SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 55
Descargar para leer sin conexión
การทําขอสอบ Reading passage
ในการทําขอสอบ Reading และ Cloze Test ที่แนนอนที่สุด
นักเรียนตองรูศัพทในระดับหนึ่งที่ นักเรียนควร ทราบที่สําคัญ
คนอานเกง - นักคาดการณ : กลาคิด กลาเดาโดยใชเหตุผล
/ ตรรกศาสตร โดยทั่วไปธรรมชาติของนักเรียนหรือนักพูดที่
ชํานาญการจะใชประโยคแรกในการจูงใจใหผูอานหรือผูฟง
ติดตามฉะนั้น Paragraph แรก และประโยคแรก จึงมักเปน
ประโยคกุญแจเปดสูเนื้อหาตอไป อยาแปลเปนตัวๆ
                1. การแปลแบบทือๆ เหมือนภาพสีเหลียม
                                  ่              ่ ่
แบนๆ
                 2. การแปลพรอมความหมายแฝง เหมือน
ภาพสี่เหลียม 2 มิติ
          ่
                3. ถาการแปลนันประกอบดวยการตีความ
                               ้
แบบนักวิเคราะห เหมือนภาพสีเหลียม 3 มิติ
                                 ่ ่
              ระหวางแปล พยายามวงคําที่เราคิดวาเปน Key
Word โดยสังเกตไดจากเนื้อเรื่องที่อานจะสนับสนุนคําๆ นั้น
วิเคราะหแนวคําถามขอสอบ Reading Passages
            ใน Reading Passages แตละเรื่องแมวาจะมี
คําถามหลายขอ แตสามารถจัดหมวดหมูที่ผูออกขอสอบ
ตองการประเมิน ความรูเราไดกวางๆ 5 หัวขอ
       1. Main Idea : คําถามที่ถามถึงความคิดหลักของ
                 Idea
ประโยคหรือบางทีถามถึงชื่อเรื่อง Title ทุกครั้งที่อานเนื้อ
เรื่องจึงตอง หมั่นหา key word หรือ คํา วลี หรือประโยค
ซ้ําๆ กรุณาอยาลืมความสําคัญของ paragraph แรก
โดยเฉพาะประโยคแรกซึ่งมักจะ สื่อความคิดหลักของเนื้อ
เรื่องใหกับผูอาน
          2. Reference : การอางอิง ขอสอบมักจะถามวา
"he", "she", "it" (line 1) refers to... อางถึงอะไร วิธีการ
ตอบคําถาม นี้คือใหเราถาม ตัวเองวา Pronoun (สรรพนาม)
นั้นเปนเอกพจนหรือพหูพจน ถาเปนเอกพจนใหนักเรียนกวาด
สายตาไปประโยค ขางหนาและหานามเอกพจน ที่ใกล
Pronoun มากที่สุด ถามี 2 ตัวใกลๆ กันใหนํามาพิจารณาแปล
ดูวาคําใหประโยคมีความหมาย ดีกวากันใหเลือกคํานั้น
          3. Inference : การสรุป ในการอานขั้นวิเคราะห
หรือสรุปความนั้น นักเรียนที่แปลศัพทเกงอยางเดียวใชวาจะ
แปลขอความ นั้นๆ รูเรื่อง แตเรา ตอง ฝกคิดใชสามัญสํานึก
หรือ common sense ในการคาดเดา หัดอาน หัดแปล หัดเดา
โดยฝกจากบทอาน ภาษาไทย เมื่อฟงผูใดพูดอะไรก็ หัดคาด
เดาวา ประโยค ตอไปจะเปนอะไร เมื่อฝกอานเองก็ฝกคิดวา
ยอหนาตอไปผูเขียนตองการ พูดอะไร คาดเดา ถูกบางผิด
บางไมตองหมด กําลังใจ แตเรา จะคอยๆ เริ่มเรียนรู มิใช
เพราะเราขาดทักษะหรือการฝกฝน เปรียบเหมือนมีด เนื้อดี
แตไมหมั่นลับ พอซื้อหนังสือรวมเฉลยขอสอบเอนทรานซมา
อาน ทําถูกก็ดีใจ แตไมทราบวาอาจตอบ ถูกโดยบังเอิญก็ได
เพราะเรากําลังอานเพื่อไป check choice อยางเดียว ฉะนั้น
ในการสรุปความเราควรฝกสรุป ทุกยอหนา แมวา ขอสอบ
ไมไดถาม ก็ตาม เชนเดียวกัน Pronoun นักเรียนควรฝกหาวา
Pronoun นั้นๆ หมายถึงคําไหน เมื่อเราฝกจนเคยชินเราจะ
อานบทความ เขาใจอยางรูจริง
           4. Detail : รายละเอียด ขอสอบสวนใหญจะวัด
ความจํากับความเขาใจเชิงวิเคราะหตามหลักการออกขอสอบ
ขอสอบวัด รายละเอียดเปนขอ- สอบที่จัดวางาย เชน คําถาม
จะวัดความเขาใจในเนื้อเรื่องวา อะไร ที่ไหน อยางไร ใคร
ขอสอบวัดรายละเอียดเปน ขอสอบที่ยากเมื่อถูกจํากัดดวย
เวลาและยิ่งอยู ูในการวัด ผลการเรียน ตอใน
สถาบันอุดมศึกษา เราจะมีความกังวลทําใหจําอะไรไม คอยได
จึงจําเปนอยางยิ่งที่เราจะตองฝกทํา ขอสอบ มากๆ วิธีที่ชวย
ให เราประหยัด เวลาและอานอยางมีจุดหมายไดดีที่สุด คือ
การอาน คําถามพรอมขีดเสนใตคําที่สําคัญๆ กอนอานเนื้อ
เรื่อง ขอสําคัญ คือในการฝกอานเบื้องตน เราไมควรจํากัด
เวลาตัวเอง ควรรูจริงโดย การหาประธานหากริยาแทใหได
หา Pronoun ได รูจักใชคําเชื่อม หรือคําสันธานเปน ตัวชี้แนะ
รูจักสรุปในแตละ ยอหนา รูจัก เชื่อมโยง ขอสรุปในแตละยอ
หนา ควรฝกจนชํานาญ แลวจึงเริ่มจับเวลาในการอาน อยา
ลืมวาทําขอสอบเกงอยางเดียวไมพอตอง เร็วดวย เราจึง ควร
ใช ปากกาหรือดินสอขีดเขียนในเนื้อเรื่องเพื่องายตอการยอน
กลับมาอานใหม และควรใสเลขหนาขอคําถามลงใน เนื้อเรื่อง
 เพื่อเปนการรักษาเวลา
             5. Vocabulary in context : คําศัพทที่ปรากฏใน
 บริบทหรือขอความขางเคียง คําศัพทที่อยูในขอสอบ ผูออก
 ขอสอบ มิไดเจตนา วัดความสามารถในการจําคําศัพทของ
 เรา หากแตตองการดูความสามารถในการอานวา เรา
 สามารถใชขอความขางเคียง มาตัดสินความหมายของคํา
 นั้นๆ ไดไหม เพราะนับเปนความจําเปนอยางยิ่งที่นักเรียน
 ตองมีทักษะในการตีความของคําศัพทเมื่อเรา อาน ตํารา
 ภาษาอังกฤษ (text) ฉะนั้นจึงเห็นวาคนที่อาจเรียนอังกฤษไม
 เกงแตเวลาอานกลับเขาใจไดมากกวา คนที่แมนทั้งไวยากรณ
และ คําศัพท เพราะคนผูน้นมีความรูเกาหรือภูมิหลัง
                           ั
 (background) ในเรื่องที่อานนั้นๆ จึงคาดการณหรือคาดเดา
 ไดงายดายกวา
       ฉะนั้นอยามองวาขอสอบเขามหาวิทยาลัยยาก เพียงแต
เราตองเรียนใหถูกวิธีต้ังแตแรก การเรียนภาษาอังกฤษตอง
คอยๆ สะสม ฝกปรือ มีความสนใจใฝรูมิใชจะสอบที่ก็มานั่ง
อานที ภาษาอังกฤษก็จะกลายเปนเรื่องซับซอนและมี
กฏเกณฑมากมาย ทั้งๆ ที่ในความเปนจริงเวลาเรา เรียน
ภาษาไทย เราพูภาษาไทยไดโดยไมตองเรียนไวยากรณกอน
การเรียนแบบธรรมชาติเชนนี้เรียกวา การเรียนแบบคอยๆ
รับเขามาโดยโยงเขากับประสบการณจริง (acquisition) มิใช
เปนการเรียนแบบในหองเรียน (learning) ที่ขาดแรงจูงใจให
อยากใฝเรียนใฝรูทันทีที่ออกนอกหอง
เทคนิคการอานเพื่อทําขอสอบในเวลาทีกําหนด่
1. อานหัวเรื่องที่ผูเขียนใหมา และจดจําไววาหัวเรื่องที่ทําให
เราทราบวาเรากําลังจะอานเรื่องอะไร
2. อานคําถามและ choice แรกพรอมขีดเสนใตคําที่เราคิดวา
สําคัญ โดยคํานึงถึงการรักษาเวลา ยิ่งเราจําคําถามได
แมนยําเทาไร เมื่อนักเรียนอานในเนื้อเรื่อง เราก็จะพบคําที่
ปรากฏอยูในคําถามซึ่งทําใหเราสามารถกลับมาตอบคําถาม
ไดทันที คําถามขอแรกๆ จะอยูในยอหนาแรกๆ คําถามกลางๆ
จะอยูในยอหนากลางๆ สวนคําถามทายๆ จะอยูในยอหนา
ทายๆ การอาน คําถามและ choice แรกจะทําใหเราสรุป
ความคิดกวางๆ ไดวาเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร
3. เขียนเลขขอคําถามลงในเนื้อเรื่อง หรือหนายอหนาที่
คําถามนั้นถามถึงเพื่อเปนการทําขอสอบใหไดทันเวลา
4. จําไววาภาษามีความฟุมเฟอย ซ้ําๆ เราจึงไมจําเปนจะตอง
แปลใหไดทุกคํา ในระหวางอานควรนําความรูพื้นฐานทั่วไป
มาใชในการ พยากรณเนื้อเรื่องหรือฝกสวมบทบาทวาถาเรา
เปนผูเขียนเราตองการสื่ออะรใหผูอานรับทราบ
5. ยอหนาแรกและประโยคแรกสําคัญมากและมักจะเปน
main idea หรือความคิดหลักของเรื่อง (แตไมแนเสมอไป)
เมื่ออานเสร็จ ใหลองฝกสวมบทบาทดูวาถาเราเปนผูเขียนเรา
จะเขียนหรือสื่ออะไรใหผูอาน เรื่องบางเรื่องสามารถใชสามัญ
สํานึก ( common sense ) แตงเรื่องเองได แตเราถูกฝกให
แปลมากกวาใหวิเคราะหจะทําใหเราสะดุดอยูในขั้นพยายาม
แปลโดยไมนําความรูพื้นฐาน ของเรามาใช
6. สรุปแตละยอหนาและเชื่อมโยงแตละยอหนาเขาดวยกันจะ
เห็นวาคําถามเกี่ยวกับ main idea ( ความคิดหลักของเรื่อง)
และ purpose ( วัตถุประสงคในการเขียนเรื่อง ) จะหาไดถา
นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธของความคิดหลักใน
แตละยอหนา เขาดวยกัน
7. ทุกครั้งที่พบคําสรรพนาม ( pronoun ) ตองฝกนิสัยคอย
ถามตัวเองวาคําสรรพนามนี้หมายถึง ( refer to ) อะไรโดย
ตอบคําถาม กอนวาคําสรรพนามนั้นเปนเอกพจนหรือพหูพจน
ถาคําสรรพนามนี้เปนเอกพจน ใหกวาดสายตาไปประโยคที่
นําหนามากอนและหา คําเอกพจนที่ใกลคําสรรพนามนั้นมาก
ที่สุด ถามีตัวเดียวก็นํามาตัวเดียว ถามี 2 ตัวใหนํามาพิจารณา
ดวยการแปลดูวาตัวไหน เหมาะสมมากกวากัน
8. คําใดปรากฏซ้ําๆ มักจะมีความสําคัญหรือไมก็เปน main
idea ของยอหนานั้นๆ หรือของเรื่องนั้นๆ
Topic
    คือ หัวเรื่อง หัวขอ หรือชื่อเรื่องของการสนทนาพูดคุย หรือ
บทความที่เขียนก็ได
Topic แบงออกไดเปน 3 ชนิดใหญ ๆ คือ
                 1. Topic Noun หรือเรียกสั้นๆ วา Topic
                 2. Topic Idea
                 3. Topic Sentence
          ตอไปจะอธิบายวิธีหา Topic แตละชนิด
 1. Topic Noun ลักษณะในการนําเสนอคือตองเปนคํานาม
เทานั้น วิธีหา Topic Noun งายๆ ที่หลายคนนึกไมถึงและใช
เวลาหาในชวงระยะเวลาอันสั้น แมวาเนื้อเรื่องนั้นจะมีความ
ยาวเพียงใดก็ตาม นั่นคือ ใหสังเกตวาคํานามใดในเนื้อเรื่องที่
มีการพูดถึงบอยครั้งที่สุด หรือคํานามที่มีความถี่สูงสุดในเนื้อ
เรื่อง ในการนับความถี่ของคํานามนั้น นอกจากเราจะนับคํา
ที่ใชซ้ําๆ กันแลว เรายังตองนับตัว reference (คําที่ใชอาง
ถึง) ที่หมายถึงคํานามนั้นรวมเขาไปดวย เชน
   Example 1 Not every kind of plants can grow
everywhere. The growth of each plant requires
different quality of soil, climate, amount of sunlight or
rain. Those grow in Chiang Rai will not grow in
Narathiwart and vice versa.
จะเห็นไดวา Topic Noun ของเรื่องนี้ก็คือ
plant ในเรื่องนี้มีการกลาวถึง plant อยูท้ังหมด 3 คํา คือ ใน
ประโยคที่ 1 และ 2 มีอยางละคํา และในประโยคที่ 3 มีคําวา
Those ซึ่งหมายถึง plant นั่นเอง เปนอยางไรบางเมื่ออานถึง
ตรงนี้ คุณจะพบวาการหา Topic นั้นไมใชเรื่องยากสําหรับ
คุณอีกตอไป ในกรณีที่ในเนื้อเรื่องไมมีคําถามใดที่กลาวซ้ํากัน
บอยครั้งที่สุด เราจะมีวิธีในการหา Topic อยางไร คําตอบ
งายๆ ก็คือ ใหผูอานประมวลเรื่องราวทั้งหมดและสรุปประเด็น
ออกมาวาคืออะไร สวนใหญแลวมักจะเปนเนื้อหาเชิงพรรณนา
หรือเรื่องเลา (Explanatory)ลักษณะของ Topic ที่ดีน้น     ั
จะตองครอบคลุมเนื้อหา รายละเอียดเปนสวนใหญหรือเรื่อง
ทั้งหมด เชนในเนื้อเรื่องกลาวถึงพัดลมและรายละเอียด ตูเย็น
และรายละเอียด เตารีดและรายละเอียด ดั้งนั้น Topic ของ
เรื่องนี้ก็คือเครื่องใชไฟฟานั่นเอง
2. Topic Idea มีลักษณะการนําเสนอเปนนามวลี (Noun
Phrase) Topic Idea ตางกับ Topic Noun ตรงที่ Topic Idea
นั้นจะทําใหขอบเขตของ Topic Noun นั้นแคบลง พูดงายๆ ก็
คือ ชี้เฉพาะลงไปวา เปนอะไร หรือดานไหน สําหรับเรื่องนั้นๆ
ยกตัวอยางเชนในหัวขอที่ 1 เราทราบจาก Topic Noun ของ
เรื่องคือคําวา Plant ดูคราวๆ แคหัวขอจะยังไมรูวาเปนเรื่อง
อะไรเกี่ยวกับ plant ดังนั้น Topic Idea จะทําใหหัวขอของ
plantนั้นแคบลง เชนอาจจะเปนการใหปุยกับ plant หรือการ
ตอนกิ่ง plant เปนตน วิธีการหา Topic Idea อยางงายๆ ก็
คือ 1) หาคํานามในเนื้อเรื่องที่มีความถี่สูงสุด
    2) หากริยาหรือคําคุณศัพทที่มีความถี่สูงสุด
    3) เอา 1) กับ 2) มารวมกัน
แตยังกอน เราจะเอามารวมกันเฉยๆ ไมได จากคุณสมบัติของ
Topic Idea วาจะตองเปนนามวลีแตในหัวขอที่ 2)นั้นเราไดมา
คือ verb หรือ adjective เราจะตองแปลง verb หรือ
adjective นั้นเปนคํานามเสียกอนแลวจึงคอยเอามารวมกัน
จาก Example 1 คํานามที่กลาวถึงในเนื้อเรื่องมากที่สุด คือ
plant กริยาที่มีความถี่สูงที่สุด คือ grow เราจึงตองแปลง
verb ใหเปน Noun กอน นั่นคือคํานามของ grow คือ
growth เพราะฉะนั้น Topic Idea ของ Example 1 คือ plant
growth หรือ The growth of plants เพื่อความเขาใจโปรดดู
ตัวอยางเพิ่มเติม
Example 2 The sea is very deep in some places.
Sometimes it is less deep. Some parts of the sea are
very shallow. But in some places it is very deep. There
is one spot near Japan, where the sea is 9 kilometers
deep! The highest mountain in the world is about 9
kilometers high. If that mountain were put into the sea
at that place, there would be 2 kilometers of water
above it!
จะเห็นไดวา คํานามที่มีความถี่สูงสุดในเรื่องก็คือ sea และ
adjective ที่กลาวถึงบอยครั้งที่สุดก็คือ deep ดังนั้นเรา
จะตองเปลี่ยน deep ใหเปนคํานามเสียกอนนั่นก็คือคําวา
depth แลวจึงคอยนํามารวมกัน Topic Idea ที่ไดจาก
Example 2 ก็คือ The depth of the sea หรือ The sea
depth นั่นเอง ตอนนี้คงเริ่มมองเห็นความแตกตางของ
Topic Noun กับ Topic Idea ชัดเจนขึ้นบางแลว
นั่นคือ Topic Noun ของเรื่องนี้ คือ The sea Topic Idea คือ
The depth of the sea สมมุติวาในกรณีที่ verb หรือ
adjective ที่มีความถี่สูงสุดที่เราไดมาไมสามารถทําใหเปน
คํานามได เราจะมีวิธีอยางไร มาดูตัวอยางนี้กันเถอะ
Example 3 Education is one of the basic needs of life.
We need education to earn our livings. We need it to
live happily in the society under the same laws.
Without education it is difficult to understand other
people.
 จากเรื่องขางบนนี้ คํานามที่มีความถี่สูงที่สุดก็คือคําวา
education และกริยาที่มีความถี่สูงสุด คือ need คําวา need
นั้นเปนไดท้ง noun และ verb แตถาเปนคํานามอาจจะมี
             ั
ความหมายอื่นที่ไมตรงกับประเด็นของเรื่อง ดังนั้นถาใช the
need of education ความหมายก็จะผิดเพี้ยนไปจากประเด็น
เพราะ the need คือความตองการ แตประเด็นที่เราพูดถึงใน
เรื่องคือความจําเปน ซึ่งตองใชคําวา necessity เราจึงได
Topic Idea ของเรื่องนี้วา The necessity of education
เชนเดียวกันกับเรื่อง Topic Noun ในกรณีทีไมมี verb หรือ
adjective ที่มีความถี่สูงสุดก็ใหผูอานพิจารณาประเด็นวาภาพ
โดยรวมของเนื้อเรื่องนั้น focus ไปดานใด ดูตัวอยางตอไป
Example
Example 4 What do you know about the sea The first
                                                 sea.
ting to remember is that the sea is very big. You can
see that there is less land than sea The sea covers
                                          sea.
three-quarters of the world. Its depth is different at
different places.
ในเนื้อเรื่องนี้พูดถึงทะเลในหลายๆ ดาน เชน ขนาดและความ
ลึกของทะเล คงจะจํากันไดวา Topic ที่ดีน้นจะตองครอบคลุม
                                               ั
เนื้อหาสวนใหญหรือทั้งหมด ดังนั้น ถาตั้ง Topic Idea วา
The size of the sea หรือ The depth of the sea อยางใด
อยางหนึ่งก็จะไมครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด ผูอานจึงตอง
ประมวลเนื้อหาทั้งหมด ก็คือ ตองมีท้งขนาด และความลึก
                                        ั
สรุปก็คือเปน "ขอมูล หรือขอเท็จจริง" เกี่ยวกับทะเล ผูอาน
อาจให Topic Idea วา The facts about the sea หรือ The
information about the sea หรืออาจจะใชคําใดก็ได แต
ขอใหความหมายครอบคลุมเนื้อหาเทานั้นก็พอแลว
 3. Topic Sentence ตัวนี้แหละเปนเรื่องยาวที่เดียว เอาเปน
วาจะอธิบายพอสังเขปกอน แลวคอยไปศึกษาหารายละเอียด
ทั้งหมดในเรื่อง main Idea ก็แลวกัน เอางายๆ อันที่จริง
Topic Sentence มีชื่อเรียกอีกอยางหนึ่งวา Main Idea
นั่นเอง ชื่อของมันก็บอกแลววา Topic Sentence ดังนั้น
ลักษณะในการนําเสนอจะตองเปนประโยคเทานั้น จะเปน
นามหรือนามวลีไมได
สรุปงายๆ กันลืม ดังนี้Topic Noun เปน คํานาม
Topic Idea เปน นามวลี
Topic Sentence เปน ประโยค
อันที่จริง Topic Idea กับ Topic Sentence จะตองเปน
แนวคิดเดียวกัน เพราะมันก็คือ เรื่องเดียวกันนั่นเอง
ตางกันแคการนําเสนอ คือนามวลีกับประโยคเทานั้นเอง
ตอไปนี้จะนําเสนอตัวอยางเพื่อใหเห็นความชัดเจน
Example 5 Some insects destroy plants and trees.
Some destroy stored grain, flour and meal. Some
attack clothing and carpets. Others cause discomfort
to animals by boring into their skin, biting or stinging.
Some insects are real eats but many are helpful, too.
Some eat harmful larvae. Others help with decay by
eating rotting wood and plants.
จากเรื่องขางบน จะเห็นวา Topic Noun คือ Insects Topic
Idea คือ Insects - good and bad
Topic Sentence อยูในประโยคที่ 5 ของเรื่อง นั่นก็คือ Some
insects are real pests but many are helpful, too.
ถาพิจารณาดีๆ แลว ทั้ง Topic Idea และ Topic Sentence ก็
ตองการสื่อความหมายเดียวกัน เพียงแต Topic Idea เปน
นามวลี และ Topic Sentence เปนประโยคเทานั้นเอง
                        Topic Exercise
A. ....(1)Not all mountains are formed in the same
way.(2)One kind is formed by lava shooting out of the
earth. (3)This is a volcanic mountain. (4)Another
mountain can be formed by the cracking and shifting
of the earth. (5)This is called a block mountain. (6)A
third type of formation is the folded mountain. (7)This
is formed by cracked and shifted rocks that pile up.
1. What is the topic noun? ( the noun that is often
talked about)
   Mountains
   Volcanic mountains
   Block mountains
   Earth's surface
2. What is the topic ideas?
   mountains around the world.
   mountains and how they are formed
the earth's landforms
   how mountains differ from each other
3. What is the topic sentence?
   Sentence 1
   Sentence 2
   Sentence 5
   Sentence 7
B. (1)Firemen aren't the only people who have
favourite animals as mascots. (2)They usually have a
spotted dog. (3) At a school for soldiers, called West
Point , the students have a mule for their mascots .
(4)At a school for sailors , the students have a goat.
(5)And at the Air Force school the mascot is a bird.
4. What is the topic noun?
   firemen
   animals
   mascots
   soldiers
5. What is the topic idea?
   favourite animals
   the military mascots
spotted dog mascots
    mascots of various types
6. Which sentence contains the topic idea?
    Sentence 1
    Sentence 2
    Sentence 4
    Sentence 5
C...... (1)Birds are excellent source of food. (2)Chickens
and turkeys are examples of birds which supply man
with great quantities of meat. (3)Chickens and other
birds also supply eggs. (4)Farmers consider most
birds as friends because they destroy insect pests
and the seeds of weeds. (5)Birds are useful to people.
(6)Salt Lake City has a monument to sea gulls, which
ate up many thousands of crickets that threatened
crops of the Mormon farmers. (7)Many birds of prey
destroy harmful mice, rats, and ground squirrels.
7. What is the topic noun?
    food
    farmers
    chickens
    birds
8. What is the topic idea?
    birds as a source of food
    how farmers raise food
    why birds are useful to man
    the monument at salt Lake City
9. Which sentence contains topic idea?
    Sentence 1
    Sentence 3
    Sentence 5
    Sentence 7
D....... (1)Electricity is a servant for modern man. (2)It
provides power to do a lot of work for him. (3)It heats
homes and stores. (4)It cools buildings by running air
conditioners. (5)Electricity can also be very dangerous
to man. (6)Lightening, a form of electricity, has started
many fires and struck many people. (7)Other injuries
and deaths have come from electricity in the home.
(8)Electricity is helpful but dangerous , too.
10. What is the topic noun?
    electricity
    servant
modern man
    form of electricity
11. What is the topic idea?
    Electricity - its use
    Electricity - its danger
    Electricity - a servant for modern man
    Electricity - helpful but dangerous
12. Which is the topic sentence?
    Sentence 1
    Sentence 2
    Sentence 8
E.......... (1)Between 1846 and 1854 about a million Irish
died of starvation. (2)During that time, more than one
and a half million Irish left their country. (3)Others
left because they were not allowed to worship as they
wanted. (4)There were good reasons why so many
Irish left their homeland. (5)The main reason was the
potato famine. (6)For years, the potatoes would not
grow in Ireland. (7)They had a disease and because of
this many people died of starvation.
13. What is the topic noun?
Irish
   starvation
   famine
   potatoes
14. What is the topic idea?
   starvation in Ireland
   the potato famine
   reasons why Irish left homeland
   freedom of worship
15. Which sentence contains the topic idea?
   Sentence 1
   Sentence 4
   Sentence 5
   Sentence 6
main idea
        ไปแลว จะทําใหไมเกิดเนื้อเรื่องตางๆ ขึ้น หรือทําใหไม
ทราบจุดประสงคเรื่องนั้นๆ แลวทําใหเกิดความเขาใจ
คลาดเคลื่อนได โดยปกติแลว main idea จะเปนประโยค
เทานั้น การวิเคราะหและคนหา main idea ได ตองเกิดจาก
การคนหา Topic มากอน และนําเอาสวน topic มารวมกับ
ขอความ ที่ควบคุมสาระเกี่ยวกับ topic นั้น กลาวโดยสรุป
คือ 1) พินิจพิเคราะหและหา topic หรือเนื้อเรื่องที่อาน วา
ดวยเรื่องอะไร (What is the topic idea?)
                What
    2) สวนที่ควบคุมประเด็นสาระที่เสนออยูน้นคืออะไร นั่น
                                                  ั
คือถูกควบคุมใหพูดถึงสิ่งใด แลวนําเอา topic + สิ่งที่ควบคุม
controlling idea) ก็จะไดเปน main idea จึงเห็นไดวา main
idea ที่ถูกตอง จะตองครอบคลุมสิ่งที่กลาวในเรื่องได
โดยเฉพาะประเด็นหลักMain Idea & Topic sentence มี
ความคลายคลึงกันมาก
   Topic Sentence       หมายถึง ประโยคที่บรรจุหัวเรื่อง
และใจความสําคัญไว สวนใหญมักวางไวที่ประโยคแรก หรือ
ประโยคสุดทายของขอความ ซึงมักหาไดจากเนื้อเรื่องMain     Main
Idea มี 2 ชนิด
     1. State main idea คือ หลักใหญใจความที่สําคัญที่สุด
ของเรื่อง ซึ่งผูเขียนบอกมาตรงๆ สามารถครอบคลุมเนื้อหา
ของเรื่องไดท้งหมด จะตองตั้ง main idea ไวในการเขียน และ
               ั
บรรยายหรือธิบายโดยยึด main idea เปนหลัก สวนที่ขยาย
หรือบรรยายใหรายละเอียดตอจาก main idea คือ
supporting idea โดยปกติ ในเนื้อความหนึ่งๆ เรามักจะพบ
state main idea ไดในตอนตน ตอนกลาง หรือตอนทายของ
ยอหนา
     2. Implied main idea หมายถึง การกลาวถึง main idea
ในลักษณะที่ผูเขียนไมไดเอยมาตรงๆ ทันที เพียงแตแสดงนัย
ใหเห็นเทานั้น ผูอานตองวินิจฉัยเอาเองเพื่อใหเห็นไดชัด Main
Idea ทีกี่ชนิดตําแหนงของ Main Idea อยูตรงไหนบาง1. อยู
ตรงตนเรื่อง 3. อยูตรงกลางเรื่อง. 4. อยูตนเรื่องและทาย
เรื่อง (มีการกลาวซ้ําอีกครั้งในตอนทาย) 5. ไมอยูใน
ประโยคใดประโยคหนึ่ง แตตองสรุปเองโดยนัย ดังที่กลาว
แลววา การหา main idea นั้น จะตองมีการคนหา topic
กอน ดูวาเรื่องที่อานกลาวถึงคํานามตัวไหนบอยที่สุด (topic
Noun) แลวดูวามีการกลาวถึงนามคํานั้นวาอยางไร (Topic
Idea) แลวจึงดูวาขอความที่เปนใจความสําคัญของเรื่อง
topic idea นั้นอยูในประโยคใด ประโยคนั้นแหละเปน Topic
sentence หรือ Main Idea

  การหาใจความสําคัญของสิงทีอาน(Finding Main Ideas)
                        ่งที่ น(Finding
สาระสําคัญ การหาใจความสําคัญ (Main Idea) ของสิ่งที่
อาน เปนเทคนิคอยางหนึ่งของการอาน หากผูอานสามารถ
หาใจความสําคัญไดก็จะเปนการงายที่ผูอานจะคาดเดาไดวา
สิ่งที่อานเปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร ซึ่งจะทําใหผูอานสามารถ
อานไดเขาใจดียิ่งขึ้น การรูจักหาใจความสําคัญของสิ่งที่อาน
จึงเปนวิธีที่ผูอานควรจะเรียนรูและฝกฝนอยูเปนประจําเวลา
อานอานใด ๆ ก็ตาม ซึ่งจะเปนประโยชนตอผูอานเปนอยาง
มาก
การอานแบบ Skimming คือการอานแบบรวดเร็ว เพราะ
ผูอานไมจําเปนตองอานทุกตัวอักษร ผูอานจะอานตรง 2-3
ประโยคแรก เสร็จแลวจะอานตรงกลางยอหนา หลังจากนั้นก็
จะอาน 2-3 ประโยคสุดทายเทานั้น แลวจับประเด็นวาผูเขียน
กลาวถึงอะไร ในที่สุดผูอานก็จะสามารถหาใจความสําคัญ
(Main Idea) ของสิ่งที่อานได เชน
How much do you remember of what you learned over
the past academic year? How many of your high school
classmates could you call by name right now? How
many times a week do you forget appointments,
chores, and other details of everyday life? Before you
groan in self-disgust, take heart at how normal you
are. We all forget all kinds of things all the time.
 จะพบวา ประโยคแรกผูเขียนถามเราวา เราจําสิ่งตาง ๆ ที่
เราเรียนมาในวัยเรียนไดมากแคไหน ประโยคที่สองถามวา
เราสามารถเรียกชื่อเพื่อนรวมหองเรียนไดสักกี่คนและจบดวย
ประโยคสุดทายวา เราทุกคนมักจะลืมทุกสิ่งทุกอยางอยู
ตลอดเวลา
ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงนาจะอยูที่ประโยค
สุดทาย คือ We all forget all kinds of things all the
time.
ประโยคหัวขอเรือง (Topic Sentence) คือ ประโยคที่บรรจุ
                ่
หัวขอเรื่องและใจความสําคัญ ซึ่งเปนความคิดรวม ๆ เกี่ยวกับ
ยอหนานั้น ๆ ประโยคหัวขอเรื่อง จะอยูตรงจุดใดในยอหนาก็
ได
ใจความสําคัญ (Main Idea) คือ สาระสําคัญ หรือประเด็นรวม
ของใจความในยอหนาที่กลาวถึงหัวขอเรื่อง (Topic) ใจความ
สําคัญ จะมีลักษณะเปนรูปประโยค(Sentence) มักจะปรากฎ
อยูในประโยคหัวขอเรื่อง (Topic Sentence)
ตําแหนงของใจความสําคัญ (Main Idea)
1. ถาในยอหนานันมีประโยคหัวขอเรื่อง (Topic Sentence)
                  ้
ตําแหนงของใจความสําคัญ (Main Idea) จะปรากฎอยู 3 จุด
ดังนี้ 1.1 Main Idea อยูทประโยคแรกของยอหนา เชน
                          ี่ ระโยคแรกของย
A baby elephant is the biggest of all land babies. A
newborn baby weighs more than two hundred pounds.
It is about three feet high. The new baby is strong,
too. Almost as soon as it is born, it can walk about.
ยอหนานี้กลาวถึงลูกชางวาเปนลูกสัตวบก (land babies) ที่มี
ขนาดใหญที่สุด โดยบอกวา ลูกชางที่เกิดใหม จะมีน้ําหนัก
มากกวา 200 ปอนด และสูงราว ๆ 3 ฟุต นอกจากนี้ยัง
แข็งแรงดวย เพราะตอนที่คลอดออกมา มันจะสามารถเดินได
ทันที
ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคแรก คือ
A baby elephant isthe biggest of all land babies.
 1.2 Main Idea อยูทประโยคทายของยอหนา เชน
                     ี่
Most people are free to enjoy themselves in the
evenings and on weekends. Some spend their time
watching television, listening to the radio, or going to
movies; others participate in sports. It depends on
their interests. There are various ways to spend
one'sfree time.
ยอหนานี้กลาวถึง การใชเวลาวางของคนในตอนเย็น และวัน
สุดสัปดาหวา บางคนจะดูโทรทัศน บางคนฟงวิทยุ ไปชม
ภาพยนตรหรือไปเลนกีฬา มันขึ้นอยูกับความสนใจของแตละ
คน มีวิธีที่จะใชเวลาวางมากมายหลายวิธี
ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคทาย คือ
There are variousways to spend one's free time.
1.3 Main Idea อยูทประโยคกลางยอหนา เชน
                     ี่
Keep your tree outdoors until the day before
Christmas. Never use lighted candles. There are also
other suggestions for avoiding a Christmas tree fire.
Turn offthe lights before you leave the house and
throw away the tree by New Year's Day.
 ยอหนานี้กลาวถึงคําแนะนํา เพื่อหลีกเลี่ยง มิใหเกิดไฟไหม
ตนคริสตมาสวา ใหนําตนคริสตมาสไปไวนอกบาน กอนจะถึง
วันคริสตมาสและไมใหจุดเทียนไวดวย นอกจากนี้ยังแนะนํา
อีกวา ใหปดไฟกอนออกจากบาน และทิ้งตนไมเมื่อถึงวันป
ใหม
ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคกลาง คือ
There are alsoother suggestions for avoiding a
Christmas tree fire.
 2. ถาในยอหนานันไมมประโยคหัวขอเรือง (Topic
                    ้ ี                   ่
Sentence) มักจะเปนการเขียนแบบพรรณนา (Description)
และแบบเลาเรื่องหรือบรรยายเรื่อง(Narration) ทุกประโยค
ในยอหนาจะสัมพันธกัน และมีความสําคัญเทาเทียมกันหมด
เพราะเปนการกลาวถึงสิ่งเดียวกัน ในลักษณะที่ไมใชเปนการ
เสริม หรือสนับสนุน ประโยคใดประโยคหนึ่งโดยเฉพาะ
โดยมากจะเปนเรื่องเกี่ยวกับการกลาวถึงบุคคล หรือสถานที่
ผูอานจะตองพยายามทําความเขาใจกับรายละเอียดทั้งหมด
แลวจับใจความใหไดวา รายละเอียดทั้งหมดกลาวถึงอะไร สิ่ง
นั้นก็จะเปนใจความสําคัญของยอหนา เชน
On weekends as soon as Tom gets out of his bed, he
seats himself right in front of the television and
starts searching for his favourite programme. "Have
your breakfast, please Tom," his mother tells him, but
that won't make him move at all. At her second call he
will slowly get up and turn the television set to face
the dining table.He doesn't miss any part of the
programme while having breakfast. After he has
finished,he moves the television set to its normal
direction and watches on and on until the end of the
last afternoon programme – at 6:30 P.M.
 ยอหนานี้กลาววา ในวันสุดสัปดาห Tom จะดูโทรทัศน
ตลอดเวลา จนจบรายการสุดทายของตอนบาย คือ 18.30 น.
เริ่มตั้งแตพอลุกจากที่นอนมา ก็จะมานั่งอยูหนาโทรทัศนทันที
แมกระทั่งถึงเวลาอาหารเชา แมก็ตองเรียกใหไปทาน แมตอง
เรียกถึง 2 ครั้ง จึงจะยอมลุกไปทาน จะทานอาหารยังตอง
หมุนโทรทัศนไปทางโตะอาหาร เมื่อทานเสร็จแลว ก็จะหมุน
โทรทัศนกลับไปไวทางเดิม แลวก็น่งดูตอจนจบรายการใน
                                 ั
ภาคบายตอน 18.30 น.
 ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) ของยอหนานี้ จึงควรจะ
เปน Tom watchestelevision all day on weekends. (ทอมดู
                                                    (ทอมดู
โทรทัศนท้งวันในวันสุดสัปดาห)
            ั
คําถามทีนิยมใชถามเกียวกับใจความสําคัญ (Main Idea)
          ่            ่
1. What is the author's main point?
2. The main thought of this passage is that _____ .
3. The main theme of the passage is _____ .
4. The best statement of this passage's main thought
is that _____ .
5. What is the main idea of the passage?
6. What is the main idea expressed in the passage?
7. The best statement of the main idea of this
passage is that _____ .
8. The passage's main thought is that _____ .
9. An expression describing the theme of the above
passage is _____ .
แบบทดสอบ Main Idea
            Main Idea Level General Person

คําชีแจง Use your knowledge of main idea to help
      ้
you fine the main idea of the words below.
1. What’s the main idea?
;;;;My name is Maria, and I live at 645 B Street. I like B
Street. It is a nice street.
    a. My name is Maria.
    b. I live on B Street.
    c. Maria is pleased to live on B Street.
2. What’s the main idea?
        John : Hello. My name is John.
        Maria : I’m happy to meet you. My name is Maria.
        John : Pleased to meet John.
    a. My name is Maria.
    b. John and Maria meet.
    c. My name is John.
3. What’s the name of the picture?



    a. Hello.
    b. Goodbye
    c. I live on B Street.
4. What’s the main idea?
;;;;My name is Paul. I live on Avenue A. My friend Tony
lives on B Street. B Street meets Avenue A. I meet
Tony at B Street and Avenue A. Where do you meet
your friends?
    a. Paul lives on Avenue A.
    b. Where do you meet your friends?
    c. Paul and Tony meet at B Street and Avenue A.
5. What’s the main idea?
;;;;1.Every day our teacher says,”Rudy,where is your
pencil?” 2. Is it in his notebook? 3. No, it isn’t. 4. Is it
in his book? 5. No. 6. Rudy’s pencil is always at home
on his table.
    a. Sentence 1
b. Sentence 2
    c. Sentence 6
6. Which sentence tells the main idea?
;;;; I need a pair of shoes. I like red shoes. There are
no red shoes in this store. We’re buying a pretty
white pair. I like them too.
    a. I like them too.
    b. There are no red shoes in this store.
    c. I need a pair of shoes.
7. Which sentence tells the main idea?
;;;;How many men are in your family? There are four in
my family. There are my father, me , and my two
brothers.
    a. There are four men in my family.
    b. How many men are in your family?
    c. There is my father.
8. These are details. What is the main idea?
    a new pair of shoes for Nadia
a blue shirt for Huino               a green dress for
Mother
    a. We have a new television at home.
b. The Neftal family went to the store.
    c. The bus was late.
9. Which is the main idea?
;;;; The others are details.
    a. going to the supermarket
    b. a dozen eggs
    c. buying meat
10. These are details. What is the main idea?
     cola
     orange drink
     tea
     coffee
    a. There are many things I like to eat.
    b. There are many things I like to drink.
    c. Ella went to the store to buy some clothes.
(การเดาความหมายจากบริ ท)
     การใช Context Clues (การเดาความหมายจากบริบท)
          Context Clues การเดาความหมายจากบริบท
context = ปริบทหรือบริบท , clue = ตัวชี้แนะ อุปสรรคที่มัก
พบบอยๆ ในการอานภาษาอังกฤษ ก็คือ การไมรูความหมาย
ของคําศัพท ทําใหไมสามารถเขาใจขอความที่อาน ไมสามารถ
ตีความโจทยขอสอบได อานไมเขาใจ ทําขอสอบไดไมดี วิธีท่ี
จะชวยแกปญหานี้ก็คือ ตองรูความหมายศัพทและสามารถ
นําไปใชได แตการรูความหมายศัพทโดยไมตองเปพจนานุ
กรม (Dictionary) นั้น ทําไดอยางไร คําตอบก็คือ นักเรียนมี
ความจําเปนที่จะตองเดาความหมายนั้นจากบริบท (Context)
ซึ่งหมายถึง ขอความ หรือศัพทหลายๆ คําซึ่งแวดลอมคําศัพท
ตัวที่เราไมรูความหมาย แลวทําใหเดาความหมายของศัพทท่ี
ไมรูได บริบทเปนสิ่งจําเปนตอการเขาใจคําศัพท เปนอยาง
มาก ทั้งนี้เพราะ ความหมายของคํา คําใดคําหนึ่งนั้นจะตอง
ขึ้นอยูกับคําอื่นๆ ซึ่งอยูขางเคียงดวย เชน คําวา "about" We
know about that. (about = concerning) แตถา It is about
six o'clock. (about = close to) เปนตน
ผูอานสามารถตีความหมายไดโดยอาศัยสิ่งแนะที่อยูในปริบท
(Context Clues) สิ่งชี้แนะหรือตัวสัญญาณ (Clues / signal
words) สามารถชวยชี้แนะความหมายของคําศัพทที่ไมคุนเคย
ใหกับผูอานไดอยางถูกตองตรงตามปริบท สิ่งชี้แนะหรือตัว
สัญญาณที่สําคัญไดแก
1. Definition type (การใหคํานิยาม)เชน to be, to be
called , to be defind as , to be known as , to be
referred
2. Restatement type (การกลาวซ้ํา)เชน or , that is , in
other words , that is to say , in fact , indeed
3. Example type (การยกตัวอยาง)เชน for example , in
fact , such as , e.g. , specially , thus , except that
4. Comparison or Contrast type (การเปรียบเทียบ หรือ
บอกความแตกตาง)เชน as..as , if , like , same as
5. Cause and Effect relationship type (การใช
ความสัมพันธในเรื่องเหตุและผล)เชน so , thus , hence
6. Modifier type (การใชตัวขยาย)เชน in addition to , the
last , finally , and , also , another , the next
7. Contrast (คําตรงขาม) เชน but , however , on the
other hand , though , even though , still , rather
8. Conclusion (เรื่องยอทั้งหมด)เชน all in all , in
conclusion , in short , in brief
9. Enumeration (บอกลําดับเวลา)เชน first , second ,
third , later , before , as soon as
10. purpose (จุดประสงค)เชน in order to , for , to , so
that , such for the purpose of
เมือพูดถึงการพัฒนาการอานโดยฝกเทคนิคการอานเร็ว
    ่
หรืออานแบบควบคุมเวลาแลว ครูกเลยอยากจะแนะนํา
                                     ็
เทคนิคการอานเพิ่มอีกสักเทคนิคหนึงเทคนิคทีเราจะคุยกัน
                                       ่        ่
ในตอนนีเรียกวา Scanning คะ
            ้
              Scanning เปนทักษะการอานเร็วที่มีลักษณะคลาย
กับ Skimming ที่ครูแนะนําใหรูจักกันไปแลว คือเปนการ
กวาดตาคราวๆ อยางเร็วๆ ไปบนสิ่งที่เราจะอานเหมือนกัน
ตางกันก็ตรง Scanning เปนการกวาดตาอยางรวดเร็วเพื่อหา
เปาหมายหรือขอมูลเฉพาะอยาง เรียกวาเราตองมีจุดประสงค
อยูในใจอยางแนวแนวาเราตองการรูหรืออานเพื่อคนหา
อะไร โดยปกติเราใชเทคนิคการอานแบบ Scanning กับ
ชีวิตประจําวันอยูบอยๆ เชน การดูประกาศผลสอบ ครูวาคง
ไมมีใครอานตั้งแตชื่อแรกที่ประกาศ แลวก็อานไปเรื่อยๆ
จนกวาจะเจอชื่อของเราหรอกนะ มีไหมที่ใครจะเริ่มตนอาน
ตั้งแตหมายเลขหนึ่ง นางสาวบุญทิ้ง บุญชิงชัง หมายเลขสอง
นายสมหลน สุดหมนหมอง....ไมมี แตเราจะใชเทคนิคการ
Scanning คือกวาดตาคราวๆ โดยมีเปาหมายคือชื่อของเรา
เองอยูในใจ แลวเราก็ Scan หาแตชื่อของตัวเองโดยไมสนใจ
ชื่ออื่นๆที่เราไมไดต้งใจจะหา หรือการอานเพื่อหาความหมาย
                       ั
ของคําศัพทที่ตองการจากพจนานุกรม เราใชเทคนิคการ
Scan เหมือนกัน คงไมมีใครเปดอานตั้งแตคําแรกในหนาแรก
หรอกจริงมั้ย เรามีเปาหมายวาเราตองการหาคําศัพทคําไหน
เราก็ Scanหาคํานั้นเลย นอกจากนี้เรายังใชเทคนิค
Scanning กับการอานตางในชีวิตประจําวันของเราอีก เชน
การคนหาหัวขอที่เราตองการอานในหนาสารบัญ การอาน
เพื่อหาขอมูลที่ตองการจากตาราง แผนภูมิ หรือกราฟ
      ถาใครนึกภาพไมออก ลองคิดตามครูนะคะ ลองนึกถึง
เวลาที่คุณเขารานหนังสือ เวลาที่คุณเดินเขาไปคุณทํายังไงคะ
คุณดูหนังสือทุกๆ เลมทั้งรานเลยหรือเปลา ครูวาไมมีใครทํา
อยางนี้แนนอน แลวเราทํายังไงกัน
      ถาใครเขารานหนังสือโดยไมมีเปาหมายอะไรเลย ก็แค
อยากเขามาดูๆ วาจะมีหนังสืออะไรนาสนใจเผื่อจะซื้อกลับไป
อานสักเลม ลองนึกดูสิคะวาเราจะมีพฤติกรรมอยางไร คน
กลุมนี้จะกวาดตาดูคราวๆดูช้นโนนทีดูช้นนี้ที เรียกวาดูไป
                             ั         ั
เรื่อยๆจนกวาจะเจอหนังสือที่โดนใจ พฤติกรรมแบบนี้นี่แหละ
คือเทคนิค Skimming คะเอ! ใชทักษะการ Skim แลวจะรูไหม
เนี่ยวามีหนังสืออะไรกันบาง รูสิคะ แตเปนความรูแบบ
กวางๆอาจจะรูวามีหนังสือประเภทไหนบางหรือรูวามีหนังสือ
อะไรบาง แตบางครั้งที่เราเขารานหนังสือ เรามักจะมี
เปาหมายหรือจุดประสงคอยางชัดเจนวาเราอยากอานหนังสือ
อะไร ( ความจริงครูนาจะบอกวาอยากซื้อหนังสืออะไร แต
เดี๋ยวนี้คนเขารานหนังสือเพราะไปอานหนังสือเยอะกวาไปซื้อ
ซะอีก )เราก็ใชเทคนิค Scanning คือกวาดตาอยางมี
เปาหมายวาวันนี้จะมาอานหนังสือภาษาอังกฤษ เราก็จะ
กวาดตาหาแตหมวดภาษาอังกฤษซึ่งเปนเปาหมายของเรา
หมวดอื่นๆ เราก็มองผานไป นั่นแนเจอแลวหมวด
ภาษาอังกฤษที่เราอยากอาน แตที่หมวดนี้ก็มีหนังสืออีกเยอะ
มากๆ จะทํายังไงดีละ เราก็ตองใชเทคนิคการ Scan ตออีก
แลว
    เราตองรูวาเปาหมายหรือหนังสือที่เราจะมาอานในวันนี้
คืออะไร สมมุติอยากมาอานหนังสือ “ ไมอยากทองจํา...จะ...จะ
ทําไงดี?” เราก็จะ Scanหาแตเลมที่เราตองการเทานั้น ถา
       ?”
สายตาจะบังเอิญไปเจอหนังสือภาษาอังกฤษเลมอื่นๆ ก็จะไม
สนใจ แตจะกวาดตาอยางเร็วๆ จนเจอเลมที่เราตองการคะ
O.K. ไหมคะ
                     การอานแบบ Skimming
   Skimming เปนวิธีการอานแบบหนึ่งที่แตกตางไปจากการ
อานแบบธรรมดา เพราะการอานแบบนี้เปนการอานอยาง
รวดเร็ว เพื่อตองการขอมูลโดยทัว ๆ ไป
                                 ่
(GeneralInformation) จะไมอานทุกตัวอักษรจะอานขามคํา
ขามประโยค แตก็สามารถจับใจความได การอานแบบนี้มี
ประโยชนตอนักเรียนกมาก เพราะจะตัองอานหนังสือ
มากมายหลายเลม และไมมีเวลาพอที่จะอานทุกเลมอยาง
ละเอียดถี่ถวน ดังนั้นนักเรียนตอง
รูวิธี Skim เพื่อประหยัดเวลา จุดประสงคการอานแบบ skim
จะแตกจางจากจุดประสงคการอานธรรมดา คือ
นักเรียนตองรูเนื้อหาโดยทั่ว ๆ ไปใหมากที่สุด แตไม
จําเปนตองสนใจกับรายละเอียด
ทั้งหมด ขันตอนของการอานแบบ Skimming
            ้
       1. อานหัวเรื่อง
       2. ดูชื่อผูแตงและหนังสืออางอิง
       3. อานยอหนาแรกอยางละเอียด
       4. อานหัวเรื่องยอย และประโยคแรกของทุกยอหนา
       5. อานเรื่องทั้งหมดอยางรวดเร็วเนื้อหา
                - Topic
                - Main Idea
                - Clue Word เชน ชื่อคน , วันที่ และ adj. ที่
สําคัญ
                - คําที่แสดงความคิดเห็นของผูแตง เชน เห็น
ดวย หรือไมเห็นดวย
       6. ในยอหนาสุดทายถาเปนการสรุปตองอานให
ละเอียด
       7. นักเรียนตอง skim เรื่องสวนใหญใหได 1,000 คํา
ตอ นาที

การอานแบบ Scanning
           คือ การอานแบบรวดเร็ว เพื่อหาคําตอบที่ตองการ
     เชน การหาเบอรโทรศัพทในสมุดโทรศัพท, การคนหา
ดรรชนีในหนังสือตําราเรียน, การอานโฆษณาตาง ๆ
หรือแมแตการคนหาคําศัพทในพจนานุกรม
คําถามที่นักเรียนมักจะเจอ ในการถามรายละเอียดใน
การอานแบบ Scanningอาจมีดังนี้
      According to the passage .....................................
      The passage states that .....................................
      The author states that .....................................
      What does the author say
about .....................................
      Which of the following is not true?
      Which of the following is not stated in the
passage?
      All of the followings are true
except .....................................
ขันตอนในการอานดวยวิธี Scanning มีดงนี้
  ้                                     ั
        1. อานคําถามเกี่ยวกับขอความนั้น ๆ กอนเพื่อ
ประหยัดเวลา และชวยในการหาคําตอบไดรวดเร็วขึ้น
        2. อานขอความอยางรวดเร็ว เมื่อพบขอความ
เกี่ยวกับคําตอบแลว ใหอานชาลงและอานดวย
ความรอบคอบระมัดระวัง และพยายามหาคํา และ
กลุมคําที่สําคัญ (Key words and phrases)
ที่จะชวยใหคําตอบที่ถูกตอง
3. หากเปนขอสอบแบบเลือกตอบ (Multiple
     choices) ใหกําจัดคําตอบที่ผิดออก
     และเลือกคําตอบที่ดีที่สุดที่เหลืออยู
                       The Taj Mahal
           Often called the most beutiful building in the
world, The Taj Mahal stands in the town of Agra in
India. It is in fact a tomb built by the emperor Shah
Jahan for his wife who died in 1931.
           Visitors to the Taj Mahal enter through a
red sandstone gateway which leads into a beautiful
walled garden in which a watercourse runs between
rows of slender cypress trees. A the end of the
watercourse The Jaj Mahal stands on a marble terrace.
           It’s square building made from pure white
marble and topped by a dome. Four slender white
minerals or towers rise from the corners of the
terrace. Beneath the dome is an eight-sided chamber
with a carved marble screen around the tombs of the
emperor and his wife.
           The chief architect of the Taj Mahal was
Ustad Isa, who may have been a Persian. The building
and ornamentation was done by 20,000 men and
craftsmen from all parts of Asia. (1632-1650.)
   1. Where is the Taj Mahal built ?
          a. the town of Emperor
          b. the town of Jahan
          c. the town of watercourse
          d. the town of Agra
   2. Who built the Jaj Mahal ?
          a. the Emperor’s wife
          b. the Emperor Shah Jahan
          c. the architect
          d. all the above
   3. What trees wee grown in the walled garden ?
          a. cypress
          b. slender
          c. watercourse
          d. white minaret
   4. How long had the Taj Mahal built ?
          a. ten years
          b. fifteen years
          c. seventeen years
          d. nineteen years
หมายเหตุ
  1. Comma (,) ขอความที่อยูหลังเครื่องหมายแหลานี้จะขยาย
      ขอความที่อยูขางหนา
  2. Semicolon (;) เชื่อมประโยคเขาดวยกันอยูหนา Adverb(
      คําวิเศษณ)เชื่อมประโยคหลักกับรอง
  3. Colon (:) บอกถึงขอความขางหนา
  4. Dash (-) ใชเหมือน (,) ขยายขอความขางหนา
  5. Parentheses ( ) อธิบายถึงความคิดหลัก ขอความ
      ขางหนาตัว ( ) บอกใหเขาใจ
เนื้อเรื่องประกอบไปดวย
      Paragraph (ยอหนา) ตองมองหา 3 อยางคือ
  1. Topic (หัวขอเรื่อง) กลาวแทบทุกประโยค
  2. Main idea (ใจความสําคัญของ Topic) พูดถึง Topic วา
      เปนอยางไร
  3. Topic sentence (ประโยคหลัก) เลาถึง Topic โดยสรุป
      มักอยูประโยคแรก หรือ ประโยคสุดทาย
  คําศัพทที่มักเจอในคําถามการอานเชน passage เนื้อหา,
  text ขอความ, paragraph ยอหนา,mean หมายถึง ,
  purpose จุดประสงค , author tone น้ําเสียงผูเขียน เปน
  ตน
การอานเพื่อจับใจความสําคัญในขอความหรือเรื่องสันๆ    ้
     ในทุกขอความหรือเรื่องสั้นๆที่เราอานสิ่งที่เราควรรูคือ
ใจความสําคัญ(Main idea) สวนมากจะอยูในประโยคหลัก
(Topic sentence) บางครั้งอาจปรากฏอยูตอนกลางหรือ
ตอนทาย เชน
  1. Jack likes school. He likes his teachers and his
     friends. He enjoys learning. He likes to eat in the
     cafeteria. He walks to school early every day. He’s
     happy in school.
     The main idea of the paragraph is……………………
     a. Sentence 1 b. Sentence 2                   c.
        Sentence 3 d. Sentence 4
  2. A man and a boy are in the department store.
     They’re buying shirt. Two men is buying a white
     and a blue shirt. The boy needs the shirts for
     wearing to school.
     The main idea of the paragraph is……………………
     a.Sentence 1       b. Sentence 2              c.
     Sentence 3 d. Sentence 4
3. Fins are a grate help in swimming. A fish pushes
      itself forward by moving its tail fin from side to
      side. Its other fins help it keep its balance. They
      also help guide it.
      The topic of the paragraph is………………………….
      a. A fish     b. The fins c. A guide               d.
         swimming
   4. Keep your tree outdoors until the day before
      Chritmas. Never use lighted candies.There are
      some suggestions for avoiding a Christmas tree
      fire. Turn off the lights before you leave the
      house and throw it away by New Year’s Day.
      The topic of the paragraph is………………………….
      a. Keeping a tree outdoors                b. Avoiding
         a Christmas tree fire
      c.Turning off the lights                  d.
      Throwing the tree away
การอานโฆษณา
ขอความโฆษณามีลุกษณะแตกตางไปจากขาว สวนใหญจะ
เปนการรับสมัครงาน การซื้อ-ขายสินคา หรือเปนประกาศ
THE NATION (                     )
                  Thailand English Language newspaper
Two position are now open for experienced writers. Successful candidates
must have the following qualifications.(         )
     • Thai national or Native English speaker
     • Must be able to write well in English on a variety of subjects
     • Must be ready to work long hours
     • Must show responsibility and initiative
     • Must be able to type in English(              ! "#$   %)
Interested persons please apply in person or send application with resume
and a recent photo to : (ก %    %)
PERSONNEL DEPARTMENT 59 SOI SAENGCHAN SUKHUMVIT 42
BANGKOK 10110( ' () * )
แจงใหทราบ สวนประกอบสําคัญที่จะทําใหเราอานขอความ
โฆษณาใหเขาใจคือการรูความหมายของคําศัพท และจะตอง
อานใหไดใจความวาใครเปนผูประกาศหรือโฆษณา
วัตถุประสงคเพื่ออะไร รายละเอียดที่ควรทราบมีอะไรบาง
เทคนิคที่จะจับใจความไดผูอานควรรูจักสวนประกอบของ
โฆษณาเชน
                      GEMA(            $)
   The world8s leading manufactures of water filter which
   will protect you and your family from Typhoid ,
   Salnonella , Bilharzia , Clolera.( %%       $)
                        12 months guarantee
                        After-sales service
                        ONLY 2,900 BAHT(% )
                        TEL: 02-245-3895(. %/0(% * )
                        TEL : 02-373-8376
LAND&HOUSES(                    -    )
New one-storey brick house with garden , one master bedroom , air ,
tel , fully funitured , Soi Aree 4 , Phaholyothin Road.B 4,500/m(
BCDEFกHDI / JKLMO / BPQRSPQ)
                FN
     Phatinee. Off: 02-252-4071 ext 205(RTUVWXJVMYZMPU)
           Home : 02-279-6945


 ตัวอยางขอสอบ
                      LUCK HAND WOVEN
   Thai Silk , Fashionable ready made clothing Antique Fabrice
   Call : Prapan for appointment 02-2595295 ,6/9Sukhumvit 26


                      OUTSTANDING VULUE!
    Full golf set from B.7,900 , leading makes stocked full club
    fitting service available free of charge.
          Open. Everyday
    T. 02-391-2280 , 02-392-9530-1
a. You want to buy a golf set.             B. you want to
     buy a piece of silk.
  การอานขาวสารระหวางบุคคล
     เทคนิคจะตองอานใหเขาใจเนื้อเรื่องแลวก็ตองทราบวา
สารนั้นๆ สงถึงใคร ใครเปนผูสง สงเมื่อใด เชน
   26/7/99( () )
   ATTENTION : KHUN PRANEED SIHSOBHON("#$% )
   WE HAVE JUST RECEIVED THE SAD NEWS OF
   KHUN PATHOM8S PASSING AWAY WE WISH TO
   CONVEY OUR DEEPEST CONDOLENCES TO YOU
   AND ALL HIS RELATIVES ON YOUR SAD
   BEREAVMENT.(!$           )
   WITH KIND REGARDS,( 2 ($ )
   HOREST FRUECHTENICHT AND RICHARD
   STITT("#$ )
   71820 PAC B+(% ก % )
   49331 CASASIA TH
Horst Fruechtenicht & Richard Stitt สงหนังสือถึงนาง
ประนีต สีหโสภณ เพื่อแสดงความเสียใจถึงการจากไปของคุณ
ปฐม สีหโสภณ อยางไมมีวันกลับ
  1. Who is the receiver of this message?
  2. What is the purpose of this message?
  3. What did you know about the message?
การอานวิธปฏิบติ
             ี ั
Instructions หมายถึง คําสั่งหรือการบอกวิธีใชหรือวิธีปฏิบัติ
ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เชน การสั่งใหแสดงกิริยาอาการตางๆ การ
บอกวิธีใชผลิตภัณฑตางๆ เทคนิคก็คือการรูประเภทของสิ่งที่
จะปฏิบัติ การรูความหายคําศัพท รูข้นตอนของการปฏิบัติ
                                      ั
และจุดมุงหมายในการปฏิบัติ ตัวอยางเชน
  1. The exercise for losing weight around the
      stomach. Lay flat on your back with feet firmly
      together and arms at your sides. Keep your legs
      as straight as possible. Touch your toes with the
      tips of your fingers. (การออกกําลังเพื่อลดหนาทอง
      วิธีปฏิบัติ นอนราบ ขาชิด แขนแนบลําตัว ใหขาเหยียด
      ตรงเทาที่จะทําได กระดกตัวขึ้นโดยใหปลายนิ้วมือแตะที่
      ปลายนิ้วเทา)
2. How to use powder. Use daily after bath or before
      bedtime to help cool , refreshed and delicately
      perfumed. (วิธีการใชแปง ใชทาผิวและลูบไลตาม
      รางกายหลังอาบน้ํากอนเขานอนและในยามอากาศรอน
      อบอาวเพื่อความเย็นสบายและหอมสดชื่น)
ตัวอยางขอสอบ
  Mix one cupful ESSENCE to four liters
  of water. Soak garments for minutes.
  Gently rub. Rinse thoroughly with
  water.

  1. What does the instruction tell about?
  a. Garments b. Rinsing c. Drycleaner d. A
     cupful
  2. How do you use it ?
  a. It’s up to you.           b. Mix 2 cupful
     “ESSENCE” to 4 liters of water.
  c.Rinse completely with water d. Mix 1 cupful
  “ESSENCE” to 4 liters of water.
การอานปายประกาศตางๆ
     ปายประกาศตางๆมักเปนคํา หรือวลีส้นๆ ตองรู
                                        ั
ความหมายของศัพทแลวจะอานไดเขาใจเชน
  1. BEWARE OF THE DOG = ระวังสุนัข
  2. DON’T LEAN OUT OF THE WINDOW = อยายื่นแขน
     หรือศรีษะออกนอกหนาตาง
  3. NO SMORKING = หามสูบบุหรี่
  4. NO PHOTO        = หามถายภาพ
  5. NO KIDDING      = หามหยอกลอ
  6. FASTEN SEAT BELT = รัดเข็มขัด
  7. VISITORS ONLY = ที่เฉพาะแขก
  8. KEEP OFFTHE GRASS = หามเดินลัดสนามหญา
  9. ON SALE NOW = กําลังลดราคา
  10. NEW ARRIVAL = สินคาตัวใหม
  11. MEETING POINT = จุดนัดหมาย
  12. FIRE EXIT           = ทางหนีไฟ
  13. ESCALATOR           = บันไดเลื่อน
  14. ELEVATOR            = ลิฟท
  ตัวอยางขอสอบ
  Where can you see these signs?
1. NO WAITING
2. Passengers Must not Cross the Line
3. Please stand on the right
4. Queue this side
5. PUSH / PULL
a. On a door                  b. on a railway station
    platform
c.on an escalator                  d. in a street e. on
a bus stop
การอานขาว
ประเภทของขาว
ขาวการเมือง poltical news ขาวธุรกิจ Business news
ขาวอาชญากรรม Crime news ขาวการศึกษา Education
news ขาวการแพทย Medical news ขาวศิลปวัฒนธรรม
Arts and Culture news ขาวกีฬา Sports เปนตน
เทคนิคคือ ผูอานจะสนใจพาดหัวขาว (head line)ถา
นาสนใจก็จะอานเนื้อหาในขาว พาดหัวขาวจะเปนขอความ
สั้นกะทัดรัด ไมเต็มตามโครงสรางประโยค ถาขาใจพาดหัว
ขาวก็จะพอรูวาเปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร เสร็จแลวตองหาให
ไดวา ประธาน คือใคร กริยาหลัก คืออะไรเพื่อจะไดรวา    ู
ใครทําอะไร แลวแยกสวนขยายประธาน กริยาดวยเพื่อจะ
  ไดทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ไหน เมื่อไหร อยางไรเชน
    Accident claims 12 lives (      . ( A $. ) ) 12          )
    (A %( BC%)TWELEVE people were killed and four
    others seriously injured(. C %) when their van and18 _
    wheel truck collided(()C ) on an inter-provincial road in
    Muang District of Si Sa ket Province yesterday.

ตัวอยางแบบฝกหัด จงขีดเสนใต หา ประธาน และ
กริยาหลักเพื่อที่จะสรุปไดวา ขาวนั้นใคร ทําอะไร
   1. 4 arrested near Phuket : Krabi-police have
      arrested four suspects in Nua Klong District on
      charges of heroin to customers in Phuket.
   2. Police boats sink : TWO Marine Police Boats sank
      in Muang District of Pattani here after an
      explosion on one of the boats early yesterday
      morning.
   3. Floods expected : STORMS , heavy rain and flash
      floods can be expected in the South and around
the Gulf of Thailand in the next few days ,
   according to Meteorological Department director-
   general Smith Thamsaroj.
                                    Forecast)
การอานพยากรณอากาศ (Weather Forecast)
การอานพยากรณอากาศตองรูคําศัพทสภาวะอากาศตางๆ
มีดังนี้
1. Temperature (อุณหภูมิ) C’ = degree Celsuis =
         องศาเซลเซียส
   F’ = degree Fahrenheit = องศาฟาเรนไฮท
   Minimum temperature = อุณหภูมิต่ําสุด
   Maximum temperature = อุณหภูมิสูงสุด
   Average temperature = อุณหภูมิโดยเฉลี่ย
2. Weather (สภาพอากาศ)
   Clear ทองฟาแจมใส cloudy เมฆมาก           fog
         หมอก         frost อากาศหนาว
   Snow หิมะ rain ฝน dew น้ําคาง flooding
         น้ําทวม humidity ความชื้น
   Relative humidity ความชื้นสัมพัทธ average
   humidity ความชื้นปานกลาง
Light rain ฝนเล็กนอย partly cloudy เมฆมาก
บางสวน the moon rises ดวงจันทรขึ้น
The moon sets ดวงจันทรตก heavy rain/falls ฝน
ตกหนัก slight sea ทะเลมีคลื่นเล็กนอย
Moderate sea ทะเลมีคลื่นปานกลาง cool เย็น cold
หนาว Thundery พายุฟาคะนอง thick patches
ละอองน้ํามาก thunderstorms พายุฟาคะนอง
Scattered showers ฝนตกทั่วไป isolated showers
ฝนเปนหยอมๆ gust ลมแรง Northeasterly wind ลม
ตะวันออกเฉียงเหนือ westernly wind ลมตะวันตก
The sun sets ดวงอาทิตยตก The sun rises พระ
อาทิตยขึ้น high tide น้ําขึ้น low tide น้ําลง
เชน THE WEATHER FORECAST
For Bangkok Metropolis until tomorrow morning :
Light morning fog. Partly cloudy and isolated light
showers , northeasterly winds 10-30 kph; minimum
temperature 24 c’, Maximum temperature 34 c’
การตอบคําถาม
คําถามในภาษาอังกฤษมี 2 แบบใหญๆคือ
1. คําถามชนิดตอบ ใช หรือ ไมใช (yes-No Question)
คําถามชนิดนี้มักขึ้นตนดวยกริยาพิเศษหรือกริยาชวย 24
ตัวดังนี้ (is ,am ,are ,was , were , have , has had,
do , does , did , must , will , would , shall , should
, can , could , ought to , dare , may , might , used
to , need) คําตอบหากถามดวยกริยาอะไรก็ตองตอบ
ดวยกริยานั้น ดังนี้
 yes + ประธาน + กริยา(เปนประโยคบอกเลาเสมอ)
หรือ No + ประธาน + กริยา(เปนประโยคปฏิเสธเสมอ)
เชน Can you do this ? Yes, I can. / No , I
can’t. Will you be there ? Yes , I will / No,I
won’t.
2. คําถามชนิดตอบเปนใจความ (Wh-Question)
คําถามซึ่งตองการรายละเอียดซึ่งเวลาตอบตองตอบทวน
คําถามนั้นหรือบอกรายละเอียดตามคําถามที่ผูถาม
ตองการทราบโดยดูคําถามจากตอนขึ้นตนคําถามและดู
tense ดวยซึ่งมีดังนี้
Who ใคร เชน Who teaches you English ? =
      Mr. Brown teaches me English.
How อยางไร เชน How did Tom go there ? = Tom
go there by bus.
Why ทําไม เชน Why did he leave so soon? =
       He left so soon because he was sick.
What อะไร เชน What do they see ? =
       They see a huge tortoise.
Where ที่ไหน เชน Where were you
yesterday?= I was at home.
Which อันไหน เชน Which car do you like? = I
like Mazda.
When เมื่อไหร เชน When was he born? =
       He was born on 1st January 1982
คราวนี้เมื่อนักเรียนรูท้งคําถาม คําตอบ คําศัพท หลัก
                         ั
วิธีการอานตางๆแลว ก็มาลองใชความรูท้ังหมดในการ
ทําขอสอบกันนะคะ เพราะไมวาจะสอบอะไร ก็ตองอาน
ทั้งนั้น มาใชความรูที่ไดเรียนมาใหเปนประโยชนดูนะคะ

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยพัน พัน
 
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษหลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษBhayubhong
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓Mameaw Mameaw
 
ร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพkhorntee
 
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4Ngamsiri Prasertkul
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6sapatchanook
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
เรียงความ Is1
เรียงความ Is1เรียงความ Is1
เรียงความ Is1panisra
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานpacharawalee
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)Kruthai Kidsdee
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะkrupornpana55
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษKritsadin Khemtong
 
เกมเติมคำ สำนวนไทย
เกมเติมคำ สำนวนไทย เกมเติมคำ สำนวนไทย
เกมเติมคำ สำนวนไทย SAKANAN ANANTASOOK
 

La actualidad más candente (20)

Present Perfect Tense
Present  Perfect  TensePresent  Perfect  Tense
Present Perfect Tense
 
Present perfect tense
Present  perfect  tensePresent  perfect  tense
Present perfect tense
 
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
 
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษหลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
หลักสูตรท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
 
คำนาม
คำนามคำนาม
คำนาม
 
ร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพ
 
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
 
โจทย์ปัญหา เรื่องการตวง ป 3
โจทย์ปัญหา เรื่องการตวง ป 3โจทย์ปัญหา เรื่องการตวง ป 3
โจทย์ปัญหา เรื่องการตวง ป 3
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
เรียงความ Is1
เรียงความ Is1เรียงความ Is1
เรียงความ Is1
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
there is / there and prepositions
there is / there and prepositionsthere is / there and prepositions
there is / there and prepositions
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
 
การใช้ Some , any , few , a few , little , a little,
การใช้ Some , any , few , a few , little , a little, การใช้ Some , any , few , a few , little , a little,
การใช้ Some , any , few , a few , little , a little,
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
 
เกมเติมคำ สำนวนไทย
เกมเติมคำ สำนวนไทย เกมเติมคำ สำนวนไทย
เกมเติมคำ สำนวนไทย
 

Similar a (การทำข้อสอบ Reading passage)

การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์คุณานนต์ ทองกรด
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6thaneerat
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยthaneerat
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)อัมพร ศรีพิทักษ์
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านKanjana Pothinam
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำLadawan Munchit
 
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)Nongkran Jarurnphong
 
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑พัน พัน
 

Similar a (การทำข้อสอบ Reading passage) (20)

การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
 
Mainidea
MainideaMainidea
Mainidea
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
 
kumprasom
kumprasomkumprasom
kumprasom
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
 
Brands thai (o net)
Brands thai (o net)Brands thai (o net)
Brands thai (o net)
 
Languageusage for radio writing
Languageusage for radio writingLanguageusage for radio writing
Languageusage for radio writing
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
 
01 หน่วย 1
01 หน่วย 101 หน่วย 1
01 หน่วย 1
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำ
 
คำซ้อน 1
คำซ้อน 1คำซ้อน 1
คำซ้อน 1
 
คำซ้อน 1
คำซ้อน 1คำซ้อน 1
คำซ้อน 1
 
สุภาษิตไทย
สุภาษิตไทยสุภาษิตไทย
สุภาษิตไทย
 
สุภาษิตไทย
สุภาษิตไทยสุภาษิตไทย
สุภาษิตไทย
 
ประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อนประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อน
 
Dictionary
DictionaryDictionary
Dictionary
 
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
 
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
 
อธิบายนามศัพท์
อธิบายนามศัพท์อธิบายนามศัพท์
อธิบายนามศัพท์
 

Más de pingpingmum

กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง pingpingmum
 
แนวข้อสอบ O net
แนวข้อสอบ O netแนวข้อสอบ O net
แนวข้อสอบ O netpingpingmum
 
(O net ปี 52)
(O net ปี 52)(O net ปี 52)
(O net ปี 52)pingpingmum
 
Story no3.(present simple tense)
Story no3.(present simple tense)Story no3.(present simple tense)
Story no3.(present simple tense)pingpingmum
 
Story no2. (present simple tense)
Story no2. (present simple tense)Story no2. (present simple tense)
Story no2. (present simple tense)pingpingmum
 
Story no1. (present simple tense)
Story no1. (present simple tense)Story no1. (present simple tense)
Story no1. (present simple tense)pingpingmum
 
Situation dialogues
Situation dialoguesSituation dialogues
Situation dialoguespingpingmum
 
ป้ายสัญลักษณ์จาราจร
ป้ายสัญลักษณ์จาราจรป้ายสัญลักษณ์จาราจร
ป้ายสัญลักษณ์จาราจรpingpingmum
 
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องกริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องpingpingmum
 

Más de pingpingmum (13)

กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง
 
แนวข้อสอบ O net
แนวข้อสอบ O netแนวข้อสอบ O net
แนวข้อสอบ O net
 
O net ปี 53
O net ปี 53O net ปี 53
O net ปี 53
 
(O net ปี 52)
(O net ปี 52)(O net ปี 52)
(O net ปี 52)
 
Story no3.(present simple tense)
Story no3.(present simple tense)Story no3.(present simple tense)
Story no3.(present simple tense)
 
Story no2. (present simple tense)
Story no2. (present simple tense)Story no2. (present simple tense)
Story no2. (present simple tense)
 
Story no1. (present simple tense)
Story no1. (present simple tense)Story no1. (present simple tense)
Story no1. (present simple tense)
 
Situation dialogues
Situation dialoguesSituation dialogues
Situation dialogues
 
ป้ายสัญลักษณ์จาราจร
ป้ายสัญลักษณ์จาราจรป้ายสัญลักษณ์จาราจร
ป้ายสัญลักษณ์จาราจร
 
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องกริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง
 
Grammar
GrammarGrammar
Grammar
 
Vocabulary
VocabularyVocabulary
Vocabulary
 
Tenses
TensesTenses
Tenses
 

(การทำข้อสอบ Reading passage)

  • 1. การทําขอสอบ Reading passage ในการทําขอสอบ Reading และ Cloze Test ที่แนนอนที่สุด นักเรียนตองรูศัพทในระดับหนึ่งที่ นักเรียนควร ทราบที่สําคัญ คนอานเกง - นักคาดการณ : กลาคิด กลาเดาโดยใชเหตุผล / ตรรกศาสตร โดยทั่วไปธรรมชาติของนักเรียนหรือนักพูดที่ ชํานาญการจะใชประโยคแรกในการจูงใจใหผูอานหรือผูฟง ติดตามฉะนั้น Paragraph แรก และประโยคแรก จึงมักเปน ประโยคกุญแจเปดสูเนื้อหาตอไป อยาแปลเปนตัวๆ 1. การแปลแบบทือๆ เหมือนภาพสีเหลียม ่ ่ ่ แบนๆ 2. การแปลพรอมความหมายแฝง เหมือน ภาพสี่เหลียม 2 มิติ ่ 3. ถาการแปลนันประกอบดวยการตีความ ้ แบบนักวิเคราะห เหมือนภาพสีเหลียม 3 มิติ ่ ่ ระหวางแปล พยายามวงคําที่เราคิดวาเปน Key Word โดยสังเกตไดจากเนื้อเรื่องที่อานจะสนับสนุนคําๆ นั้น วิเคราะหแนวคําถามขอสอบ Reading Passages ใน Reading Passages แตละเรื่องแมวาจะมี คําถามหลายขอ แตสามารถจัดหมวดหมูที่ผูออกขอสอบ ตองการประเมิน ความรูเราไดกวางๆ 5 หัวขอ 1. Main Idea : คําถามที่ถามถึงความคิดหลักของ Idea ประโยคหรือบางทีถามถึงชื่อเรื่อง Title ทุกครั้งที่อานเนื้อ
  • 2. เรื่องจึงตอง หมั่นหา key word หรือ คํา วลี หรือประโยค ซ้ําๆ กรุณาอยาลืมความสําคัญของ paragraph แรก โดยเฉพาะประโยคแรกซึ่งมักจะ สื่อความคิดหลักของเนื้อ เรื่องใหกับผูอาน 2. Reference : การอางอิง ขอสอบมักจะถามวา "he", "she", "it" (line 1) refers to... อางถึงอะไร วิธีการ ตอบคําถาม นี้คือใหเราถาม ตัวเองวา Pronoun (สรรพนาม) นั้นเปนเอกพจนหรือพหูพจน ถาเปนเอกพจนใหนักเรียนกวาด สายตาไปประโยค ขางหนาและหานามเอกพจน ที่ใกล Pronoun มากที่สุด ถามี 2 ตัวใกลๆ กันใหนํามาพิจารณาแปล ดูวาคําใหประโยคมีความหมาย ดีกวากันใหเลือกคํานั้น 3. Inference : การสรุป ในการอานขั้นวิเคราะห หรือสรุปความนั้น นักเรียนที่แปลศัพทเกงอยางเดียวใชวาจะ แปลขอความ นั้นๆ รูเรื่อง แตเรา ตอง ฝกคิดใชสามัญสํานึก หรือ common sense ในการคาดเดา หัดอาน หัดแปล หัดเดา โดยฝกจากบทอาน ภาษาไทย เมื่อฟงผูใดพูดอะไรก็ หัดคาด เดาวา ประโยค ตอไปจะเปนอะไร เมื่อฝกอานเองก็ฝกคิดวา ยอหนาตอไปผูเขียนตองการ พูดอะไร คาดเดา ถูกบางผิด บางไมตองหมด กําลังใจ แตเรา จะคอยๆ เริ่มเรียนรู มิใช เพราะเราขาดทักษะหรือการฝกฝน เปรียบเหมือนมีด เนื้อดี แตไมหมั่นลับ พอซื้อหนังสือรวมเฉลยขอสอบเอนทรานซมา อาน ทําถูกก็ดีใจ แตไมทราบวาอาจตอบ ถูกโดยบังเอิญก็ได
  • 3. เพราะเรากําลังอานเพื่อไป check choice อยางเดียว ฉะนั้น ในการสรุปความเราควรฝกสรุป ทุกยอหนา แมวา ขอสอบ ไมไดถาม ก็ตาม เชนเดียวกัน Pronoun นักเรียนควรฝกหาวา Pronoun นั้นๆ หมายถึงคําไหน เมื่อเราฝกจนเคยชินเราจะ อานบทความ เขาใจอยางรูจริง 4. Detail : รายละเอียด ขอสอบสวนใหญจะวัด ความจํากับความเขาใจเชิงวิเคราะหตามหลักการออกขอสอบ ขอสอบวัด รายละเอียดเปนขอ- สอบที่จัดวางาย เชน คําถาม จะวัดความเขาใจในเนื้อเรื่องวา อะไร ที่ไหน อยางไร ใคร ขอสอบวัดรายละเอียดเปน ขอสอบที่ยากเมื่อถูกจํากัดดวย เวลาและยิ่งอยู ูในการวัด ผลการเรียน ตอใน สถาบันอุดมศึกษา เราจะมีความกังวลทําใหจําอะไรไม คอยได จึงจําเปนอยางยิ่งที่เราจะตองฝกทํา ขอสอบ มากๆ วิธีที่ชวย ให เราประหยัด เวลาและอานอยางมีจุดหมายไดดีที่สุด คือ การอาน คําถามพรอมขีดเสนใตคําที่สําคัญๆ กอนอานเนื้อ เรื่อง ขอสําคัญ คือในการฝกอานเบื้องตน เราไมควรจํากัด เวลาตัวเอง ควรรูจริงโดย การหาประธานหากริยาแทใหได หา Pronoun ได รูจักใชคําเชื่อม หรือคําสันธานเปน ตัวชี้แนะ รูจักสรุปในแตละ ยอหนา รูจัก เชื่อมโยง ขอสรุปในแตละยอ หนา ควรฝกจนชํานาญ แลวจึงเริ่มจับเวลาในการอาน อยา ลืมวาทําขอสอบเกงอยางเดียวไมพอตอง เร็วดวย เราจึง ควร ใช ปากกาหรือดินสอขีดเขียนในเนื้อเรื่องเพื่องายตอการยอน
  • 4. กลับมาอานใหม และควรใสเลขหนาขอคําถามลงใน เนื้อเรื่อง เพื่อเปนการรักษาเวลา 5. Vocabulary in context : คําศัพทที่ปรากฏใน บริบทหรือขอความขางเคียง คําศัพทที่อยูในขอสอบ ผูออก ขอสอบ มิไดเจตนา วัดความสามารถในการจําคําศัพทของ เรา หากแตตองการดูความสามารถในการอานวา เรา สามารถใชขอความขางเคียง มาตัดสินความหมายของคํา นั้นๆ ไดไหม เพราะนับเปนความจําเปนอยางยิ่งที่นักเรียน ตองมีทักษะในการตีความของคําศัพทเมื่อเรา อาน ตํารา ภาษาอังกฤษ (text) ฉะนั้นจึงเห็นวาคนที่อาจเรียนอังกฤษไม เกงแตเวลาอานกลับเขาใจไดมากกวา คนที่แมนทั้งไวยากรณ และ คําศัพท เพราะคนผูน้นมีความรูเกาหรือภูมิหลัง ั (background) ในเรื่องที่อานนั้นๆ จึงคาดการณหรือคาดเดา ไดงายดายกวา ฉะนั้นอยามองวาขอสอบเขามหาวิทยาลัยยาก เพียงแต เราตองเรียนใหถูกวิธีต้ังแตแรก การเรียนภาษาอังกฤษตอง คอยๆ สะสม ฝกปรือ มีความสนใจใฝรูมิใชจะสอบที่ก็มานั่ง อานที ภาษาอังกฤษก็จะกลายเปนเรื่องซับซอนและมี กฏเกณฑมากมาย ทั้งๆ ที่ในความเปนจริงเวลาเรา เรียน ภาษาไทย เราพูภาษาไทยไดโดยไมตองเรียนไวยากรณกอน การเรียนแบบธรรมชาติเชนนี้เรียกวา การเรียนแบบคอยๆ รับเขามาโดยโยงเขากับประสบการณจริง (acquisition) มิใช
  • 5. เปนการเรียนแบบในหองเรียน (learning) ที่ขาดแรงจูงใจให อยากใฝเรียนใฝรูทันทีที่ออกนอกหอง เทคนิคการอานเพื่อทําขอสอบในเวลาทีกําหนด่ 1. อานหัวเรื่องที่ผูเขียนใหมา และจดจําไววาหัวเรื่องที่ทําให เราทราบวาเรากําลังจะอานเรื่องอะไร 2. อานคําถามและ choice แรกพรอมขีดเสนใตคําที่เราคิดวา สําคัญ โดยคํานึงถึงการรักษาเวลา ยิ่งเราจําคําถามได แมนยําเทาไร เมื่อนักเรียนอานในเนื้อเรื่อง เราก็จะพบคําที่ ปรากฏอยูในคําถามซึ่งทําใหเราสามารถกลับมาตอบคําถาม ไดทันที คําถามขอแรกๆ จะอยูในยอหนาแรกๆ คําถามกลางๆ จะอยูในยอหนากลางๆ สวนคําถามทายๆ จะอยูในยอหนา ทายๆ การอาน คําถามและ choice แรกจะทําใหเราสรุป ความคิดกวางๆ ไดวาเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร 3. เขียนเลขขอคําถามลงในเนื้อเรื่อง หรือหนายอหนาที่ คําถามนั้นถามถึงเพื่อเปนการทําขอสอบใหไดทันเวลา 4. จําไววาภาษามีความฟุมเฟอย ซ้ําๆ เราจึงไมจําเปนจะตอง แปลใหไดทุกคํา ในระหวางอานควรนําความรูพื้นฐานทั่วไป มาใชในการ พยากรณเนื้อเรื่องหรือฝกสวมบทบาทวาถาเรา เปนผูเขียนเราตองการสื่ออะรใหผูอานรับทราบ 5. ยอหนาแรกและประโยคแรกสําคัญมากและมักจะเปน main idea หรือความคิดหลักของเรื่อง (แตไมแนเสมอไป) เมื่ออานเสร็จ ใหลองฝกสวมบทบาทดูวาถาเราเปนผูเขียนเรา
  • 6. จะเขียนหรือสื่ออะไรใหผูอาน เรื่องบางเรื่องสามารถใชสามัญ สํานึก ( common sense ) แตงเรื่องเองได แตเราถูกฝกให แปลมากกวาใหวิเคราะหจะทําใหเราสะดุดอยูในขั้นพยายาม แปลโดยไมนําความรูพื้นฐาน ของเรามาใช 6. สรุปแตละยอหนาและเชื่อมโยงแตละยอหนาเขาดวยกันจะ เห็นวาคําถามเกี่ยวกับ main idea ( ความคิดหลักของเรื่อง) และ purpose ( วัตถุประสงคในการเขียนเรื่อง ) จะหาไดถา นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธของความคิดหลักใน แตละยอหนา เขาดวยกัน 7. ทุกครั้งที่พบคําสรรพนาม ( pronoun ) ตองฝกนิสัยคอย ถามตัวเองวาคําสรรพนามนี้หมายถึง ( refer to ) อะไรโดย ตอบคําถาม กอนวาคําสรรพนามนั้นเปนเอกพจนหรือพหูพจน ถาคําสรรพนามนี้เปนเอกพจน ใหกวาดสายตาไปประโยคที่ นําหนามากอนและหา คําเอกพจนที่ใกลคําสรรพนามนั้นมาก ที่สุด ถามีตัวเดียวก็นํามาตัวเดียว ถามี 2 ตัวใหนํามาพิจารณา ดวยการแปลดูวาตัวไหน เหมาะสมมากกวากัน 8. คําใดปรากฏซ้ําๆ มักจะมีความสําคัญหรือไมก็เปน main idea ของยอหนานั้นๆ หรือของเรื่องนั้นๆ
  • 7. Topic คือ หัวเรื่อง หัวขอ หรือชื่อเรื่องของการสนทนาพูดคุย หรือ บทความที่เขียนก็ได Topic แบงออกไดเปน 3 ชนิดใหญ ๆ คือ 1. Topic Noun หรือเรียกสั้นๆ วา Topic 2. Topic Idea 3. Topic Sentence ตอไปจะอธิบายวิธีหา Topic แตละชนิด 1. Topic Noun ลักษณะในการนําเสนอคือตองเปนคํานาม เทานั้น วิธีหา Topic Noun งายๆ ที่หลายคนนึกไมถึงและใช เวลาหาในชวงระยะเวลาอันสั้น แมวาเนื้อเรื่องนั้นจะมีความ ยาวเพียงใดก็ตาม นั่นคือ ใหสังเกตวาคํานามใดในเนื้อเรื่องที่ มีการพูดถึงบอยครั้งที่สุด หรือคํานามที่มีความถี่สูงสุดในเนื้อ เรื่อง ในการนับความถี่ของคํานามนั้น นอกจากเราจะนับคํา ที่ใชซ้ําๆ กันแลว เรายังตองนับตัว reference (คําที่ใชอาง ถึง) ที่หมายถึงคํานามนั้นรวมเขาไปดวย เชน Example 1 Not every kind of plants can grow everywhere. The growth of each plant requires different quality of soil, climate, amount of sunlight or rain. Those grow in Chiang Rai will not grow in Narathiwart and vice versa.
  • 8. จะเห็นไดวา Topic Noun ของเรื่องนี้ก็คือ plant ในเรื่องนี้มีการกลาวถึง plant อยูท้ังหมด 3 คํา คือ ใน ประโยคที่ 1 และ 2 มีอยางละคํา และในประโยคที่ 3 มีคําวา Those ซึ่งหมายถึง plant นั่นเอง เปนอยางไรบางเมื่ออานถึง ตรงนี้ คุณจะพบวาการหา Topic นั้นไมใชเรื่องยากสําหรับ คุณอีกตอไป ในกรณีที่ในเนื้อเรื่องไมมีคําถามใดที่กลาวซ้ํากัน บอยครั้งที่สุด เราจะมีวิธีในการหา Topic อยางไร คําตอบ งายๆ ก็คือ ใหผูอานประมวลเรื่องราวทั้งหมดและสรุปประเด็น ออกมาวาคืออะไร สวนใหญแลวมักจะเปนเนื้อหาเชิงพรรณนา หรือเรื่องเลา (Explanatory)ลักษณะของ Topic ที่ดีน้น ั จะตองครอบคลุมเนื้อหา รายละเอียดเปนสวนใหญหรือเรื่อง ทั้งหมด เชนในเนื้อเรื่องกลาวถึงพัดลมและรายละเอียด ตูเย็น และรายละเอียด เตารีดและรายละเอียด ดั้งนั้น Topic ของ เรื่องนี้ก็คือเครื่องใชไฟฟานั่นเอง 2. Topic Idea มีลักษณะการนําเสนอเปนนามวลี (Noun Phrase) Topic Idea ตางกับ Topic Noun ตรงที่ Topic Idea นั้นจะทําใหขอบเขตของ Topic Noun นั้นแคบลง พูดงายๆ ก็ คือ ชี้เฉพาะลงไปวา เปนอะไร หรือดานไหน สําหรับเรื่องนั้นๆ ยกตัวอยางเชนในหัวขอที่ 1 เราทราบจาก Topic Noun ของ เรื่องคือคําวา Plant ดูคราวๆ แคหัวขอจะยังไมรูวาเปนเรื่อง อะไรเกี่ยวกับ plant ดังนั้น Topic Idea จะทําใหหัวขอของ plantนั้นแคบลง เชนอาจจะเปนการใหปุยกับ plant หรือการ
  • 9. ตอนกิ่ง plant เปนตน วิธีการหา Topic Idea อยางงายๆ ก็ คือ 1) หาคํานามในเนื้อเรื่องที่มีความถี่สูงสุด 2) หากริยาหรือคําคุณศัพทที่มีความถี่สูงสุด 3) เอา 1) กับ 2) มารวมกัน แตยังกอน เราจะเอามารวมกันเฉยๆ ไมได จากคุณสมบัติของ Topic Idea วาจะตองเปนนามวลีแตในหัวขอที่ 2)นั้นเราไดมา คือ verb หรือ adjective เราจะตองแปลง verb หรือ adjective นั้นเปนคํานามเสียกอนแลวจึงคอยเอามารวมกัน จาก Example 1 คํานามที่กลาวถึงในเนื้อเรื่องมากที่สุด คือ plant กริยาที่มีความถี่สูงที่สุด คือ grow เราจึงตองแปลง verb ใหเปน Noun กอน นั่นคือคํานามของ grow คือ growth เพราะฉะนั้น Topic Idea ของ Example 1 คือ plant growth หรือ The growth of plants เพื่อความเขาใจโปรดดู ตัวอยางเพิ่มเติม Example 2 The sea is very deep in some places. Sometimes it is less deep. Some parts of the sea are very shallow. But in some places it is very deep. There is one spot near Japan, where the sea is 9 kilometers deep! The highest mountain in the world is about 9 kilometers high. If that mountain were put into the sea at that place, there would be 2 kilometers of water above it!
  • 10. จะเห็นไดวา คํานามที่มีความถี่สูงสุดในเรื่องก็คือ sea และ adjective ที่กลาวถึงบอยครั้งที่สุดก็คือ deep ดังนั้นเรา จะตองเปลี่ยน deep ใหเปนคํานามเสียกอนนั่นก็คือคําวา depth แลวจึงคอยนํามารวมกัน Topic Idea ที่ไดจาก Example 2 ก็คือ The depth of the sea หรือ The sea depth นั่นเอง ตอนนี้คงเริ่มมองเห็นความแตกตางของ Topic Noun กับ Topic Idea ชัดเจนขึ้นบางแลว นั่นคือ Topic Noun ของเรื่องนี้ คือ The sea Topic Idea คือ The depth of the sea สมมุติวาในกรณีที่ verb หรือ adjective ที่มีความถี่สูงสุดที่เราไดมาไมสามารถทําใหเปน คํานามได เราจะมีวิธีอยางไร มาดูตัวอยางนี้กันเถอะ Example 3 Education is one of the basic needs of life. We need education to earn our livings. We need it to live happily in the society under the same laws. Without education it is difficult to understand other people. จากเรื่องขางบนนี้ คํานามที่มีความถี่สูงที่สุดก็คือคําวา education และกริยาที่มีความถี่สูงสุด คือ need คําวา need นั้นเปนไดท้ง noun และ verb แตถาเปนคํานามอาจจะมี ั ความหมายอื่นที่ไมตรงกับประเด็นของเรื่อง ดังนั้นถาใช the need of education ความหมายก็จะผิดเพี้ยนไปจากประเด็น เพราะ the need คือความตองการ แตประเด็นที่เราพูดถึงใน
  • 11. เรื่องคือความจําเปน ซึ่งตองใชคําวา necessity เราจึงได Topic Idea ของเรื่องนี้วา The necessity of education เชนเดียวกันกับเรื่อง Topic Noun ในกรณีทีไมมี verb หรือ adjective ที่มีความถี่สูงสุดก็ใหผูอานพิจารณาประเด็นวาภาพ โดยรวมของเนื้อเรื่องนั้น focus ไปดานใด ดูตัวอยางตอไป Example Example 4 What do you know about the sea The first sea. ting to remember is that the sea is very big. You can see that there is less land than sea The sea covers sea. three-quarters of the world. Its depth is different at different places. ในเนื้อเรื่องนี้พูดถึงทะเลในหลายๆ ดาน เชน ขนาดและความ ลึกของทะเล คงจะจํากันไดวา Topic ที่ดีน้นจะตองครอบคลุม ั เนื้อหาสวนใหญหรือทั้งหมด ดังนั้น ถาตั้ง Topic Idea วา The size of the sea หรือ The depth of the sea อยางใด อยางหนึ่งก็จะไมครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด ผูอานจึงตอง ประมวลเนื้อหาทั้งหมด ก็คือ ตองมีท้งขนาด และความลึก ั สรุปก็คือเปน "ขอมูล หรือขอเท็จจริง" เกี่ยวกับทะเล ผูอาน อาจให Topic Idea วา The facts about the sea หรือ The information about the sea หรืออาจจะใชคําใดก็ได แต ขอใหความหมายครอบคลุมเนื้อหาเทานั้นก็พอแลว 3. Topic Sentence ตัวนี้แหละเปนเรื่องยาวที่เดียว เอาเปน วาจะอธิบายพอสังเขปกอน แลวคอยไปศึกษาหารายละเอียด
  • 12. ทั้งหมดในเรื่อง main Idea ก็แลวกัน เอางายๆ อันที่จริง Topic Sentence มีชื่อเรียกอีกอยางหนึ่งวา Main Idea นั่นเอง ชื่อของมันก็บอกแลววา Topic Sentence ดังนั้น ลักษณะในการนําเสนอจะตองเปนประโยคเทานั้น จะเปน นามหรือนามวลีไมได สรุปงายๆ กันลืม ดังนี้Topic Noun เปน คํานาม Topic Idea เปน นามวลี Topic Sentence เปน ประโยค อันที่จริง Topic Idea กับ Topic Sentence จะตองเปน แนวคิดเดียวกัน เพราะมันก็คือ เรื่องเดียวกันนั่นเอง ตางกันแคการนําเสนอ คือนามวลีกับประโยคเทานั้นเอง ตอไปนี้จะนําเสนอตัวอยางเพื่อใหเห็นความชัดเจน Example 5 Some insects destroy plants and trees. Some destroy stored grain, flour and meal. Some attack clothing and carpets. Others cause discomfort to animals by boring into their skin, biting or stinging. Some insects are real eats but many are helpful, too. Some eat harmful larvae. Others help with decay by eating rotting wood and plants. จากเรื่องขางบน จะเห็นวา Topic Noun คือ Insects Topic Idea คือ Insects - good and bad Topic Sentence อยูในประโยคที่ 5 ของเรื่อง นั่นก็คือ Some
  • 13. insects are real pests but many are helpful, too. ถาพิจารณาดีๆ แลว ทั้ง Topic Idea และ Topic Sentence ก็ ตองการสื่อความหมายเดียวกัน เพียงแต Topic Idea เปน นามวลี และ Topic Sentence เปนประโยคเทานั้นเอง Topic Exercise A. ....(1)Not all mountains are formed in the same way.(2)One kind is formed by lava shooting out of the earth. (3)This is a volcanic mountain. (4)Another mountain can be formed by the cracking and shifting of the earth. (5)This is called a block mountain. (6)A third type of formation is the folded mountain. (7)This is formed by cracked and shifted rocks that pile up. 1. What is the topic noun? ( the noun that is often talked about) Mountains Volcanic mountains Block mountains Earth's surface 2. What is the topic ideas? mountains around the world. mountains and how they are formed
  • 14. the earth's landforms how mountains differ from each other 3. What is the topic sentence? Sentence 1 Sentence 2 Sentence 5 Sentence 7 B. (1)Firemen aren't the only people who have favourite animals as mascots. (2)They usually have a spotted dog. (3) At a school for soldiers, called West Point , the students have a mule for their mascots . (4)At a school for sailors , the students have a goat. (5)And at the Air Force school the mascot is a bird. 4. What is the topic noun? firemen animals mascots soldiers 5. What is the topic idea? favourite animals the military mascots
  • 15. spotted dog mascots mascots of various types 6. Which sentence contains the topic idea? Sentence 1 Sentence 2 Sentence 4 Sentence 5 C...... (1)Birds are excellent source of food. (2)Chickens and turkeys are examples of birds which supply man with great quantities of meat. (3)Chickens and other birds also supply eggs. (4)Farmers consider most birds as friends because they destroy insect pests and the seeds of weeds. (5)Birds are useful to people. (6)Salt Lake City has a monument to sea gulls, which ate up many thousands of crickets that threatened crops of the Mormon farmers. (7)Many birds of prey destroy harmful mice, rats, and ground squirrels. 7. What is the topic noun? food farmers chickens birds
  • 16. 8. What is the topic idea? birds as a source of food how farmers raise food why birds are useful to man the monument at salt Lake City 9. Which sentence contains topic idea? Sentence 1 Sentence 3 Sentence 5 Sentence 7 D....... (1)Electricity is a servant for modern man. (2)It provides power to do a lot of work for him. (3)It heats homes and stores. (4)It cools buildings by running air conditioners. (5)Electricity can also be very dangerous to man. (6)Lightening, a form of electricity, has started many fires and struck many people. (7)Other injuries and deaths have come from electricity in the home. (8)Electricity is helpful but dangerous , too. 10. What is the topic noun? electricity servant
  • 17. modern man form of electricity 11. What is the topic idea? Electricity - its use Electricity - its danger Electricity - a servant for modern man Electricity - helpful but dangerous 12. Which is the topic sentence? Sentence 1 Sentence 2 Sentence 8 E.......... (1)Between 1846 and 1854 about a million Irish died of starvation. (2)During that time, more than one and a half million Irish left their country. (3)Others left because they were not allowed to worship as they wanted. (4)There were good reasons why so many Irish left their homeland. (5)The main reason was the potato famine. (6)For years, the potatoes would not grow in Ireland. (7)They had a disease and because of this many people died of starvation. 13. What is the topic noun?
  • 18. Irish starvation famine potatoes 14. What is the topic idea? starvation in Ireland the potato famine reasons why Irish left homeland freedom of worship 15. Which sentence contains the topic idea? Sentence 1 Sentence 4 Sentence 5 Sentence 6
  • 19. main idea ไปแลว จะทําใหไมเกิดเนื้อเรื่องตางๆ ขึ้น หรือทําใหไม ทราบจุดประสงคเรื่องนั้นๆ แลวทําใหเกิดความเขาใจ คลาดเคลื่อนได โดยปกติแลว main idea จะเปนประโยค เทานั้น การวิเคราะหและคนหา main idea ได ตองเกิดจาก การคนหา Topic มากอน และนําเอาสวน topic มารวมกับ ขอความ ที่ควบคุมสาระเกี่ยวกับ topic นั้น กลาวโดยสรุป คือ 1) พินิจพิเคราะหและหา topic หรือเนื้อเรื่องที่อาน วา ดวยเรื่องอะไร (What is the topic idea?) What 2) สวนที่ควบคุมประเด็นสาระที่เสนออยูน้นคืออะไร นั่น ั คือถูกควบคุมใหพูดถึงสิ่งใด แลวนําเอา topic + สิ่งที่ควบคุม controlling idea) ก็จะไดเปน main idea จึงเห็นไดวา main idea ที่ถูกตอง จะตองครอบคลุมสิ่งที่กลาวในเรื่องได โดยเฉพาะประเด็นหลักMain Idea & Topic sentence มี ความคลายคลึงกันมาก Topic Sentence หมายถึง ประโยคที่บรรจุหัวเรื่อง และใจความสําคัญไว สวนใหญมักวางไวที่ประโยคแรก หรือ
  • 20. ประโยคสุดทายของขอความ ซึงมักหาไดจากเนื้อเรื่องMain Main Idea มี 2 ชนิด 1. State main idea คือ หลักใหญใจความที่สําคัญที่สุด ของเรื่อง ซึ่งผูเขียนบอกมาตรงๆ สามารถครอบคลุมเนื้อหา ของเรื่องไดท้งหมด จะตองตั้ง main idea ไวในการเขียน และ ั บรรยายหรือธิบายโดยยึด main idea เปนหลัก สวนที่ขยาย หรือบรรยายใหรายละเอียดตอจาก main idea คือ supporting idea โดยปกติ ในเนื้อความหนึ่งๆ เรามักจะพบ state main idea ไดในตอนตน ตอนกลาง หรือตอนทายของ ยอหนา 2. Implied main idea หมายถึง การกลาวถึง main idea ในลักษณะที่ผูเขียนไมไดเอยมาตรงๆ ทันที เพียงแตแสดงนัย ใหเห็นเทานั้น ผูอานตองวินิจฉัยเอาเองเพื่อใหเห็นไดชัด Main Idea ทีกี่ชนิดตําแหนงของ Main Idea อยูตรงไหนบาง1. อยู ตรงตนเรื่อง 3. อยูตรงกลางเรื่อง. 4. อยูตนเรื่องและทาย เรื่อง (มีการกลาวซ้ําอีกครั้งในตอนทาย) 5. ไมอยูใน ประโยคใดประโยคหนึ่ง แตตองสรุปเองโดยนัย ดังที่กลาว แลววา การหา main idea นั้น จะตองมีการคนหา topic กอน ดูวาเรื่องที่อานกลาวถึงคํานามตัวไหนบอยที่สุด (topic Noun) แลวดูวามีการกลาวถึงนามคํานั้นวาอยางไร (Topic Idea) แลวจึงดูวาขอความที่เปนใจความสําคัญของเรื่อง
  • 21. topic idea นั้นอยูในประโยคใด ประโยคนั้นแหละเปน Topic sentence หรือ Main Idea การหาใจความสําคัญของสิงทีอาน(Finding Main Ideas) ่งที่ น(Finding สาระสําคัญ การหาใจความสําคัญ (Main Idea) ของสิ่งที่ อาน เปนเทคนิคอยางหนึ่งของการอาน หากผูอานสามารถ หาใจความสําคัญไดก็จะเปนการงายที่ผูอานจะคาดเดาไดวา สิ่งที่อานเปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร ซึ่งจะทําใหผูอานสามารถ อานไดเขาใจดียิ่งขึ้น การรูจักหาใจความสําคัญของสิ่งที่อาน จึงเปนวิธีที่ผูอานควรจะเรียนรูและฝกฝนอยูเปนประจําเวลา อานอานใด ๆ ก็ตาม ซึ่งจะเปนประโยชนตอผูอานเปนอยาง มาก การอานแบบ Skimming คือการอานแบบรวดเร็ว เพราะ ผูอานไมจําเปนตองอานทุกตัวอักษร ผูอานจะอานตรง 2-3 ประโยคแรก เสร็จแลวจะอานตรงกลางยอหนา หลังจากนั้นก็ จะอาน 2-3 ประโยคสุดทายเทานั้น แลวจับประเด็นวาผูเขียน กลาวถึงอะไร ในที่สุดผูอานก็จะสามารถหาใจความสําคัญ (Main Idea) ของสิ่งที่อานได เชน How much do you remember of what you learned over the past academic year? How many of your high school classmates could you call by name right now? How many times a week do you forget appointments,
  • 22. chores, and other details of everyday life? Before you groan in self-disgust, take heart at how normal you are. We all forget all kinds of things all the time. จะพบวา ประโยคแรกผูเขียนถามเราวา เราจําสิ่งตาง ๆ ที่ เราเรียนมาในวัยเรียนไดมากแคไหน ประโยคที่สองถามวา เราสามารถเรียกชื่อเพื่อนรวมหองเรียนไดสักกี่คนและจบดวย ประโยคสุดทายวา เราทุกคนมักจะลืมทุกสิ่งทุกอยางอยู ตลอดเวลา ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงนาจะอยูที่ประโยค สุดทาย คือ We all forget all kinds of things all the time. ประโยคหัวขอเรือง (Topic Sentence) คือ ประโยคที่บรรจุ ่ หัวขอเรื่องและใจความสําคัญ ซึ่งเปนความคิดรวม ๆ เกี่ยวกับ ยอหนานั้น ๆ ประโยคหัวขอเรื่อง จะอยูตรงจุดใดในยอหนาก็ ได ใจความสําคัญ (Main Idea) คือ สาระสําคัญ หรือประเด็นรวม ของใจความในยอหนาที่กลาวถึงหัวขอเรื่อง (Topic) ใจความ สําคัญ จะมีลักษณะเปนรูปประโยค(Sentence) มักจะปรากฎ อยูในประโยคหัวขอเรื่อง (Topic Sentence)
  • 23. ตําแหนงของใจความสําคัญ (Main Idea) 1. ถาในยอหนานันมีประโยคหัวขอเรื่อง (Topic Sentence) ้ ตําแหนงของใจความสําคัญ (Main Idea) จะปรากฎอยู 3 จุด ดังนี้ 1.1 Main Idea อยูทประโยคแรกของยอหนา เชน ี่ ระโยคแรกของย A baby elephant is the biggest of all land babies. A newborn baby weighs more than two hundred pounds. It is about three feet high. The new baby is strong, too. Almost as soon as it is born, it can walk about. ยอหนานี้กลาวถึงลูกชางวาเปนลูกสัตวบก (land babies) ที่มี ขนาดใหญที่สุด โดยบอกวา ลูกชางที่เกิดใหม จะมีน้ําหนัก มากกวา 200 ปอนด และสูงราว ๆ 3 ฟุต นอกจากนี้ยัง แข็งแรงดวย เพราะตอนที่คลอดออกมา มันจะสามารถเดินได ทันที ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคแรก คือ A baby elephant isthe biggest of all land babies. 1.2 Main Idea อยูทประโยคทายของยอหนา เชน  ี่ Most people are free to enjoy themselves in the evenings and on weekends. Some spend their time watching television, listening to the radio, or going to movies; others participate in sports. It depends on their interests. There are various ways to spend one'sfree time.
  • 24. ยอหนานี้กลาวถึง การใชเวลาวางของคนในตอนเย็น และวัน สุดสัปดาหวา บางคนจะดูโทรทัศน บางคนฟงวิทยุ ไปชม ภาพยนตรหรือไปเลนกีฬา มันขึ้นอยูกับความสนใจของแตละ คน มีวิธีที่จะใชเวลาวางมากมายหลายวิธี ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคทาย คือ There are variousways to spend one's free time. 1.3 Main Idea อยูทประโยคกลางยอหนา เชน ี่ Keep your tree outdoors until the day before Christmas. Never use lighted candles. There are also other suggestions for avoiding a Christmas tree fire. Turn offthe lights before you leave the house and throw away the tree by New Year's Day. ยอหนานี้กลาวถึงคําแนะนํา เพื่อหลีกเลี่ยง มิใหเกิดไฟไหม ตนคริสตมาสวา ใหนําตนคริสตมาสไปไวนอกบาน กอนจะถึง วันคริสตมาสและไมใหจุดเทียนไวดวย นอกจากนี้ยังแนะนํา อีกวา ใหปดไฟกอนออกจากบาน และทิ้งตนไมเมื่อถึงวันป ใหม ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) จึงอยูที่ประโยคกลาง คือ There are alsoother suggestions for avoiding a Christmas tree fire. 2. ถาในยอหนานันไมมประโยคหัวขอเรือง (Topic ้ ี ่ Sentence) มักจะเปนการเขียนแบบพรรณนา (Description)
  • 25. และแบบเลาเรื่องหรือบรรยายเรื่อง(Narration) ทุกประโยค ในยอหนาจะสัมพันธกัน และมีความสําคัญเทาเทียมกันหมด เพราะเปนการกลาวถึงสิ่งเดียวกัน ในลักษณะที่ไมใชเปนการ เสริม หรือสนับสนุน ประโยคใดประโยคหนึ่งโดยเฉพาะ โดยมากจะเปนเรื่องเกี่ยวกับการกลาวถึงบุคคล หรือสถานที่ ผูอานจะตองพยายามทําความเขาใจกับรายละเอียดทั้งหมด แลวจับใจความใหไดวา รายละเอียดทั้งหมดกลาวถึงอะไร สิ่ง นั้นก็จะเปนใจความสําคัญของยอหนา เชน On weekends as soon as Tom gets out of his bed, he seats himself right in front of the television and starts searching for his favourite programme. "Have your breakfast, please Tom," his mother tells him, but that won't make him move at all. At her second call he will slowly get up and turn the television set to face the dining table.He doesn't miss any part of the programme while having breakfast. After he has finished,he moves the television set to its normal direction and watches on and on until the end of the last afternoon programme – at 6:30 P.M. ยอหนานี้กลาววา ในวันสุดสัปดาห Tom จะดูโทรทัศน ตลอดเวลา จนจบรายการสุดทายของตอนบาย คือ 18.30 น. เริ่มตั้งแตพอลุกจากที่นอนมา ก็จะมานั่งอยูหนาโทรทัศนทันที
  • 26. แมกระทั่งถึงเวลาอาหารเชา แมก็ตองเรียกใหไปทาน แมตอง เรียกถึง 2 ครั้ง จึงจะยอมลุกไปทาน จะทานอาหารยังตอง หมุนโทรทัศนไปทางโตะอาหาร เมื่อทานเสร็จแลว ก็จะหมุน โทรทัศนกลับไปไวทางเดิม แลวก็น่งดูตอจนจบรายการใน ั ภาคบายตอน 18.30 น. ดังนั้น ใจความสําคัญ (Main Idea) ของยอหนานี้ จึงควรจะ เปน Tom watchestelevision all day on weekends. (ทอมดู (ทอมดู โทรทัศนท้งวันในวันสุดสัปดาห) ั คําถามทีนิยมใชถามเกียวกับใจความสําคัญ (Main Idea) ่ ่ 1. What is the author's main point? 2. The main thought of this passage is that _____ . 3. The main theme of the passage is _____ . 4. The best statement of this passage's main thought is that _____ . 5. What is the main idea of the passage? 6. What is the main idea expressed in the passage? 7. The best statement of the main idea of this passage is that _____ . 8. The passage's main thought is that _____ . 9. An expression describing the theme of the above passage is _____ .
  • 27. แบบทดสอบ Main Idea Main Idea Level General Person คําชีแจง Use your knowledge of main idea to help ้ you fine the main idea of the words below. 1. What’s the main idea? ;;;;My name is Maria, and I live at 645 B Street. I like B Street. It is a nice street. a. My name is Maria. b. I live on B Street. c. Maria is pleased to live on B Street. 2. What’s the main idea? John : Hello. My name is John. Maria : I’m happy to meet you. My name is Maria. John : Pleased to meet John. a. My name is Maria. b. John and Maria meet. c. My name is John.
  • 28. 3. What’s the name of the picture? a. Hello. b. Goodbye c. I live on B Street. 4. What’s the main idea? ;;;;My name is Paul. I live on Avenue A. My friend Tony lives on B Street. B Street meets Avenue A. I meet Tony at B Street and Avenue A. Where do you meet your friends? a. Paul lives on Avenue A. b. Where do you meet your friends? c. Paul and Tony meet at B Street and Avenue A. 5. What’s the main idea? ;;;;1.Every day our teacher says,”Rudy,where is your pencil?” 2. Is it in his notebook? 3. No, it isn’t. 4. Is it in his book? 5. No. 6. Rudy’s pencil is always at home on his table. a. Sentence 1
  • 29. b. Sentence 2 c. Sentence 6 6. Which sentence tells the main idea? ;;;; I need a pair of shoes. I like red shoes. There are no red shoes in this store. We’re buying a pretty white pair. I like them too. a. I like them too. b. There are no red shoes in this store. c. I need a pair of shoes. 7. Which sentence tells the main idea? ;;;;How many men are in your family? There are four in my family. There are my father, me , and my two brothers. a. There are four men in my family. b. How many men are in your family? c. There is my father. 8. These are details. What is the main idea? a new pair of shoes for Nadia a blue shirt for Huino a green dress for Mother a. We have a new television at home.
  • 30. b. The Neftal family went to the store. c. The bus was late. 9. Which is the main idea? ;;;; The others are details. a. going to the supermarket b. a dozen eggs c. buying meat 10. These are details. What is the main idea? cola orange drink tea coffee a. There are many things I like to eat. b. There are many things I like to drink. c. Ella went to the store to buy some clothes.
  • 31. (การเดาความหมายจากบริ ท) การใช Context Clues (การเดาความหมายจากบริบท) Context Clues การเดาความหมายจากบริบท context = ปริบทหรือบริบท , clue = ตัวชี้แนะ อุปสรรคที่มัก พบบอยๆ ในการอานภาษาอังกฤษ ก็คือ การไมรูความหมาย ของคําศัพท ทําใหไมสามารถเขาใจขอความที่อาน ไมสามารถ ตีความโจทยขอสอบได อานไมเขาใจ ทําขอสอบไดไมดี วิธีท่ี จะชวยแกปญหานี้ก็คือ ตองรูความหมายศัพทและสามารถ นําไปใชได แตการรูความหมายศัพทโดยไมตองเปพจนานุ กรม (Dictionary) นั้น ทําไดอยางไร คําตอบก็คือ นักเรียนมี ความจําเปนที่จะตองเดาความหมายนั้นจากบริบท (Context) ซึ่งหมายถึง ขอความ หรือศัพทหลายๆ คําซึ่งแวดลอมคําศัพท ตัวที่เราไมรูความหมาย แลวทําใหเดาความหมายของศัพทท่ี ไมรูได บริบทเปนสิ่งจําเปนตอการเขาใจคําศัพท เปนอยาง มาก ทั้งนี้เพราะ ความหมายของคํา คําใดคําหนึ่งนั้นจะตอง ขึ้นอยูกับคําอื่นๆ ซึ่งอยูขางเคียงดวย เชน คําวา "about" We know about that. (about = concerning) แตถา It is about six o'clock. (about = close to) เปนตน ผูอานสามารถตีความหมายไดโดยอาศัยสิ่งแนะที่อยูในปริบท (Context Clues) สิ่งชี้แนะหรือตัวสัญญาณ (Clues / signal words) สามารถชวยชี้แนะความหมายของคําศัพทที่ไมคุนเคย ใหกับผูอานไดอยางถูกตองตรงตามปริบท สิ่งชี้แนะหรือตัว สัญญาณที่สําคัญไดแก
  • 32. 1. Definition type (การใหคํานิยาม)เชน to be, to be called , to be defind as , to be known as , to be referred 2. Restatement type (การกลาวซ้ํา)เชน or , that is , in other words , that is to say , in fact , indeed 3. Example type (การยกตัวอยาง)เชน for example , in fact , such as , e.g. , specially , thus , except that 4. Comparison or Contrast type (การเปรียบเทียบ หรือ บอกความแตกตาง)เชน as..as , if , like , same as 5. Cause and Effect relationship type (การใช ความสัมพันธในเรื่องเหตุและผล)เชน so , thus , hence 6. Modifier type (การใชตัวขยาย)เชน in addition to , the last , finally , and , also , another , the next 7. Contrast (คําตรงขาม) เชน but , however , on the other hand , though , even though , still , rather 8. Conclusion (เรื่องยอทั้งหมด)เชน all in all , in conclusion , in short , in brief 9. Enumeration (บอกลําดับเวลา)เชน first , second , third , later , before , as soon as 10. purpose (จุดประสงค)เชน in order to , for , to , so that , such for the purpose of
  • 33. เมือพูดถึงการพัฒนาการอานโดยฝกเทคนิคการอานเร็ว ่ หรืออานแบบควบคุมเวลาแลว ครูกเลยอยากจะแนะนํา ็ เทคนิคการอานเพิ่มอีกสักเทคนิคหนึงเทคนิคทีเราจะคุยกัน ่ ่ ในตอนนีเรียกวา Scanning คะ ้ Scanning เปนทักษะการอานเร็วที่มีลักษณะคลาย กับ Skimming ที่ครูแนะนําใหรูจักกันไปแลว คือเปนการ กวาดตาคราวๆ อยางเร็วๆ ไปบนสิ่งที่เราจะอานเหมือนกัน ตางกันก็ตรง Scanning เปนการกวาดตาอยางรวดเร็วเพื่อหา เปาหมายหรือขอมูลเฉพาะอยาง เรียกวาเราตองมีจุดประสงค อยูในใจอยางแนวแนวาเราตองการรูหรืออานเพื่อคนหา อะไร โดยปกติเราใชเทคนิคการอานแบบ Scanning กับ ชีวิตประจําวันอยูบอยๆ เชน การดูประกาศผลสอบ ครูวาคง ไมมีใครอานตั้งแตชื่อแรกที่ประกาศ แลวก็อานไปเรื่อยๆ จนกวาจะเจอชื่อของเราหรอกนะ มีไหมที่ใครจะเริ่มตนอาน ตั้งแตหมายเลขหนึ่ง นางสาวบุญทิ้ง บุญชิงชัง หมายเลขสอง นายสมหลน สุดหมนหมอง....ไมมี แตเราจะใชเทคนิคการ Scanning คือกวาดตาคราวๆ โดยมีเปาหมายคือชื่อของเรา เองอยูในใจ แลวเราก็ Scan หาแตชื่อของตัวเองโดยไมสนใจ ชื่ออื่นๆที่เราไมไดต้งใจจะหา หรือการอานเพื่อหาความหมาย ั ของคําศัพทที่ตองการจากพจนานุกรม เราใชเทคนิคการ Scan เหมือนกัน คงไมมีใครเปดอานตั้งแตคําแรกในหนาแรก หรอกจริงมั้ย เรามีเปาหมายวาเราตองการหาคําศัพทคําไหน
  • 34. เราก็ Scanหาคํานั้นเลย นอกจากนี้เรายังใชเทคนิค Scanning กับการอานตางในชีวิตประจําวันของเราอีก เชน การคนหาหัวขอที่เราตองการอานในหนาสารบัญ การอาน เพื่อหาขอมูลที่ตองการจากตาราง แผนภูมิ หรือกราฟ ถาใครนึกภาพไมออก ลองคิดตามครูนะคะ ลองนึกถึง เวลาที่คุณเขารานหนังสือ เวลาที่คุณเดินเขาไปคุณทํายังไงคะ คุณดูหนังสือทุกๆ เลมทั้งรานเลยหรือเปลา ครูวาไมมีใครทํา อยางนี้แนนอน แลวเราทํายังไงกัน ถาใครเขารานหนังสือโดยไมมีเปาหมายอะไรเลย ก็แค อยากเขามาดูๆ วาจะมีหนังสืออะไรนาสนใจเผื่อจะซื้อกลับไป อานสักเลม ลองนึกดูสิคะวาเราจะมีพฤติกรรมอยางไร คน กลุมนี้จะกวาดตาดูคราวๆดูช้นโนนทีดูช้นนี้ที เรียกวาดูไป ั ั เรื่อยๆจนกวาจะเจอหนังสือที่โดนใจ พฤติกรรมแบบนี้นี่แหละ คือเทคนิค Skimming คะเอ! ใชทักษะการ Skim แลวจะรูไหม เนี่ยวามีหนังสืออะไรกันบาง รูสิคะ แตเปนความรูแบบ กวางๆอาจจะรูวามีหนังสือประเภทไหนบางหรือรูวามีหนังสือ อะไรบาง แตบางครั้งที่เราเขารานหนังสือ เรามักจะมี เปาหมายหรือจุดประสงคอยางชัดเจนวาเราอยากอานหนังสือ อะไร ( ความจริงครูนาจะบอกวาอยากซื้อหนังสืออะไร แต เดี๋ยวนี้คนเขารานหนังสือเพราะไปอานหนังสือเยอะกวาไปซื้อ ซะอีก )เราก็ใชเทคนิค Scanning คือกวาดตาอยางมี เปาหมายวาวันนี้จะมาอานหนังสือภาษาอังกฤษ เราก็จะ
  • 35. กวาดตาหาแตหมวดภาษาอังกฤษซึ่งเปนเปาหมายของเรา หมวดอื่นๆ เราก็มองผานไป นั่นแนเจอแลวหมวด ภาษาอังกฤษที่เราอยากอาน แตที่หมวดนี้ก็มีหนังสืออีกเยอะ มากๆ จะทํายังไงดีละ เราก็ตองใชเทคนิคการ Scan ตออีก แลว เราตองรูวาเปาหมายหรือหนังสือที่เราจะมาอานในวันนี้ คืออะไร สมมุติอยากมาอานหนังสือ “ ไมอยากทองจํา...จะ...จะ ทําไงดี?” เราก็จะ Scanหาแตเลมที่เราตองการเทานั้น ถา ?” สายตาจะบังเอิญไปเจอหนังสือภาษาอังกฤษเลมอื่นๆ ก็จะไม สนใจ แตจะกวาดตาอยางเร็วๆ จนเจอเลมที่เราตองการคะ O.K. ไหมคะ การอานแบบ Skimming Skimming เปนวิธีการอานแบบหนึ่งที่แตกตางไปจากการ อานแบบธรรมดา เพราะการอานแบบนี้เปนการอานอยาง รวดเร็ว เพื่อตองการขอมูลโดยทัว ๆ ไป ่ (GeneralInformation) จะไมอานทุกตัวอักษรจะอานขามคํา ขามประโยค แตก็สามารถจับใจความได การอานแบบนี้มี ประโยชนตอนักเรียนกมาก เพราะจะตัองอานหนังสือ มากมายหลายเลม และไมมีเวลาพอที่จะอานทุกเลมอยาง ละเอียดถี่ถวน ดังนั้นนักเรียนตอง รูวิธี Skim เพื่อประหยัดเวลา จุดประสงคการอานแบบ skim จะแตกจางจากจุดประสงคการอานธรรมดา คือ
  • 36. นักเรียนตองรูเนื้อหาโดยทั่ว ๆ ไปใหมากที่สุด แตไม จําเปนตองสนใจกับรายละเอียด ทั้งหมด ขันตอนของการอานแบบ Skimming ้ 1. อานหัวเรื่อง 2. ดูชื่อผูแตงและหนังสืออางอิง 3. อานยอหนาแรกอยางละเอียด 4. อานหัวเรื่องยอย และประโยคแรกของทุกยอหนา 5. อานเรื่องทั้งหมดอยางรวดเร็วเนื้อหา - Topic - Main Idea - Clue Word เชน ชื่อคน , วันที่ และ adj. ที่ สําคัญ - คําที่แสดงความคิดเห็นของผูแตง เชน เห็น ดวย หรือไมเห็นดวย 6. ในยอหนาสุดทายถาเปนการสรุปตองอานให ละเอียด 7. นักเรียนตอง skim เรื่องสวนใหญใหได 1,000 คํา ตอ นาที การอานแบบ Scanning คือ การอานแบบรวดเร็ว เพื่อหาคําตอบที่ตองการ เชน การหาเบอรโทรศัพทในสมุดโทรศัพท, การคนหา
  • 37. ดรรชนีในหนังสือตําราเรียน, การอานโฆษณาตาง ๆ หรือแมแตการคนหาคําศัพทในพจนานุกรม คําถามที่นักเรียนมักจะเจอ ในการถามรายละเอียดใน การอานแบบ Scanningอาจมีดังนี้ According to the passage ..................................... The passage states that ..................................... The author states that ..................................... What does the author say about ..................................... Which of the following is not true? Which of the following is not stated in the passage? All of the followings are true except ..................................... ขันตอนในการอานดวยวิธี Scanning มีดงนี้ ้ ั 1. อานคําถามเกี่ยวกับขอความนั้น ๆ กอนเพื่อ ประหยัดเวลา และชวยในการหาคําตอบไดรวดเร็วขึ้น 2. อานขอความอยางรวดเร็ว เมื่อพบขอความ เกี่ยวกับคําตอบแลว ใหอานชาลงและอานดวย ความรอบคอบระมัดระวัง และพยายามหาคํา และ กลุมคําที่สําคัญ (Key words and phrases) ที่จะชวยใหคําตอบที่ถูกตอง
  • 38. 3. หากเปนขอสอบแบบเลือกตอบ (Multiple choices) ใหกําจัดคําตอบที่ผิดออก และเลือกคําตอบที่ดีที่สุดที่เหลืออยู The Taj Mahal Often called the most beutiful building in the world, The Taj Mahal stands in the town of Agra in India. It is in fact a tomb built by the emperor Shah Jahan for his wife who died in 1931. Visitors to the Taj Mahal enter through a red sandstone gateway which leads into a beautiful walled garden in which a watercourse runs between rows of slender cypress trees. A the end of the watercourse The Jaj Mahal stands on a marble terrace. It’s square building made from pure white marble and topped by a dome. Four slender white minerals or towers rise from the corners of the terrace. Beneath the dome is an eight-sided chamber with a carved marble screen around the tombs of the emperor and his wife. The chief architect of the Taj Mahal was Ustad Isa, who may have been a Persian. The building
  • 39. and ornamentation was done by 20,000 men and craftsmen from all parts of Asia. (1632-1650.) 1. Where is the Taj Mahal built ? a. the town of Emperor b. the town of Jahan c. the town of watercourse d. the town of Agra 2. Who built the Jaj Mahal ? a. the Emperor’s wife b. the Emperor Shah Jahan c. the architect d. all the above 3. What trees wee grown in the walled garden ? a. cypress b. slender c. watercourse d. white minaret 4. How long had the Taj Mahal built ? a. ten years b. fifteen years c. seventeen years d. nineteen years
  • 40. หมายเหตุ 1. Comma (,) ขอความที่อยูหลังเครื่องหมายแหลานี้จะขยาย ขอความที่อยูขางหนา 2. Semicolon (;) เชื่อมประโยคเขาดวยกันอยูหนา Adverb( คําวิเศษณ)เชื่อมประโยคหลักกับรอง 3. Colon (:) บอกถึงขอความขางหนา 4. Dash (-) ใชเหมือน (,) ขยายขอความขางหนา 5. Parentheses ( ) อธิบายถึงความคิดหลัก ขอความ ขางหนาตัว ( ) บอกใหเขาใจ เนื้อเรื่องประกอบไปดวย Paragraph (ยอหนา) ตองมองหา 3 อยางคือ 1. Topic (หัวขอเรื่อง) กลาวแทบทุกประโยค 2. Main idea (ใจความสําคัญของ Topic) พูดถึง Topic วา เปนอยางไร 3. Topic sentence (ประโยคหลัก) เลาถึง Topic โดยสรุป มักอยูประโยคแรก หรือ ประโยคสุดทาย คําศัพทที่มักเจอในคําถามการอานเชน passage เนื้อหา, text ขอความ, paragraph ยอหนา,mean หมายถึง , purpose จุดประสงค , author tone น้ําเสียงผูเขียน เปน ตน
  • 41. การอานเพื่อจับใจความสําคัญในขอความหรือเรื่องสันๆ ้ ในทุกขอความหรือเรื่องสั้นๆที่เราอานสิ่งที่เราควรรูคือ ใจความสําคัญ(Main idea) สวนมากจะอยูในประโยคหลัก (Topic sentence) บางครั้งอาจปรากฏอยูตอนกลางหรือ ตอนทาย เชน 1. Jack likes school. He likes his teachers and his friends. He enjoys learning. He likes to eat in the cafeteria. He walks to school early every day. He’s happy in school. The main idea of the paragraph is…………………… a. Sentence 1 b. Sentence 2 c. Sentence 3 d. Sentence 4 2. A man and a boy are in the department store. They’re buying shirt. Two men is buying a white and a blue shirt. The boy needs the shirts for wearing to school. The main idea of the paragraph is…………………… a.Sentence 1 b. Sentence 2 c. Sentence 3 d. Sentence 4
  • 42. 3. Fins are a grate help in swimming. A fish pushes itself forward by moving its tail fin from side to side. Its other fins help it keep its balance. They also help guide it. The topic of the paragraph is…………………………. a. A fish b. The fins c. A guide d. swimming 4. Keep your tree outdoors until the day before Chritmas. Never use lighted candies.There are some suggestions for avoiding a Christmas tree fire. Turn off the lights before you leave the house and throw it away by New Year’s Day. The topic of the paragraph is…………………………. a. Keeping a tree outdoors b. Avoiding a Christmas tree fire c.Turning off the lights d. Throwing the tree away การอานโฆษณา ขอความโฆษณามีลุกษณะแตกตางไปจากขาว สวนใหญจะ เปนการรับสมัครงาน การซื้อ-ขายสินคา หรือเปนประกาศ
  • 43. THE NATION ( ) Thailand English Language newspaper Two position are now open for experienced writers. Successful candidates must have the following qualifications.( ) • Thai national or Native English speaker • Must be able to write well in English on a variety of subjects • Must be ready to work long hours • Must show responsibility and initiative • Must be able to type in English( ! "#$ %) Interested persons please apply in person or send application with resume and a recent photo to : (ก % %) PERSONNEL DEPARTMENT 59 SOI SAENGCHAN SUKHUMVIT 42 BANGKOK 10110( ' () * )
  • 44. แจงใหทราบ สวนประกอบสําคัญที่จะทําใหเราอานขอความ โฆษณาใหเขาใจคือการรูความหมายของคําศัพท และจะตอง อานใหไดใจความวาใครเปนผูประกาศหรือโฆษณา วัตถุประสงคเพื่ออะไร รายละเอียดที่ควรทราบมีอะไรบาง เทคนิคที่จะจับใจความไดผูอานควรรูจักสวนประกอบของ โฆษณาเชน GEMA( $) The world8s leading manufactures of water filter which will protect you and your family from Typhoid , Salnonella , Bilharzia , Clolera.( %% $) 12 months guarantee After-sales service ONLY 2,900 BAHT(% ) TEL: 02-245-3895(. %/0(% * ) TEL : 02-373-8376
  • 45. LAND&HOUSES( - ) New one-storey brick house with garden , one master bedroom , air , tel , fully funitured , Soi Aree 4 , Phaholyothin Road.B 4,500/m( BCDEFกHDI / JKLMO / BPQRSPQ) FN Phatinee. Off: 02-252-4071 ext 205(RTUVWXJVMYZMPU) Home : 02-279-6945 ตัวอยางขอสอบ LUCK HAND WOVEN Thai Silk , Fashionable ready made clothing Antique Fabrice Call : Prapan for appointment 02-2595295 ,6/9Sukhumvit 26 OUTSTANDING VULUE! Full golf set from B.7,900 , leading makes stocked full club fitting service available free of charge. Open. Everyday T. 02-391-2280 , 02-392-9530-1
  • 46. a. You want to buy a golf set. B. you want to buy a piece of silk. การอานขาวสารระหวางบุคคล เทคนิคจะตองอานใหเขาใจเนื้อเรื่องแลวก็ตองทราบวา สารนั้นๆ สงถึงใคร ใครเปนผูสง สงเมื่อใด เชน 26/7/99( () ) ATTENTION : KHUN PRANEED SIHSOBHON("#$% ) WE HAVE JUST RECEIVED THE SAD NEWS OF KHUN PATHOM8S PASSING AWAY WE WISH TO CONVEY OUR DEEPEST CONDOLENCES TO YOU AND ALL HIS RELATIVES ON YOUR SAD BEREAVMENT.(!$ ) WITH KIND REGARDS,( 2 ($ ) HOREST FRUECHTENICHT AND RICHARD STITT("#$ ) 71820 PAC B+(% ก % ) 49331 CASASIA TH
  • 47. Horst Fruechtenicht & Richard Stitt สงหนังสือถึงนาง ประนีต สีหโสภณ เพื่อแสดงความเสียใจถึงการจากไปของคุณ ปฐม สีหโสภณ อยางไมมีวันกลับ 1. Who is the receiver of this message? 2. What is the purpose of this message? 3. What did you know about the message? การอานวิธปฏิบติ ี ั Instructions หมายถึง คําสั่งหรือการบอกวิธีใชหรือวิธีปฏิบัติ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เชน การสั่งใหแสดงกิริยาอาการตางๆ การ บอกวิธีใชผลิตภัณฑตางๆ เทคนิคก็คือการรูประเภทของสิ่งที่ จะปฏิบัติ การรูความหายคําศัพท รูข้นตอนของการปฏิบัติ ั และจุดมุงหมายในการปฏิบัติ ตัวอยางเชน 1. The exercise for losing weight around the stomach. Lay flat on your back with feet firmly together and arms at your sides. Keep your legs as straight as possible. Touch your toes with the tips of your fingers. (การออกกําลังเพื่อลดหนาทอง วิธีปฏิบัติ นอนราบ ขาชิด แขนแนบลําตัว ใหขาเหยียด ตรงเทาที่จะทําได กระดกตัวขึ้นโดยใหปลายนิ้วมือแตะที่ ปลายนิ้วเทา)
  • 48. 2. How to use powder. Use daily after bath or before bedtime to help cool , refreshed and delicately perfumed. (วิธีการใชแปง ใชทาผิวและลูบไลตาม รางกายหลังอาบน้ํากอนเขานอนและในยามอากาศรอน อบอาวเพื่อความเย็นสบายและหอมสดชื่น) ตัวอยางขอสอบ Mix one cupful ESSENCE to four liters of water. Soak garments for minutes. Gently rub. Rinse thoroughly with water. 1. What does the instruction tell about? a. Garments b. Rinsing c. Drycleaner d. A cupful 2. How do you use it ? a. It’s up to you. b. Mix 2 cupful “ESSENCE” to 4 liters of water. c.Rinse completely with water d. Mix 1 cupful “ESSENCE” to 4 liters of water.
  • 49. การอานปายประกาศตางๆ ปายประกาศตางๆมักเปนคํา หรือวลีส้นๆ ตองรู ั ความหมายของศัพทแลวจะอานไดเขาใจเชน 1. BEWARE OF THE DOG = ระวังสุนัข 2. DON’T LEAN OUT OF THE WINDOW = อยายื่นแขน หรือศรีษะออกนอกหนาตาง 3. NO SMORKING = หามสูบบุหรี่ 4. NO PHOTO = หามถายภาพ 5. NO KIDDING = หามหยอกลอ 6. FASTEN SEAT BELT = รัดเข็มขัด 7. VISITORS ONLY = ที่เฉพาะแขก 8. KEEP OFFTHE GRASS = หามเดินลัดสนามหญา 9. ON SALE NOW = กําลังลดราคา 10. NEW ARRIVAL = สินคาตัวใหม 11. MEETING POINT = จุดนัดหมาย 12. FIRE EXIT = ทางหนีไฟ 13. ESCALATOR = บันไดเลื่อน 14. ELEVATOR = ลิฟท ตัวอยางขอสอบ Where can you see these signs?
  • 50. 1. NO WAITING 2. Passengers Must not Cross the Line 3. Please stand on the right 4. Queue this side 5. PUSH / PULL a. On a door b. on a railway station platform c.on an escalator d. in a street e. on a bus stop การอานขาว ประเภทของขาว ขาวการเมือง poltical news ขาวธุรกิจ Business news ขาวอาชญากรรม Crime news ขาวการศึกษา Education news ขาวการแพทย Medical news ขาวศิลปวัฒนธรรม Arts and Culture news ขาวกีฬา Sports เปนตน เทคนิคคือ ผูอานจะสนใจพาดหัวขาว (head line)ถา นาสนใจก็จะอานเนื้อหาในขาว พาดหัวขาวจะเปนขอความ สั้นกะทัดรัด ไมเต็มตามโครงสรางประโยค ถาขาใจพาดหัว ขาวก็จะพอรูวาเปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร เสร็จแลวตองหาให ไดวา ประธาน คือใคร กริยาหลัก คืออะไรเพื่อจะไดรวา ู
  • 51. ใครทําอะไร แลวแยกสวนขยายประธาน กริยาดวยเพื่อจะ ไดทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ไหน เมื่อไหร อยางไรเชน Accident claims 12 lives ( . ( A $. ) ) 12 ) (A %( BC%)TWELEVE people were killed and four others seriously injured(. C %) when their van and18 _ wheel truck collided(()C ) on an inter-provincial road in Muang District of Si Sa ket Province yesterday. ตัวอยางแบบฝกหัด จงขีดเสนใต หา ประธาน และ กริยาหลักเพื่อที่จะสรุปไดวา ขาวนั้นใคร ทําอะไร 1. 4 arrested near Phuket : Krabi-police have arrested four suspects in Nua Klong District on charges of heroin to customers in Phuket. 2. Police boats sink : TWO Marine Police Boats sank in Muang District of Pattani here after an explosion on one of the boats early yesterday morning. 3. Floods expected : STORMS , heavy rain and flash floods can be expected in the South and around
  • 52. the Gulf of Thailand in the next few days , according to Meteorological Department director- general Smith Thamsaroj. Forecast) การอานพยากรณอากาศ (Weather Forecast) การอานพยากรณอากาศตองรูคําศัพทสภาวะอากาศตางๆ มีดังนี้ 1. Temperature (อุณหภูมิ) C’ = degree Celsuis = องศาเซลเซียส F’ = degree Fahrenheit = องศาฟาเรนไฮท Minimum temperature = อุณหภูมิต่ําสุด Maximum temperature = อุณหภูมิสูงสุด Average temperature = อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 2. Weather (สภาพอากาศ) Clear ทองฟาแจมใส cloudy เมฆมาก fog หมอก frost อากาศหนาว Snow หิมะ rain ฝน dew น้ําคาง flooding น้ําทวม humidity ความชื้น Relative humidity ความชื้นสัมพัทธ average humidity ความชื้นปานกลาง
  • 53. Light rain ฝนเล็กนอย partly cloudy เมฆมาก บางสวน the moon rises ดวงจันทรขึ้น The moon sets ดวงจันทรตก heavy rain/falls ฝน ตกหนัก slight sea ทะเลมีคลื่นเล็กนอย Moderate sea ทะเลมีคลื่นปานกลาง cool เย็น cold หนาว Thundery พายุฟาคะนอง thick patches ละอองน้ํามาก thunderstorms พายุฟาคะนอง Scattered showers ฝนตกทั่วไป isolated showers ฝนเปนหยอมๆ gust ลมแรง Northeasterly wind ลม ตะวันออกเฉียงเหนือ westernly wind ลมตะวันตก The sun sets ดวงอาทิตยตก The sun rises พระ อาทิตยขึ้น high tide น้ําขึ้น low tide น้ําลง เชน THE WEATHER FORECAST For Bangkok Metropolis until tomorrow morning : Light morning fog. Partly cloudy and isolated light showers , northeasterly winds 10-30 kph; minimum temperature 24 c’, Maximum temperature 34 c’ การตอบคําถาม คําถามในภาษาอังกฤษมี 2 แบบใหญๆคือ 1. คําถามชนิดตอบ ใช หรือ ไมใช (yes-No Question)
  • 54. คําถามชนิดนี้มักขึ้นตนดวยกริยาพิเศษหรือกริยาชวย 24 ตัวดังนี้ (is ,am ,are ,was , were , have , has had, do , does , did , must , will , would , shall , should , can , could , ought to , dare , may , might , used to , need) คําตอบหากถามดวยกริยาอะไรก็ตองตอบ ดวยกริยานั้น ดังนี้ yes + ประธาน + กริยา(เปนประโยคบอกเลาเสมอ) หรือ No + ประธาน + กริยา(เปนประโยคปฏิเสธเสมอ) เชน Can you do this ? Yes, I can. / No , I can’t. Will you be there ? Yes , I will / No,I won’t. 2. คําถามชนิดตอบเปนใจความ (Wh-Question) คําถามซึ่งตองการรายละเอียดซึ่งเวลาตอบตองตอบทวน คําถามนั้นหรือบอกรายละเอียดตามคําถามที่ผูถาม ตองการทราบโดยดูคําถามจากตอนขึ้นตนคําถามและดู tense ดวยซึ่งมีดังนี้ Who ใคร เชน Who teaches you English ? = Mr. Brown teaches me English. How อยางไร เชน How did Tom go there ? = Tom go there by bus.
  • 55. Why ทําไม เชน Why did he leave so soon? = He left so soon because he was sick. What อะไร เชน What do they see ? = They see a huge tortoise. Where ที่ไหน เชน Where were you yesterday?= I was at home. Which อันไหน เชน Which car do you like? = I like Mazda. When เมื่อไหร เชน When was he born? = He was born on 1st January 1982 คราวนี้เมื่อนักเรียนรูท้งคําถาม คําตอบ คําศัพท หลัก ั วิธีการอานตางๆแลว ก็มาลองใชความรูท้ังหมดในการ ทําขอสอบกันนะคะ เพราะไมวาจะสอบอะไร ก็ตองอาน ทั้งนั้น มาใชความรูที่ไดเรียนมาใหเปนประโยชนดูนะคะ