Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Cylinder block
- 13. (1/2)
ช่างเทคนิคระดับสูง >> การซ่อมใหญ่เครื่องยนต์
ถึง คือ ลำาดับขั้นการถอดประกับแบริ่ง
(1/1)
การถอดแยก ถอดเพลาข้อเหวี่ยง
ข้อแนะนำาการบริการ:
โบลท์
ข้อแนะนำาการบริการ:
ทิศทาง/ตำาแหน่งการติดตั้ง
1. ถอดประกับแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง 2. ถอดเพลาข้อเหวี่ยง 3. ถอดแบริ่ง
โบลท์ยึดประกับแบริ่ง
ประกับแบริ่ง แบริ่ง
ประกับแบริ่ง
Notas del editor
- ในบทนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการถอดแยก ตรวจสอบ และการประกอบกลับเสื้อสูบ 1. การถอดแยกชิ้นส่วน ถอดลูกสูบและเพลาข้อเหวี่ยงหลังจากทำการวัดระยะห่างช่องว่างน้ำมัน 2. การตรวจสอบ ใช้เครื่องมือวัดทำการวัดความบิดเบี้ยวและการสึกหรอของชิ้นส่วนและทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีค่าเกินมาตราฐานด้วยอะไหล่ชิ้นใหม่ 3. การประกอบกลับ การประกอบลูกสูบและเพลาข้อเหวี่ยงขณะทำการประกอบตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางให้ถูกต้อง ©2002 TOYOTA MOTOR CORPORATION. All right reserved.
- 1. ตรวจสอบระยะช่องว่าง 2. ถอดลูกสูบ 3. ถอดเพลาข้อเหวี่ยง 4. ถอดแยกลูกสูบ
- ตรวจสอบตามหัวข้อดังต่อไปนี้ ก่อนทำการถอดชิ้นส่วนออกจากเสื้อสูบ : 1. ระยะรุนก้านสูบ 2. ระยะห่างช่องว่างน้ำมันของประกับก้านสูบ 3. ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง ข้อแนะนำการบริการ : ตรวจสอบระยะรุนของเพลาข้อเหวี่ยงหลังจากถอดลูกสูบกับก้านสูบออกแล้ว
- 1. ระยะรุนก้านสูบ ใช้ไดอัลเกจวัดระยะรุน
- 2. ระยะห่างช่องว่างน้ำมันของประกับก้านสูบ ใช้พลาสติกเกจวัดระยะห่างช่องว่างน้ำมัน
- การเลือกแบริ่งก้านสูบ แบริ่งก้านสูบมีหลายขนาด การเปลี่ยนแบริ่งให้ใช้แบริ่งที่มีขนาดเหมือนกับแบริ่งอันเดิม ซึ่งแบริ่งแต่ละตัว และประกับก้านสูบจะมีมาร์คบอกขนาดบนตัวมัน
- 3. ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง ใช้ไดอัลเกจและไขควงปากแบนวัดระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง
- 1. ขูดคราบเขม่าออกจากผนังด้านในของกระบอกสูบ ข้อแนะนำการบริการ : ถ้ามีเขม่าสะสมอยู่ แหวนลูกสูบจะติดที่เขม่าและทำให้แหวนลูกสูบเสียหายเมื่อทำการถอดออก 2. ถอดประกับแบริ่งก้านสูบ ข้อแนะนำการบริการ : ถ้าประกับก้า นสูบถอดยากให้ใช้โบลท์ 2 ตัวสอดเข้าไปภาย ในรูยึดประกับก้านสูบแล้วทำการโยกไปมาจนกระทั่งประกับก้านสูบหลุดออก
- 3 . ถอดแบริ่งก้านสูบ สอดไขควงปากแบนลงไปในร่องบากของประกับก้านสูบอย่างระมัดระวังและงัดแบริ่งออกมาจากประกับก้านสูบ 4. ถอดลูกสูบ กระแทกก้านสูบเบาๆ ด้วยด้ามค้อน และถอดลูกสูบ และก้านสูบออกมา ข้อควรระวัง : ระวังอย่าให้ก้านสูบกระแทกกับผนังกระบอกสูบอาจทำให้กระบอกสูบเสียหายได้
- ข้อควรระวัง : ถ้าก้านสูบมีโบลท์ ให้สวมโบลท์ไว้ด้วยท่อพลาสติกเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายกับผนังกระบอกสูบ
- 1. ถอดประกับแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง ถอดโบลท์ยึดประกับเพลาข้อเหวี่ยงจากด้านนอกเข้าด้านในตามลำดับ ข้อแนะนำการบริการ : ถ้าประกับเพลาข้อเหวี่ยงถอดยากให้ใช้โบลท์ 2 ตัวสอดเข้าไปในรูประกับเพลาข้อเหวี่ยงแล้วทำการโยกไปมาจนกระทั่งประกับเพลาข้อเหวี่ยงหลุดออก 2. ถอดเพลาข้อเหวี่ยง ถอดเพลาข้อเหวี่ยงออกโดยยกขึ้นด้านบนในแนวตรง 3. ถอดแบริ่ง สอดไขควงปากแบนลงไปในร่องบากของประกับก้านสูบอย่างระมัดระวังและงัดแบริ่งออกมาจากประกับก้านสูบ
- 1. ถอดแหวนลูกสูบ (1) ถอดแหวนลูกสูบตัวที่ 1 และ 2 ตามลำดับด้วยคีมถ่างแหวนตามชนิดของแหวนลูกสูบที่เหมาะสมกับลักษณะของหน้าสัมผัสกับปากแหวน ข้อควรระวัง : แหวนลูกสูบอาจเสียหายได้ถ้าถ่างหรือบิดตัวมากเกินไป
- (2) ถอดแหวนน้ำมันด้วยมือ
- 2. ถอดสลักสูบ (1) จัดลูกสูบให้ตรงในเครื่องมือพิเศษ ข้อควรระวัง : ถ้าเครื่องมือพิเศษและลูกสูบเอียงจะทำให้ลูกสูบแตกร้าวได้ (2) อัดเครื่องมือพิเศษด้วยเครื่องอัดไฮดรอลิก และถอดสลักลูกสูบออก
- 1. ตรวจสอบความโก่งของเสื้อสูบ 2. ตรวจสอบระยะห่าง 3. ตรวจสอบลูกสูบและแหวนลูกสูบ 4. ตรวจสอบโบลท์ยึดประกับแบริ่ง 5. ตรวจสอบเพลาข้อเหวี่ยง
- ใช้บรรทัดเหล็กและฟิลเลอร์เกจตรวจสอบความโก่งของเสื้อสูบ ข้อแนะนำการบริการ : เครื่องยนต์ที่ร้อนจัดอาจทำให้เสื้อสูบโก่งได้
- ตรวจเช็คระยะห่างต่างๆ ของเสื้อสูบดังต่อไปนี้ 1. ระยะช่องว่างลูกสูบ 2. ระยะช่องว่างของสลักลูกสูบ 3. ช่องว่างน้ำมันเพลาข้อเหวี่ยง
- 1. ระยะช่องว่างลูกสูบ ใช้ไมโครมิเตอร์วัดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกของลูกสูบและใช้ไซลินเดอร์เกจวัดขนาดของกระบอกสูบแล้วนำค่ามาคำนวณหาระยะห่างช่องว่างน้ำมัน ข้อแนะนำการบริการ : สำหรับตำแหน่งการวัดจุด "a" และ จุด "d" ดังแสดงในภาพให้อ้างอิงจากคู่มือการซ่อม
- 2. ระยะช่องว่างของสลักลูกสูบ ใช้ไมโครมิเตอร์วัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกสลักลูกสูบและใช้คาลิปเปอร์เกจวัดขนาดรูสลักลูกสูบแล้วนำค่ามาคำนวณหาระยะช่องว่างน้ำมัน
- 3. ช่องว่างน้ำมันเพลาข้อเหวี่ยง ใช้พลาสติกเกจวัดระยะห่างช่องว่างน้ำมัน
- การเลือกขนาดแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง เปลี่ยนแบริ่งที่มีขนาดเดียวกัน ดังที่แสดงไว้บนประกับเพลาข้อเหวี่ยงและเสื้อสูบ ซึ่งมีมาร์คบอกขนาดกำกับไว้
- 1. ระยะห่างของร่องแหวนลูกสูบ ใช้ฟิลเลอร์เกจวัดระยะช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบกับร่องแหวนลูกสูบร่ องที่ 1 และร่องที่ 2 ข้อแนะนำการบริการ : ถ้าระยะห่างร่องแหวนมากเกินไปจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดเสียงดังผิดปกติและกินน้ำมันเครื่อง • ถ้าระยะห่างร่องแหวนน้อยเกินไปจะเป็นสาเหตุทำให้แหวนลูกสูบเสียหายได้ และ / หรือทำให้ผนังกระบอกสูบขยายตัวมากเกินไปเนื่องจากความร้อนสูง
- 2. ช่องว่างปากแหวนลูกสูบ ใช้ลูกสูบดันแหวนลูกสูบลงไปในกระบอกสูบให้แหวนลูกสูบอยู่ในแนวขนาน และความลึกให้ตรงกับตำแหน่งตามค่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีการสึกหรอน้อยที่สุด • ถ้าระยะช่องว่างปากแหวนมากเกินไปจะทำให้กำลังอัดรั่วผ่านปากแหวน • ถ้าระยะช่องว่างปากแหวนน้อยเกินไป เมื่อปากแหวนขยายตัวจะทำให้ปากแหวนชนกัน และ / หรือทำให้ผนังกระบอกสูบเป็นรอยขูด จากปากแหวน ข้อแนะนำการบริการ : การวัดระยะห่างปากแหวนให้วัดในสภาพคล้ายกับการใช้งานจริง โดยการจัดแหวนลูกสูบให้อยู่ภายในกระบอกสูบ • ระยะ ที่แสดงตามรูป ให้อ้างอิงจากคู่มือการซ่อม
- ถ้าโบลท์แบบพลาสติกรีเจ้นถูกใช้ขันประกับแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง : ทุกครั้งที่ขันโบลท์ยึดฝาสูบแบบพลาสติกรีเจ้นจะทำให้โบลท์ยืดยาวออกการวัดความยาวและเส้นผ่าศูนย์กลางของโบลท์แต่ละตัวจะเป็นการตัดสินว่าจะนำโบลท์กลับมาใช้อีกได้หรือไม่ ตรวจสอบโบลท์ดังต่อไปนี้ (1) โบลท์ยึดประกับแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง (2) โบลท์ยึดประกับแบริ่งก้านสูบ
- ตรวจสอบเพลาข้อเหวี่ยงตามลำดับทั้ง 3 ข้อดังนี้ : 1. ความคดงอของเพลา 2. ทำการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางสลักข้อเหวี่ยงและข้อหลักเพลาข้อเหวี่ยง 3. ตรวจสอบการสึกหรอของเฟืองไทม์มิ่ง
- 1. ความคดงอของเพลา วางเพลาข้อเหวี่ยงลงบนแท่นรูปตัววีและใช้ไดอัลเกจวัดความคดงอของเพลาข้อเหวี่ยงโดยการหมุนเพลาข ้อเหวี่ยง 1 รอบ
- 2. ทำการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางสลักข้อเหวี่ยงและข้อหลักเพลาข้อเหวี่ยง ใช้ไมโครมิเตอร์วัดขนาดของข้อหลักและข้อก้าน
- 3. ตรวจสอบการสึกหรอของเฟืองไทม์มิ่ง ใช้เวอร์เนียคาลิปเปอร์วัดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกของฟันเฟืองไทม์มิ่ง การสึกหรอจะเกิดขึ้นอยู่ระหว่างร่องฟัน สาเหตุที่ฟันเฟืองสึกหรอเพราะโรลเลอร์ของโซ่สวมเข้าไปในร่องฟันของเฟืองไทม์มิ่งเมื่อเฟืองขับโซ่ที่มีแรงต้านจากการกดสปริงวาล์วจะทำให้ฟันเฟืองไทม์มิ่งสึกหรอเป็นสาเหตุให้เส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกของฟันเฟืองลดลง ดังนั้น การวัดขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางเพื่อใช้ในการวินิจฉัยฟันเฟืองไทม์มิ่งว่าสามารถใช้ต่อไปได้หรือไม่ ถ้าใช้ฟันเฟืองไทม์มิ่งที่สึกหรอเกินค่ากำหนดจะทำให้โซ่หย่อน และกระโดดข้ามฟันเฟืองได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับกลไกวาล์วได้
- 1. ติดตั้งเพลาข้อเหวี่ยง 2. ประกอบลูกสูบกลับ 3. ติดตั้งลูกสูบ
- ติดตั้งเพลาข้อเหวี่ยง (1) ประกอบแบริ่งและแหวนกันรุนเข้ากับเสื้อสูบและประกับเพลาข้อเหวี่ยง (2) ทาน้ำมันเครื่องบนผิวหน้าสัมผัสของแบริ่ง ข้อควรระวัง : ห้ามทาน้ำมันที่ด้านหลังของแบริ่ง ความร้อนที่เกิดขึ้นที่แบริ่งจะถูกระบายความร้อนไปยังเสื้อสูบโดยผ่านทางด้านหลังของแบริ่ง ถ้ามีน้ำมันเครื่องอยู่บริเวณด้านหลังของแบริ่งจะทำให้การระบายความผ่านไปยังเสื้อสูบได้ไม่ดี (3) จัดวางเพลาข้อเหวี่ยงลงบนเสื้อสูบ (4) ขันโบลท์ยึดประกับเพลาข้อเหวี่ยง (5) หลังจากประกอบเพลาข้อเหวี่ยงเสร็จแล้วทดลองหมุนเพลาข้อเหวี่ยงด้วยมือ
- 1. ประกอบลูกสูบและก้านสูบกลับ (1) จัดมาร์คด้านหน้าของลูกสูบและก้านสูบให้ตรงกัน (2) จัดลูกสูบ สลักลูกสูบและก้านสูบเข้ากับเครื่องมือพิเศษ แล้วดันสลักลูกสูบเข้าไปในลูกสูบ ข้อควรระวัง : ถ้าเครื่องมือพิเศษและลูกสูบเอียงอาจทำให้ลูกสูบแตกร้าวได้
- 2. ติดตั้งแหวนลูกสูบ (1) ประกอบแหวนน้ำมันด้วยมือ (2) วางแหวนลูกสูบให้อยู่ในแนวราบภายในคีมถ่างแหวนและประกอบแหวนลูกสูบเข้ากับร่องแหวนลูกสูบร่องที่ 2 และร่องที่ 1 ตามลำดับ ข้อควรระวัง : แหวนลูกสูบอาจเสียหายได้ถ้าถ่างหรือบิดตัวมากเกินไป ข้อแนะนำการบริการ : อย่าจัดปากแหวนให้อยู่ตรงกันเพราะจะทำให้กำลังอัดรั่วผ่านร่องปากแหวนได้ • การจัดปากแหวนให้อ้างอิงจากคู่มือการซ่อม
- ติดตั้งลูกสูบ 1. จัดเสื้อสูบให้อยู่ตำแหน่งตั้งตรง ข้อควรระวัง : ถ้าเสื้อสูบเอียงหรือตะแคง ขณะประกอบลูกสูบอาจทำให้ก้านสูบไปขูดกับผนังกระบอกสูบทำให้กระบอกสูบสึกหรอได้
- ข้อควรระวัง : ถ้าก้านสูบมีโบลท์ ให้สวมโบลท์ไว้ด้วยท่อพลาสติกเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายกับผนังกระบอกสูบ
- 2. ติดตั้งลูกสูบ (1) ประกอบแบริ่งก้านสูบเข้ากับก้านสูบและประกับก้านสูบ (2) ทาน้ำมันเครื่องบนผิวหน้าสัมผัสของแบริ่ง ข้อควรระวัง : ห้ามทาน้ำมันที่ด้านหลังของแบริ่ง ความร้อนที่เกิดขึ้นที่แบริ่งจะถูกระบายความร้อนไปยังก้านสูบโดยผ่านทางด้านหลังของแบริ่ง ถ้ามีน้ำมันเครื่องอยู่บริเวณด้านหลังของแบริ่งจะทำให้การระบายความร้อนผ่านไปยังก้านสูบได้ไม่ดี
- (2) รัดแหวนเข้ากับร่องแหวนลูกสูบด้วยปลอกรัดแหวน ข้อควรระวัง : ถ้าลูกสุบหมุนหรือขยับขณะอยู่ในปลอกรัดแหวนตำแหน่งของปากแหวนอาจเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง ซึ่งอาจทำให้ลูกสูบเสียหายได้ ข้อแนะนำการบริการ : ถ้าแหวนอัดยื่นออกมาจากร่องแหวนในขณะที่กำลังดันลูกสูบลงไปในกระบอกสูบจะทำให้ลูกสูบลงในกระบอกสูบได้ยาก • ทาน้ำมันเครื่องที่แหวนลูกสูบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับลูกสูบและแหวนลูกสูบ (3) หันมาร์คด้านหน้าของลูกสูบไปด้านหน้าเครื่องยนต์และใช้ด้ามค้อนเคาะลูกสูบลงไปในกระบอกสูบอย่างเบาๆ (4) ประกอบประกับก้านสูบและขันโบลท์ยึดก้านสูบ (5) ทุกครั้งที่ประกอบลูกสูบแล้วให้หมุนเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อให้แน่ใจว่าเพลาข้อเหวี่ยงสามารถหมุนได้อย่างราบเรียบ