Recomendados
Más contenido relacionado
La actualidad más candente
La actualidad más candente (20)
Similar a บทที่ 1 การจำแนกสาร
Similar a บทที่ 1 การจำแนกสาร (20)
Más de Pinutchaya Nakchumroon
Más de Pinutchaya Nakchumroon (20)
บทที่ 1 การจำแนกสาร
- 1. บทที่ 1 การจาแนกสาร โดย..ครู ปิ นัช ยา นาคจารู ญ
- 2. สาร และ สมบัติของสาร โดย..ครู ปิ นัช ยา นาคจารู ญ
- 3. สสาร ( Matter ) คือ สิ่งที่ มีมวล ต้องการที่ อยู่ และ สัมผัสได้โดยประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่ น ดิน น้า อากาศ ภายใน สสาร เป็ นเนื้ อของสสาร เรียกว่า สาร
- 4. สาร ( Substance ) คือ สสารที่ทราบสมบัติ หรือ สสารที่จะศึกษา ดังนั้ นจึงเป็ นสสารที่เฉพาะเจาะจง
- 5. สมบัติของสาร โดย..ครู ปิ นัช ยา นาคจารู ญ
- 6. สมบัติกายภาพ ( Physical Property ) สมบัติที่สังเกตได้จากลักษณะภายนอก และ เกี่ยวกับวิธีการทาง ฟิ สิกส์ ความหนาแน่ น ,จุดเดือด-หลอมเหลว ,ความแข็ง,ความเหนี ยว
- 7. สมบัติทางเคมี ( Chemistry Property ) สมบัติที่เกิดขึ้ นจากการทาปฏิกิริยาเคมี เช่ น การติดไฟ ,การเป็ นสนิ ม ,ความเป็ น กรด – เบส, ผุกร่อน
- 8. สมบัติทางเคมี ( Chemistry Property )
- 9. การจัดจาแนกสาร โดย..ครู ปิ นัช ยา นาคจารู ญ
- 10. 3.1 การจาแนกโดยใช้สถานะเป็นเกณฑ์ 1) ของแข็ง ( Solid ) จะมีรู ปร่าง และ ปริมาตรคงที่ ซึ่งอนุ ภาคภายในจะอยู่ชิ ด ติดกัน เช่ น ด่างทับทิม ( KMNO4 ) , ทองแดง ( Cu )
- 11. 2) ของเหลว ( Liquid ) จะมีรู ปร่างตามภาชนะที่บรรจุ และ มีปริมาตรที่คงที่ ซึ่งอนุ ภาคชิ ดกันน้อยกว่าของแข็ง และ มี สมบัติเป็ นของ ไหล เช่ น น้ามัน , แอลกอฮอล์ , ปรอท
- 13. 3) ก๊าซ ( Gas ) จะมีรู ปร่าง และ ปริมาตรที่ไม่คงที่ รู ปร่างเปลี่ยนไป ตามภาชนะที่ บรรจุ อนุ ภาคอยู่ ห่างกันมากที่สุด มีสมบัติเป็ นของไหลได้ เช่ น ก๊าซหุงต้ม , อากาศ
- 14. 3) ก๊าซ ( Gas )
- 15. 3.2 จาแนกโดยใช้เนื้อสารเป็นเกณฑ์ 1) สารเนื้ อเดียว ( Homogeneous Substance ) หมายถึง สารที่มีเนื้ อสารเหมือนกันทุกส่วน (ไม่ได้หมายความว่า ประกอบด้วยสารชนิ ดเดียว ) เช่ น แอลกอฮอล์ , ทองคา ( AU ), น้า
- 17. 2) สารเนื้อผสม ( Heterogeneous Substance ) สารที่มีเนื้ อสารแตกต่างกันในแต่ละส่วน เช่ น น้าอบไทย , น้าคลอง
- 19. 3.3 การจาแนกโดยใช้เกณฑ์อื่นๆ การละลายน้า แบ่งเป็ น สารที่ละลายน้าได้,ได้บ้าง และไม่ได้ การนาไฟฟ้ า แบ่งเป็ น นาไฟฟ้ า และไม่นาไฟฟ้ า
- 20. ***นิยมใช้เนื้อสารเป็นเกณฑ์มากที่สุด*** สาร สารเนื้อเดียว สารเนื้อผสม สารบริสุทธิ์ สารละลาย สารคอลลอยด์ สารแขวนลอย สารผสมธาตุ สารประกอบ โลหะ กึ่งโลหะ อโลหะ
- 21. รายละเอียดการแบ่งประเภทของสาร สารบริสุทธิ์ ( Pure Substance ) คือ สารเนื้อเดียวที่มีจุดเดือด และ จุดหลอมเหลว คงที่ ธาตุ ( ELEMENT ) คือ สารบริสุทธิ์ที่ประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียวกัน เช่น คาร์บอน ( C ) , กามะถัน ( S8 )
- 22. สารประกอบ ( Compound Substance ) เกิดจากธาตุตั้งแต่ 2 ชนิ ดขึ้ นไปมารวมกัน โดยมีอัตราส่วนในการ ร่วมกันคงที่ แน่ นอน เช่ น กรดไฮโดรคลอริก ( HCl ) , น้า (H2O)
- 23. ของผสม ( Mixture ) สารที่เกิดจากการนาสารตั้งแต่ 2 ชนิ ดขึ้ นไปมาผสมกัน โดยไม่จากัดส่วนผสม และ ในการผสม กัน ไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้ น
- 24. 4.1 สารละลาย ( Solution Substance ) มีขนาดอนุ ภาคที่เล็กกว่า 10-7 เซนติเมตร เช่ น อากาศ , น้าอัดลม , นาก,น้าเชื่ อม
- 25. ตัวทาละลาย สารใดที่มีปริมาณมากจะเป็ นตัวทาละลาย และ สารใดมีปริมาณ น้อยจะเป็ นตัวถูก ละลาย สารใดที่มีสถานะเช่ นเดียวกับสารละลายเป็ นตัวทาละลาย
- 26. ตัวอย่าง แอลกอฮอล์ล้างแผลมีเอทา นอล 70 % และ น้า 30 % ตัวทาละลายคือ เอ ทานอล (เพราะมากกว่า ) น้าเชื่ อม ทามากจาก น้า และน้าตาล ตัวทาละลาย คือ น้า (เพราะสถานะเดียวกันกับน้าเชื่ อม)
- 27. 4.2 สารแขวนลอย ( Suspension Substance ) อนุภาคขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่มากกว่า 10- 4 เซนติเมตร สามารถมองเห็นอนุภาคในของผสมได้อย่าง ชัดเจน จะไม่สามารถผ่านได้ทั้งกระดาษกรอง และ กระดาษเซล โลเฟน เช่น โคลน , น้าอบไทย, ยาคาลามายด์
- 28. 4.2 สารแขวนลอย ( Suspension Substance )
- 29. 4.2 สารแขวนลอย ( Suspension Substance )
- 30. 4.3 คอลลอยด์ ( Colliod ) อนุ ภาคขนาดระหว่าง 10-7-10-4 เซนติเมตร ไม่มีการตกตะกอน สามารถกระเจิงแสงได้ ซึ่งเรียกปรากฏการณ์ นี้ ว่ า " ปรากฏการณ์ ทินดอลล์”
- 31. 4.3 คอลลอยด์ ( Colliod ) ผ่านกระดาษกรอง แต่ไม่ผ่านกระดาษเซลโลเฟน เช่ น นมสด, ฝุ่ นละอองในอากาศ, วุ้น,ควันบุหรี่ , หมอก อนุ ภาคสามารถส่องดู ได้จากเครื่อง "อัลตราไมโครสโคป "
- 32. ตัวอย่างคอลลอยด์ ประเภทของคอลลอยด์ สถานะของอนุภาค สถานะของตัวกลาง ตัวอย่าง แอโรซอล ของเหลว ก๊าซ เมฆ , สเปรย์ , หมอก แอโรซอล ของแข็ง ก๊าซ ควันไฟ , ฝุ่น อิมัลชัน ของเหลว ของเหลว นมสด , น้ากะทิ , สลัด เจล ของแข็ง ของเหลว เยลลี่ , วุ้น , กาว , ยาสีฟัน โฟม ก๊าซ ของเหลว ฟองสบู่ , ครีมโกนหนวด โฟม ก๊าซ ของแข็ง เม็ดโฟม , สบู่ก้อน
- 33. การจาแนกสารผสม ประเภทของสาร ขนาดอนุภาค การกรอง ตัวอย่าง สารละลาย เล็กกว่า 10-7 ซม. ผ่านทั้งกระดาษกรอง และกระดาษเซลโลเฟน น้าอัดลม น้าเกลือ นาก สารคอลลอยด์ ระหว่าง 10-7 ถึง 10-4ซม. ผ่านกระดาษกรองแต่ ไม่ผ่านกระดาษเซล โลเฟน นมสด ควัน ฝุ่นใน อากาศ สารแขวนลอย ใหญ่กว่า 10-4 ซม. ไม่ผ่านทั้งกระดาษกรอง และกระดาษเซลโลเฟน น้าโคลน, น้าอบ, ยาคาลามายด์
- 35. 4.1 การกลั่น เหมาะสาหรับแยกของเหลวที่ปนเป็นเนื้อเดียวกัน แบ่ง ออก เป็นการกลั่น ธรรมดา และการกลั่นลาดับส่วน
- 36. การกลั่นธรรมดา เหมาะสาหรับสารที่มีจุดเดือดต่างกันประมาณ 80 C ขึ้นไป โดยทาให้ของเหลวกลายเป็นไอ แล้วควบแน่นเป็นของเหลวอีก สารที่มีจุดเดือดต่ากว่าจะกลายเป็นไอและควบแน่นออกมาก่อน
- 37. การกลั่นลาดับส่วน เหมาะสาหรับสารที่มีจุดเดือดต่างกันเพียงเล็กน้อย จะนาไอของแต่ละส่วนไปควบแน่น แล้วนาไปกลั่นซ้าและควบแน่น ไอเรื่อย ๆ ซึ่งเทียบได้กับเป็นการการกลั่นแบบธรรมดาหลาย ๆ ครั้ง
- 38. การกลั่นลาดับส่วน เหมาะสาหรับสารที่มีจุดเดือดต่างกันเพียงเล็กน้อย จะนาไอของแต่ละส่วนไปควบแน่น แล้วนาไปกลั่นซ้าและควบแน่น ไอเรื่อย ๆ ซึ่งเทียบได้กับเป็นการการกลั่นแบบธรรมดาหลาย ๆ ครั้ง
- 39. 4.2 การใช้กรวยแยก เหมาะสมกับสารที่เป็นของเหลว และ ไม่ละลายต่อกัน (แยกชั้น) เช่น น้า และ น้ามัน
- 40. 4.3 การกรอง เหมาะสาหรับของแข็งที่ไม่ละลายน้า เช่น หินปูน เศษไม้ ดิน
- 41. 4.4 การตกผลึก เหมาะสาหรับสารที่สามารถละลายได้ และประกอบกันเป็น รูปทรง เรขาคณิต เช่น สารส้ม น้าตาล เกลือ โดยสารนั้นถ้าละลายในน้าจนถึงจุดอิ่มตัวจะตกเป็นผลึก สารที่ละลายได้น้อยกว่าจะตกผลึกออกมาก่อน
- 43. 4.5 โครมาโทรกราฟี โดยถ้าขึ้นแถบก่อน แสดงว่าละลายได้ดี โดยถ้าเคลื่อนที่ไปได้ไกล แสดง ว่าดูดซับไม่ดี (วิ่งได้ไกล) ถ้าสารที่แยกออกมามีหลาย สีเป็นช่วงๆแสดงว่ามีหลายองค์ ประกอบ
- 46. สัญลักษณ์ของธาตุ การกาหนดสัญลักษณ์ของธาตุมาจากชื่อภาษาอังกฤษ และใช้ตัวอักษรตัวแรกของชื่อเป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ แทนสัญลักษณ์ เช่น C แทน Carbon O แทน Oxygen
- 47. สัญลักษณ์ของธาตุ หากมีชื่อซ้ากันให้ใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ แล้วตามด้วยพิมพ์เล็กตัว อื่น เช่น Carbonมีตัวแรกซ้ากับ Chlorine และ Calcium จึงปรับเป็นสัญลักษณ์ C, Cl และ Ca ตามลาดับ
- 48. คาบและหมู่ของตารางธาตุ การนับหมู่จะนับตามแนวตั้ง แบ่งเป็นหมู่ A และ B รวม 18 หมู่ ส่วนการนับคาบจะนับตามแนวนอน เลขหมู่ บอกอิเล็กตรอนวงสุดท้าย เลขคาบบอกระดับพลังงาน