Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Similar a งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร (20)
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
- 3. ที่มาของเรื่อง
มาจากร่ายยาวมหาเวสสันดร
ชาดก ซงึ่เป็นชาดกเรื่องที่ยงิ่ใหญ่
ที่สุด โดยกล่าวถึงเรอื่งราวของพระ
โพธิสัตว์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นพระ
เวสสันดร เดิมแต่งเป็นภาษาบาลี ต่อ
มามีการแปลเป็นภาษาไทย ในสมัย
กรุงสุโขไทย
- 6. ๒. โครงเรื่อง/เรื่องย่อ
๒.๑ เรื่องย่อ
รุ่งเช้าพระนางมัทรี เข้าป่าหาผล
ไม้ "เกิดเหตุแปลกประหลาด
มหัศจรรย์ ผลไม้เผือกมันช่างหายาก
ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงมัน ลูกจันทน์
ลิ้นจี่ น้อยหน่า สาลี่ ละมุด พุทรา ไม่มี
ให้เก็บเหมือนดังกับวันก่อน นางรีบ
ย้อนกลับเคหา ก็เกิดพายุใหญ่ จนมืด
ครึ้มไปทั่วทั้งป่า ท้องฟ้าสีแดงปาน
เลือดละเลง ทั้งแปดทิศปรากฎมืดมน
- 7. พระนางมัทรีรีบยกหาบใส่บ่ารีบเดิน
ทาง พอถึงช่องแคบระหว่างเขาคีรี เป็น
ตรอกน้อยรอยวิถีทางที่เฉพาะจะต้องเสด็จ
ผ่าน ก็พบกับสองเสือสามสัตว์มานอนสกัด
หน้า เทวดาสามองค์แปลงร่างเป็นราชสีห์
เสือเหลือง เสือโคร่งสกัดทางนางไว้เพื่อมิ
ให้พระนางมัทรีติดตามกัณหา ชาลีได้ทัน
แต่ถึงกระนั้น เมอื่ยามทุกข์เข้าบีบคนั้
ความรักลูก ความห่วงพระภัสดา พระนาง
จึงก้มกราบวิงวอน ขอหนทางต่อพญาสัตว์
ทั้งสาม เมอื่ได้หนทางแล้ว พระนางก็รีบ
เสด็จกลับอาศรมมอื่มาถึงอาศรม ไม่พบ
กัณหา ชาลี พระนางก็ร้องเรียกหาครั้น
เข้าไปถามพระเวสสันดรก็ถูกตัดพ้อต่อว่า
ต่าง ๆ จนพระนางมัทรีถึงวิสัญญีภาพสลบ
- 8. ๒.๒ แก่นเรื่อง
กล่าวถึงพระนางมัทรีเข้าป่าหาผล
ไม้ แล้วเจอเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่าง
ๆ จึงเดินทางกลับอาศรม ก็เกิดพายุ
ใหญ่ มืดครึ้มไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมี
สิงห์สาราสัตว์ร้าย มาขวางทางไว้
เมื่อมาถึงอาศรมได้ทราบความ ทำาให้
พระองค์เสียพระทัยมาก จนสลบไป
หลังจากฟื้นคืนสติกลับมา พระนางก็
อนุโมทนากับพระเวสสันดรด้วย
- 10. ๒.๓ ตัวละคร
๑.พระเวสสันดร
เป็นตัวละครที่มีบทบาทสำาคัญอยู่
ในวรรณคดีเรื่องร่ายยาวมหา
เวสสันดรชาดก มีชื่อเรียกต่างๆกัน
เช่น หน่อพระชินศรีโมลีโลก สมเด็จ
พระบรมนราพิสุทธิ์พุทธางกูร เป็นต้น
เป็นพระโอรสของพระเจ้ากรุงสญชัย
และพระนางผุสดีแห่งเมืองสีพี มี
อุปนิสัยและพฤติกรรมที่สำาคัญคือ
การบริจาคทาน
- 11. ๒.พระนางมัทรี
พระนางมัทรี
เป็นตัวละคร ประกอบอยู่
ในวรรณคดีเรื่องร่าย
ยาวมหาเวสสันดรชาดกมีชื่อ
เรียกต่างๆ กัน เช่น พระ
สุณิสา ศรีสะใภ้ นาง
แก้วกัลยาณี เป็น ต้น
และเป็นพระมารดาของ กัน
หา ชาลี มีอุปนิสัยที่สำาคัญคือ
รัก ลูกรักสามี คอย
- 12. ๓.พระชาลี
พระชาลี เป็นตัวละครประกอบอยู่
ในวรรณคดีเรื่องร่ายยาวมหา
เวสสันดรชาดกมีชอื่เรียกต่างๆ เช่น
พ่อสายใจ พ่อหน่อน้อยภาคีไนยนาถ
เป็นต้น เป็นพระเชษฐาของพระกัณห
า เมื่อเวลาประสูติพระประยูรญาติได้
ทรงนำาตาข่ายทองมารองรับ จึงได้รับ
พระราชทานนามว่า ชาลี แปลว่าผมูี้
ตาข่าย
- 13. ๔.พระกัณหา
พระกัณหา หรือ กัณหาชินา เป็น
ตัวละครประกอบอยู่ในวรรณคดีเรื่อง
ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกเป็นพระ
ธิดาของพระเวสสันดรและพระนา
งมัทรี เป็นพระนัดดาของพระเจ้ากรุง
สญชัยและพระนางผุสดี และเป็นพระ
กนิษฐาของพระชาลี พระกัณหาเป็น
ผู้หนึ่งที่ทำาให้พระเวสสันดรได้บา
เพ็ญบุตรทานบารมีซึ่งเป็นทานอันยิ่ง
ใหญ่ที่มนุษย์ทั้งหลายไม่สามารถทา
ได้นอกจากมหาบุรุษผู้ทรงหวังพระ
- 14. ๕.ชูชก
ชูชก เป็นตัวละคร
ประกอบอยู่ใน
วรรณคดีเรื่องร่ายยาว
มหาเวสสันดรชาดกเป็นผู้เกิดในตระกูล
พราหมณ์โภวาทิกชาติซึ่งเป็น
พราหมณ์ พวกที่ถือตน
ว่ามีกำาเนิดสูงกว่าผู้อื่นมัก
ใช้คำาว่า “โภ”แปลว่า “ผู้เจริญ” เป็นคำา
ร้องเรียก
แม้ชูชกจะเกิดใน
ตระกูล พราหมณ์ที่ถือ
ตนว่ามีกำาเนิดสูงกว่า ผู้
อื่นแต่ชูชกก็ยากจนเข็ญใจยิ่ง ต้อง
เที่ยวขอทานเขาเลี้ยงชีพ มีรูปร่าง
หน้าตาน่าเกลียด
- 15. ลักษณะนิสัยของชูชกคือ มีความ
ตระหนี่เหนียวแน่น ขอทานได้มาก
เท่าไรก็เก็บไว้ไม่ยอมนำาไปใช้จ่าย มี
ความโลภ รักและหลงเมีย ยอมให้
นางทุกอย่าง เป็นคนฉลาดแกมโกง มี
เล่ห์เหลี่ยมมาก ฉลาดทงั้ในด้านการ
พูดและกลอุบาย มีความละเอียด
รอบคอบในการใช้กลอุบายและมี
ความยึดมั่นในพิธีทางไสยศาสตร์
- 19. ๑.คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์
๑.๑ ใช้ถ้อยคำาไพเราะ มีการ
เล่นคำา เล่นสัมผัสอักษร มีการใช้
โวหารภาพพจน์ และการพรรณนาให้
เกิดความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน รวมทั้ง
เกิดจินตภาพชัดเจน
๑.๒ เนื้อหาของกัณฑ์มัทรีแสดงให้
เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
ธรรมชาติกับอารมณ์ความรู้สึกของ
ตัวละครได้อย่างชัดเจน จะเห็นได้
จากตอนที่เกิดเรื่องร้ายแก่พระนา
- 20. การใช้ภาษา
- การเลือกเสียงของคำา มีการเลียน
เสียงธรรมชาติ
- มีการใช้ลีลาจังหวะ เสียงหนักเบา
เช่น ในบทโกรธ
- มีการเลือกความหมายของคำาให้
เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและลักษณะ
ของร้อยกรอง
- มีการเล่นคำา เช่น การซำ้าคำา การเล่น
อักษร การเล่นเสียง
- 21. โวหารภาพพจน์
อุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่ง
เหมือนอีกสงิ่หนึ่ง เช่น
“…ท้าวเธอก็ขังขึงตึงพระองค์ ดู
เหมือนทรงพระขัดเคืองเต็มเดือด
ด้วยอันใด นางก็เศร้าสร้อยสลด
พระทัย ดั่งเอาเหล็กแดงมาแทงใจให้
เจ็บจิต นี่เหลือทน
อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำา
ยังแพทย์เอายาพิษมาวางซำ้าให้
เวทนา เห็นชีวานี้คงจะไม่รอดไปสักกี่
- 22. อติพจน์ คือ การกล่าวเกินจริง เช่น
“…ฝ่ายฝูงเทพยทุกสถานพิมานไม้
ไศลเกริ่นเนินแนวพนาวาส ได้สดับ
คำาประกาศสองกุมาร ทรงสงั่สาส์นจน
สุดเสียง ดังทิพยาพิมานจะเอนเอียง
อ่อนลงช้อยชด…”
สัทพจน์ คือ การใช้คำาเลียนเสียง
ธรรมชาติ เช่น
“แต่ย่างเหยียบเกรียบกรอบก็เหลียว
หลัง”
- 23. รสวรรณคดี
เสาวรจนี (การชมความงาม) เช่น
ใครได้เห็นเป็นขวัญตาเต็มหลงละลายทุกข์
ปลุกเปลื้องอารมณ์ชายให้เชยชื่น จะต้องนั่ง
นอนเดินยืนก็ต้องอย่าง พร้อมด้วยเบญจางค
จริตรูปจำาเริญโฉมประโลมโลกล่อแหลมวิไล
ลักษณ์
พิโรธวาทัง/รุทรรส (รสแห่งความโกรธ)
เช่น
ทำาเป็นบีบนำ้าตาตีอกว่าลูกหาย ใครจะไม่รู้
แยบคายความคิดหญิงถ้าแม้นเจ้าอาลัยอยู่ด้วย
ลูกจริงๆเหมือนวาจา ก็จะรีบกลับเข้ามาแต่วี่วัน
- 24. สัลลาปังคพิสัย (รสแห่งความโศกเศร้า) เช่น
นางเสวยพระอาดูรพูนเทวษในพระอุรา นำ้า
พระอัสสชุลนาเธอไหลนองคลองพระเนตร ทรง
พระกันแสงแสนเทวษพิไรรำ่า ตั้งแต่ประถามยาม
คำ่าไม่หย่อนหยุดแต่สักโมงยาม
หาสยรส (รสแห่งความขบขัน) เช่น
อนิจจามัทรีเอ่ย มาตายอเนจอนาถไร้ญาติที่
กลางดง ครั้นท้าวเธอคลายลงที่โศกศัลย์ จึ่งผัน
พระพักตร์มาพิจารณก็รู้ยังไม่อาสัญ
- 25. กรุณารส (รสแห่งความเมตตากรุณาที่เกิด
ภายหลังความโศกเศร้า) เช่น
เมื่อท้าวเธอมิได้เห็นพระเจ้าลูกก็จะทูลถาม
ครั้นแจ้งว่าพราหมณ์มันพาไป นางก็จะอาลัย
โลดแล่นไปตามติดไม่คิดตาย คิดไปแล้วใจหาย
เห็นน่านนำ้าตาตก โอ้อกมัทรีเอ่ย จะเสวยพระ
ทุกข์แทบชีวิตจะปลิดปลงด้วยพระลูกรักทั้ง
สองพระองค์นี้แล้วแล
ศานติรส (รสแห่งความสงบ) เช่น
พระนางจึ่งตรัสว่า พระพุทธเจ้าข้าอันสอง
กุมารนี้ เกล้ากระหมอ่นฉานได้อุตสาหะถนอม
ย่อมพยาบาลบำารุงมา ขออนุโมทนาด้วยปิยบุตร
ทานบารมี ขอให้นำ้าพระหฤทัยพระองค์จง
- 26. ๒.คุณค่าทางด้านสังคมและ
ความเชื่อ
ด้านสังคม
๓.๑ ให้แง่คิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่
ของผู้หญิงในฐานะที่เป็นแม่และเป็น
ภรรยาที่ดี ซงึ่เป็นสงิ่สำาคัญเหนือสงิ่อื่นใด
๓.๒ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
สะท้อนแนวคิดสำาคัญเกี่ยวกับความรัก
ของแม่ที่มีต่อลูกอย่างสุดชีวิต
๓.๓ ข้อคิด คติธรรม ที่สามารถนำาไป
ใช้ในชีวิตประจำาวันของทุกคนได้ เกี่ยว
กับการเป็นคสู่ามีภรรยาที่ดี การเสียสละ
เป็นคุณธรรมที่น่ายกย่อง และการบริจาค
ทาน เป็นการกระทำาที่สมควรได้รับการ
- 27. ด้านความเชื่อ
ความเชื่อเรื่องความฝัน : เห็นได้
จากตอนที่พระนางมัทรีตามหาสอง
กุมารไม่พบ พระนางเสียใจมากเกรง
ว่าลูกจะเป็นอันตรายเหมือนในความ
ฝัน ดังคำาประพันธ์ว่า
“…จึงตรัสว่าเจ้าดวงมณฑาทองทั้ง
คู่ของแม่เอ๋ย หรือว่าเจ้าทิ้งขว้างวาง
จิตไปเกิดอนื่ เหมือนแม่ฝันเมื่อคืนนี้
แล้วแล…”
- 28. ความเชื่อเรื่องเทวดา : ปรากฏอยู่
หลายตอน แต่ที่ชัดเจนสุดคือ ตอนที่
เทพอันดับทั้ง ๓ องค์ นิมิตกายเป็น
ราชสีห์และเสือไปนอนขวางทางเพื่อ
ให้พระนางมัทรีเสด็จกลับอาศรมไม่
ได้ก่อนพระอาทิตย์ตก ดังคำาประพันธ์
ว่า
- 29. “…ส่วนเทพยเจ้าจอมสากลจึงมีเทว
ยุบลบังคับ แก่เทพยอันดับทั้งสามองค์ อัน
ทรงมหิทธิฤทธิศักดาว่า ท่านจงพากัน
นฤมิตบิดเบือนกายกลายอินทรีย์ เป็น
พระยาราชสีห์สองเสือสามสัตว์สกัดหน้า
นางพระยามัทรีไว้ต่อทิพากรคลาไคล
คล้อยเย็น เห็นดวงพระจันทร์ขึ้นมาอยู่
รางๆ ท่านจึงลุกหลีกหนทางให้แก่นางงาม
ส่วนเทพยเจ้าทั้งสามก็อำาลาลีลาศผาด
แผลงจำาแลงเป็นพญาไกรสรราชผาดแผด
เสียงสนั่น ดังสายอัสนีลั่นตลอดป่า องค์
หนงึ่เป็นพยัคฆ์พระยาเสือโคร่งคำารนร้อง
อีกองค์หนึ่งเป็นเสือเหลืองเนื่องคะนอง
ย่องหยัดสะบัดบาท ต่างองค์กระทำา
- 30. สังเคราะห์ข้อคิด
a. ทุกคนต้องประสบกับการสูญเสียสิ่งอัน
เป็นที่รัก จึงต้องเตรียมใจและยอมรับ
b. ความรักของแม่นนั้ยิ่งใหญ่ ยอมลำาบาก
ได้ทุกอย่างเพื่อลูก ลูกจึงต้องทดแทน
พระคุณแม่และรักแม่ให้มากเช่นเดียวกัน
c. สามีภรรยาที่ดีควรร่วมทุกข์ร่วมสุขและ
ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดังเช่นพระนางมัท
รีที่ตามเสด็จมาดูแลปรนนิบัติพระ
เวสสันดรโดยไม่คำานึงถึงความยาก
ลำาบาก และส่งเสริมพระเวสสันดรในการ
ทำาปิยบุตรทาน
เราควรเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ