         1 = n m a 8. n 0 = 0 9. n 1 = 1 การบวกและการลบของจานวนที่ติดกรณฑ์ ข้อตกลง จะนาจานวนที่ติดกรณฑ์ มาบวกหรือลบกันได้ต่อเมื่อจานวนนั้น ๆ ต้องมีคุณสมบัติครบ 2 ประการ คือ 1. อันดับของกรณฑ์ต้องเท่ากัน 2. จานวนที่อยู่ภายใต้กรณฑ์ต้องเท่ากัน และเวลาบวกหรือลบกันให้นา " สัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาบวกหรือลบ " เท่านั้น ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ 323335  แนวคิด นาสัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาบวก ลบ กัน 323335  =   3235  = 36
  • 5. ตัวอย่างที่ 4 จงหาค่าของ 32712  แนวคิด จะต้องทาตัวเลขภายใต้กรณฑ์ให้เท่ากันเสียก่อน แล้วจึงนามาบวกลบกัน จะได้ 32712  = 33.93.4  = 33332  =   3132  = 34 การคูณกรณฑ์ด้วยกรณฑ์ ข้อตกลง 1. จะนากรณฑ์มาคูณกันได้ก็ต่อเมื่ออันดับกรณฑ์ต้องเท่ากัน 2. เมื่ออันดับกรณฑ์เท่ากันก็ให้นาตัวเลขภายใต้กรณฑ์มาคูณกัน 3. นาสัมประสิทธิ์หน้ากรณฑ์มาคูณกัน ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ    225273 แนวคิด จะเห็นว่าคูณกันได้เลยตามข้อตกลง จะได้    225273 =   2.5.72.2.3 = 7012 ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ   3535  แนวคิด   3535  =       33533555  = 5 - 3 = 2 ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ   3522 3 แนวคิด จะเห็นว่าโจทย์ที่ให้อันดับของกรณฑ์ตัวตั้งกับตัวคูณไม่เท่ากัน ต้องทาให้เท่ากันเสียก่อน โดยนาอันดับของกรณฑ์ที่ทั้งตัวตั้งและตัวคูณมาหา ค.ร.น. โดยใช้ทฤษฎีบทข้อ 6 เข้าช่วย km kn a = m n a จะได้ 3 2 = 2.3 2 2 = 6 4 3 = 3.2 3 3 = 6 27
  • 6.   35223  =   66 27542 =  6 27.45.2 = 6 10810 การคูณโดยอาศัยรูปผลต่างกาลังสอง )))(( 22 bababa  ดังนั้น bababa  ))(( รูปผลต่างกาลังสองจะนามาใช้ในการแก้ปัญหาโจทย์เกี่ยวกับกรณฑ์ในกรณีที่ตัวส่วนติดกรณฑ์ การหารกรณฑ์ด้วยกรณฑ์ ข้อตกลง 1. จะนากรณฑ์มาหารกันได้ก็ต่อเมื่ออันดับของกรณฑ์ต้องเท่ากัน 2. เมื่ออันดับของกรณฑ์เท่ากันก็ให้นาตัวเลขภายใต้กรณฑ์มาหารกัน 3. ถ้าตัวส่วนติดกรณฑ์ต้องใช้รูปผลต่างกาลังสองแก้ปัญหา ตัวอย่างที่ 8 จงหาค่าของผลหารต่อไปนี้ ( 1 ) 2 32 แนวคิด จากโจทย์จะเห็นว่าอันดับของกรณฑ์เท่ากัน สามารถกระทากันได้เลย จะได้ 2 32 = 2 32 = 16 = 4 ( 2 ) 2 15 แนวคิด จะเห็นว่าอันดับของกรณฑ์เท่ากัน แต่ผลหารไม่ลงตัว จะต้องทากรณฑ์ของตัวส่วนให้ หมดไป โดยนา 2 คูณทั้งตัวเศษและตัวส่วน จะได้ 2 15 = 2 30 22 215    ( 3 ) 3 23
  • 7. แนวคิด จะเห็นว่าอันดับกรณฑ์ไม่เท่ากันต้องเปลี่ยนเป็นกรณฑ์อันดับ 6 จะได้ 3 23 = 6 3 6 3.2 3 2.3 2 3 4 3 2  =    6 6 6 6 36 3 6 36 3 274 33 34    = 3 1086 ตัวอย่างที่ 9 จงทาให้ส่วนไม่มีเครื่องหมายกรณฑ์ ( 1 ) 35 1  =     3535 351   = 35 35   = 2 35  ข้อสังเกต จากตัวอย่างข้างต้น   3535  เราสามารถใช้ รูปผลต่างกาลังสองมาใช้แก้ปัญหา    bababa  สรุป 1. กรณฑ์ เหมือนกันเท่านั้นจึงจะบวกลบกันได้ 2. กรณฑ์ อันดับเดียวกันเท่านั้น จึงจะคูณ หารกันได้ 3. การเปรียบเทียบ กรณฑ์ จะเปรียบเทียบได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณฑ์อันดับเดียวกัน
  • 8. การหารากที่สองของจานวนที่อยู่ในรูป y2x  นักเรียนพิจารณาการกระจายต่อไปนี้ ab2)ba(bab2a)ba( 22222  ab2)ba()b(b.a2)a()ba( 222  ดังนั้น ba)ba(ab2)ba( 2  ถ้า   Rb,a ซึ่ง x = a + b และ y = ab ; 1. ab2)ba(  = ba  2. ab2)ba(  = ba  = 0เมื่อb bเมื่อa ab ba        3. รากที่สองของ )ba(ab2)ba(  4. รากที่สองของ )ba(ab2)ba(  5. 2 )ba(ab2)ba(  ตัวอย่างที่ 1 จงหารากที่สองของ 9610  แนวคิด 1. พยายามแยกตัวประกอบ(Facter)ตัวที่อยู่ในกรณฑ์ 2. หน้ากรณฑ์สัมประสิทธิ์ต้องเป็น 2 จะได้ 9610  = 24.410  = 24210  = 4.62)46(  = 2 )46(  = 2 )26(  ดังนั้น รากที่สองของ 9610  = 24210  = 2 )26(  = )26( 
  • 9. ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ 625  แนวคิด 625  = 2.32)23(  = 2 )23(  = 23  ตัวอย่างที่ 3 จงหารากที่สองของ 5818  แนวคิด 5818  = 5818  = 5.4218 2  = 80218  = 8.102)810(  = )810(  = 2210(  การแก้สมการจานวนที่อยู่ในรูปเครื่องหมายกรณฑ์ หลักการแก้สมการ ( การหาเซตคาตอบ) เป้าหมายหลัก คือ ต้องทาให้ตัวแปรและตัวเลขในสมการไม่ติดกรณฑ์ 1. ถ้ามีเพียงหนึ่งกรณฑ์ ให้ย้ายข้างให้เหลือกรณฑ์ตัวเดียว 2. ถ้ามีกรณฑ์ 2 ตัว ให้ย้ายไปอยู่ข้างละ 1 ตัว 3. ในกรณฑ์ที่มีกรณฑ์มากให้แบ่งกรณฑ์ไปอยู่แต่ละข้างให้ยึดหลักว่า " ผลบวกของ สัมประสิทธิ์ของตัวแปรทั้งสองข้างนั้นต้องเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด" 4. ยกกาลังเพื่อให้กรณฑ์หมด โดยนา a)a( nn  มาใช้ 5. แก้สมการตามปกติ 6. ตรวจคาตอบที่ได้ว่าสมการเป็นจริงหรือไม่
  • 10. ตัวอย่างที่ 1 จงหาเซตคาตอบจากสมการ x119x  แนวคิด 9x  = x - 11 2 )9x(  = 2 )11x(  (ยกกาลังสองทั้งสองข้าง) x + 9 = 121x22x 2  112x23x 2  = 0 )16x)(7x(  = 0  16,7x  ตรวจคาตอบ 1. กรณี x = 7 จะได้ 71197  เป็นเท็จ ดังนั้น 7 ไม่เป็นคาตอบของสมการ 2. กรณี x = 16 จะได้ 1611916  เป็นจริง ดังนั้น 16 เป็นคาตอบของสมการ ดังนั้น เซตคาตอบของสมการ คือ  16 ตัวอย่างที่ 2 จงหาเซตคาตอบของสมการ 011x8x  แนวคิด 8x  = 11x  2 )8( x =  2 11x  (ยกกาลังสองทั้งสองข้าง) 8x  = 11x21x  1x2  = 8 1x  = 4 ( ย้าย 2 มาหาร 8) 2 )1x(  = 2 4 ( ใช้กฎ a)a( nn  ) x - 1 = 16 x = 17 ตรวจคาตอบ 1117817  = 0 1169  = 0 3 - 4 + 1 = 0 0 = 0 สมการเป็นจริง
  • 11.  เซตคาตอบคือ  17 ตัวอย่างที่ 3 จงแก้สมการ 4x53x42x31x2  แนวคิด จะเห็นว่าโจทย์ข้อนี้มี 4 กรณฑ์ ให้แบ่งเป็นข้างละ 2 กรณฑ์ โดยพยายามให้ผลบวกของ สัมประสิทธิ์ของ x ทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน แล้วยกกาลังสองทั้งสองข้าง 2 ครั้ง จะได้ 4x51x2  = 2x33x4  2 )4x51x2(  = 2 )2x33x4(  )4x5)(1x2(2)4x5()1x2(  = )2x3)(3x4(2)2x3()3x4(  )4x5)(1x2(  = )2x3)(3x4(   2 )45)(12(  xx =  2 )23)(34(  xx 4x13x10 2  = 6x17x12 2  2x4x2 2  = 0 ( นา 2 มาหารทุก เทอม) x2 - 2x + 1 = 0 (x-1) (x-1) = 0 x = 1 ตรวจคาตอบ 4)1(51)1(2  = 2)1(33)1(4  11  = 11  1 - 1 = 1 - 1 0 = 0 สมการเป็นจริง  เซตคาตอบ = { 1 }
  • 12. กราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล นิยาม ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล คือ ฟังก์ชันที่อยู่ในรูป   1a,0a,ayRRy,xf x   จากสมการ y = ax จะเรียก a ว่า ฐาน ( base) ซึ่งแบ่งการพิจารณาค่าของ a ออกได้ 2 ช่วง เมื่อนามาเขียนกราฟได้ดังนี้ กรณี 0 < a < 1 กรณี a > 1 y y (0,1) (0,1) 0 0 ข้อสังเกตจากกราฟ 1. กราฟของฟังก์ชัน y =ax , a > 0 , a 1 จะผ่านจุด (0,1) 2. ถ้า 0 < a < 1 โดเมนเพิ่มขึ้น เรนจ์จะลดลง เรียก y = ax เป็นฟังก์ชันลด ( Decreasing Function) 3. ถ้า a > 1 โดเมนเพิ่มขึ้น เรนจ์จะเพิ่มขึ้น เรียก y = ax เป็นฟังก์ชันเพิ่ม ( Increasing Function) 4. ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล เป็นฟังก์ชัน 1 - 1 จาก R ไปทั่วถึง R+ (one to one onto) ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล เป็นฟังก์ชัน 1 - 1 หมายความว่า ถ้า ax = ay แล้ว x = y R R+ f :  R ทั่วถึง 11 R x x
  • 13. ตัวอย่างที่ 1 ฟังก์ชันที่กาหนดให้ต่อไปนี้ เป็นฟังก์ชันเพิ่มหรือฟังก์ชันลด 1. y = x       5 1 2. y = 3x 3. y = 3-x แนวคิด 1. ฟังก์ชันลด เพราะ 5 1 เป็นฐาน ซึ่ง 0< 5 1 <1 2. ฟังก์ชันเพิ่ม เพราะ 3 เป็นฐาน ซึ่ง 3 > 1 3. ฟังก์ชันลด เพราะ y = 3-x = x x 3 1 3 1        ดังนั้น 3 1 เป็นฐาน ซึ่ง 0 < 3 1 <1 สมการเอกซ์โพเนนเชียล สมการเอกซ์โพเนนเชียล คือ สมการที่มีตัวแปรเป็นเลขชี้กาลัง โดยที่ฐานเป็นค่าคงตัว หลักการทั่วไปในการแก้สมการ 1. ถ้าโจทย์มี 2 พจน์ ให้จัดพจน์แต่ละพจน์ไว้คนละข้างของสมการ ทาฐานของเลขยก กาลังให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง 2. ถ้าโจทย์มีมากกว่า 2 พจน์ ให้จัดข้างใดข้างหนึ่งของสมการให้เท่ากับศูนย์ แยกตัว ประกอบ ( factor) แล้วพิจารณาค่าของตัวแปร ตัวอย่างที่ 1 จงแก้สมการ 2x = 8 แนวคิด ทาฐานให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง จะได้ 2x = 23  x = 3
  • 14. ตัวอย่างที่ 2 จงแก้สมการ 5x = 125 1 แนวคิด ทาฐานให้เท่ากัน แล้วเทียบเลขชี้กาลัง จะได้ 5x = 3 5 1 5x = 53  x = -3 ตัวอย่างที่ 3 จงหาเซตคาตอบของสมการ   642 1  xx แนวคิด โจทย์ข้อนี้ เป็นลักษณะโจทย์ 2 พจน์ ต้องทาฐานให้เท่ากัน เทียบเลขชี้กาลัง แล้วแก้สมการปกติ จะได้ (2x )x-1 = 64 xx  2 2 = 64 = 26  x2 – x = 6 x2 – x – 6 = 0 (x-3)(x+2) = 0 จะได้ x = 3, -2  เซตคาตอบของสมการคือ { -2 , 3 }