SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 29
Descargar para leer sin conexión
บทที่ 4 รวบรวมความ
ตองการ
 ้
(Requirements
Gathering)
การวิเคราะหและออกแบบระบบ
           ์
                    (System Analysis and Design
วัตถุประสงค์
2


       เห็ นความสาคัญของการวิเคราะหความตองการ    ์       ้
        เพือให้ไดมาซึงความตองการทีแทจริงและถูกตอง
            ่     ้      ่         ้           ่ ้          ้
       บอกบทบาทหน้าทีของผูใช้ทีด ี
                               ่     ้       ่
       สามารถนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ
                             ้             ่            ่
        วิเคราะห ์ และบันทึกอยูในรูปแบบเอกสารได้
                                       ่
       ทราบถึงบทบาทของสเตคโฮลเดอร ์ ซึงเป็ นกลุม     ่       ่
        บุคคลสาคัญทีเกียวของกับงานระบบสารสนเทศ
                        ่ ่      ้
       บอกเทคนิควิธการรวบรวมความตองการ
                           ี                        ้
       สามารถนาขันตอนการทางานของงานใดงานหนึ่ง
                      ้
        มาเขียนอยูในรูปของเวิรกโฟลวได้ (Workflow)
                    ่                    ์      ์
        ได้
บทนา
3


       การวิเคราะหระบบ เป็ นกระบวนการของการสราง
                   ์                             ้
        แผนงาน(plan) เพือแสดงให้เห็ นถึงโครงราง
                        ่                      ่
        กระบวนการทางานของระบบทางานอยางไร  ่
        (how) สอดคลองกับจุดประสงคและความตองการ
                     ้            ์          ้
        หรือไม่

       วัตถุประสงคของการวิเคราะหระบบ คือ การทา
                   ์               ์
        ความเขาใจในฟังกชันหน้าทีทางธุรกิจ
                 ้       ์       ่
        (Business Functions) และพัฒนาออกมาเป็ น
        ความตองการของระบบ (System
               ้
        Requirements)
ขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบ
      ้
4
    แผน SDLC




            แสดงขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบแผน
                    ้
SDLC โดยในระยะการวิเคราะห ์ จะตองทาความเขาใจกับ
                                ้          ้
ระบบงานเดิม การเพิมเติมความต้องการ เพือพัฒนาแนวคิด
                  ่                   ่
การวิเคราะหระบบ
               ์
5


       การศึ กษาระบบงานเดิม ประกอบดวย 3 ระยะ
                                    ้
        คือ
         ทาความเข้าใจกับระบบงานเดิม      (Understand AS-
         IS System)
           เป็ นการศึ กษาขันตอนการทางานของระบบงานเดิมที่
                            ้
           เป็ นอยูในปัจจุบน มีจดออนหรือจุดแข็งอยางไร
                   ่       ั    ุ ่              ่
         กาหนดสิ่ งทีตองการปรับปรุงเพิมเติม
                      ่ ้              ่       (Identity
         Improvements)
           เป็ นการกาหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบให้เป็ นไป
           ในทิศทางทีดขน
                     ่ ี ึ้
         พัฒนาแนวความคิดสาหรับระบบงานใหม่
การรวบรวมความตองการ
                   ้
    (Requirements Gathering)
6


       หน้าทีสาคัญอยางหนึ่งทีนกวิเคราะหระบบจะตอง
               ่           ่     ่ ั           ์       ้
        ทา ก็คอ การเขาไปค้นหาความตองการของ
                   ื         ้               ้
        ผู้ใช้
       ซึงขันตอนการค้นหาความตองการและการจด
           ่ ้                       ้
        บันทึกความต้องการนั้นมิใช่สิ่ งทีงาย
                                         ่ ่
       นักวิเคราะหระบบควรจดบันทึกความตองการให้อยู่
                       ์                         ้
        ในรูปแบบมาตรฐาน เพือนาไปพัฒนาเป็ น
                                  ่
        ซอฟตแวรไดตอไป
                 ์   ์ ้ ่
       หลักการในการค้นหาความตองการ
                               5W + 1H ้           คือ
หลักการในการค้นหาความต้องการ (5W + 1H)
7


       Who มีใครเกียวของบาง? บทบาทของแตละคนนั้น
                            ่     ้      ้                      ่
        คืออะไร? ใครเป็ นบุคคลแทจริงทีรองขอเพือพัฒนา
                                               ้   ่ ้        ่
        ระบบใหม? ่
       What อะไรคือสิ่ งทีทาให้เกิดปัญหา? ระบบทีต้องการ
                                    ่                             ่
        หรือระบบทีอยากไดคือ ระบบอะไร? มีฟงกชันการ
                   ่                  ้                     ั ์
        ทางานอะไรบาง?    ้
       When ระบบติดตังไดเมือไร? ผู้สนับสนุ นเงินทุนพรอม
                                ้       ้ ่                           ้
        ทีจะสนับสนุ นเมือไร? ทดสอบระบบใหมเมือไร?
           ่                  ่                          ่ ่
       Where บริเวณสถานทีใด ทีระบบใหมสามารถ
                                           ่     ่        ่
        ดาเนินการไดอยางเหมาะสม
                           ้ ่
       Why ทาไมตองแสวงหาระบบใหม? ทาไมผู้ใช้จึงเชือ
                       ้                             ่              ่
        วาระบบใหมสามารถแกไขปัญหาได?
         ่           ่                       ้         ้
การรวบรวมความตองการ
                   ้
    (Requirements Gathering)
8


       กิจกรรมการค้นหาความตองการ และการจดบันทึก
                                  ้
        ความตองการนั้น มีหลักการสาคัญ คือ จะต้อง
                ้
        ค้นหาความจริงให้ไดวาผู้ใช้ต้องการสิ่ งใดเป็ น
                              ้ ่
        สาคัญ
       กอนทีนกวิเคราะหระบบจะเข้าไปค้นหาความ
           ่   ่ ั        ์
        ตองการจากผู้ใช้ตามหน่วยงานตางๆ นักวิเคราะห ์
         ้                             ่
        ระบบจาเป็ นตอง ศึ กษารูปแบบองคกร
                     ้                   ์
       ผู้ใช้ (User) มีบทบาทสาคัญในการวิเคราะหระบบ  ์
        ในการให้ขอมูลแกนักวิเคราะหระบบ
                   ้        ่        ์
คุณสมบัติของผูใช้(user)ที่ดี
                  ้
9


       จะต้องสามารถอธิบายขั้นตอนการทางานของระบบปั จจุบนที่ดาเนิ นงานอยู่
                                                               ั
        ได้
       จะต้องสามารถชี้ แจงปั ญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้ นในระบบได้
       จะต้องสามารถระบุความต้องการในระบบใหม่ได้
       ควรจัดเตรียมเอกสาร หรือรายงานที่เกี่ยวข้องให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ
       ควรให้ความร่วมมือแก่นักวิเคราะห์ระบบ
       ควรมีส่วนร่วมต่อโครงการพัฒนาระบบใหม่ รวมทั้งสามารถแนะนาหรือ
        เสนอแนวทางแก้ไขให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ
ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements)
10



     แบงเป็ น 2 ชนิดดวยกัน คือ
        ่             ้
      ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
             ้      ่       ์
       (Function Requirements)

        ความตองการทีไมไดเป็ นฟังกชันการ
               ้     ่ ่ ้        ์
         ทางาน (Non-Function
         Requirements)
ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
           ้      ่       ์
     (Function Requirements)
11


        คือ กิจกรรมที่ระบบต้องปฏิบติ กล่าวคือ เป็ นขั้นตอนการทางานที่
                                    ั
         ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ (สิ่งที่ระบบควรต้องทาหรือเป็ นหน้าที่หลัก
         ของระบบ) ที่ของเกี่ยวกับผูปฎิบติงาน โดยแต่ละกิจกรรมจะก่อให้เกิดผล
                        ้          ้ ั
         การดาเนิ นงานออกมา

        โดยปกติ ความต้องการที่เป็ นฟั งก์ชนการทางานมักเขียนอยูในรูปแบบของ
                                           ั                   ่
         กริยา (Verb Phrase)
ตัวอย่าง Functional Requirements
12


      ระบบเงินเดือน (Payroll System)
      กิจกรรมการปฎิบตงานของระบบเงินเดือน
                      ั ิ
       ประกอบดวยฟังกชันหน้าทีตางๆ คือ
                ้      ์       ่ ่
          คานวณเงินเดือนและคาคอมมิชชัน
                             ่
          คานวณภาษี

          พิมพสลิปเงินเดือนและพิมพรายงาน
               ์                   ์
          สามารถจัดพิมพรายงานภาษีประจาปี แกสรรพากร
                        ์                   ่
        ระบบใหมตองจัดการกับฟังกชันเหลานี้ได้
                ่ ้             ์     ่
         ทังหมด
           ้
ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
           ้      ่       ์
     (Function Requirements)
13


      สรุปไดวา ความตองการทีเป็ นฟังกชันการ
               ้ ่         ้       ่         ์
       ทางานนั้น ตังอยูบนพืนฐานของขันตอนการ
                     ้   ่     ้           ้
       ทางานและกฎเกณฑขององคกรทีใช้สาหรับ
                             ์       ์   ่
       ดาเนินธุรกิจเป็ นสาคัญ
      ดังนั้น ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
                       ้         ่     ์
       จึงเกียวของกับ
             ่     ้
          มีอะไรบ้างทีต้องอินพุตเข้าไปในระบบ
                       ่
          มีเอาตพุตอะไรบาง
                 ์       ้    ทีระบบตองดาเนินการ
                                ่     ้
          มีขอมูลอะไรบาง ทีระบบตองจัดเก็บ เพือให้ระบบอืนๆ
               ้       ้    ่       ้          ่        ่
           ทีเกียวของ นาขอมูลไปใช้งานได้
             ่ ่   ้     ้
          การคานวณอะไร ทีระบบตองดาเนินการ
                              ่
ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
           ้      ่       ์
     (Function Requirements)
14


        คือ คุณสมบัตหรือคุณภาพของซอฟตแวรทีพง
                      ิ               ์  ์ ่ ึ
         มี ไมใช่หน้าทีหลัก เช่น
              ่         ่
          ความสามารถในการใช้งาน     (Usability)
          ประสิ ทธิภาพของระบบ (Efficiency)

          ระบบความปลอดภัย (Security)

          ความน่าเชือถือของระบบ (Reliability)
                      ่
          เวลาตอบสนอง (Time Response)

          ความงายตอการใช้งาน (User Friendliness)
                  ่     ่
          ความสะดวกในการเคลือนย้ายไปยังสภาพแวดลอมใหม ่
                               ่                  ้
           (Portability)
ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements)
15


         Function            Non-Function


             บันทึกลงใน           บันทึกลงใน
             เอกสาร               เอกสาร
         -ทราบขันตอน
                ้           -บรรยายถึงคุณภาพ
         -อินเตอรเฟช        เทคนิคตางๆ ทีซอฟตแวร ์
                                   ่      ่  ์
                  ์
                            พึงมี


     แนวทางการออกแบบ      แนวทางการวิเคราะห ์
       (guide design)      (guide analysis)
Funtional Requirements (FRs)
     and Non-Function Requirements (NFRs)
16


        ตัวอยางเช่น ระบบบัญชี ทาหน้าทีหลักคือ
               ่                           ่
         บันทึกข้อมูล Transaction รายวัน ,สรุปยอด
         บัญชีได้ (สิ่ งทีระบบบัญชีควรทาหรือหน้าที่
                          ่
         หลัก) - - > Functional requirements

        ผูใช้ตองใส่รหัสผาน ชือผูใช้ เชือมโยงกับ
             ้ ้          ่     ่ ้      ่
         อินเทอรเน็ ตได้ เชือมโยงระบบบัญชีกบบริษท
                 ์            ่             ั    ั
         อืน (ไมใช่หน้าทีหลัก) - - > Non-Functinal
           ่       ่        ่
         requirements
การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
     Analysis)
17


        นักวิเคราะหระบบ(SA) นาความตองการทีได้
                      ์                 ้         ่
         รวบรวมมา ผานกระบวนการวิเคราะหความ
                          ่                   ์
         ตองการ (Requirements Analysis) เพือให้
          ้                                     ่
         ไดมาซึงขอกาหนดความตองการ
              ้ ่ ้                ้
         (Requirement Specification) เพือใช้ในการ
                                          ่
         พัฒนาซอฟตแวร ์ ์     โดยการวิเคราะหความ
                                            ์
         ตองการเพือกาหนดเป็ นความตองการของระบบ
            ้       ่                ้
         ใหม่ ประกอบดวย 3 ขันตอน คือ
                            ้    ้
การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
     Analysis)
18


        วิเคราะหข้อเท็จจริงในขอมูล (Analysis of
                   ์             ้
         factual Data) พิจารณาวาระบบจะตอง
                                   ่     ้
         ดาเนินงานอยางไร เพือให้ตรงกับวัตถุประสงค ์
                      ่        ่
         ตามทีตองการ
               ่ ้

        กาหนดสาระสาคัญของความตองการ   ้
         (Identification of Essential Requirements)
         คือ คุณสมบัตหรือสาระสาคัญทีระบบใหมพึงมี
                        ิ                ่     ่

        คัดเลือกความตองการทีตรงกับวัตถุประสงค ์
                       ้      ่
         (Selection of Requirements Fulfillment) ใช้
การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
     Analysis)
19


       Business
        Process
                                       ……………….
                      Requirements     ……………….
        Business                       ……………….
       Information     Gathering       ……………….
                      And Analysis     ………………
                                       ………………..
       Business
        Rules                         Requirements
                                      Specification
    แสดงขันตอนการนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ
           ้                ้      ่        ่
วิเคราะห ์ และ สรุปลงในเอกสารข้อกาหนดความตองการ
                                          ้
ของระบบ (Requirements Specification)
Requirement Specification
20


        คือ ขอมูลทีสรางขึนมาระหวางการสื บเสาะ
               ้      ่ ้     ้    ่
         ขอเท็จจริงดวยการวิเคราะหความตองการ
           ้        ้            ์    ้
         เพือให้ไดมา ซึงขอกาหนดความตองการทีใช้
             ่    ้       ่ ้           ้      ่
         อธิบายคุณสมบัตของระบบใหม่
                           ิ

        หรือ ขอกาหนดทีมการอธิบายวาระบบควรมี
                 ้       ่ ี            ่
         การทางานอยางไรบาง รายละเอียดอะไรบาง
                     ่       ้                   ้
         ทีตองทาให้สาเร็จ อาจเป็ นขอบังคับเกียวกับ
           ่ ้                      ้        ่
         กระบวนการพัฒนาระบบงาน ขอตกลงรวมกัน
                                      ้        ่
         เกียวกับคุณภาพของซอฟตแวร ์
            ่                     ์
หลักการค้นหาความต้องการที่ดี
21


      คนหาขอมูลความตองการกับบุคคลทีเกียวของ
        ้     ้           ้           ่ ่       ้
       โดยตรง และให้ตรงวัตถุประสงคมากทีสุด
                                    ์     ่
      ระบุความตองการตางๆ ลงในรูปของเอกสาร
                 ้          ่
       และมีการทาขอตกลงรวมกันทังสองฝ่าย
                   ้          ่   ้
      Requirement ทีดตองตกลงรวมกันทังสองฝ่าย
                      ่ ี ้     ่      ้
      คาจากัดความหรือคาอธิบายบนเอกสารทีได้ ่
       บันทึกไว้ ควรมีความชัดเจน พยายามอยาใช้ ่
       คากากวม
สเตคโฮลเดอร์: แหล่งทรัพยากรของความต้องการระบบ
     (Stakeholders : The Source of System Requirements)
22


        สเตคโฮลเดอรหรือ Information Worker คือ
                      ์
         บุคคลทีมความสนใจและพรอมให้ความรวมมือ
                ่ ี             ้          ่
         กับงานพัฒนาระบบสารสนเทศใหม่ เพือให้
                                         ่
         เกิดผลสาเร็จ สามารถแบงออกเป็ น 6 กลุม
                              ่              ่
         หลักๆ คือ
          เจ้าของระบบ  (System Owners) Sponsors
          ผู้ใช้ระบบ (System User)

          นักออกแบบระบบ (System Designers)

          นักพัฒนาระบบ (System Developers) Programmer

          นักวิเคราะหระบบ (System Analysts)
                      ์
          รานคาจานวนอุปกรณไอทีและทีปรึกษา (IT Vendors
                                     ่
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
23


        ในบางครัง อาจเรียกวา การสื บเสาะ
                   ้          ่
         ข้อเท็จจริง (Fact-Finding) โดยมีเทคนิค
         สาคัญ ดังนี้
           การรวบรวมเอกสาร (Documentation)
          การสั มภาษณและสนทนากับผู้ใช้ (Conduct
                        ์
           Interviews and Discussions with Users)
          การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารในธุรกิจ
           (Observe and Document Business Processes)
          การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม (Distribute
                     ่
           and Collect Questionaires)
          การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint
                            ้      ่
           Requirements Planning: JRP)
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
24


        การรวบรวมเอกสาร (Documentation)
          การรวบรวมแบบฟอรม
                          ์  หรือรายงานตางๆ ทีใช้อยู่
                                        ่     ่
          หรือการถายสาเนาเอกสาร
                  ่


        การสั มภาษณและสนทนากับผูใช้ (Conduct
                     ์             ้
         Interviews and Discussions with Users)
          การสั มภาษณแบบไมมีโครงสราง
                      ์    ่       ้      (Unstructured
           Interview) ไมมีการกาหนดคาถามกอนวาจะถาม
                          ่                ่  ่
           เกียวกับอะไร มีลกษณะพูดคุยสนทนา
              ่             ั
          การสั มภาษณแบบมีโครงสราง (Structured
                        ์         ้
           Interview) มีการกาหนดคาถามเพือการสั มภาษณ ์
                                        ่
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
25


        การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารใน
         ธุรกิจ (Observe and Document Business
         Processes)
            สั มผัสจากการทางานทีเป็ นเหตุการณจริงของพนักงาน เช่น
                                 ่               ์
             กระบวนการทางาน มีขนตอนใดทีตองเข้าไปปรับปรุง
                                    ้ั       ่ ้
             เพือให้ระบบดีขน โดยใช้ไดอะแกรม “เวิรกโฟลว ์
                 ่         ึ้                       ์
             (Workflow)”

        การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม
                   ่
         (Distribute and Collect Questionaires) โดย
         ทีแบบสอบถามมีอยู่ 2 ประเภท คือ
           ่
            คาถามปลายเปิ ด   สรางขึนเพือให้ผู้ตอบแบบสอบถามมี
                                ้   ้   ่
             อิสระในการตอบคาถาม ประโยชนคือ ไดรับคาถามใน
                                           ์       ้
             ลักษณะความคิดเห็น ขอเสนอแนะ ซึงสามารถใช้เป็ น
                                  ้             ่
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
26


     1. ปัจจุบนคุณทางานในตาแหน่ง?
                 ั
     2. คุณทางานในหน่วยงานนี้เป็ นเวลา…..ปี …
        เดือน
     3. ปัจจุบนคุณอายุ ….ปี
               ั
     4. ระบบงานทีคุณใช้อยูนั้น เกิดปัญหาในการ
                      ่         ่
        ดาเนิตัวงานดานใดบาง? ้งคาถามปลายเปิ ด
              น อย่ างแบบสอบถาม ที่ตั
                        ้     ้
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
27


     1. บริษทของคุณมีจานวนพนักงานเทาไร
              ั                                   ่
            [ ] 1-2 คน
         [ ] 20-100 คน
            [ ] 100-200 คน
         [ ] มากกวา200 คน
                        ่
     2. คุณจบการศึ กษาในระดับใด
            [ ] มัธยม
         [ ] ปวช./ปวส.
              ตัวอย่ างแบบสอบถาม ที่ต้งคาถามปลายปิ ด
                                      ั
            [ ] ปริญญาตรี
         [ ] สูงกวาปริญาตรี
เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
     Techniques)
28


        การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint
                          ้     ่
         Requirements Planning: JRP) ใช้เทคนิค
         Brainstorming ในการทา Workshop มีการ
         แบงงานหรือมอบหมายหน้าที่ และทุกคนตอง
            ่                                ้
         รวมมือรวมใจในการประชุมรวมกันเพือ
          ่     ่                 ่     ่
         ปรึกษาหารือ จึงสามารถบรรลุผลสาเร็จไดดี้
29

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

การ Normalization
การ Normalizationการ Normalization
การ Normalizationskiats
 
002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theorieswiraja
 
System Development Life Cycle
System Development  Life  CycleSystem Development  Life  Cycle
System Development Life Cycleeiszer
 
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ Present
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ Presentไฟฟ้าพลังงานน้ำ Present
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ PresentKasetsart University
 
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสม
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสมแผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสม
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสมkrunueng1
 
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้น
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้นแผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้น
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้นssuser741b9d
 
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sites
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sitesการสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sites
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google SitesDr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินJiraporn
 
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงาน
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงานใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงาน
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงานsarawut saoklieo
 
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บทตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บทDr.Krisada [Hua] RMUTT
 
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]Pakornkrits
 
เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน Thitaree Samphao
 
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุการจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุWiroj Suknongbueng
 
ตัวอย่าง DFD level 1
ตัวอย่าง DFD level 1ตัวอย่าง DFD level 1
ตัวอย่าง DFD level 1rubtumproject.com
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์Kat Suksrikong
 

La actualidad más candente (20)

การ Normalization
การ Normalizationการ Normalization
การ Normalization
 
002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
System Development Life Cycle
System Development  Life  CycleSystem Development  Life  Cycle
System Development Life Cycle
 
การนำเสนองานวิจัย
การนำเสนองานวิจัยการนำเสนองานวิจัย
การนำเสนองานวิจัย
 
หน้าปกคำนำสารบัญ
หน้าปกคำนำสารบัญหน้าปกคำนำสารบัญ
หน้าปกคำนำสารบัญ
 
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ Present
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ Presentไฟฟ้าพลังงานน้ำ Present
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ Present
 
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสม
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสมแผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสม
แผนการเรียนรู้ที่ 2 สื่อประสม
 
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้น
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้นแผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้น
แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เบื้องต้น
 
วรรณกรรม
วรรณกรรมวรรณกรรม
วรรณกรรม
 
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sites
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sitesการสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sites
การสร้างเว็บไซต์คลังความรู้ดิจิทัลด้วย Google Sites
 
ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดิน
 
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงาน
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงานใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงาน
ใบความรู้ ขั้นตอนการทำโครงงาน
 
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
 
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บทตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
 
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
 
เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน
 
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุการจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ
การจัดงานประเพณีวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ
 
ตัวอย่าง DFD level 1
ตัวอย่าง DFD level 1ตัวอย่าง DFD level 1
ตัวอย่าง DFD level 1
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
 

Similar a การรวบรวมความต้องการ

การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศการพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศCC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศmilk tnc
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมnuknook
 
ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ053681478
 
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึ
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึการพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึ
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึteacher253
 
สารสนเทศบทที่5
สารสนเทศบทที่5สารสนเทศบทที่5
สารสนเทศบทที่5parnee
 
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษา
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษาการออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษา
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษาteacher253
 

Similar a การรวบรวมความต้องการ (20)

M
MM
M
 
M
MM
M
 
Chapter 02
Chapter 02Chapter 02
Chapter 02
 
Sallai pro
Sallai proSallai pro
Sallai pro
 
Sdlc
SdlcSdlc
Sdlc
 
Project Sky
Project SkyProject Sky
Project Sky
 
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศการพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
 
Ch8
Ch8Ch8
Ch8
 
Ch8
Ch8Ch8
Ch8
 
หน่วยที่2
หน่วยที่2หน่วยที่2
หน่วยที่2
 
Unit01
Unit01Unit01
Unit01
 
Design6
Design6Design6
Design6
 
Chapter003
Chapter003Chapter003
Chapter003
 
ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ
 
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึ
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึการพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึ
การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานศึ
 
สารสนเทศบทที่5
สารสนเทศบทที่5สารสนเทศบทที่5
สารสนเทศบทที่5
 
Inno5
Inno5Inno5
Inno5
 
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษา
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษาการออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษา
การออกแบบระบบสารสนเทศในสถานศึกษา
 

Más de skiats

การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนการ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนskiats
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาskiats
 
รูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการskiats
 
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeskiats
 
4 - statement
4  - statement4  - statement
4 - statementskiats
 
การใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminการใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminskiats
 
แบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลแบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลskiats
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลskiats
 
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้skiats
 
รวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการรวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการskiats
 
DFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษDFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษskiats
 
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCวงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCskiats
 
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบskiats
 
อุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลอุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลskiats
 
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์skiats
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลskiats
 
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์skiats
 
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์skiats
 
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ skiats
 
Lesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptLesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptskiats
 

Más de skiats (20)

การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนการ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
 
รูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการ
 
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
 
4 - statement
4  - statement4  - statement
4 - statement
 
การใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminการใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadmin
 
แบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลแบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูล
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
 
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
 
รวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการรวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการ
 
DFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษDFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษ
 
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCวงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
 
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
 
อุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลอุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผล
 
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
 
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
 
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
 
Lesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptLesson1 programing concept
Lesson1 programing concept
 

การรวบรวมความต้องการ

  • 1. บทที่ 4 รวบรวมความ ตองการ ้ (Requirements Gathering) การวิเคราะหและออกแบบระบบ ์ (System Analysis and Design
  • 2. วัตถุประสงค์ 2  เห็ นความสาคัญของการวิเคราะหความตองการ ์ ้ เพือให้ไดมาซึงความตองการทีแทจริงและถูกตอง ่ ้ ่ ้ ่ ้ ้  บอกบทบาทหน้าทีของผูใช้ทีด ี ่ ้ ่  สามารถนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ ้ ่ ่ วิเคราะห ์ และบันทึกอยูในรูปแบบเอกสารได้ ่  ทราบถึงบทบาทของสเตคโฮลเดอร ์ ซึงเป็ นกลุม ่ ่ บุคคลสาคัญทีเกียวของกับงานระบบสารสนเทศ ่ ่ ้  บอกเทคนิควิธการรวบรวมความตองการ ี ้  สามารถนาขันตอนการทางานของงานใดงานหนึ่ง ้ มาเขียนอยูในรูปของเวิรกโฟลวได้ (Workflow) ่ ์ ์ ได้
  • 3. บทนา 3  การวิเคราะหระบบ เป็ นกระบวนการของการสราง ์ ้ แผนงาน(plan) เพือแสดงให้เห็ นถึงโครงราง ่ ่ กระบวนการทางานของระบบทางานอยางไร ่ (how) สอดคลองกับจุดประสงคและความตองการ ้ ์ ้ หรือไม่  วัตถุประสงคของการวิเคราะหระบบ คือ การทา ์ ์ ความเขาใจในฟังกชันหน้าทีทางธุรกิจ ้ ์ ่ (Business Functions) และพัฒนาออกมาเป็ น ความตองการของระบบ (System ้ Requirements)
  • 4. ขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบ ้ 4 แผน SDLC แสดงขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบแผน ้ SDLC โดยในระยะการวิเคราะห ์ จะตองทาความเขาใจกับ ้ ้ ระบบงานเดิม การเพิมเติมความต้องการ เพือพัฒนาแนวคิด ่ ่
  • 5. การวิเคราะหระบบ ์ 5  การศึ กษาระบบงานเดิม ประกอบดวย 3 ระยะ ้ คือ  ทาความเข้าใจกับระบบงานเดิม (Understand AS- IS System)  เป็ นการศึ กษาขันตอนการทางานของระบบงานเดิมที่ ้ เป็ นอยูในปัจจุบน มีจดออนหรือจุดแข็งอยางไร ่ ั ุ ่ ่  กาหนดสิ่ งทีตองการปรับปรุงเพิมเติม ่ ้ ่ (Identity Improvements)  เป็ นการกาหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบให้เป็ นไป ในทิศทางทีดขน ่ ี ึ้  พัฒนาแนวความคิดสาหรับระบบงานใหม่
  • 6. การรวบรวมความตองการ ้ (Requirements Gathering) 6  หน้าทีสาคัญอยางหนึ่งทีนกวิเคราะหระบบจะตอง ่ ่ ่ ั ์ ้ ทา ก็คอ การเขาไปค้นหาความตองการของ ื ้ ้ ผู้ใช้  ซึงขันตอนการค้นหาความตองการและการจด ่ ้ ้ บันทึกความต้องการนั้นมิใช่สิ่ งทีงาย ่ ่  นักวิเคราะหระบบควรจดบันทึกความตองการให้อยู่ ์ ้ ในรูปแบบมาตรฐาน เพือนาไปพัฒนาเป็ น ่ ซอฟตแวรไดตอไป ์ ์ ้ ่  หลักการในการค้นหาความตองการ 5W + 1H ้ คือ
  • 7. หลักการในการค้นหาความต้องการ (5W + 1H) 7  Who มีใครเกียวของบาง? บทบาทของแตละคนนั้น ่ ้ ้ ่ คืออะไร? ใครเป็ นบุคคลแทจริงทีรองขอเพือพัฒนา ้ ่ ้ ่ ระบบใหม? ่  What อะไรคือสิ่ งทีทาให้เกิดปัญหา? ระบบทีต้องการ ่ ่ หรือระบบทีอยากไดคือ ระบบอะไร? มีฟงกชันการ ่ ้ ั ์ ทางานอะไรบาง? ้  When ระบบติดตังไดเมือไร? ผู้สนับสนุ นเงินทุนพรอม ้ ้ ่ ้ ทีจะสนับสนุ นเมือไร? ทดสอบระบบใหมเมือไร? ่ ่ ่ ่  Where บริเวณสถานทีใด ทีระบบใหมสามารถ ่ ่ ่ ดาเนินการไดอยางเหมาะสม ้ ่  Why ทาไมตองแสวงหาระบบใหม? ทาไมผู้ใช้จึงเชือ ้ ่ ่ วาระบบใหมสามารถแกไขปัญหาได? ่ ่ ้ ้
  • 8. การรวบรวมความตองการ ้ (Requirements Gathering) 8  กิจกรรมการค้นหาความตองการ และการจดบันทึก ้ ความตองการนั้น มีหลักการสาคัญ คือ จะต้อง ้ ค้นหาความจริงให้ไดวาผู้ใช้ต้องการสิ่ งใดเป็ น ้ ่ สาคัญ  กอนทีนกวิเคราะหระบบจะเข้าไปค้นหาความ ่ ่ ั ์ ตองการจากผู้ใช้ตามหน่วยงานตางๆ นักวิเคราะห ์ ้ ่ ระบบจาเป็ นตอง ศึ กษารูปแบบองคกร ้ ์  ผู้ใช้ (User) มีบทบาทสาคัญในการวิเคราะหระบบ ์ ในการให้ขอมูลแกนักวิเคราะหระบบ ้ ่ ์
  • 9. คุณสมบัติของผูใช้(user)ที่ดี ้ 9  จะต้องสามารถอธิบายขั้นตอนการทางานของระบบปั จจุบนที่ดาเนิ นงานอยู่ ั ได้  จะต้องสามารถชี้ แจงปั ญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้ นในระบบได้  จะต้องสามารถระบุความต้องการในระบบใหม่ได้  ควรจัดเตรียมเอกสาร หรือรายงานที่เกี่ยวข้องให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ  ควรให้ความร่วมมือแก่นักวิเคราะห์ระบบ  ควรมีส่วนร่วมต่อโครงการพัฒนาระบบใหม่ รวมทั้งสามารถแนะนาหรือ เสนอแนวทางแก้ไขให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ
  • 10. ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements) 10 แบงเป็ น 2 ชนิดดวยกัน คือ ่ ้  ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน ้ ่ ์ (Function Requirements)  ความตองการทีไมไดเป็ นฟังกชันการ ้ ่ ่ ้ ์ ทางาน (Non-Function Requirements)
  • 11. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน ้ ่ ์ (Function Requirements) 11  คือ กิจกรรมที่ระบบต้องปฏิบติ กล่าวคือ เป็ นขั้นตอนการทางานที่ ั ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ (สิ่งที่ระบบควรต้องทาหรือเป็ นหน้าที่หลัก ของระบบ) ที่ของเกี่ยวกับผูปฎิบติงาน โดยแต่ละกิจกรรมจะก่อให้เกิดผล ้ ้ ั การดาเนิ นงานออกมา  โดยปกติ ความต้องการที่เป็ นฟั งก์ชนการทางานมักเขียนอยูในรูปแบบของ ั ่ กริยา (Verb Phrase)
  • 12. ตัวอย่าง Functional Requirements 12  ระบบเงินเดือน (Payroll System)  กิจกรรมการปฎิบตงานของระบบเงินเดือน ั ิ ประกอบดวยฟังกชันหน้าทีตางๆ คือ ้ ์ ่ ่  คานวณเงินเดือนและคาคอมมิชชัน ่  คานวณภาษี  พิมพสลิปเงินเดือนและพิมพรายงาน ์ ์  สามารถจัดพิมพรายงานภาษีประจาปี แกสรรพากร ์ ่  ระบบใหมตองจัดการกับฟังกชันเหลานี้ได้ ่ ้ ์ ่ ทังหมด ้
  • 13. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน ้ ่ ์ (Function Requirements) 13  สรุปไดวา ความตองการทีเป็ นฟังกชันการ ้ ่ ้ ่ ์ ทางานนั้น ตังอยูบนพืนฐานของขันตอนการ ้ ่ ้ ้ ทางานและกฎเกณฑขององคกรทีใช้สาหรับ ์ ์ ่ ดาเนินธุรกิจเป็ นสาคัญ  ดังนั้น ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน ้ ่ ์ จึงเกียวของกับ ่ ้  มีอะไรบ้างทีต้องอินพุตเข้าไปในระบบ ่  มีเอาตพุตอะไรบาง ์ ้ ทีระบบตองดาเนินการ ่ ้  มีขอมูลอะไรบาง ทีระบบตองจัดเก็บ เพือให้ระบบอืนๆ ้ ้ ่ ้ ่ ่ ทีเกียวของ นาขอมูลไปใช้งานได้ ่ ่ ้ ้  การคานวณอะไร ทีระบบตองดาเนินการ ่
  • 14. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน ้ ่ ์ (Function Requirements) 14  คือ คุณสมบัตหรือคุณภาพของซอฟตแวรทีพง ิ ์ ์ ่ ึ มี ไมใช่หน้าทีหลัก เช่น ่ ่  ความสามารถในการใช้งาน (Usability)  ประสิ ทธิภาพของระบบ (Efficiency)  ระบบความปลอดภัย (Security)  ความน่าเชือถือของระบบ (Reliability) ่  เวลาตอบสนอง (Time Response)  ความงายตอการใช้งาน (User Friendliness) ่ ่  ความสะดวกในการเคลือนย้ายไปยังสภาพแวดลอมใหม ่ ่ ้ (Portability)
  • 15. ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements) 15 Function Non-Function บันทึกลงใน บันทึกลงใน เอกสาร เอกสาร -ทราบขันตอน ้ -บรรยายถึงคุณภาพ -อินเตอรเฟช เทคนิคตางๆ ทีซอฟตแวร ์ ่ ่ ์ ์ พึงมี แนวทางการออกแบบ แนวทางการวิเคราะห ์ (guide design) (guide analysis)
  • 16. Funtional Requirements (FRs) and Non-Function Requirements (NFRs) 16  ตัวอยางเช่น ระบบบัญชี ทาหน้าทีหลักคือ ่ ่ บันทึกข้อมูล Transaction รายวัน ,สรุปยอด บัญชีได้ (สิ่ งทีระบบบัญชีควรทาหรือหน้าที่ ่ หลัก) - - > Functional requirements  ผูใช้ตองใส่รหัสผาน ชือผูใช้ เชือมโยงกับ ้ ้ ่ ่ ้ ่ อินเทอรเน็ ตได้ เชือมโยงระบบบัญชีกบบริษท ์ ่ ั ั อืน (ไมใช่หน้าทีหลัก) - - > Non-Functinal ่ ่ ่ requirements
  • 17. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements Analysis) 17  นักวิเคราะหระบบ(SA) นาความตองการทีได้ ์ ้ ่ รวบรวมมา ผานกระบวนการวิเคราะหความ ่ ์ ตองการ (Requirements Analysis) เพือให้ ้ ่ ไดมาซึงขอกาหนดความตองการ ้ ่ ้ ้ (Requirement Specification) เพือใช้ในการ ่ พัฒนาซอฟตแวร ์ ์ โดยการวิเคราะหความ ์ ตองการเพือกาหนดเป็ นความตองการของระบบ ้ ่ ้ ใหม่ ประกอบดวย 3 ขันตอน คือ ้ ้
  • 18. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements Analysis) 18  วิเคราะหข้อเท็จจริงในขอมูล (Analysis of ์ ้ factual Data) พิจารณาวาระบบจะตอง ่ ้ ดาเนินงานอยางไร เพือให้ตรงกับวัตถุประสงค ์ ่ ่ ตามทีตองการ ่ ้  กาหนดสาระสาคัญของความตองการ ้ (Identification of Essential Requirements) คือ คุณสมบัตหรือสาระสาคัญทีระบบใหมพึงมี ิ ่ ่  คัดเลือกความตองการทีตรงกับวัตถุประสงค ์ ้ ่ (Selection of Requirements Fulfillment) ใช้
  • 19. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements Analysis) 19 Business Process ………………. Requirements ………………. Business ………………. Information Gathering ………………. And Analysis ……………… ……………….. Business Rules Requirements Specification แสดงขันตอนการนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ ้ ้ ่ ่ วิเคราะห ์ และ สรุปลงในเอกสารข้อกาหนดความตองการ ้ ของระบบ (Requirements Specification)
  • 20. Requirement Specification 20  คือ ขอมูลทีสรางขึนมาระหวางการสื บเสาะ ้ ่ ้ ้ ่ ขอเท็จจริงดวยการวิเคราะหความตองการ ้ ้ ์ ้ เพือให้ไดมา ซึงขอกาหนดความตองการทีใช้ ่ ้ ่ ้ ้ ่ อธิบายคุณสมบัตของระบบใหม่ ิ  หรือ ขอกาหนดทีมการอธิบายวาระบบควรมี ้ ่ ี ่ การทางานอยางไรบาง รายละเอียดอะไรบาง ่ ้ ้ ทีตองทาให้สาเร็จ อาจเป็ นขอบังคับเกียวกับ ่ ้ ้ ่ กระบวนการพัฒนาระบบงาน ขอตกลงรวมกัน ้ ่ เกียวกับคุณภาพของซอฟตแวร ์ ่ ์
  • 21. หลักการค้นหาความต้องการที่ดี 21  คนหาขอมูลความตองการกับบุคคลทีเกียวของ ้ ้ ้ ่ ่ ้ โดยตรง และให้ตรงวัตถุประสงคมากทีสุด ์ ่  ระบุความตองการตางๆ ลงในรูปของเอกสาร ้ ่ และมีการทาขอตกลงรวมกันทังสองฝ่าย ้ ่ ้  Requirement ทีดตองตกลงรวมกันทังสองฝ่าย ่ ี ้ ่ ้  คาจากัดความหรือคาอธิบายบนเอกสารทีได้ ่ บันทึกไว้ ควรมีความชัดเจน พยายามอยาใช้ ่ คากากวม
  • 22. สเตคโฮลเดอร์: แหล่งทรัพยากรของความต้องการระบบ (Stakeholders : The Source of System Requirements) 22  สเตคโฮลเดอรหรือ Information Worker คือ ์ บุคคลทีมความสนใจและพรอมให้ความรวมมือ ่ ี ้ ่ กับงานพัฒนาระบบสารสนเทศใหม่ เพือให้ ่ เกิดผลสาเร็จ สามารถแบงออกเป็ น 6 กลุม ่ ่ หลักๆ คือ  เจ้าของระบบ (System Owners) Sponsors  ผู้ใช้ระบบ (System User)  นักออกแบบระบบ (System Designers)  นักพัฒนาระบบ (System Developers) Programmer  นักวิเคราะหระบบ (System Analysts) ์  รานคาจานวนอุปกรณไอทีและทีปรึกษา (IT Vendors ่
  • 23. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 23  ในบางครัง อาจเรียกวา การสื บเสาะ ้ ่ ข้อเท็จจริง (Fact-Finding) โดยมีเทคนิค สาคัญ ดังนี้  การรวบรวมเอกสาร (Documentation)  การสั มภาษณและสนทนากับผู้ใช้ (Conduct ์ Interviews and Discussions with Users)  การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารในธุรกิจ (Observe and Document Business Processes)  การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม (Distribute ่ and Collect Questionaires)  การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint ้ ่ Requirements Planning: JRP)
  • 24. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 24  การรวบรวมเอกสาร (Documentation)  การรวบรวมแบบฟอรม ์ หรือรายงานตางๆ ทีใช้อยู่ ่ ่ หรือการถายสาเนาเอกสาร ่  การสั มภาษณและสนทนากับผูใช้ (Conduct ์ ้ Interviews and Discussions with Users)  การสั มภาษณแบบไมมีโครงสราง ์ ่ ้ (Unstructured Interview) ไมมีการกาหนดคาถามกอนวาจะถาม ่ ่ ่ เกียวกับอะไร มีลกษณะพูดคุยสนทนา ่ ั  การสั มภาษณแบบมีโครงสราง (Structured ์ ้ Interview) มีการกาหนดคาถามเพือการสั มภาษณ ์ ่
  • 25. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 25  การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารใน ธุรกิจ (Observe and Document Business Processes)  สั มผัสจากการทางานทีเป็ นเหตุการณจริงของพนักงาน เช่น ่ ์ กระบวนการทางาน มีขนตอนใดทีตองเข้าไปปรับปรุง ้ั ่ ้ เพือให้ระบบดีขน โดยใช้ไดอะแกรม “เวิรกโฟลว ์ ่ ึ้ ์ (Workflow)”  การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม ่ (Distribute and Collect Questionaires) โดย ทีแบบสอบถามมีอยู่ 2 ประเภท คือ ่  คาถามปลายเปิ ด สรางขึนเพือให้ผู้ตอบแบบสอบถามมี ้ ้ ่ อิสระในการตอบคาถาม ประโยชนคือ ไดรับคาถามใน ์ ้ ลักษณะความคิดเห็น ขอเสนอแนะ ซึงสามารถใช้เป็ น ้ ่
  • 26. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 26 1. ปัจจุบนคุณทางานในตาแหน่ง? ั 2. คุณทางานในหน่วยงานนี้เป็ นเวลา…..ปี … เดือน 3. ปัจจุบนคุณอายุ ….ปี ั 4. ระบบงานทีคุณใช้อยูนั้น เกิดปัญหาในการ ่ ่ ดาเนิตัวงานดานใดบาง? ้งคาถามปลายเปิ ด น อย่ างแบบสอบถาม ที่ตั ้ ้
  • 27. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 27 1. บริษทของคุณมีจานวนพนักงานเทาไร ั ่ [ ] 1-2 คน [ ] 20-100 คน [ ] 100-200 คน [ ] มากกวา200 คน ่ 2. คุณจบการศึ กษาในระดับใด [ ] มัธยม [ ] ปวช./ปวส. ตัวอย่ างแบบสอบถาม ที่ต้งคาถามปลายปิ ด ั [ ] ปริญญาตรี [ ] สูงกวาปริญาตรี
  • 28. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering Techniques) 28  การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint ้ ่ Requirements Planning: JRP) ใช้เทคนิค Brainstorming ในการทา Workshop มีการ แบงงานหรือมอบหมายหน้าที่ และทุกคนตอง ่ ้ รวมมือรวมใจในการประชุมรวมกันเพือ ่ ่ ่ ่ ปรึกษาหารือ จึงสามารถบรรลุผลสาเร็จไดดี้
  • 29. 29