7. 7
1. แนวความคิดของ Waldo
การตัดสินใจในระบบราชการมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์ต่อประเทศ
นั้นๆมากมาย เพราะ (PA) มีบทบาทสาคัญ ในการบริหาร การเกษตร การทา
เหมืองโลหวิทยา การค้า อุตสาหกรรม การแพทย์ การขนส่ง
วิศวกรรมศาสตร์ และการศึกษา โดยเริ่มต้นจากศาสตร์ทางกายภาพ
และวิชาคานวณที่ใช้สนับสนุนกรควบคุมแม่น้า การผลิตพืชพันธุ์ การสร้าง
งานสาธารณะ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การวัดผลงาน และการคาดคะเน
ซึ่งแหล่งวิชาดังกล่าวมีนัยสัมพันธ์กับวิชาการบริหารภาครัฐอ่านใน Raymond
W. Cox III, at et; (Ibid 1994:1) ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะต้องเกี่ยวข้องกับการเมือง
และข้าราชการประจา (Raymond W. Cox III, et al; (Ibid:1) ซึ่งวอลโด้แต่งตารา
เรื่อง The study of politic administration ในปี 1955
8. 8
2. แนวคิดของ ฮอบกิ้น
ได้เสนอหลักวิชาการ (PA) เริ่มต้นถามว่าในยุคแรกของ
ประวัติศาสตร์อเมริกาว่ามีการบริหารภาครัฐอย่างไร ส่วน Frank Goodnow
แสดงให้เห็นว่า PA คือ การบริหารที่เป็นคู่ขนานกับรัฐบาลซึ่งหมายถึงทั้ง
สองเป็นคู่ขนานกันหากแต่ Woodlow Wilson ได้ย้าให้เห็นการแบ่งแยก
การเมือง Politics และการบริหารออกจากกันหรือรัฐบาลที่ประกอบด้วย
(Politic and Administration) ยุทธศาสตร์การบริหารที่สาคัญในยุคเริ่มต้น
(PA) คือ
10. 10
3. แนวความคิดของ Max Weber : ระบบราชการ
นาเสนอระบบราชการในฐานะนักสังคมวิทยาชาวเยอรมัน 4
ประเด็น คือ
1. ระบบสายการบังคับบัญชา (Hierarchical level)
2. ความเป็นกลางทางการเมือง (The ethic of neutrality)
3. ระบบคุณธรรม (Merit system)
4. มีความเป็นวิชาชีพ (Professionalism)
11. 11
4. ไชแอนทิฟิก แบเนจเมนสกูล (Scientific management)
ของ เทเลอร์ (Taylor)
ที่เน้นการแบ่งหน้าที่เป็นหมวดหมู่ (Division of
Labour) เป็นการบริหารเน้นเชิงประจักษ์วัดผลงานการ
เคลื่อนไหวเรียกว่า One best way คือ Idea of efficiency
ประสิทธิภาพของความคิด เพราะสามารถวัดผลงานได้
Technical efficiency as the vehicle for successful
management ประสิทธิภาพในการใช้เทคนิคเป็นเครื่องมือ
(พาหะ) ของความสาเร็จในการบริหาร
16. 16
การเคลื่อนไหวสานักการวิจัยเทศบาลนิวยอร์ค (The creation of
the municipal research Bureau in New York city)
นับได้ว่าเทศบาลนิวยอร์คมีความคิดริเริ่มที่สาคัญในการพัฒนาวิชาการ
รัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งสานักการวิจัยเทศบาลมีการเคลื่อนไหว เพื่อแก้ไข
ปัญหาเทศบาลนิวยอร์ค 2 ยุทธศาสตร์ คือ การใช้ศาสตร์การบริหาร Science of
administration เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานงบประมาณของเทศบาล และ
การปรับกลไกการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ของเทศบาล
ผลของการรายงานสานักวิจัยเทศบาลได้เป็นเครื่องมือที่สาคัญเกี่ยวกับ
การอานวยการบริการงานสาธารณะ การงบประมาณ และการบริการภาครัฐ
ด้านอื่นๆ และพร้อมกันนั้น สานักการวิจัยเริ่มต้นให้การฝึกอบรมพนักงาน
เกี่ยวกับการวางแผนและการวิเคราะห์แนวใหม่ในสาขารัฐประศาสนศาสตร์
17. 17
ความคิดริเริ่มจากเทศบาลเทศบาลนิวยอร์ค
การพัฒนาการใดๆ นั้นจะเริ่มเกิดขึ้นจากนักปฏิบัติจริงที่พบปัญหา
แล้วหาทางแก้ไขในการทางานนั้นๆ ดังนั้น ในปี 1916 (อ้างใน Raymomd
W. Coxn III (et el; 1994:7)
โครงการฝึกอบรมของสานักงานการวิจัยเทศบาลนิวยอร์ค
(New York municipal research Bureau) จึงขอความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย
โคลัมเบีย (Affiliated with Columbia University) จัดตั้ง MPA Program ขึ้น
ในโลกภายหลัง (Maxwell school of citizenship and public affairs at
Syracuse university) แมกเวลสคูล จึงเริ่มพัฒนาหลักสูตรตามในระยะใกล้
เคียงกัน (Be followed shortly)
Public Raymond W.CoxIII (1997:7) Practive. New Jersey:
Practice Hale.
33. 33
การเคลื่อนไหวของแนวคิดการจัดการทั่วไป(GM) ซึ่ง
เชื่อมโยงความคิดจากวอลโดและแอปเพิลบี จากปี 1950 และ
ก้าวเข้าสู่กระแสสูงในปี 1970 ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก school of
Management แม้ว่า Public Administration และ Business
Administration are fundamentally the same คือมีหลักการ
เดียวกัน แต่การเน้นจริยธรรม(ethic หรือvalue perspective
ต่างกันคือ BA เน้นกาไรแต่ PA เน้น profit and betterment คือ
กาไรและการบริการที่ดีแก่สาธารณะ
36. 36
ทาให้ PA และ BA เชื่อมโยงกันมากขึ้น วิชาทั้ง
สองคัดค้านระบบสายบังคับบัญชายาวไกล(hierachical)
และเน้นการตัดสินใจโดยระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น
(more democratic decision style) ในยุคนี้นักวิชาการที่มี
บทบาทต่อการบริหารทั้งสองภาคคือ Cert Lewin,
Maslow Argyris,
Waldo and Appleby กล่าวได้ว่าจากปี 1960 PA
ได้เปลี่ยนโฉมหน้าวิชาการเป็นรัฐประศาสนศาสตร์ใหม่
(ศึกษาจาก Raymond. Cox 1994: 9) นักรัฐประศาสน
ศาสตร์ไทยยังใช้ตัวแบบมหาดไทย กลาโหม ยุติธรรม
แบบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
37. 37
บทบาทของการบริหารสาธารณะ(PA)และหลักสูตร
MPA, MBA , DPA and DBAในศตวรรษใหม่
ในฐานะ Paradigm ใหม่
กระบวนการเรียนรู้หลักการบริหารการจัดการได้มีการ
เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาการของโลก การบริหารภาครัฐและ
ภาคธุรกิจในโลกตะวันตกต่างไปจาก 20 ปีที่ผ่านมา ในปี 1980
เป็นยุคของการแข่งขันในเวทีโลกทางธุรกิจอย่างรุนแรง (Global
major change ) เพราะโลกได้ท้าทายการเปลี่ยนแปลงทาง
เทคโนโลยีและการแข่งขันทุกภาคส่วน ภาคสาธารณะต้องปฏิรูป
ยุคนี้จึงเรียกว่าเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงจากหลุมดาการบริหาร
แบบราชการไปสู่การบริหารเพื่อการเปลี่ยนแปลง
38. 38
กระบวนทัศน์(paradigm shift) จากรัฐประศาสน
ศาสตร์(PA) สู่ลัทธิการจัดการ (Managerialism) หรือเป็น
Public Management คือการบริหารเพื่อสาธารณะทั้งภาค
ธุรกิจและภาครัฐ นั่นคือทฤษฎีระบบราชการ ได้ถูกแทนที่
ด้วยทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์( The theory of bureaucracy
is being replaced by economic theories or market model
) นักบริหารศาสตร์ได้ประเมินสถานการณ์ในการบริหาร
เกี่ยวกับ Public Management ซึ่งตรงกันข้ามกับ traditional
model of Public Administration ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
39. 39
โครงการจัดการ Managerial Program มีความแตกต่างกันบาง
ประเด็น หลักการในการเปลี่ยนแปลงทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เป็น
หลักการบริหารภาคเอกชน(the principle of private management)
เป็นที่ยอมรับกันว่าทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตร์(PA)เป็นที่ยอมรับกันว่า
เป็นถนนสายเก่าที่เคยเข้มแข็งดีแต่มีปัญหามากมายแม้มีหนังสือ
วิชาการและเอกสารมากมายในการสะสมองค์ความรู้ รัฐประศาสน
ศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 จากปี 1916- 1980 ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
the traditional model of PA , which predominated for most of the
twentieth century has changed since the mid-1980 ใน Owen E.
Hughes(2003: 1) เป็นการปรับตัว การบริหารสาธารณะโดยมีฐานมา
จากการตลาด a flexible, market- based of PM
40. 40
ความแตกต่างระหว่าง PA and Public Management
Old Paradigm New Paradigm
1. เน้นการบริหารแบบประเพณีนิยม
(TPA)
การบริหาร New PM
1. ระบบราชการมีอานาจมากและมีผล
ลบ(negative consequences)
2. ระบบราชการแบบสายบังคับ
บัญชา (Weber ,1918
- one best way, scientific management(Taylor,
1911
2. ระบบ one best way ขาดความ
ยืดหยุ่นต้องใช้หลักการจาก private
sector
3. ระบบราชการที่เน้นนโยบาย
(bureaucratic delivery focus on policy)
3. ไม่เพียงแต่บริหารระบบราชการ
เท่านั้น รัฐต้องจ้างบริการจาก
ภายนอก(contracting out) เช่น
41. 41
Old Paradigm New Paradigm
5. แรงจูงใจของข้าราชการ
และบุคคลที่ทาเพื่อประโยชน์
สาธารณะแต่มักสนใจ
ประโยชน์ส่วนตัว(motivation of
individual public servants)
5. ทางานโดยมีแรงกระตุ้นเพื่อ
ผลประโยชน์สาธารณะเน้น
ประสิทธิภาพ
6. PA เป็นระบบราชการเป็น
วิชาชีพทางานให้นักการเมือง
หรือรัฐบาล(professional
bureaucracy)
6. เงื่อนไขบริการสาธารณะ
ของราชการมีความอ่อนแอจึง
เน้นบริการเพื่อการ
เปลี่ยนแปลง
7. งานบริการสาธารณะปฏิบัติ 7. เน้นการจัดการรวดเร็วมุ่ง
บุญทัน ดอกไธสง
43. 43
A. นักวิชาการชื่นชอบปฏิรูปกระบวนทัศน์ใหม่
Osborne and Gaebler (1992) , Barzelay(1992)
Behn(1998-2001) Borins(1999), Mathiasen(1999), Holmes and
Shand(1995) OECD (1998)
B. กลุ่มที่คัดค้าน
Hood(1995-6), Lynn(1997,2001), Pollilt(1990-3),
Gruening(2001) and Pollilt and Bouckaert(2000)
กลุ่ม B. กล่าวว่า paradigm เหมาะสมทั้ง PA และ PM อ่าน
ใน Owen E. Hughes(2003:3) แต่พื้นฐานจริง ๆ เกิดจาก
Osborne(1989) ที่กล่าวว่ารูปแบบโดยทั่วไปมี 2 ค่ายคือระบบราชการ
และระบบตลาด กุญแจที่สาคัญคือมีทางเลือก(choice) และการบังคับ
44. 44
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การจัดการภาครัฐใหม่
Ostroms 1989 “องค์การมีความขัดแย้งกันอยู่ 2
ลักษณะ คือ Bureaucracy and market ความแตกต่าง
ระหว่างทั้ง 2 คือ choice และ compulsion เพราะ
bureaucracy and market are different, They are based on
different ways of looking at the world, in short, the
traditional model of administration is based on
bureaucracy ; public management is based on markets.”
45. 45
ส่วน Behn กล่าวว่า “ทฤษฎี traditional model of public
administration สามารถ เรียกได้เป็น paradigm เช่นกันเพราะมี
discipline theories, laws and generalization and traditional
model of public administration จากยุคสมัยของ Weber, Taylor,
Wilson
แต่ Public management paradigm มีทฤษฎีที่แตกต่างคุณปู่
ทั้ง 3 ดังกล่าว เพราะ (PM) เกิดจากทฤษฎีที่มีมาจากวิชา
เศรษฐศาสตร์ และการบริหารภาคเอกชน ซึ่ง OECD อ้างถึง
New management paradigm ซึ่งเน้นผล result value for money
นั้นจะบรรลุได้ด้วย management objectives ใช้markets
mechanisms, competition and choice and devolution to staffs
through a better matching of authority responsibility and
accountability.
46. 46
จุดกาเนิดของตัวแบบใหม่
ในปี 1990 new model of public sector management ได้เกิดขึ้นใน
ประเทศพัฒนา และนักวิชาการได้ให้ความเห็นในแนวทางเดียวกัน และมี
ชื่อ และรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง เช่น กรณีของ Pollitt, 1993 เรียกว่า
managerialism (Hood, 1991) ; New public management (Land and
Rogenbloom 1992) ; market-based public administration (Barzelay, 1992) ;
The post bureaucratic paradigm (Osborne and Gaebler, 1992)
entrepreneurial government แม้ว่าจะเรียกศัพท์แตกต่างกัน แต่ได้เสนอ
แนวทางพื้นฐานเดียวกัน และแนวความคิดดังกล่าว (Hood 1991) ได้เห็น
พ้องที่จะใช้ public management และหลังจากนั้น 10 ปี นักวิชาการให้
ความเห็นว่า New นั้นไม้จาเป็นแล้วจึงเหลือเฉพาะ Public management
48. 48
ดังนั้น (Horton 1999) กล่าวว่าระบบราชการได้
เคลื่อนผ่านจาก Administration to managerial or from the
system of public administration to one of the new public
management (NPM 1999) อเมริกานักวิชาการ (Osborne
and garbler 1991)ได้เขียนหนังสือ Reinventing the
government ได้เสนอให้มีการบริการระบบภาครัฐ
เช่นเดียวกับภาคธุรกิจ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ขาย
ดีที่สุด และหนังสือเล่มนี้ได้เขียนคานิยม จากนายบิล
คลินตัน ที่กาลังแข่งขันชิงตาแหน่งประธานาธิบดี
51. 51
อัลกอร์ได้ชื่นชม Innovative practices ของอังกฤษ นิวซีแลนด์
ออสเตรเลีย ซึ่งดูเหมือนว่า อเมริกาได้พัฒนาสู่ New management หลัง
ประเทศดังกล่าว
องค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษที่ เรียกว่า
(OECD/Organization for economic cooperation and development รวมทั้ง
world bank and IMF สนใจพัฒนา public management ในองค์การ และใน
ประเทศสมาชิกที่เรียกว่า (Puma) the public management committee ซึ่ง
องค์กรระหว่างประเทศ ดังกล่าวได้เป็นองค์กรทาให้การปฏิรูป public
management reform process in a 1990 เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และ
ประสิทธิผล จึงมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในลักษณะ Radical change in the
culture of public management ซึ่งเน้น Results, focus in clients, output and
outcome.
52. 52
It would use management by objectives and performance
management, the use of market type mechanisms in place of
centralized command and control style regulation competition and
choice, and devolution with a better matching of authority,
responsibility and accountability. The system of PA .
ดังที่กล่าวมาแล้วตัวแบบทางทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์
นั้น
Based on bureaucracy, one best way , the political interests
and separation of politic from administration. เกิดปัญหาความชักช้า
ติดระบบ ดังนั้น public management paradigm is directed response
to the inadequacies of public bureaucracies (Behn 2001 : 30)
53. 53
เพราะ public management reform นั้นมีทฤษฏีที่เน้นต่าง
ไปยังความจูงใจทางเศรษฐกิจที่จะเกิด มี แก่คนของรัฐทุกคน
(สวัสดิการดี) private management flexibilities provide lesson
for government, and there can be no separation of polities from
administration therefore change of theory is from
administration to management that the former being about
following instructions and the later meaning to achieve results
and take personal responsibility for doing so อ่าน (OWEN E
Hughes : 5-6)
54. 54
Oxford Dictionary ได้ให้คาจากัดความ Administration
as an act of administering means to manage the affairs or to
conduct, to control the course of affair by his own action to
take charge of while Latin origins, Administration come from
minor the ministries, meaning : to serve , and hence later, to
govern management course from manus, meaning to control
by hand นั้น คือ ความแตกต่างกันโดยรากศัพท์ คือ to serve
and to control or gain results
58. 58
ในต้นปี 1970 แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์ อนุรักษ์ ยังกล่าวว่า
“รัฐบาลเองเป็นตัวสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยการควบคุมเศรษฐกิจ
และเสรีภาพ” ซึ่งนักทฤษฏีทางเศรษฐศาสตร์มีข้อเสนอว่า ถ้ารัฐบาล
ควบคุมแต่น้อยจะทาให้เกิดการพัฒนาวิถีชีวิต และเศรษฐกิจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ แทนที่รัฐบาลจะควบคุมประชาชนให้ทาตามราชการ
เพราะการตลาดยิ่งใหญ่กว่าภาครัฐเป็นไหน ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้
การเมืองและรัฐบาลได้ เผชิญกับความหนักหน่วงเกี่ยวกับประเด็นทาง
เศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก แม้แต่คณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
นักการเมือง และข้าราชการได้เรียกร้องให้ใช้เศรษฐกิจแนวใหม่ เพื่อ
กาหนดนโยบาย โดยใช้ตลาดภายใน และภายนอก เพื่อขายสินค้าและ
บริการ ดังนั้นนักเศรษฐศาสตร์จึงมีความสาคัญในการพัฒนาบริหาร
จากรูปแบบ Old public administration ไปสู่ Public management โดย
เน้น public choice theory, principle /agent, the theory of transaction
cost theory เป็นต้น
59. 59
ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์มีความสาคัญมากต่อระบบ
ราชการบริหารภาครัฐ (ราชการ)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ ได้อ้างถึง ลัทธิ Managerialism การ
จัดการซึ่งเป็นทฤษฏีทางเลือกสาธารณะซึ่งทาให้นักทฤษฏีมีเครื่องมือที่ดี
ในการสนับสนุน ทัศนคติที่ว่ารัฐบาลใหญ่เทอะทะ ไร้ประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะในรูปแบบของรัฐประศาสนศาสตร์ แบบดั้งเดิม (Old PA)
Public choice is a sub -branch of economic though concerned while the
application of microeconomic to political and social areas (Mueller
1989)
61. 61
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีบทบาทสูงสุดนั้นเกิดจากพลังการตลาด และรัฐ
มีบทบาทน้อย
maximum role for market force
=
minimum role for government
ซึ่งแนวความคิด ดังกล่าว เป็นเพียงอุดมคติ แต่ไม่ได้เป็นแกนของ
ทฤษฏี axiom of theory แต่มีข้อมูลเด่นชัดว่า Private markets are better than
government or political market ในกรณีกรวางเป้าหมายความรวดเร็วไม่เจ้า
ยศเจ้าอย่างไปบริหารแบบวิธีกรรมองค์กรกรอง
62. 62
ถ้าสามารถลดการแจกจ่ายสิ่งของ วัตถุ และการบริการลงได้ใน
ภาครัฐ เศรษฐกิจ โดยทั่วไปจะดีขึ้น และกลไกการตลาดจะมีกลไก
ตรวจสอบได้ดีกว่าระบบราชการนั้น คือ public choice มีทางเลือก โดย
มีการแข่งขัน และทางเลือกมีกิจกรรม เช่นเดียวกับภาคธุรกิจนั้น คือ
public choice model นั้น เน้นการตรวจสอบพัฒนาในรูปแบบ private
sector and attempts to find incentive schemes และ public choice model
ยังเน้นให้ความสาคัญเกี่ยวกับการให้ contracting out introducing the
transaction cost theory ซึ่งกุญแจสาคัญของทฤษฏีการเปลี่ยนแปลงนี้เป็น
กุญแจทางเศรษฐกิจที่สาคัญเกี่ยวกับ managerial change นั้นคือการ
เชื่อมต่อทางระบบทุน หรือมีระบบต้นทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่า
public choice theory และ principle/agent theory เป็น New institution
economics theory
64. 64
ดังนั้นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งการจ้าง
งานภายนอกเข้ามารับผิดชอบงาน Contracting out การลดค่าใช้จ่าย
ภาครัฐ จึงกลายเป็นแกนหลักที่สาคัญที่ทาให้เกิดการปฏิรูประบบ
ราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโลกาภิวัฒน์ ทาให้เกิดการปฏิรูป
โครงสร้างการบริหารภาครัฐ และรัฐบาลได้กาหนดนโยบายที่สาคัญที่
จะทาให้รัฐมีขีดความสามารถในการแข่งขันได้จึงต้องวางเป้าหมายขึ้น
เช่น นโยบาย Education, Tax, health care, anti trust regulation,
environment, and monetary policy จาเป็นจะต้องปรับตัวให้เท่าทันกับ
สถานการณ์ใน การแข่งขันในระบบการตลาดของโลกซึ่งทั้งสองภาค
จะต้องมีการปรับตัวอย่างร้างสรรค์รีบเร่งทันการณ์
65. 65
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Technological change)
การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและ Government management ถือว่า
เป็น Main driving forces both toward new from of public management and
away form traditional bureaucracy โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนาระบบ ICT
และระบบ e-government, computer, system, interest linkages, new
databases could lead to a reconceptuclization of the very way that
bureaucratizes work.
สรุป public management ได้เข้ามาทดแทน Traditional public
administration เมื่อปี 1980 The main reason for this change is simply that
old model did not work well. ทุกชีวิตได้รับการบริการจากภาครัฐในระดับ
very poor เพราะผูกพันการบริการอยู่ที่ Process out of touch of reality เมื่อ
ถูกด่า และวิจารณ์มากขึ้นรัฐจึงมีการปรับตัวเกี่ยวกับ