Más contenido relacionado La actualidad más candente (19) Similar a รายงานสรุปผลการสำรวจ ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์ และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558 (20) Más de IMC Institute (18) รายงานสรุปผลการสำรวจ ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์ และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 25583. 2ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
สารบัญ
หน้า
บทสรุปผู้บริหาร 3
Executive summary 9
การสารวจมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ 15
ผลการสารวจตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ประจาปี 2558 17
ผลการสารวจบริษัทที่ดาเนินธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว 20
ผลสารวจการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
เพื่อใช้ในองค์กร (In-house) 21
ผลการสารวจซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ที่นาเข้ามาจากต่างประเทศ 21
ผลการรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการใหม่ด้านเทคโนโลยี (Tech-Startup) 22
ผลการสารวจมูลค่าการส่งออกซอฟต์แวร์บริการซอฟต์แวร์และ
ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว 23
ผลการสารวจสถานภาพบุคลากรและการจ้างงานประจาปี 2558 24
ผลการสารวจการผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาซอฟต์แวร์
และสารสนเทศ (Educational sector) 26
4. 3ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
บทสรุปผู้บริหาร
สานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
(SIPA) ได้ดาเนินการสารวจข้อมูลอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการ
ซอฟต์แวร์มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 นี้ได้รับมอบหมายสถาบันไอเอ็มซี
(IMC) เป็นคณะผู้วิจัย เพื่อรวบรวมและติดตามข้อมูลความก้าวหน้า ตลอดจน
การเปลี่ยนแปลงที่สาคัญของอุตสาหกรรม ซึ่งจะสามารถนาข้อมูลมาใช้
ประโยชน์ในการวางแผนนโยบายกลยุทธ์ต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง
ภาครัฐและเอกชนได้
1. มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการ
การสารวจมูลค่าตลาดในปี 2558 ใช้การอ้างอิงฐานข้อมูลประชากร
ตามการจัดหมวดหมู่กิจกรรมของอุตสาหกรรมในประเทศไทย (Thailand
Standard Industrial Classification) หรือ TISC ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ซึ่งแบ่งหมวดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ภายใต้ TSIC2009 ครอบคลุมรายละเอียดทั้งด้านขายปลีก ขายส่ง และบริการ
ทาให้สามารถระบุบริษัทในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ได้ดี
ยิ่งขึ้น
ในปี 2558 ภาพรวมตลาดของไทย มีมูลค่าการผลิตซอฟต์แวร์และ
บริการซอฟต์แวร์ 52,561 ล้านบาท โดยเติบโตร้อยละ 1.2 จากปี 2557 โดย
แบ่งสัดส่วนเป็น ซอฟต์แวร์สาเร็จรูป มูลค่า 14,068 ล้านบาท เติบโตร้อยละ
0.1 และบริการซอฟต์แวร์ 38,493 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 1.6 โดยภาค
การเงินยังคงเป็นสาขาที่มีการใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์และบริการมากที่สุด
รองลงมา คือ หน่วยงานราชการและโทรคมนาคม
5. 4ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ทางด้านการผลิตซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded Software)
ในปี 2558 มีมูลค่า 6,039 ล้านบาท มีการเติบโตร้อยละ 3.5 จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของทั้งสองส่วนหลัก คือ 1) ผู้ออกแบบและ
พัฒนาระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว โดยมีทรัพย์สินทางปัญญาของ
ตนเอง (IP-based system designer) และ 2) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สมองกลฝัง
ตัว เพื่อใช้กับสินค้าของบริษัท โดยมีฐานะเป็นหน่วยผลิตภายใน (In-house
producer)
ในส่วนการส่งออกผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์ในประเทศไทย
ส่งออกซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,330 ล้านบาท
คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 1.2 ซึ่งก็ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตมูลค่า
การผลิตซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ (2559) ตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ของไทยจะมีอัตราการเติบโต 4.4% หรือมีมูลค่าการผลิตในประเทศกว่า
54,893 ล้านบาท และปี 2560 จะเติบโต 4.3% หรือมีมูลค่ารวม 57,257 ล้าน
บาท ขณะที่ มูลค่าการผลิตซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว จะเติบโต 5% คิดเป็น
มูลค่า 6,340 ล้านบาท และในปี 2560 เติบโต 6.9% คิดเป็นมูลค่า 6,778
ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ
การขยายตลาดต่างประเทศของผู้ที่ส่งออกอยู่แล้ว และการขยายตลาดไปยัง
ตลาดใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการจานวนหนึ่ง ที่ได้รับอานิสงค์จาก
การ Road Show และร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในช่วงปี 2559 และ 2560
ผลการสารวจ ยังพบว่า ในปี 2558 ประเทศไทย มีมูลค่าตลาด
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์นาเข้า 32,944 ล้านบาท มูลค่าซอฟต์แวร์และ
บริการซอฟต์แวร์เพื่อการพัฒนาในองค์กร (In-House) อยู่ที่ 14,903 ล้านบาท
และมีจานวนบุคลากรที่เป็นฐานการผลิตซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
55,873 คน (Note ; อ้างอิงตาราง 5.1)
6. 5ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
2. แนวโน้มตลาดในปี 2559
แนวโน้มตลาดที่สาคัญ 3 ประการ ได้แก่
ประการแรก ตลาดภาครัฐในภาพรวมของปี 2559 ยังคงชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม จะเห็นการขยายตัวด้านการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการ
ภายใต้นโยบายที่รัฐบาลให้ความสาคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล
(Digital Economy) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการพัฒนาระบบโครงสร้าง
พื้นฐานของประเทศ (National Infrastructure) ได้แก่ การพัฒนา
อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูง (High-Speed Broadband Internet)
ทั่วประเทศ งบประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ครม.
ตั้งแต่ช่วง ต้นปี
ประการที่สอง ตลาดภาคเอกชนยังขยายตัวจากตลาดส่งออก
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ AEC การขยาย
การลงทุนในสาขาบริการของลูกค้าในกลุ่มธนาคาร และภาคโทรคมนาคม
ขณะที่ ตลาดในประเทศนั้น มีโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ จากปัจจัยหนุนเชิง
นโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจาเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วรับการ
เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้วย โดยบริษัทที่มีความพร้อม สามารถใช้ความ
ชานาญไปช่วยลูกค้าเพิ่มมูลค่าในการทาธุรกิจภายใต้บริบทใหม่ เช่น
ผู้ประกอบการในกลุ่มตัวอย่างรายหนึ่งพัฒนาและให้บริการระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ รวมถึงระบบการพาณิชย์ดิจิทัล (Digital Commerce) สร้างระบบ
นิเวศสาหรับเศรษฐกิจดิจิทัล สนับสนุนลูกค้าให้สามารถยกระดับความสามารถ
การแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มรายได้จากการ
ผลิตสินค้า
ประการที่สาม รูปแบบธุรกิจใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม
การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เป็น Mega Trend ได้แก่
Cloud Computing, Internet of Things (IoT) และ Big Data/Analytics
ปัจจุบันมีหลายรายกาลังสร้างธุรกิจใหม่ๆ เกาะติดแนวโน้มเหล่านี้ โดยเฉพาะ
7. 6ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีฐานตลาดอยู่ในภาคธุรกิจหลักๆ มีลูกค้าจานวนมาก
ส่งผลให้มีปริมาณข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ใช้งานจานวนมหาศาล ได้แก่
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง ทาโครงการนาร่องด้าน Big Data ภายในบริษัท โดย
ทาการจัดเก็บทุกข้อมูลโครงการที่ทาให้กับลูกค้า เพื่อนามาวิเคราะห์ และ
พัฒนาเป็นองค์ความรู้สาหรับการเชื่อมต่อฐานลูกค้าที่มีอยู่ นาไปสู่การคิด
โอกาสรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ข้ามสายอุตสาหกรรม (cross industry) เช่น การ
bridge ค่ายเพลง-ค่ายภาพยนตร์-ธนาคาร แปลงคอนเทนท์มาผสานกับการ
เพิ่มสมาชิก/ฐานลูกค้าสาหรับบริการของพันธมิตรธุรกิจ และได้รับประโยชน์
จากการจัดสรรรายได้ ขณะเดียวกัน เป็นการ enhance business จากฐาน
ลูกค้าที่มีอยู่ และขยายสู่ตลาดใหม่ อีกทั้งมีการสร้างฐานตลาด Business
Transformation โดยแนะนาไอทีเข้าไปเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ให้กับลูกค้าใหม่ๆ
ได้แก่ เจรจากับเจ้าของเครือข่ายโรงภาพยนตร์ ช่วยให้ขยายรายได้ธุรกิจ
โดยการ utilize จากสินทรัพย์เดิมที่มีอยู่ ด้วยเทคโนโลยีระบุตาแหน่ง และ
push notification ยิงโปรโมชั่นลดค่าบัตรชมภาพยนตร์ในช่วง 30 นาทีก่อน
ฉายไปยังมือถือของลูกค้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อสร้างรายได้จากที่นั่ง
ซึ่งยังว่างอยู่ การซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านมือถือ โฆษณาทีเซอร์หนังผ่าน
มือถือ โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์พฤติกรรมส่งทีเซอร์ตามแนวความชอบของ
ลูกค้าเป้าหมายแต่ละราย เป็นต้น
บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รายหนึ่งมุ่งสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ที่มีแหล่ง
รายได้หลากหลาย และเป็นธุรกิจที่ซอฟต์แวร์เป็นองค์ประกอบสาคัญในการ
สร้างบริการใหม่ (software enable service) พัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์
ใหม่ เช่น ตู้เติมเงินดิจิทัล (Re-Fun) เกาะติดนโยบายรัฐในการสนับสนุน
ผู้ประกอบการใหม่ (Startup) และแนวคิดรักษ์โลก (Green Model) รองรับ
การเติบโตในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
8. 7ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายหนึ่งออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้ง
ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT) เพิ่มมูลค่า
การเป็น Smart Appliance ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์พฤติกรรม
ผู้บริโภคยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์
3. สรุปและข้อเสนอแนะ
การขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ยังคงเติบโตได้ ท่ามกลางสภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวม
ยังคงชะลอตัว โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเห็นโครงการการลงทุนที่เป็นรูปธรรมจาก
นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น
ในปี 2558 ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ของไทย
หลายราย เริ่มลดการพึ่งพิงรายได้จากตลาดราชการ โดยรุกออกแบบบริการ
ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ ให้กับ
ลูกค้าภาคเอกชน ด้วยแนวคิดการนาไอทีไปช่วยเปลี่ยนรูปแบบการทาธุรกิจ
(Business Transformation) ให้กับทั้งลูกค้าเดิมและเจาะฐานลูกค้าใหม่
ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาด้าน
ซอฟต์แวร์คุณภาพสูง เพื่อสร้างจุดแข็งในเชิงการตลาดและหนีจากกับดักการ
แข่งขันด้านราคาทั้งในตลาดราชการและเอกชน ตลอดจนสนับสนุนการเติบโต
อย่างยั่งยืนของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ในการปรับตัวดังกล่าว จาเป็นต้องมีต้นทุน
“บุคลากร” ที่มีทักษะ มีคุณภาพ และจานวนเพียงพอที่จะรองรับเป้าหมายนี้
ด้วย ดังนั้น ภาครัฐต้องเร่งขับเคลื่อนนโยบายด้านการพัฒนาบุคลากรที่
สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม
สาหรับความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองในปี 2559 คือ การเติบโตของ
ตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ในลูกค้า 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ภาค
การเงิน ซึ่งได้รับการกระตุ้นเชิงนโยบายผ่านบริการโอนเงินและรับโอนเงิน
แบบใหม่ “พร้อมเพย์(Promptpay)” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลักภายใต้แผน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
9. 8ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
แห่งชาติ (National e-Payment) และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยธนาคารพาณิชย์
ทุกแห่งเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะผลักดันให้มีการลงทุนเพิ่มทั้งด้านซอฟต์แวร์ระบบ
และซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยข้อมูล และ 2.โทรคมนาคม ในโครงการ
ขยายเครือข่ายสื่อสารไร้สาย เทคโนโลยี 4G ที่ผู้ให้บริการมือถือทุกรายที่ได้รับ
ใบอนุญาตไปแล้ว ต้องเร่งลงทุนติดตั้งระบบรองรับบริการใหม่ๆ เพิ่มพื้นที่
ให้บริการครอบคลุมผู้ใช้บริการมากที่สุด พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์จาก
ระบบ 3G เดิม สู่ 4G ตามลาดับ
คณะผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะที่สาคัญต่อภาครัฐ ในการสนับสนุนความ
เข้มแข็งและศักยภาพผู้ผลิตซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ โดยปรับปรุง
นโยบายเชิงโครงสร้าง ทั้งด้านหลักสูตรการศึกษาที่ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร
ด้านซอฟต์แวร์ของประเทศไทยทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ มาตรการทาง
ภาษี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาดและงานด้านการวิจัยและ
พัฒนา สร้างเวทีการจับคู่ธุรกิจโดยเฉพาะกับคู่ค้าต่างประเทศเพื่อสร้างตลาด
ส่งออกใหม่ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจัยสาคัญที่สุดก็คือ นโยบายเหล่านี้ต้องเป็น
รูปธรรม และมีความต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ซอฟต์แวร์ไทยได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วย
10. 9ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
Executive Summary
Software Industry Promotion Agency (Public Organization)
(SIPA) has been continuously conducted the survey of Thai
software industry. For the year 2015, IMC Institute is assigned to
organize this survey to acquire the information of Thai software
market including trends and vital changes in the industry. This
information will be used for strategic planning and establishing
policies in both government and private sectors.
1. Software and service market value
In 2015 survey, Thailand Standard Industrial Classification
(TSIC) defined by the department of Business Development was
used as a reference for samples. TSIC classified software and
software service industries under TSIC2009 concluded retail,
wholesale and services which help identifying businesses in
software and software service industry uncomplicated.
According to the survey results, the value of overall
software market last year reached 52.5 billion baht, the total
market grew only 1.2 percent from 2014 in proportions of 14.1
billion baht from package software (0.1% increased) and 38.5
billion baht from software services (1.6% growth). Financial
industries remains the highest spender on software and services
with government and telecommunication respectively.
11. 10ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
The survey indicated that the market of Thai embedded
system software in 2015 reached 6.039 billion baht, growing at 3.5
percent from 2014. The growth was a result from the increasing of
embedded system designers and developers who owned their
intellectual properties (IP-based system designer) as well as in-
house embedded system producers.
The export of software and services created 3.33 billion
baht value in 2015, increasing 1.2 percent from the previous year
which is similar to the growth of software production and services
value.
The expectation of total software market growing rate for
2016 would be 4.4% with 54.893 billion baht in value. The figure
will increase to 57.257 billion baht in 2017 with 4.3 percent growth
rate when embedded system software will rise by 5% with 6.3
billion baht in value next year and raise to 6.7 billion baht (6.7%)
in 2017. The supporting key factors are economic expansion,
extension of overseas market from existing exporters and
newcomers whose gain advantages from Road Show and
cooperation from local alliances during 2016 and 2017.
Moreover, the survey results revealed that the value of
import software and services is 32.9 billion baht where In-House
software and services is valued at 14.9 billion baht by a number of
staff at 55,873 people (Table 5.1).
12. 11ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
2. Market Trends in 2016
Three vital trends are:
Firstly, overall market trends in 2016 is decelerated,
however, there will be broaden in budget under the first priority
projects from the government such as Digital Economy especially
those underlying projects in development of National
Infrastructure for examples, High-Speed Broadband Internet which
was approved with 20 billion baht by the cabinet early this year.
Secondly, there is an expansion of exporting software and
services from private sector, especially in AEC including investment
extension from financial and telecommunication sectors where
new opportunity in these country has supports from government
policy in digital economy.
Nonetheless, local soft companies still need expeditious
adaptation to welcome the new changes in structure. Those has
readiness, can use their expertise to help clients in increasing value
under the new business context for example, the merchant
developed and serviced ICT systems including Digital Commerce
to create an ecosystem for digital economy encouraging their
clients to shift the competition in digital economy era from value
added goods production.
13. 12ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
Finally, the major factor is the new business format
according to consumer life style where digital and technology
mega trends such as Cloud Computing, Internet of Things (IoT) and
Big Data/Analytics are in needed. Many major merchants are
following these trends especially those who hold large client base
which can generate a huge amount of data to be used in analysis.
For example, a Big Data pilot project of one company who is
gathering information from existing clients to analyse and learn
about their clients so they can expand their client base. This can
open up new opportunity in business especially cross industry such
as bridging between entertainment (music and films) and banking.
Contents are adapted and merged with membership for their
alliances, this increased and enhanced existing client base and
expanded new markets including building up business
transformation by introducing IT to increase new profit
connections. Another example, the use of location based and push
technology were used to sending out bargain promotions directly
to prospect client in cineplex area to minimize empty seats in their
cinemas.
As an example, one software company actually shifted to
various sources of profit by offering software enable service and
developed new innovation such as digital recharge machine
(Re-Fun) clinging on the government policy trends such as Startup
and Green Model to support digital economy growth.
14. 13ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
One major electrical appliance manufacturer designed and
developed embedded system software that connect to the
Internet (IoT) as an added value for smart appliance that enable
energy saving and response to digital consumers.
3. Conclusions and suggestions
The expanding of digital economy will be the main driving
force for software industry to grow under the slowdown of overall
current economics, exclusively when new investments supported
from digital economy policy can be observed.
In the passed year 2015, a few software and service
businesses declined in relying on the government market by
approaching private sector. The important strategy is business
transformation using IT, this both including existing client base and
new prospect clients. Meanwhile, developing IP-based highly
reliable software requires skilled and qualified human resource
investment. The government has to come up with approaching
new policy to respond the private sector needs.
Some eye catching movements for year 2016 are the
growth of software and services in finance sector and
telecommunications. For finance sector, Promptpay project is one
of the national foundation development projects expected to be
a national e-Payment for digital economy driving be all commercial
banks in the country. This will lead to more investment both in
system software and security to maintain reliability of the system.
In telecommunication side, the extending 4G coverage which all
15. 14ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ISP acquired has to be completed in installing new cell sites and
upgrading 3G equipments to be 4G supported.
Suggestions from the research team are supporting and
strengthen high potential software and service industry by
rectifying structured policy including academic curriculums those
support producing skilled human resource for the country both in
quality and quantity, improving tax measure and privilege to
stimulate software market and research development. Matching
local businesses with overseas markets for new opportunity of
export can be trigger for the market growth. The most important
things are solidity and continuity of these rectifying policies which
are vital keys to support Thai software industry in long term.
16. 15ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
การสารวจมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
การสารวจมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ประจาปี 2558
ได้ทาการสารวจมูลค่าการผลิต โดยการวัดมูลค่าดังกล่าวจะสอดคล้องกับคู่มือ
การสารวจตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์1 และสอดคล้องกับ
ยุทธศาสตร์ของสานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การ
มหาชน) หรือ SIPA ในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และ
บริการซอฟต์แวร์ เนื่องจาก มูลค่าการผลิตเป็นข้อมูลที่แสดงถึงศักยภาพใน
การผลิตของผู้ประกอบการในประเทศไทย
ภาพที่ 1 : การแบ่งประเภทมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
[ที่มา: TDRI,2558]
นอกจากนี้ คณะผู้วิจัยจะประมาณการมูลค่าการบริโภคซอฟต์แวร์
และบริการซอฟต์แวร์ในประเทศไทย โดยเป็นการนาตัวเลขมูลค่าการผลิตเพื่อ
ใช้ในประเทศรวมกับตัวเลขการนาเข้าซอฟต์แวร์จากต่างประเทศเพื่อให้ได้
มูลค่าการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งข้อมูลการนาเข้าซอฟต์แวร์ นอกจากจะ
คานึงถึงซอฟต์แวร์สาเร็จรูปแล้ว ยังรวมถึงข้อมูลนาเข้าซอฟต์แวร์แบบ SaaS
1
คู่มือการสารวจตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์, สานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน),
2556
17. 16ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
(Software as a Service) รวมทั้งคณะวิจัยได้สารวจธุรกิจขนาดใหญ่ที่น่าจะมี
การพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์เพื่อใช้ภายในองค์กร (in-house)
ด้วยเช่นกัน ดังภาพประกอบ 1
ขอบเขตในการสารวจจะครอบคลุมเฉพาะรายได้ของซอฟต์แวร์และ
บริการซอฟต์แวร์เท่านั้น เช่นเดียวกับการสารวจในปีที่ผ่านมา โดยไม่รวม
รายได้ของบริการที่เกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์ (software-enabled service)
เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ยกตัวอย่างเช่น Agoda มีรายได้จากการรับจองโรงแรม
และที่พักผ่านเว็บไซต์อโกด้า ซึ่งไม่ใช่รายได้จากซอฟต์แวร์โดยตรง
การสารวจตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ในปี 2558 แบ่งการ
สารวจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) ซอฟต์แวร์สาเร็จรูป (2) บริการซอฟต์แวร์
(3) ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (4) การพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในองคกร (in-
house) (5) การผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาซอฟต์แวร์และ
สารสนเทศ (Educational Sector) โดยกลุ่มสุดท้ายได้ทาการสารวจขึ้นเป็น
ครั้งแรก นอกจากนี้ยังได้รวบรวมข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
กลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ (Tech - Startup) ซึ่งทาการรวบรวมเป็นครั้งแรก
เช่นกัน
18. 17ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผลการสารวจตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ประจาปี 2558
ในปี 2558 ตลาดซอฟต์แวร์ของประเทศไทย มีมูลค่าการผลิต 52,561
ล้านบาท และมีมูลค่าการบริโภค 82,175 ล้านบาท มีการพัฒนาเพื่อใช้ใน
องค์กร 14,903 ล้านบาท ดังภาพประกอบ 2
ภาพที่ 2 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
โดยการสารวจศึกษาถึงมูลค่าการผลิต ซึ่งในปี 2558 การผลิต
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์มีมูลค่า 52,561 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการ
เติบโตร้อยละ 1.2 จากปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดของมูลค่าต่างๆ ประกอบ
ดังแสดงในภาพประกอบ 3 พร้อมกับเปรียบเทียบมูลค่าตลาดในช่วงสองปีที่
ผ่านมา
19. 18ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ภาพที่ 3 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
ปัจจัยที่ทาให้มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์โดยรวมปี
2558 มีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อย คือ 1.2% เนื่องจากโครงการต่างๆ มี
การชะลอการลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจหดตัว โดยพบว่าบริษัทขนาด
ใหญ่ซีงมีผลประกอบการมากกว่า 500 ล้านบาทในภาพรวมแทบไม่มีการ
เติบโต ขณะที่บริษัทขนาดกลางที่มีผลประกอบการระหว่าง 100-500 ล้าน
บาท ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
นอกจากนี้ได้มีการประมาณการมูลค่าของปี 2559 และ 2560 จาก
กลุ่มตัวอย่าง โดยพบว่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แววร์มีอัตราการ
เติบโต 4.4% และ 4.3% ตามลาดับ ซึ่งมีรายละเอียดดังภาพประกอบ 4 ทั้งนี้
เกิดการขยายตัวจากปัจจัยของการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital
Economy) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของ
ประเทศ (National Infrastructure) ได้แก่ การพัฒนาอินเทอร์เน็ตบรอด
แบนด์ความเร็วสูง (High-Speed Broadband Internet) ทั่วประเทศ
20. 19ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
งบประมาณ 20,000 ล้านบาท และปัจจัยจากการขยายตัวในตลาด
ต่างประเทศของภาคเอกชนที่มีการส่งออกซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ภาพที่ 4 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
นอกจากนี้คณะผู้วิจัยพบข้อสังเกตว่า รูปแบบของการผลิตซอฟต์แวร์
และบริการซอฟต์แวร์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสาคัญ คือ อัตราการเติบโต
เริ่มเกิดการหดตัวลง ในขณะที่บริการที่เกิดจากการนาซอฟต์แวร์มาใช้งาน
(Software-Enable Service) มีแนวโน้มการใช้งานมากขึ้น เช่น การขาย
หนังสือออนไลน์อย่าง OokBee บริการจองที่พัก โรงแรม อย่าง Agoda ซึ่ง
Software-Enable Service จะไม่ได้รายได้จากการจาหน่ายซอฟต์แวร์
โดยตรง แต่จะได้รายได้จากธุรกิจอื่นๆโดยเป็นผลลัพธ์จากการใช้ซอฟต์แวร์
นอกจากนี้การเข้ามาของ SaaS ทาให้มีวิธีการเก็บค่าใช้จ่ายเปลี่ยนไป โดย
เรียกเก็บจากการใช้บริการเป็นรายเดือน รายปี หรือตามรายการใช้งานที่
เกิดขึ้นจริง ทาให้ราคาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ตกลงไปมาก แม้จะมี
ปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
21. 20ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผลการสารวจบริษัทที่ดาเนินธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์
สมองกลฝังตัว
สาหรับผลการสารวจมูลค่าการผลิตซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวปี 2558
พบว่ามีมูลค่า 6,039 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 3.5% ทั้งนี้เป็นผลมาจาก
การเติบโตของทั้งสองส่วนหลัก คือ 1) ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบที่ใช้
ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว โดยมีทรัพย์สินทางปัญญาของตนเอง (IP-based
system designer) โดยปี 2558 มีมูลค่า 2,896 ล้านบาท และ 2) ผู้พัฒนา
ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว เพื่อใช้กับสินค้าของบริษัท โดยมีฐานะเป็นหน่วยผลิต
ภายใน (In-house producer) มีมูลค่า 87 ล้านบาท ดังภาพประกอบ 5
ภาพที่ 5 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
ทั้งนี้ คาดว่า ณ สิ้นปีนี้ (2559) ตลาดซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวจะมี
การเติบโต 5% และในปี 2560 เติบโต 6.9% คิดเป็นมูลค่า 6,340 ล้านบาท
และ 6,778 ล้านบาท ตามลาดับ โดยเป็นผลจากการผลิตเพื่อส่งออกมีการ
เติบโตต่อเนื่องจากปี 2558 รวมทั้งผู้ประกอบการบางรายผลิตสินค้าที่มี
ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวเพื่อควบคุมสินค้าที่มีความสามารถต่อเชื่อม
22. 21ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
อินเทอร์เน็ต (IoT) ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโต นอกจากนี้
ผู้ประกอบการบางกลุ่มเติบโตจากการขยายตัวของธุรกิจ
ผลสารวจการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
เพื่อใช้ในองค์กร (In-house)
ข้อมูลในการสารวจการผลิตพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
เพื่อใช้ในองค์กร (In-house) ประจาปี 2558 ซึ่งไม่ได้คิดเป็นมูลค่าของ
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ หากแต่ได้คิดเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรในองค์กร
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ พบว่า มีการ
ประมาณการค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรด้านดังกล่าวในปี 2558 ด้วยมูลค่า
14,903 ล้านบาทโดยเป็นมูลค่าเพิ่มจากปี 2557 ประมาณ 10.9% ใน
ขณะเดียวกันนโยบายของบริษัทส่วนใหญ่จากกลุ่มตัวอย่างไม่มีแผนที่จะแยก
หน่วยงานด้านซอฟต์แวร์ออกมาจัดตั้งเป็นบริษัท (Spin-off)
ผลการสารวจซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ที่นาเข้ามาจากต่างประเทศ
การสารวจมูลค่าซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ที่นาเข้ามาจาก
ต่างประเทศทางคณะผู้วิจัยได้นาข้อมูลทุติยภูมิจากสานักวิจัยต่างประเทศมา
ประกอบ แล้วทาการสอบถามจากบริษัทผู้จัดจาหน่ายซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ใน
ประเทศไทย โดยได้มูลค่าทั้งหมด 32,944 ล้านบาทซึ่งเป็นมูลค่าซอฟต์แวร์
สาเร็จรูปประมาณ 19,688 ล้านบาท และมูลค่าบริการซอฟต์แวร์ 12,956
ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นซอฟต์แวร์ประเภท SaaS ประมาณ 1,152
ล้านบาท โดยผู้นาเข้ารายใหญ่ๆได้แก่บริษัท Microsoft, Oracle, IBM และ
SAP โดย Salesforce เป็นรายที่มีมูลค่าด้าน SaaS สูงสุด ทั้งนี้ข้อมูลการ
สารวจในปีนี้อาจมีมูลค่าที่ต่างจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากใช้แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ
ต่างกัน
23. 22ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผลการรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการใหม่ด้านเทคโนโลยี
(Tech-Startup)
สาหรับการรวบรวมข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์ในกลุ่มผู้ประกอบการใหม่
ด้านเทคโนโลยี (Tech-Startup) เป็นการดาเนินการในปีแรก โดยเล็งเห็นว่า
ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ มีการสร้างนวัตกรรม ด้านซอฟต์แวร์โดยมีแนวโน้มว่า
จะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเกิดผู้ประกอบการรายใหม่
ขึ้นมาก ดังนั้นในปี 2558 ถึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ทราบ
ทิศทางและแนวโน้มต่อไป
ผลการรวบรวมข้อมูลพบว่า Tech-Startup ในประเทศไทยมีจานวน
348 ราย และมีการระดมทุนที่เปิดเผยในปี 2558 ได้ประมาณ 1,188 ล้าน
บาท ทั้งนี้คณะผู้วิจัยได้นาข้อมูลจากแบบสอบถามในกลุ่ม Tech-Startup ไป
รวมกับข้อมูลการสารวจมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ โดยนา
ข้อมูลทุติยภูมิที่ได้จาก Techsauce2 และรายงานที่ทางบริษัท Google จัดทา
ร่วมกับบริษัท Temasek3 มาใช้ในการพิจารณา
ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวม คณะผู้วิจัยมีข้อสังเกตดังนี้ สถานการณ์
ของผู้ประกอบการใหม่ด้านเทคโนโลยีในปี 2558 ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการตั้ง
ต้นมีกระบวนการหลายด้านที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์
การระดมทุนจากกองทุนทั้งบริษัทคนไทยและต่างประเทศ ส่งผลให้ปี 2558
ส่วนใหญ่ยังมีผลประกอบการที่ต่า มีเพียงบางรายเท่านั้นที่เติบโตขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้
เป็นผู้ประกอบการที่ดาเนินธุรกิจมาระยะหนึ่งหรือมากกว่า 2 ปี
สาหรับแนวโน้มในปี 2559 จะเริ่มเห็นผลประกอบการจากบางบริษัท
โดยเฉพาะรายที่ใช้เงินจากกองทุนจะต้องเร่งขับเคลื่อนธุรกิจให้มีรายได้เกิดขึ้น
2
Tech Startup Report Thailand, Q2 2016, Techsauce
3
e-conomy SEA, Google & Tamesak, พฤษภาคม 2016
24. 23ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ผลการสารวจมูลค่าการส่งออกซอฟต์แวร์บริการซอฟต์แวร์
และซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว
ในปี 2558 ผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์ในประเทศไทยส่งออก
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,650 ล้านบาท โดยจาแนก
เป็นสัดส่วนการส่งออกบริการซอฟต์แวร์สูงที่สุดถึงร้อยละ 48.81 (มูลค่า
2,758 ล้านบาท) ของมูลค่าการส่งออกซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ทั้งหมด
รองลงมาคือ การส่งออกซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ
41.07 (มูลค่า 2,320 ล้านบาท) และลาดับสุดท้าย คือ การส่งออกซอฟต์แวร์
สาเร็จรูป ร้อยละ 10.12 (มูลค่า 572 ล้านบาท) ตามตารางที่ 1
ตารางที่ 1 มูลค่าการส่งออกซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ปี 2557-2558
(หน่วย : ล้านบาท)
ที่มา: คณะผู้วิจัย
หมายเหตุ: r
มูลค่าที่แก้ไขจากการปรับฐานประชากร
ทั้งนี้ สัดส่วนของซอฟต์แวร์สาเร็จรูปและบริการซอฟต์แวร์มีแนวโน้ม
ว่า จะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยซอฟต์แวร์สาเร็จรูปมีแนวโน้มที่จะเติบโต
สูงกว่าบริการซอฟต์แวร์ เป็นผลมาจากสองปัจจัยหลัก คือ 1) แนวโน้ม
เทคโนโลยี Social, Mobile, Analytics และ Cloud (SMAC) ทาให้โอกาส
ของผู้ประกอบการขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภค (Consumer) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่
ประเภท 2556 2557r 2558
สัดส่วน
(ร้อยละ)
อัตราการเติบโต
(ร้อยละ)
ซอฟต์แวร์สาเร็จรูป 352 520 572 10.12 10.00
บริการซอฟต์แวร์ 2,644 2,799 2,758 48.81 -1.50
ซอฟต์แวร์สมองกล
ฝังตัว
2,343 2,244
2,320
41.07 3.40
รวม 5,339 5,563 5,650 100.00 1.55
25. 24ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
สามารถขายได้ทั่วโลก 2) ผู้ประกอบการรายใหม่ด้านเทคโนโลยี (Tech-
Startup) ซึ่งเป็นผู้เล่นใหม่เข้าสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์มากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา
กาลังทาให้ตลาดซอฟต์แวร์เปลี่ยนคือ มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ออกมา
เป็นจานวนมาก โดยมุ่งเน้นเข้าสู่ผู้บริโภค (Consumer) โดยตรง
คณะผู้วิจัยมีข้อสังเกตว่า การส่งออกในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
ได้รวมบริษัทต่างประเทศหลายรายที่ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ในการ
ให้บริการซอฟต์แวร์ในลักษณะ Outsoucing ให้กับบริษัทแม่ในต่างประเทศ
เพื่อผลิตซอฟต์แวร์เพื่อจัดจาหน่ายตลาดทั่วโลก ได้แก่ บริษัท รอยเตอร์
ซอฟท์แวร์ (ประเทศไทย) จากัด, บริษัท อโกดา เซอร์วิสเซส จากัด,
บริษัทอะแวร์ คอร์ปอเรชั่น จากัด เป็นต้น จึงทาให้มูลค่าการส่งออกซอฟต์แวร์
สาเร็จรูปมีอัตราการเติบโตสูง
สาหรับการส่งออกในปี 2559 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เล็งเห็นว่าตลาด
มีแนวโน้มเติบโตจากปัจจัยผลพวงจากการแสดงผลิตภัณฑ์ในตลาด
ต่างประเทศ (Road Show) ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทาให้มียอดจาหน่ายออกสู่
ต่างประเทศมากขึ้นในปี 2559 โดยประเทศที่มีโอกาสในการขยายตลาด ได้แก่
ประเทศเพื่อนบ้าน ตะวันออกกลาง และแถบยุโรป สาหรับซอฟต์แวร์ที่มี
โอกาสส่งออกสูงขึ้นคือ ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับบริการต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์
ด้านโรงแรม, ท่องเที่ยว, ค้าปลีก เป็นต้น โดยมีจุดแข็งที่ซอฟต์แวร์ไทยจะมี
ฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากกว่าซอฟต์แวร์ที่ผลิตจากประเทศอื่นๆ
ผลการสารวจสถานภาพบุคลากรและการจ้างงาน
ประจาปี 2558
การสารวจสถานภาพบุคลากรและการจ้างงาน ในอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปและบริการซอฟต์แวร์ รวมทั้งซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว ใน
ปี 2558 คณะผู้วิจัยได้ทาการสารวจการจ้างงานบุคลากรในอุตสาหกรรม
ตลอดจนการจ้างงานบุคลากรภายนอก (Freelancer) และบุคลากรที่ทางาน
26. 25ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
เทียบเท่าเต็มเวลา (Full-time equivalent) ด้านซอฟต์แวร์สาเร็จรูปและ
บริการซอฟต์แวร์ พบว่า
ปี 2558 จานวนบุคลากรด้านซอฟต์แวร์สาเร็จรูปและบริการ
ซอฟต์แวร์ รวมทั้งสิ้น 55,873 คน โดยรวมทั้งอุตสาหกรรม ทั้งนี้มีจานวน
พนักงานเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.7 เมื่อเทียบกับผลสารวจในปี 2557 ตาม
ภาพประกอบที่ 6
ภาพที่ 6 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
ด้านสัดส่วนบุคลากรด้านซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ จาแนกตาม
ประเภทต่างๆ พบว่า Programmer / Software Developer / Tester มี
จานวนสุงที่สุด โดยมีร้อยละ 44.90 รองลงมาคือ อื่นๆ ซึ่งในแบบสอบถาม
ส่วนใหญ่ระบุถึงบุคลากรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น
iOS, Android เป็นต้น เป็นร้อยละ 17.8 และลาดับถัดไปคือ Business
Analyst/ Software Analyst and Designer/ Software Architect โดยมี
สัดส่วนร้อยละ 14.2 ดังภาพประกอบที่ 7
27. 26ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ภาพที่ 7 : สัดส่วนบุคลากรด้านซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ในบริษัท
ปี 2558 จาแนกตามประเภทต่างๆ [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
ผลการสารวจการผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ
การพัฒนาซอฟต์แวร์และสารสนเทศ (Educational sector)
จากการสารวจการผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา
ซอฟต์แวร์ คณะผู้วิจัยพบว่า เป็นที่น่าสังเกตเกี่ยวกับจานวนผู้จบการศึกษามี
เพียง 55-60% ของจานวนนักศึกษาที่รับเข้าการศึกษาเท่านั้น ทั้งนี้สอดคล้อง
กับข้อมูลของสานักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) แต่อย่างไรก็พบว่า ใน
สถาบันการศึกษามีการเปิดหลักสูตรใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแส
เทคโนโลยี โดยหลักสูตรที่จะเปิดเป็นการมุ่งเน้นไปทางการผลิตโมบาย
แอพพลิเคชั่น การประยุกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Embedded Systems, Internet
of Things รวมไปถึงการเปิดหลักสูตรนานาชาติ ขณะที่ในบางสถาบันปัจจุบัน
มีการเรียนการสอนด้าน Cloud Technology,Big Data,Data Science,R
Programming และ Scala ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีกับการเสริมสร้างทักษะ
สมัยใหม่ให้กับบัณฑิต
28. 27ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
ในส่วนของการสารวจการผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการ
พัฒนาซอฟต์แวร์นี้ ทีมวิจัยใช้ฐานข้อมูลหลักจากสานักงานคณะกรรมการ
อุดมศึกษา (สกอ.) พบว่าปัจจุบันมีหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่เปิดการเรียน
การสอนภายใต้การกากับของสกอ. อยู่ถึง 212 หลักสูตร เฉพาะที่เป็นระดับ
ปริญญาตรีในสาขา วิศวกรรมศาสตรบัณฑิตหรือวิทยาศาสตรบัณฑิตที่
เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและอาจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตซอฟต์แวร์
สาขาวิชาที่เปิดอยู่ได้แก่ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์
วิทยาการสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ และวิศวกรรมสารสนเทศ จานวนประชากรที่ส่งแบบ
สารวจออกไปคือ 212 หลักสูตร จาก 91 สถาบันการศึกษา ภาพประกอบ 8
แสดงจานวนสถาบันตามประเภทของสถาบันการศึกษา สัดส่วนประเภทของ
สถาบันการศึกษาตามปริมาณหลักสูตร ซึ่งจะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏมี
สัดส่วนสูงสุดในจานวนหลักสูตรที่ผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้องกับพัฒนา
ซอฟต์แวร์และสารสนเทศ
ภาพที่ 8 [ที่มา : คณะผู้วิจัย]
32. 31ข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ประจาปี 2558
รายชื่อคณะที่ปรึกษา
นายบุญรักษ์ สรัคคานนท์ นายกสมาคม ASOCIO
นายสมพร มณีรัตนะกูล นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
นางสาวชัชฎา อภิชาสุทธากุล นายกสมาคม TSEP
นายกิตติรักษ์ ม่วงมิ่งสุข นายกสมาคมศึกษาและพัฒนาโอเพ่นซอร์ส
นายไผท ผดุงถิ่น อดีตนายกสมาคม Thailand Tech Startup
นายประวิตร ฉัตตะละดา ผู้อานวยการสมาคม ATCI
นายปราโมทย์ พงษ์ทอง ที่ปรึกษาสมาคม ATCI
นายดิลก คุณะดิลก กรรมการสมาคม ATCI
นายศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ เลขาธิการสมาคม ATCI
นายปฐม อินทโรดม ที่ปรึกษาสมาคม TFIT
ดร.พีรสัณห์ บุณยคุปต์ อดีตนายกสมาคมส่งเสริมการส่งออก
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
นางสาวเทียนสว่าง ธรรมวณิช นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา
ประเทศไทย
นางสุวิมล เทวะศิลชัยกุล รองผู้อานวยการ สานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
นางสาวปิยะฉัตร สาเร็จกาญจนกิจ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูลและนวัตกรรม
สานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
รายชื่อคณะผู้วิจัย
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ หัวหน้าโครงการและนักวิจัย
นางอารยา ฟลอเรนซ์ นักวิจัย
ผศ.ดร.ธนิศา นุ่มนนท์ นักวิจัย
นายโกเมษ จันทวิมล นักวิจัย
นางสาวกิ่งกาญจน์ ตรียงค์ นักวิจัย
นางสาวนัยนา แย้มอรุณ นักวิจัย
นายเด่นเดช สวรรคทัต นักวิจัย / หัวหน้าผู้ช่วยวิจัย
นางสาวชลาลัย ใจหาญ ผู้ช่วยวิจัย / ผู้ประสานงาน
นางสาวธิดารัตน์ ชินะชัชวารัตน์ ผู้ช่วยวิจัย
นายวิวัฒน์ คงสวัสดิ์ไพศาล ผู้ช่วยวิจัย