Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Hypovolemic shock
- 1. By Kevin G. Smith
Hypovolemic shock with septicemia
from severe food poisoning
Case1
- 2. ประวัติผู้ป่ วย
• ผู้ป่วยชื่อ นางปราณี อายุ 68 ปี
• มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างหนัก ถ่ายเหลวเป็นน้า มีไข้สูง เพ้อ ไม่
รู้สึกตัว
• ขณะอยู่ที่ห้องฉุกเฉินผู้ป่วยมีไข้สูง 40 oC ผิวหนังซีดเย็น (pale and cold
skin) มีความตึงตัวของผิวหนังลดลงและริมฝีปากแห้งแตก เจาะเลือด
พบว่ามีความเข้มข้นของเลือด = 44% อัตราการหายใจ 10 ครั้ง/นาที
• ก่อนมาโรงพยาบาล 2 วัน ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลย เพราะ
อาเจียนออกมาหมด และถ่ายเหลวเป็นน้าหลายครั้ง
- 3. ผลตรวจ
• ผลการวัดความดันโลหิตพบว่า
• ค่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ดังนี้
ในท่านอน (supine) BP 90/60 mmHg HR 105 beat per
minute
ในท่านั่ง (up right) BP 75/50 mmHg HR 130 beat per
minute
Venous blood Arterial blood
BUN = 31 mg/dL (9-25)
Creatinine = 1.2 mg/dL (0.8-1.4)
Na+ = 141 mEq/L (136-142)
K+ = 2.8 mEq/L (3.5-5)
Cl- = 90 mEq/L (98-108)
pH = 7.53 (Normal,7.3)
HCO3 = 37 mEq/L (24 mEq/L)
PCO2 = 46 mmHg (40 mmHg)
- 5. Treatment
• แพทย์ได้ทำกำร load isotonic saline (0.9%NSS) ผสม KCL เข้ำ
ทำงเส้นเลือดของผู้ป่วย
• และฉีด Plasil 1 amp ร่วมกับให้ยำปฏิชีวนะทำงหลอดเลือดดำ และ
ประเมินสัญญำณชีพอย่ำงใกล้ชิด
- 7. ประเภทของ Shock แบ่งเป็น 3 ประเภท
1. Hypovolemic or Hematogenic shock ภาวะเกิดจากร่างกาย
สูญเสียเลือดหรือสูญเสียน้า เช่นการถ่ายเหลวหลายครั้ง การ
สูญเสียเลือด
2. Cardiogenic shock ภาวะช็อคเกิดจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีด
เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้เพียงพอต่อความ ต้องการของ
อวัยวะนั้นๆ
- 8. ประเภทของ Shock แบ่งเป็น 3 ประเภท
3. Vasogenic or Distributive shock
• Neurogenic shock ภาวะช็อคเกิดจากการทางานผิดปกติของระบบ
ประสาทอัติโนมัติ
• Septic or Bacteremic shock ภาวะช็อคเกิดจากติดเชื้อรุนแรงใน
กระแสโลหิต
• Anaphylactic shock ภาวะช็อคเกิดจากการแพ้ เช่นแพ้ยา แพ้เกสร
ดอกไม้
- 9. อาการของผู้ป่วย การวินิจฉัย
– ถ่ำยเหลวเป็นน้ำหลำยครั้ง
– คลื่นไส้ อำเจียนอย่ำงหนัก
– มีควำมตึงของผิว (skin turgor)ลดลง
– ทำให้ร่ำงกำยสูญเสียน้ำจำกกำรถ่ำย
เหลว
– ไข้สูง 40 oC
– ไม่รู้สึกตัว ผิวหนังซีดเย็น
– อำกำรผู้ป่วยที่ติดเชื้อในกระแสโลหิต
– กำรวัดควำมดันโลหิต
ท่ำนอน 90/60 mmHg
ท่ำนั่ง 75/50 mmHg
– ค่ำของคนปกติมีค่ำ 120/80mmHg
ซึ่งควำมดันโลหิตของผู้ป่วยมีค่ำต่ำ
กว่ำคนปกติมีผลทำให้เกิดภำวะช็อค
– อัตรำกำรเต้นของหัวใจ
ท่ำนอน 105 ครั้ง/นำที
ท่ำนั่ง 130 ครั้ง/นำที
– ค่ำของคนปกติอยู่ที่ 60-90 ครั้ง/นำที
ซึ่งอัตรำกำรเต้นของหัวใจของผู้ป่วย
มีค่ำมำกกว่ำคนปกติมีผลทำให้เกิด
ภำวะช็อค
- 13. MAP (mean arterial blood pressure) ↓
Baroreceptor at
Aortic arch and
Carotid arteries
Baroreceptor reflex
RAAS
Kidney
sympathetic CVS center in
medulla
- 15. A II
SV↑
Adrenal Cortax Posterior
Pituitary
EDV ↑
VR↑
Hypothalamus
Osmoreceptor
Osmolarity in
interstitial space
BV↑
Thirst ADH
H₂O ↑
H₂O ↑ NaCl ↑
BP↑CO↑
+ +
Symphathetics
- 17. จำกผลกำรวัดค่ำควำมดันโลหิต จะพบว่ำร่ำงกำยพยำยำมจะปรับ
BP ให้อยู่ในระดับปกติ (120/80 mmHg) จึงไปกระตุ้นระบบประสำท
symphathetic ส่งผลให้ HR ปรับระดับสูงขึ้นจนมีควำมเร็วมำกกว่ำ 100
beat/min (Tachycardia) แต่เนื่องจำกผู้ป่วยไม่สำมำรถรับประทำน
อำหำรและน้ำได้จึงมี BV ไม่พอที่จะทำให้ BP เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับปกติ
ในท่านอน (supine) BP 90/60 mmHg HR 105 beat per
minute
ในท่านั่ง (up right) BP 75/50 mmHg HR 130 beat per
minute
- 18. Don Browning, A Fundamental Practical Theology
จัดทาโดย
• นำงสำวเบญจรัตน์ จันสน 56521615
• นำงสำวปณัฐวรรณ นำกปุณบุตร 56521622
• นำงสำวประชำนำถ อินพรม 56521646
• นำงสำวฉัตษ์อินท์ เลอเกียรบวร 56521684
• นำยพัฒนพงษ์ จันทร์ปุย 56521707
• นำงสำวพิชำมญช์ จันธุ 56521714