More Related Content
Similar to 7 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (ณัฐวัตน์) (20)
7 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (ณัฐวัตน์)
- 2. ปั ญหาทีพบ
1. ผลผลิตราคาตกตํา (นางสาว ดุษฎี พงษ์เพ็ง)
2. ผลผลิตล้นตลาด (นาย สุรศักดิ ชาลีปะทัง)
3. ต้นทุนการผลิตสูง (นางสาว จุตภากรณ์ ภาคาศรี)
ิ
4. หนีสินธนาคาร (นาย ณัฐวัฒน์ กันชาติ)
5. โรคและแมลง (นาย นพดล เข็มทอง)
6. คู่แข่งขันมากราย (นางสาว คุณากร ทานะกุล)
7. พ่อค้าคนกลาง (นางสาว สุธิตา โชติกวนิช)
- 5. สาเหตุของปั ญหาและการแก้ปัญหา
ผลผลิตราคาตกตํา ผลผลิตล้นตลาด
สาเหตุ
ราคามังคุ ดจะถูกกําหนดโดยความต้องการซื อสินค้า หรื ออุ ป
สงค์ (demand) และปริมาณมังคุดทีเกษตรกรต้องการนํามาขายหรือ
อุปทาน (supply) เมือใดทีความต้องการซือมังคุดมีมากกว่ามังคุดที
นํ ามาขาย คือมีอุปสงค์มากกว่าอุปทาน มังคุ ดจะมีราคาสูง แต่ถา ้
ความต้องการซือมังคุ ดมีน้อยกว่ามังคุ ดที มีขายอยู่ในตลาด หรืออุป
สงค์น้อยกว่าอุปทาน เกษตรกรจึงไม่ตังราคาสูง เพราะอาจจะทําให้
ขายมังคุดนันไม่ได้ สิมงคุดก็จะมีราคาตํา
ั
- 6. วิธีแก้ปัญหา
1. ต้องควบคุมปริมาณการผลิตไม่ให้มีมากเกินกว่าความต้องการ
บริโภค (ควบคุมด้านอุปทานของสินค้า) มังคุดทุกดอกจะเจริญเป็ นผลได้
โดยไม่ตองผสมเกสร ถ้าปล่อยให้ออดอกมากเกินไปผลทีได้มขนาดเล็กราคา
้ ี
ไม่ดี และยังมีผลต่อความสมบูรณ์ของต้นในปี ถัดไป นอกจากจะจัดการนํา
ตามทีกล่าวแล้ว ในกรณีทีพบว่ามังคุดออกดอกมากเกินไปแล้วให้หว่านปุย
๋
ทางดินสูตร 16-16-16 หรือ 15-15-15 ปริมาณ 2 เท่าของปกติควบคู่
กับการให้นําจะทําให้ผลทีมีอายุ 2 – 3 สัปดาห์รวงได้บางส่วน
่
- 9. แผนปฏิบตในการผลิตมังคุดนอกฤดูกาล มีรายละเอียดดังนี
ั ิ
1. เดือนธันวาคม-เดือนมกราคม
2. เดือนกุมภาพันธ์
3. เดือนมีนาคม
4. เดือนเมษายน
5. เดือนมิถุนายน
6. เดือนกรกฎาคม
7. ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
8. ประมาณต้นเดือนกันยายน
9. เดือนกันยายน
10. พอเข้าเดือนธันวาคม มกราคม
- 10. 4. การจัดการคุณภาพมังคุด ใช้แนวทางการผลิตมังคุด
ตามระบบการจัดการคุณภาพ โดยดําเนิ นการทดสอบทีตําบลกรํา และตําบล
ชากพง อําเภอแกลง จังหวัดระยอง เริมจากการเตรียมพร้อมของต้นมีการชัก
นําการออกดอกในช่วงทีเหมาะสม และส่งเสริมพัฒนาการของผลและเพิม
ปริมาณคุณภาพผลผลิต ทําให้ได้ผลผลิตมังคุดเฉลีย 640.1 กิโลกรัมต่อไร่
มาก กว่าวิธีเกษตรกรร้อยละ 13.4 มีผลผลิตเข้าเกณฑ์คุณภาพตาม
มาตรฐาน คือมีนําหนักผลไม่ตากว่า 70 กรัม ผิวมันปราศจากตําหนิ เด่นชัด
ํ
ไม่มีอาการเนื อแก้วหรือยางไหลภายในผล ผลผลิตปลอดภัยร้อยละ 73.4
มากกว่าวิธีเกษตรกรร้อยละ 12.2 ทําให้ได้ผลตอบแทน เฉลีย 7,924.6
บาทต่อไร่ ซึงมากกว่าวิธีเกษตรกรร้อยละ 35.3
- 12. ต้นทุนการผลิตสูง
สาเหตุ
แนวทางการเพิมผลผลิตทางการเกษตรในระยะทีผ่านมามุ่ง เน้น
เรืองการเพิมปั จจัยการผลิตเป็ นหลัก โดยมิได้คานึ งถึงต้นทุนการผลิตและ
ํ
การเพิมประสิทธิภาพการผลิต ทําให้เกษตรกรมีความจํากัดในเรืองเงินไม่
พร้อ มที จะรับ เทคโนโลยี ก ารผลิ ต ได้ ดัง นั นประสิ ท ธิ ภ าพการผลิ ต ของ
เกษตรกรโดยรวมจึงอยู่ในระดับตํา ทังนี สืบเนื องมาจากเกษตรกรผูผลิต ้
ส่วนใหญ่เป็ นเกษตรกรรายย่อย กระจัดกระจายอยูโดยทัวไป ผลผลิตต่อไร่
่
ก็ยงอยูในระดับตํา และปั จจัยการผลิตมีราคาสูง
ั ่
- 13. วิธีแก้ปัญหา
การลดต้นทุน (Cost Reduction) คือ การทําให้ตนทุนทุกชนิ ดที
้
เกิ ด ขึ น ในทุ ก ขันตอนของกระบวนการทํ า งานลดตํ าลง โดยการ
ปรับปรุ งแก้ไ ขกิ จ กรรมที เคยทํา มาก่ อนหน้า ซึ งมี การตังเปาหมาย
้
วิธีการวัดและการเปรียบเทียบทีชัดเจน
การลดต้นทุนในการใช้ปุย เปลียนจากปุยเคมีทีมีราคาแพงมา
๋ ๋
ใช้ปุยชีวภาพทีหาได้ง่ายในชุมชน
๋
- 14. ตัวอย่างการทําปุยนําชีวภาพจากรําข้าวและมูลไก่ไข่
๋
1. รําละเอียด 50 กิโลกรัม ราคา 320 บาท
2. มูลไก่ไข่ 50 กิโลกรัม ราคา 190 บาท
3. เชือ พด.-1 1 ซอง ขอรับจากกรมพัฒนาทีดิน
เชือ พด.-1 คือ กลุ่มจุลินทรียทีมีความสามารถสูงในการย่อยสลาย
์
วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เพือใช้ผลิตปุยหมักในช่วงระยะเวลาอันสัน ประ
๋
กอกด้วย เชือแบคทีเรีย แอคติโน มัยซีส และเชือรา
- 16. 4. ทดสอบความชืนในกอง โดยใช้มือกําวัสดุ แล้วคลายมือออก ก้อนวัสดุก็ยงไม่ั
แตก จากนันใช้กระสอบป่ านคลุมกองไว้
5. ให้กลับกองปุยทุกวัน เป็ นเวลา 7 วัน โดยทุกครังทีกลับกองแล้ว ให้คลุมกอง
๋
ปุยด้วยกระสอบป่ านไว้ เมือครบ 7 วันแล้ว ให้แผ่กองปุยออก ผึงในร่มจนแห้ง
๋ ๋
6. หลังจากผึงในร่มจนแห้งแล้ว ควรเก็บใส่ถุงกระดาษหรือกระสอบทีมีการ
ระบายอากาศได้
- 17. หนีสินธนาคาร
สาเหตุ
สาเหตุส่วนใหญ่เป็ นเพราะมีตนทุนและค่าใช้จายในการผลิตสูง
้ ่
รองลงมาจากทางผลผลิตได้รบความเสียหายจากธรรมชาติ ผลผลิตตํา การ
ั
ผลิตเชิงเดียว การขาดช่องทางการจัดจําหน่ าย จากราคาผลผลิตตกตํา ด้าน
การจัดการ ส่วนใหญ่เกิดจากการรวบรวมเงินไว้เพือจะชําระครังเดียว การ
ไม่ได้ใช้เงินกูตามวัตถุประสงค์ทีขอกู ้ การขาดความรูและประสบการณ์ในการ
้ ้
ลงทุน การขาดแรงงานในครัวเรือน สาเหตุในครัวเรือน ส่วนใหญ่ เห็นว่าเกิด
จากทางด้านค่าใช้จายในครัวเรือนสูง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษา
่
บุตร การลงทุนในสินทรัพย์อืน เช่น ซือมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ ซือทีดิน ซ่อม
ปรับปรุงบ้านหรือโรงเรือน การนําเงินไปชําระหนี สินภายนอกก่อน และการ
ใช้จายเบ็ดเตล็ด
่
- 18. วิธีแก้ปัญหา
1. การทําบัญชีหนีสินและรายรับ-รายจ่าย
การจดบันทึกการปฏิบติงานทุก ๆ ขันตอนทีได้ปฏิบติในการปลูกพืช จนถึงการ
ั ั
เก็บเกียวและการจําหน่ ายผลผลิต
1.1 จดบันทึกค่าใช้จายแต่ละครังในการปลูกใน 1 ฤดูกาล เช่น
่
1) ค่าพันธุพืช
์
2) ราคาปุย๋
3) ยาปองกันกําจัดศัตรูพืช
้
4) เครืองมือและอุปกรณ์ทีใช้ในการปลูกพืช
5) ค่าแรงงาน
แล้วจดบันทึกค่าใช้จายรวมยอดไว้
่
- 19. 1.2 จดบันทึกผลผลิตทีได้ในการปลูกใน 1 ฤดูกาล เช่น
1) ผลผลิตจํานวนกีกิโลกรัมต่อเนื อที 1 แปลง
2) ในการนําไปจําหน่ ายได้กิโลกรัมละเท่าไร
3) ขายให้กบโรงงานอุตสาหกรรมและขายให้กบตลาดบริโภคสดในอัตราร้อย
ั ั
ละเท่าไร
1.3 นําเงินทุนและรายได้นําไปคํานวณหาผลกําไร
การจดบันทึกการปฏิบติงานและการทําบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็ นการช่วย
ั
ความทรงจํา และถ้ามีการจดบันทึกกิจการต่าง ๆ อย่างมีระบบ การลงบัญชีที
ดี มีความเข้าใจในการจดบันทึก และการสรุปข้อมูลให้เหมาะสมแล้ว สามารถ
นําข้อมูลทีได้รบมาใช้
ั
- 20. ตารางบัญชีรายรับรายจ่าย
ปี การผลิต รายจ่าย รายรับ รายได้
2553 ค่าปุยเคมี 4,300 บาท/ ไร่
๋ ผลผลิต 1100 กก./ไร่ 27,500 บาท หลังหักต้นทุน 320,000 บาท
ค่าสารเคมี ผลผลผลิตรวมทังหมด (20 ไร่)
- การกําจัดวัชพืช 400 บาท/ ไร่ 2,200 กิโลกรัม 550,000 บาท
- การกําจัดแมลงและศัตรูพืช
1,200 บาท/ไร่
ค่านํามันเชือเพลิง
- การกําจัดแมลงศัตรูพืช 500
บาท/ไร่
ค่าไฟฟ้ า 1,000 บาท/ไร่
ค่าแรงงาน
-ค่าดูแลรักษา 1,500 บาท/ไร่
-ค่าเก็บเกียว 2,400 บาท/ ไร่
ค่าซ่อมแซม
อุปกรณ์การเกษตร 200 บาท/ ไร่
ต้นทุนรวม 11,500 บาท/ไร่
ต้นทุนรวม 20 ไร่ 230,000 บาท
- 21. การเจรจาประนอมหนี และปรับโครงสร้างหนี
ลูกหนีทีมีความตังใจในการชําระหนี แต่เนื องจากมีหนี สิน
มากไม่สามารถจ่ายชําระหนี สินตามข้อตกลงเดิมได้ แต่ความสามารถ
ในการจ่ายชําระหนี ยงมีอยู่ ไม่มีความคิดทีจะหนี หนี (ชักดาบ) ก็น่าจะ
ั
ลองเข้าไปพบเจ้าหนี แล้วลองขอเจรจาประนอมหนี กบเจ้าหนี อาจจะ
ั
เริมโดยการโทรศัพท์ไปสอบถามฝ่ ายเจ้าหนี ก่อน ว่าทางฝ่ ายเจ้าหนี มี
นโยบายในการเจรจาประนอมหนี กบลูกหนี ทีมีภาระหนี สินมากแต่ยง
ั ั
มีความตังใจทีจะจ่ายชําระหนี ต่อไปหรือไม่ ส่วนมากเจ้าหนี มกจะั
ยอมให้มีการเจรจาประนอมหนี กบลูกหนี เพราะยังไงเสียก็ดีกว่าปล่อย
ั
ให้กลายเป็ นหนี เสีย
- 22. การเจรจาประนอมหนี
เจ้าหนี จะหยุดหนี เดิมไว้แล้วจะทําสัญญาประนอมหนี
ฉบับใหม่ขึนมาตามข้อสรุปทีได้จากการเจรจาประนอมหนี กบ ั
ลูกหนี ทางฝ่ ายเจ้าหนี มกจะยกยอดหนี สินเดิมรวมดอกเบีย
ั
ค้างชําระ ค่าธรรมเนี ยมและดอกเบียทีคิดเพิมอีกเล็กน้อย
ส่วนทางด้านลูกหนี ก็จะพยายามเจรจาต่อรองโดยขอให้เจ้าหนี
หยุดคิดดอกเบีย ลดดอกเบียเก่าบางส่วน ยกเว้นค่าปรับและ
ค่าธรรมเนี ยมต่าง ๆ เท่าทีจะขอได้ ส่วนข้อสรุปในการเจรจา
ประนอมหนี จริง ๆ จะออกมาในรูปใดก็แล้วแต่ความสามารถ
ในการเจรจาต่อรองของทังสองฝ่ าย
- 23. ผลทีได้จากการเจรจาประนอมหนี มักจะออกมาในลักษณะทีลูกหนี
ต้องผ่อนชําระเป็ นเวลาทีนานขึนแต่ยอดเงินทีต้องผ่อนชําระต่อเดือนจะลดลง
นันคือภาระหนี สินต่อเดือนจะลดลงแต่กว่าจะผ่อนหมดต้องใช้ระยะเวลาที
นานขึน ลูกหนี ตองลองคิดให้ละเอียดรอบคอบถึงข้อสรุปจากการเจรจา
้
ประนอมหนี วาเป็ นประโยชน์ต่อตัวลูกหนี มากน้อยแค่ไหนและจะสามารถยืน
่
ระยะในการจ่ายชําระหนี จนหมดได้หรือไม่ ถ้าจะเลือกทางเลือกในการเจรจา
ประนอมหนี หลังจากทีลูกหนี ผ่อนชําระเจ้าหนี แล้วเงินทีเหลือในแต่ละเดือน
จะเพียงพอกับค่ากินค่าอยูและค่าใช้จายต่าง ๆ ภายในครอบครัวทีต้อง
่ ่
รับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่พอแล้วต้องไปก่อหนี สินใหม่เพิมอีกก็ไม่มีประโยชน์ที
จะทําการเจรจาประนอมหนี เพราะปั ญหาหนี สินไม่ได้รบการแก้ไขให้จบแต่
ั
กลับจะยิงหนักขึนอีก
- 28. คู่แข่งขันมากราย
วิธีแก้ปัญหา
จัดการท่องเทียวเชิงเกษตร พืชพรรณผลผลิตจากฟาร์มจากสวน
เกษตรทังหลายนัน นับเป็ นความสําเร็จของเกษตรกรทีเฝ้ าบํารุงรักษาจนเก็บ
ผลจําหน่ ายได้ แต่เป็ นความน่ าสนใจอยากรูอยากเห็นของนักท่องเทียวต่าง
้
บ้านต่างเมืองว่า เกษตรกรทังหลายทําได้อย่างไร มีกลวิธีเทคนิ คอะไรบ้าง
อยากเข้าไปเทียวชมกันถึงสวน ถึงฟาร์ม ถึงแหล่ง เพือเกิดความรูใหม่เพิมขึน
้
ได้รบประสบการณ์ใหม่ ๆ จากทีไม่เคยรูมาก่อน
ั ้
- 29. แนวทางบริหารจัดการของเจ้าของสวน
1. เตรียมสถานทีเทียวชมควรเป็ นเส้นทางวงรอบ
2. หากมีมุมสาธิตได้ ควรจัดเจ้าหน้าทีเตรียมการสาธิตให้ชม
3. มัคคุเทศก์นําชมสวน สามารถอธิบายได้ดีเท่ากับหรือมากกว่า
เจ้าของสวน
- 30. 4. จัดมุมสถานทีพักผ่อน จัดมุมบริการอาหารและเครืองดืมจําหน่ าย
นี จาหน่ ายผลิตภัณฑ์สินค้าของทีระลึกด้วย ทังของในสวนและของเพือน
ํ
บ้านใกล้เคียง รวมไปถึงบ้านพักและสถานทีตังค่ายพักแรม
5. จัดเตรียมอุปกรณ์ทีทิงขยะ แยกเปี ยกและแห้ง
6. มีบริการห้องสุขาทีสะอาด (อาจมีกล่องรับเงินบริการ เพือให้ผทีทําหน้าที
ู้
ดูแล ได้รบผลประโยชน์)
ั
- 31. กิจกรรมในสวน
1. เข้าชมสวนมังคุด ตังแค้มป์ พักแรมไฟ กิจกรรมออกค่ายต่างๆ
2. อาหารและชิมผลไม้ได้ไม่อน โดยอยูในราคา 120 บาท ต่อคน
ั ่
3. การให้ความรูเ้ กียวกับการปลูก ดูแลรักษา การเก็บเกียวผลผลิต และการ
สาธิตการทําปุยหมักจากธรรมชาติ เพียงท่านละ 100 บาท
๋
4. การจําหน่ ายผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร
- มังคุดสด
- ของทีระลึกต่างๆ
- การแปรรูปมังคุด
- การจําหน่ ายเมล็ดพันธุ์
- 32. จะได้อะไรจากการเปิ ดสวนเป็ นแหล่งท่องเทียว
- สามารถจําหน่ ายต้นอ่อนและเมล็ดพันธุ ์
- สามารถขายผลผลิตทีเก็บได้ส่งให้กบนักท่องเทียวโดยตรง
ั
- ผลผลิตทีจําหน่ ายสดไม่ทนแปรรูปเป็ นผลผลิตอีกรูปแบบหนึ ง
ั
- ทําให้เพือนบ้านสามารถขายสินค้า ทังจากสวนเกษตร และสินค้า
จําพวกอาหาร เครืองดืมได้เพิมขึน
- 33. พ่อค้าคนกลาง
ปั ญหาเกียวกับการมีพอค้าคนกลาง
่
1. พ่อค้าคนกลางมักจะมีฐานะการต่อรองราคาสูงกว่าเกษตรกรมากทํา
ให้มีอานาจในการกดราคารับซือให้ตาลงได้งาย
ํ ํ ่
2. ความสามารถในการเก็งกําไร ในช่วงทีมีการคาดหมายว่าราคาสินค้า
เกษตรชนิ ดใดจะมีราคาดีมาก ทําให้ตลาดเกิดความปั นป่ วน ไร้เสถียรภาพ
3. มักการกําหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรเอาเปรียบเกษตรกรมากและ
สินค้าเกษตรทีรับซือจากเกษตรกรในแต่ละครังมักจะตังมาตรฐานและ
คุณภาพในการรับซือทีไม่แน่ นอน
4. ดอกเบียเงินกูทีเกษตรกรจ่ายให้แก่ผรบซือพืชผลหรือพ่อค้าคนกลาง
้ ู้ ั
มักจะสูงกว่าอัตราดอกเบียจากแหล่งเงินกูอืนๆ เช่น สหกรณ์การเกษตร
้
ธนาคารเพือการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) หรือธนาคารพาณิชย์อืนๆ
- 34. การรวมกลุ่มเกษตรกร
เกษตรกรคนหนึ งจะเป็ น
สมาชิกได้เพียง 1 กลุ่ม และ
ในครอบครัวหนึ งเป็ นสมาชิกได้ 1 คน
ในหนึ งตําบลจะจัดตังกลุ่มเกษตรกร
ทีมีผประกอบอาชีพเกษตรกรรมประเภทเดียวกันได้เพียง 1 กลุ่ม
ู้
ถ้ามีผประกอบอาชีพหลักหลายประเภท และมีเกษตรกรไม่น้อยกว่า 30 คน
ู้
จะตังกลุ่มตามอาชีพหลักได้ประเภทละ 1 กลุ่ม
เกษตรกรมีการทดลองรวมกลุ่มดําเนิ นงานในลักษณะคล้ายกลุ่มเกษตรกร
เป็ นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- 35. สิงทีได้จากการรวมกลุ่ม
เพิมอํานาจการต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง
เพือเรียนรูระบบบริหารจัดการธุรกิจได้ดวยตนเอง
้ ้
เพือให้สามารถพึงตัวเองได้ในอนาคตและลดขันตอนจาก
นายทุนในชุมชน
การแลกเปลียนความรูและประสบการณ์ รวมไปถึงการ
้
ช่วยกันยกระดับสินค้า