โครงงานอาชีพ เรื่อง ธูปหอมเปลือกมังคุด (Mangosteen incense) การทำธูปหอมกำยานที่ใช้ส่วนผสมจากน้ำที่ได้จากเปลือกมังคุด

1. ธูปหอมเปลือกมังคุด
จัดทำโดย
นำยภูมินทร์ จันทำนวน
นำงสำวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชำกุล
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5/4
ที่ปรึกษำโครงงำน
คุณครูจำนงค์ ภู่ศรีสลับ
โครงงำนฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรำยวิชำกำรงำนอำชีพ
รหัสวิชำ ง32101 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2562
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
ในพระรำชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี

2. โครงงานอาชีพ
เรื่อง ธูปหอมเปลือกมังคุด
(Mangosteen incense)
จัดทาโดย
นายภูมินทร์ จันทานวน
นางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4
ที่ปรึกษาโครงงาน
คุณครูจานงค์ ภู่ศรีสลับ
โครงงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพ
รหัสวิชา ง32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

3. ก
เกี่ยวกับโครงงำน
หัวข้อเรื่อง : ธูปหอมเปลือกมังคุด
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ : การงานอาชีพและเทคโนโลยี (ง32101)
ผู้จัดทำ : นายภูมินทร์ จันทานวน เลขที่ 11
นางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล เลขที่ 18
ระดับชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 5/4
ที่ปรึกษำโครงงำน : คุณครูจานงค์ ภู่ศรีสลับ
สถำนศึกษำ : โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ปีกำรศึกษำ : ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562

4. ข
กิตติกรรมประกำศ
โครงงานอาชีพ เรื่อง ธูปหอมเปลือกมังคุดฉบับนี้สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เนื่องจากคณะผู้จัดทาได้รับ
ความช่วยเหลือเป็นอย่างดียิ่งจาก คุณครูจานงค์ ภู่ศรีสลับ คุณครูที่ปรึกษาโครงงานที่ได้สละเวลาให้คาแนะนา
ข้อคิดเห็น และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทาธูปหอมในขั้นตอนต่างๆ และข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปมังคุดซึ่งคณะ
ผู้จัดทารู้สึกซาบซึ้งและเป็นพระคุณอย่างยิ่ง จึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้
ขอขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่านที่ได้ถ่ายทอดความรู้ในวิชาต่าง ๆ ซึ่งคณะผู้จัดทาได้นามาใช้
ประโยชน์ในโครงงานฉบับนี้ ขอขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาหรับกาลังใจและ
ความช่วยเหลือที่มีให้มาตลอด
สุดท้ายขอขอบพระคุณ บิดา มารดา และครอบครัวที่ได้ช่วยเหลือ ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเป็น
กาลังใจที่สาคัญยิ่ง ตลอดจนทาให้การทาโครงงานในครั้งนี้ประสบผลสาเร็จไปได้อย่างลุล่วง
นายภูมินทร์ จันทานวน
นางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล
กันยายน 2562

5. ค
หัวข้อเรื่อง : ธูปหอมเปลือกมังคุด
ผู้จัดทำ : นายภูมินทร์ จันทานวน เลขที่ 11
นางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล เลขที่ 18
ระดับชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 5/4
ที่ปรึกษำโครงงำน : คุณครูจานงค์ ภู่ศรีสลับ
บทคัดย่อ
โครงงานอาชีพ เรื่อง ธูปหอมเปลือกคณะผู้จัดทาได้ทาการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลเกี่ยวกับมังคุดที่มีใน
จังหวัดระยอง และธูปหอมกายานที่พบเห็นได้ทั่วไป เพื่อเป็นการทาธูปหอมจากน้าเปลือกมังคุดขึ้น ด้วยเห็นว่า
เปลือกมังคุดที่หลังจากรับประทานเนื้อผลไม้ในครัวเรือนจะเหลือทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ กลุ่มของข้าพเจ้าจึง
ต้องการนาเปลือกมังคุดมาผ่านกระบวนการที่ง่ายและสามารถทาได้เองที่บ้าน มาเป็นส่วนผสมสาคัญในการทา
เป็นธูปหอมกายานใช้จุดให้กลิ่นหอมในบ้าน และช่วยเป็นยาไล่ยุงได้ไปในตัว
ธูปหอมเปลือกมังคุด เป็นธูปหอมกายานที่ใช้ส่วนผสมจากน้าที่ได้จากเปลือกมังคุดนามาเป็นส่วนผสม
กับเนื้อธูปกายานซึ่งประกอบด้วย ผงขี้เลื่อย ผงก้อหรือกาวกั๊วะก่า และกายานผงเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมจาก
เปลือกมังคุดและกายาน โดยมีวิธีทาอย่างคร่าวๆ คือ การต้มเปลือกมังคุดในน้าเดือดจนได้น้าสีม่วงเปลือก
มังคุด จากนั้นผสมกับผงขี้เลื่อยและผงก้อ แล้วเติมกายานผงลงไป เมื่อคลุกผสมเข้ากันจนเหนียวก็ให้ปั้นลงบน
ก้านธูปที่ชุบสีย้อมฝ้ายไว้แล้ว คลึงบนกระดานชนวนให้เรียบ แล้วนาธูปไปตากแดดจนแห้งดี ซึ่งธูปหอมเปลือก
มังคุดที่ได้มานี้ เมื่อจุดจะเกิดกลิ่นหอมช่วยคลายเครียด ทาให้รู้สึกสบายใจ และนอกจากนี้ กลิ่นจากกายานยัง
ช่วยเป็นยาไล่ยุง มดและแมลงได้อีกด้วย

6. ง
สำรบัญ
หน้ำ
เกี่ยวกับโครงงาน ก
กิตติกรรมประกาศ ข
บทคัดย่อ ค
สารบัญ ง
บทที่ 1 บทนำ
ความเป็นมาและความสาคัญ 1
วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1
ขอบเขตของการศึกษา 2
นิยามศัพท์เฉพาะ 2
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
มังคุด 3
สรรพคุณของมังคุด 5
ธูปหอม 9
วิธีการทาธูป 9
กายาน 12
บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินงำน
การทาน้าเปลือกมังคุด
วัสดุอุปกรณ์ 17
ขั้นตอนการทาน้าเปลือกมังคุด 17
การทาธูปหอมเปลือกมังคุด
วัสดุอุปกรณ์ 20
ขั้นตอนการทาธูปหอมเปลือกมังคุด 21

7. จ
สำรบัญ (ต่อ)
หน้ำ
บทที่ 4 ผลกำรดำเนินงำน
ธูปหอมเปลือกมังคุด 24
สไลด์นาเสนอผลงาน 25
โปสเตอร์โครงงาน 28
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการดาเนินงาน 29
ข้อเสนอแนะ 30
บรรณานุกรม 31
ประวัติผู้จัดทา 32

8. บทที่ 1
บทนำ
ควำมเป็นมำและควำมสำคัญ
มังคุด ผลไม้ที่เป็นที่นิยมของคนไทยมาเป็นเวลานาน ด้วยรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวและมีความกลม
กล่อม ทาให้มังคุดได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ แต่นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว มังคุดยังอุดมไป
ด้วยสารอาหารที่หลากหลายและประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งยังอาจนามาใช้ในการรักษาโรคหรือการเจ็บป่วย
ต่างๆ ส่วนเปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เช่น แทนนินมีฤทธิ์
ฝาดสมาน ทาให้แผลหายเร็ว ส่วนแมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทาให้เกิด
หนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้าหรือย่างไฟ ฝนกับน้าปูนใส แก้ท้องเสีย ใช้รักษา
อาการน้ากัดเท้า แผลเปื่อย และนอกจากนี้ เปลือกมังคุดก็ยังมีสารป้องกันเชื้อราซึ่งเหมาะแก่การนาไปหมัก
เป็นปุ๋ยอีกด้วย
ธูปอโรมาหรือกายานหอมเหมาะกับการให้ภายในบ้านมีกลิ่นหอมฟุ้งแม้แต่ในพื้นที่เปิด โดยกลิ่นหอม
กายานจากธูปนั้น นอกจากจะเหมาะกับการเพิ่มบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ในช่วงที่นั่งทางานหรืออ่านหนัง เป็น
ระยะเวลาสั้นๆ ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เป็นยาไล่ยุง ไล่ริ้นไร มดและแมลงได้ หรือจะนามาปรุงกับเครื่อง
หอมอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งกลิ่นกายานจะช่วยลดความเครียด ผ่อนคลายความวิตกกังวล และทาให้รู้สึกสบายใจ
ขึ้นได้เป็นอย่างดี
จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับมังคุดที่มีมากในจังหวัดระยอง และธูปหอมกายานที่พบเห็นได้
ทั่วไป กลุ่มข้าพเจ้าจึงคิดที่จะทาโครงงานนี้ขึ้นเพื่อเป็นการทาธูปหอมจากน้าเปลือกมังคุดขึ้น ด้วยเห็นว่า
เปลือกมังคุดที่หลังจากรับประทานเนื้อผลไม้ในครัวเรือนจะเหลือทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ กลุ่มของข้าพเจ้าจึง
ต้องการนาเปลือกมังคุดมาผ่านกระบวนการที่ง่ายและสามารถทาได้เองที่บ้าน มาเป็นส่วนผสมสาคัญในการทา
เป็นธูปหอมกายานใช้จุดให้กลิ่นหอมในบ้าน และช่วยเป็นยาไล่ยุงได้
วัตถุประสงค์ของกำรศึกษำ
1. เพื่อจัดทาธูปหอมกายานจากน้าเปลือกมังคุด
2. เพื่อเป็นการศึกษาวิธีการทาธูปหอมกายาน
3. เพื่อเป็นการนาเปลือกมังคุดมาใช้ให้เกิดประโยชน์

9. 2
ขอบเขตของกำรศึกษำ
ขอบเขตด้ำนสถำนที่
1. โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
เลขที่ 1 หมู่ที่ 4 ตาบลนาตาขวัญ อาเภอเมือง จังหวัดระยอง 21000
2. บ้านของนางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล เลขที่ 18 ม.5/4
ตาบลหนองละลอก อาเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง 21120
ขอบเขตด้ำนระยะเวลำ
ระยะเวลาที่ในการทาโครงงานฉบับนี้ ดาเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ตั้งแต่
วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2562
ขอบเขตด้ำนงบประมำณ
โครงงานฉบับนี้ใช้งบประมาณเป็นจานวนเงินทั้งสิ้น 1,100 บาท
นิยำมศัพท์เฉพำะ
1. ผงขี้เลื่อย หมายถึง ผงไม้ละเอียดจากการเลื่อยไม้ ช่วยให้กายานติดไฟได้นานขึ้น
2. ผงก้อ หมายถึง สารเพิ่มความเหนียวสาหรับผงขี้เลื่อย ทาจากแป้งเปียก
3. จันขาว หมายถึง ผงหอมที่ได้จากยากในเปลือกของต้นกายานที่ซึมออกมาตามธรรมชาติ
4. กระดานชนวน หมายถึง กระดานขนาดเล็กทาด้วยแผ่นหินชนวน ใช้เขียนหนังสือสมัยก่อน
ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1. ได้จัดทาธูปหอมกายานจากน้าเปลือกมังคุด
2. ได้ทาการศึกษาวิธีการทาธูปหอมกายาน
3. ได้นาเอาเปลือกมังคุดเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์

10. บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การจัดทาโครงงานอาชีพ เรื่อง ธูปหอมเปลือกมังคุด คณะผู้จัดทาได้ทาการศึกษาค้นคว้าแนวคิด
เอกสารต่างๆ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทาโครงงาน ดังนี้
แนวคิดและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
1. มังคุด
2. ธูปหอม
3. วิธีการทาธูป
4. กายาน
แนวคิดและเอกสำรที่เกี่ยวข้อง
1. มังคุด
ชื่อสามัญ Mangosteen
ชื่อวิทยาศาสตร์ Garcinia × mangostana L.
วงศ์มังคุด (CLUSIACEAE หรือ GUTTIFERAE)
ควำมเป็นมำ
มังคุด ชื่อภาษาอังกฤษคือ mangosteen มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana Linn. มี
ชื่อเรียกในภาษามลายูว่ามังกุสตาน manggustan ภาษาอินโดนีเซียเรียกมังกีส ภาษาพม่าเรียกมิงกุทธี
ภาษาสิงหลเรียกมังกุส เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบเขตร้อนชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกาเนิดอยู่ที่หมู่เกาะซุนดา
และหมู่เกาะโมลุกกะ แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่หมู่เกาะอินดีสตะวันตกเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 24 แล้วจึงไปสู่
กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ปานามา เอกวาดอร์ ไปจนถึงฮาวาย
ในประเทศไทยมีการปลูกมังคุดมานานแล้วเช่นกัน เพราะมีกล่าวถึงในพระราชนิพนธ์เรื่อง
รามเกียรติ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 นอกจากนั้น ในบริเวณโรงพยาบาลศิริราชยังเคยเป็นที่ตั้งของวังที่มีชื่อว่า
"วังสวนมังคุด" ในจดหมายเหตุของราชทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาของพระสงฆ์ไทย ได้กล่าวว่ามังคุดเป็น
หนึ่งในผลไม้ที่นาออกมารับรองคณะทูต

11. 4
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์
มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เนื้อใบหนาและค่อนข้าง
เหนียวคล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้
ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยกเพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่าน้า ผล
เป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง เมื่อแก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่าน้า อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล
จานวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจานวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5
เซนติเมตร

12. 5
ส่วนของเนื้อผลที่กินได้ของมังคุดเป็นชั้นเอนโดคาร์ป (endocarp) ซึ่งพัฒนามาจากเปลือกหุ้ม
เมล็ดเรียกว่า aril มีสีขาว มีกลิ่นหอม ส่วนล่างสุดของผลที่เป็นแถบสีเข้มที่ติดอยู่เรียงเป็นวงพัฒนามาจาก
ปลายยอดเกสรตัวเมีย (stigma) มีจานวนเท่ากับจานวนเมล็ดภายในผล เมล็ดมังคุดเพาะยากและต้อง
ได้รับความชื้นจนกว่าจะงอก เมล็ดมังคุดเกิดจากชั้นนิวเซลลาร์ ไม่ได้มาจากการปฏิสนธิ เมล็ดจะงอกได้
ทันทีเมื่อออกจากผลแต่จะตายทันทีที่แห้ง
มังคุดมีพันธุ์พื้นเมืองเพียงพันธุ์เดียว แต่ถ้าปลูกต่างบริเวณกันอาจมีความผันแปรไปได้บ้าง ใน
ประเทศไทยจะพบความแตกต่างได้ระหว่างมังคุดในแถบภาคกลางหรือมังคุดเมืองนนท์ ที่ผลเล็ก ขั้วยาว
เปลือกบาง กับมังคุดปักษ์ใต้ที่ผลใหญ่กว่า ขั้วผลสั้น เปลือกหนา
สรรพคุณของมังคุด
- เนื้อมังคุด
มีการนามังคุดมาประกอบอาหารบ้างทั้งอาหารคาว เช่น แกง ยา และอาหารหวาน เช่น มังคุด
ลอยแก้ว แยมมังคุด มังคุดกวน มังคุดแช่อิ่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการทามังคุดคัด ด้วยการแกะ
เนื้อมังคุดห่ามออกมาเสียบไม้รับประทาน ในขณะที่ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทานมังคุดสุกเป็นผลไม้ ซึ่งมี
ประโยชน์ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย มีส่วนช่วยในการชะลอ
วัยและการเกิดริ้วรอย ช่วยบารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันอาการไข้ (ไข้ระดับต่า) ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วย
เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทาให้เกิดสิว
ออกฤทธิ์ต้านสิวอักเสบได้ดี และมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้า ลดความเครียด
การรับประทานมังคุดเป็นประจา จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพจิตดี อารมณ์ดีอยู่เสมอ ช่วยลดระดับ
คอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกในร่างกาย มี
สวนช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติในการลดและควบคุมระดับน้าตาลอีกด้วย
เนื้อมังคุด มีเส้นกากใยสูง ช่วยเรื่องการขับถ่ายและมีวิตามินเกลือแร่สูงมาก เช่น กรดอินทรีย์
น้าตาล แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก

13. 6
- เปลือกมังคุด
ส่วนเปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) ซึ่งแทนนินมี
ฤทธิ์ฝาดสมาน ทาให้แผลหายเร็ว ส่วนแมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทา
ให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้าหรือย่างไฟ ฝนกับน้าปูนใส แก้
ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้าปูนใส ใช้รักษาอาการน้ากัดเท้า แผลเปื่อย นอกจากนี้ เปลือกมังคุดมีสาร
ป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย ชาวโอรังอัสลี ในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย ใช้เปลือกผลแห้งรักษา
แผลเปิด
- น้ำมังคุด
น้ามังคุดช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ด้วยการหลั่งสาร Interleukin Iและ Tumor Necrosis
Factor ช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน ลดอาการแพ้ภูมิตนเอง (ในโรค SLE) และลดการอักเสบ ในผู้ป่วย
เบาหวาน ตับเสื่อม ไตวาย ข้อเข่าเสื่อม ความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน ไทรอยด์เป็นพิษ ความผิดปกติ
ของสมองอันเนื่องจากการอักเสบ
ประโยชน์ของมังคุด
- รับประทานสดเป็นผลไม้หรือทาเป็นน้าผลไม้อย่าง น้ามังคุดและน้าเปลือกมังคุด
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย
- มีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระต่าง ๆ ได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ
- ช่วยบารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง
- ช่วยลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์
- เปลือกมังคุดมีสารช่วยป้องกันเชื้อราจึงเหมาะแก่การหมักปุ๋ย

14. 7
- นามาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น แกง ยา มังคุดลอยแก้ว ซอสมังคุด เป็นต้น
- นามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง มังคุดกวน แยมมังคุด มังคุดแช่อิ่ม ทอฟฟี่มังคุด
- มังคุดมีสารจีเอ็ม-1 ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสาอาง สาหรับผู้มีปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิว
และอาการแพ้
- นามาแปรรูปเป็นสบู่เปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นเต่า รักษาสิวฝ้า บรรเทาอาการของโรค
ผิวหนัง
กำรแปรรูปมังคุด
มังคุดสามารถนามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ได้หลายชนิดเช่น
1. น้ำส้มสำยชูมังคุด เป็นการหมักเนื้อมังคุดด้วยเชื้อ Gluconobacter Oxydans จะได้ปริมาณ
กรดน้าส้มอยู่ระหว่าง 4 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพของน้าส้มสายชูที่ได้จะมีสีตามธรรมชาติ มีกลิ่นหอมของ
กรดน้าส้ม มีลักษณะใส ไม่มีหนอนน้าส้ม สิ่งสกปรกหรือสิ่งเจือปนอันใด ไม่มีตะกอนจากตะกอนที่เกิดโดย
ธรรมชาติของน้าส้มสายชูหมัก ผลิตภัณฑ์น้าส้มสายชูมังคุดเพื่อสุขภาพ อุดมด้วยโพแทสเซียม ปริมาณ
97.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 3.3มิลลิกรัม แมกนีเซียม 13.7 ต่อ 100 กรัม และปริมาณกรดน้าส้ม 4.68
เปอร์เซ็นต์
2. มังคุดไซเดอร์ ไซเดอร์เป็นเครื่องดื่มผลไม้ที่มีแอลกอฮอล์ต่า การผลิตไซเดอร์สามารถผลิตได้ 2
วิธี คือ แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการผลิตจากการหมักผลไม้ตามธรรมชาติโดยไม่มีการเติมยีสต์ อีกวิธีหนึ่งคือ การ
หมักผลไม้และเติมยีสต์เข้าไปเพื่อเร่งปฏิกิริยา การผลิตไซเดอร์จากมังคุดโดยวิธีการแบบดั้งเดิม คือหมัก
มังคุดตามธรรมชาติ คุณภาพของไซเดอร์จะขึ้นอยู่กับสี ความขุ่น ความเปรี้ยวความหวาน ความขม ความ
เค็มและกลิ่นรสผลไม้ รวมทั้งกลิ่นรสต่างๆ ที่เกิดจากการหมักด้วยเชื้อยีสต์ คุณลักษณะเหล่านี้มีผลทาให้ไซ
เดอร์เป็นที่นิยมของผู้บริโภค นอกเหนือจากการมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ไซเดอร์จากน้า
มังคุด ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 871 มิลลิกรัมต่อลิตร
3. มังคุดสำเร็จรูปชนิดเกล็ด เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จาก
มังคุด เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการใช้เนื้อมังคุดที่บดละเอียดมาทาการอบแห้งและแช่แข็งที่อุณหภูมิต่า
(Freeze Dry) การทาผลิตภัณฑ์แช่แข็งอบแห้ง จะยังคงคุณค่าทางโภชนาการของมังคุดไว้อย่างครบถ้วน
ประกอบด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมในปริมาณสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น
รวมทั้งคุณประโยชน์ที่ได้จากใยอาหารและคุณค่าที่ได้จากสารประกอบกลุ่มแซนโทนโดยธรรมชาติจากเนื้อ
มังคุดล้วนในปริมาณที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายผลิตภัณฑ์มังคุดเกล็ด สามารถชงละลายได้ทั้งน้าร้อน

15. 8
และน้าเย็นในปริมาณถ้วยละ 2 หรือ 3 ช้อนชา ชงดื่มมังคุดเกล็ด 1 ซอง (60 กรัม) จะได้คุณค่าครบถ้วน
ของมุงคุดสด 300 กรัม
มังคุดในประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกมังคุดมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ไปสู่ในหลายๆประเทศทั่ว
โลกเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเนเธอแลนด์ โดยมีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 1,500 ล้านบาท
มังคุดที่ถูกส่งออกไปจาหน่ายยังต่างประเทศมีทั้งในรูปของผลสดและมังคุดแปรรูป ภาคใต้จัดเป็นแหล่ง
ปลูกมังคุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพดีและมีรสชาติดีเมื่อเทียบกับมังคุดใน
ภูมิภาคอื่นของประเทศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จากการที่มังคุดมีเอกลักษณ์ทั้งในรูปร่าง
ของผลที่สวยงาม และมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจน
ได้รับฉายาว่า “Queen of Fruits” ในปัจจุบันมังคุดจึงจัดเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพสูงในการส่งออกของ
ประเทศไทย และในอนาคตมีแนวโน้มว่ามังคุดจะมีความสาคัญมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากว่าประเทศไทยได้
ทาการขยายตลาดการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนซึ่งมีประชากรสูง ก็ให้ความสนใจกับ
ไม้ผลชนิดนี้ด้วย

16. 9
2. ธูปหอม
ธูปอโรมาหรือธูปกายานหอม สามารถช่วยให้บ้านหอมได้ด้วยกลิ่นหอมฟุ้ง ในพื้นที่แบบเปิด โดยกลิ่นหอม
แบบอโรมาจากธูปนั้น จะเหมาะกับการเพิ่มบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ในช่วงที่นั่งทางานหรืออ่านหนัง เป็น
ระยะเวลาสั้น ๆ โดยจุดตรงส่วนที่เป็นปลายแหลม และวางไว้ในภาชนะสาหรับวางธูปโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่มี
ให้เลือกทั้งแบบ เป็นจานขนาดจิ๋วน่ารักๆ และ กระถางที่มาพร้อมฝาปิดแบบเจาะรู สาหรับการหยิบใช้งานนั้น
ควรหาภาชนะที่มิดชิด เก็บแยกธูปที่ยังไม่ได้ใช้เอาไว้ เพราะหากได้รับความชิ้นจะทาให้กลิ่นของธูปจางลงและ
จุดติดยาก
3. วิธีกำรทำธูป
ธูปหอมสปำ กลิ่นกำยำน แบบแท่ง
ส่วนผสม
- ขี้เลื่อยร่อน (แห้ง) 100 ส่วน
- กาวกั๊วะก่า 25 ส่วน
- กายาน 10 ส่วน
- ก้านธูปทาจากไม้ไผ่ เตรียมเอาไว้ให้พอแก่ความต้องการ
- สีย้อมผ้าสีแดง (หรือสีที่ต้องการ) สาหรับชุบก้านธูป
วิธีทา
1. นาขี้เลื่อยที่ร่อนแล้วมาใส่ในภาชนะผสม โรยกาวกั๊วะก่าตามลงไป
2. พรมน้าให้ทั่ว คลุกให้เข้ากัน นวดผสมจนขี้เลื่อย น้าและกาว เข้ากันดี

17. 10
3. ใส่กายานลงไป คลุกผสมเข้าด้วยกันให้เหนียวจนสามารถเอามาปั้นกับก้านธูปที่เตรียมเอาไว้
ได้
4. ก่อนจะปั้นส่วนผสมกับก้านธูปนั้น ต้องเอาก้านธูปมาชุบสีก่อน โดยชุบสีแดง (หรือสีที่
ต้องการ) ให้ได้ 1/3 ของก้านธูป
5. การปั้นธูปคือ การเอาเนื้อธูปที่ผสมกันดีแล้วมาใส่ลงที่ไม้ไผ่ก้านธูปแล้วคลึงไปมากับแผ่นไม้ให้
เรียบ ส่วนไหนที่มีเนื้อธูปมากเกินไปก็คลึงเนื้อธูปให้ออกไป เราต้องปั้นทีละก้านเมื่อชานาญ
แล้วจะเร็วขึ้น
6. เมื่อปั้นธูปจนสวยงามดีแล้ว ให้นามาปักไว้ที่ไม้กระดานที่เจาะไว้เป็นรู รูละ 1 ดอก นาไปตาก
แดดจนแห้งดี ห้ามนาธูปไปตากแดดจัด ๆ เพราะจะทาให้ธูปแตกได้ แล้วนามาบรรจุลงไปใน
กล่องหรือในซอง

18. 11
ธูปหอมสมุนไพร กลิ่นตะไคร้ แบบกรวย
ส่วนผสมกรูด 25%
- สะเดา 25%
- ตะไคร้หอม 25%
- กะลามะพร้าว 5%
- จันทร์เหนียว 5%
- สีผสมอาหาร 5%
- น้ามันตะไคร้หอม 5%
- น้า 5%
วิธีทา
1. ล้างทาความสะอาดและบดสมุนไพรให้ละเอียด
2. ร่อนด้วยตะแกรงอีกครั้งหนึ่งเอาเฉพาะส่วนที่เป็นผงนาส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ตามอัตราส่วน
3. ค่อยๆ ใส่น้าลงในส่วนผสม แล้วนวดจนรู้สึกนุ่มมือ ใส่สีผสมอาหาร (เลือกสีตามต้องการ)
เพื่อให้มีสีสันสวยงามน่าใช้
4. อัดส่วนผสมใส่ในแม่พิมพ์ (หรืออาจทาด้วยเสื่อน้ามันที่ตัดพับเป็นรูปกรวย) แล้วปาดให้เรียบ
เสมอกัน
5. ทึ้งไว้ให้ส่วนผสมเริ่มแข็งตัว จากนั้นคว้านใส้ด้านในกรวยออก นาไปตากแดดครั้งแรกประมาณ
6 ชั่วโมง
6. นาเข้าตู้อบ ใช้อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส อบนาน 3 ชั่วโมง
7. นามาตากแดดครั้งที่สองอีกประมาณ 2 วัน แล้วนาเข้าตู้อบอีกครั้ง ใช้อุณหภูมิ 100 องศา
เซลเซียส อบนาน 2 ชั่วโมง
8. ฉีดกลิ่นตะไคร้หอมก่อนบรรจุถุง หากไม่ชอบกลิ่นตะไคร้จะไม่ฉีดกลิ่นตะไคร้ก็ได้ สามารถไล่ยุง
ได้เพราะมีส่วนผสมตะไคร้อยู่แล้ว พร้อมใช้หรือจาหน่าย

19. 12
4. กำยำน
กายาน คือ ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล Styrax วงศ์ Styracaceae ใบเดี่ยวรูปไข่ แผ่นใบ
ด้านบนมีขนสั้นสีขาว ดอกสีขาว กายานบางชนิดเมื่อเปลือกถูกกรีดตามยาว หรือมีราลงก็จะขับชันน้ามันเป็น
ยางใสกลิ่นหอมออกมา เมื่อถูกอากาศจะแข็งตัวติดกับลาต้น แกะออกมาได้ เรียกว่า กายาน
ชื่อสามัญ Siam Benzoin (กายานญวน), Sumatra Benzoin (กายานสุมาตรา)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Styrax tonkinensis Craib ex Hartwich (กายานญวน), Styrax benzoin Dryand.,
Styrax paralleloneurus Perkins (กายานสุมาตรา) จัดอยู่ในวงศ์ STYRACACEAE
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์
- ต้นกำยำน
จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ประมาณ 10-20 เมตร เปลือกลา
ต้นเป็นสีเขียวเทาหรือสีหม่น ตามกิ่งก้านมีขนสีเหลืองเล็กน้อย[1] มีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วไปในแถบเขต
ร้อน เช่น แหลมมลายู เกาะสุมาตรา เกาะชวา เกาะบอนิโอ และในประเทศไทย

20. 13
- ใบกำยำน
ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ยาวเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก
เล็กน้อย แผ่นใบมีขนสีขาวเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-10
เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวประมาณ 6-10 มิลลิเมตร
- ดอกกำยำน
ออกดอกเป็นกระจุกหรือช่อตามง่ามใบ ดอกเป็นสีชมพู-แดง หรือสีขาว มีกลีบ 5 กลีบ ด้านใน
ของดอกจะเป็นสีชมพูถึงสีแดงเข้ม ด้านนอกเป็นสีขาว ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน และดอกมีขน

21. 14
- ผลกำยำน
ผลมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือกลมเล็กน้อย ผิวแข็งมีสีน้าตาล ยาวประมาณ 10-12 มิลลิเมตร มีขน
ขึ้นประปราย ภายในผลมีเมล็ด 1-2 เมล็ด
ชนิดของกำยำน
กายาน คือ ยางหรือชันน้ามัน (Oleoresin) ที่ได้จากพืชในสกุล Styrax หลายชนิด คาว่า "กายาน"
มาจากภาษามลายูว่า “Kamyan” อ่านว่า “กา-มิ-ยาน” โดยกายานที่มีขายในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 2
ชนิด คือ
1. กำยำนญวน หรือ กำยำนหลวงพระบำง (Siam Benzoin)
เป็นกายานที่ได้จากพืชชนิด Styrax tonkinensis Craib ex Hartwich ซึ่งคล้ายคลึงกับพืชชนิด
ทั้งสองชนิดแรก ลักษณะเป็นเม็ดกลมรีขนาดเล็ก ส่วนมากมีความยาวน้อยกว่า 2-3 เซนติเมตร ทึบแสง
เปราะ ชั้นในมีสีน้านมขาวขนาดเล็ก แต่เมื่อเก็บไว้นานๆ จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงปนน้าตาล ใส หรือทึบ
แสง กายานชนิดนี้เป็นกายานชนิดที่ดีที่สุด เพราะกายานชนิดนี้ส่งออกขายจากเมืองของราชอาณาจักร
สยาม ในทางการค้ากายานชนิดนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดเป็นเม็ดกลมรี เม็ดไม่ติดกัน (Tear
Siam Benzoin) และชนิดที่เป็นเม็ดๆ ติดกันเป็นก้อน มีลักษณะเป็นก้อนเหลี่ยมตามลักษณะของหีบไม้ที่
บรรจุ (Block Siam Benzoin) แต่ชนิดที่ดีที่สุดคือ ชนิดที่เป็นเม็ดกลมรี เกาะติดกันหลวมๆ ไม่แน่น ถ้า
เป็นชนิดธรรมดาจะเป็นเม็ดกลมรี ติดกันแน่น กายานชนิดนี้นิยมใช้เป็นสารให้คงกลิ่น (fixative) ใน
น้าหอม สบู่ ครีม สารซักฟอก เป็นต้น

22. 15
2. กำยำนสุมำตรำ (Sumatra Benzoin)
เป็นกายานที่ได้จากพืช 2 ชนิด คือ Styrax benzoin Dryand. และ Styrax paralleloneurus
Perkins กายานชนิดนี้จะมีลักษณะแตกต่างจากกายานญวนตรงที่มีสีเทามากกว่า ไม่ค่อยมีส่วนที่เป็นก้อน
กลมๆ รีๆ มักมีเศษไม้และของอื่นๆ ปนอยู่ และมีความหอมน้อยกว่ากายานญวน แต่จะนิยมนามาใช้
ประโยชน์ทางยามากกว่า โดยใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ และเป็นยาฝาดสมาน
ส่วนวิธีการเก็บยางนั้นจะทาได้โดยการใช้มีดหรือของมีคมสับฟันไปตรงลาต้นหรือเปลือกเพื่อให้ยางออกมา
แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 60 วัน เพื่อให้ยางแห้งแข็ง แล้วจึงค่อยแกะออกจากลาต้น ซึ่งเรียกว่า "Tear" โดย
ยางของกายานที่นามาใช้ทายานั้นให้เลือกเอาแต่ต้นที่มีอายุประมาณ 3-6 ปี เพราะในช่วงนี้ยางที่ออกมาจะมีสี
ขาวบริสุทธิ์และมีกลิ่นหอม ซึ่งจัดว่าเป็นยางชั้นหนึ่ง หรือที่เรียกว่า "Head benzoin" ส่วนต้นที่มีอายุประมาณ
7-9 ปี ยางที่ออกมาจะเป็นสีน้าตาล เรียกว่า "Belly benzoin" และสาหรับต้นที่มีอายุมากกว่า 9 ปีขึ้นไป ยาง
ที่ได้นั้นจะเป็นสีน้าตาลดา เรียกว่า "Foot benzoin" ซึ่งเป็นยางที่สกปรก

23. 16
ประโยชน์ของกำยำน
- ยางใช้เผาเอาควันอบห้อง จะช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เป็นยาไล่ยุง ไล่ริ้นไร มดและแมลงได้
- กายานมีประสิทธิภาพเป็นยากันบูดได้ จึงมักถูกนามาใช้เป็นส่วนผสมในตารับยาแผนโบราณ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการแต่งกลิ่นและกันบูด
- ใช้ปรุงน้าอบไทย โดยการเผากายานบนก้อนถ่านที่ไฟลุกแดง แล้วใช้อบ เช่น อบน้าดอกไม้ น้า
ที่อบกายานแล้วโบราณจะนามาปรุงกับเครื่องหอมอื่นๆ ทาเป็นน้าอบไทย นอกจากนี้ยังใช้
กายานเป็นส่วนประกอบสาคัญของเทียนอบ ธูปหอม กระแจะ เครื่องหอมอื่นๆ และยังใช้ทา
เครื่องสาอางได้อีกด้วย
- เนื่องจากกายานสามารถต้านการสลายตัวของไขมันต่าง ๆ ได้ดี มันจึงถูกนามาใช้ผสมกับไขมัน
ที่ใช้เป็นยาพื้นสาหรับเตรียมยาขี้ผึ้งต่างๆ
- ในปัจจุบัน การบาบัดรักษาสุขภาพด้วยกลิ่นหอมหรืออโรมาเธอราพี (Aromatherapy) กาลัง
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และหนึ่งในกลิ่นหอมที่ถูกนามาใช้กันมากก็คือ ‘กายาน’ นั่นเอง
ซึ่งสามารถช่วยลดความเครียด ผ่อนคลายความวิตกกังวล และทาให้รู้สึกสบายใจขึ้น
- เนื้อไม้ใช้ในการสร้างบ้านหรือที่พักชั่วคราว และใช้ทาฟืน

24. บทที่ 3
วิธีกำรดำเนินงำน
โครงงานฉบับนี้เป็นการทาโครงงานเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการทาธูปหอมโดยใช้น้าที่ได้จากการคั้นเปลือก
มังคุดเป็นส่วนผสมหลัก โดยวิธีการดาเนินงานของการทาโครงงานฉบับนี้ คณะผู้จัดทาจะนาเสนอข้อมูล
แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังต่อไปนี้
1. การทาน้าเปลือกมังคุด
2. การทาธูปหอมเปลือกมังคุด
1. กำรทำน้ำเปลือกมังคุด
วัสดุอุปกรณ์
1. มีด เขียง
2. กะละมัง
3. หม้อต้ม
4. กระบวย
5. มังคุด ประมาณ ½ กิโลกรัม
ขั้นตอนกำรทำน้ำเปลือกมังคุด
1. ใช้มีดผ่าครึ่งลูกมังคุดจานวน ½ กิโลกรัม

25. 18
2. คว้านเอาเนื้อมังคุดด้านในออก (กรณีเนื้อมังคุดยังดีไม่เน่าเก็บไว้ทานได้)
3. นาเปลือกมังคุดที่ได้ทั้งหมดไปล้างน้าเปล่าให้สะอาด
4. เติมน้าลงในหม้อต้ม ตั้งไฟให้น้าพอเดือดแล้วใส่เปลือกมังคุดลงไป

26. 19
5. ใช้กระบวยเคี่ยวเปลือกมังคุดด้วยไฟอ่อน จนน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงเปลือกมังคุด
6. กรองเปลือกมังคุดออก แล้วพักน้าเปลือกมังคุดที่ได้เก็บไว้

27. 20
2. กำรทำธูปหอมเปลือกมังคุด
วัสดุอุปกรณ์
1. น้าเปลือกมังคุด 1 ถ้วย 2. ผงขี้เลื่อย 50 กรัม
3. ผงก้อ 5 กรัม 4. จันขาวหรือกายาน 13 กรัม
5. ก้านไม้ไผ่ ประมาณ 30 ก้าน 6. สีย้อมฝ้ายสีเปลือกมังคุด
7. กระดานชนวน 10. ถ้วย
8. น้าเปล่า 11. แผ่นโฟม
9. กะละมัง

28. 21
ขั้นตอนกำรทำธูปหอมเปลือกมังคุด
1. ชุบก้านไม้ไผ่ด้วยสีย้อมฝ้ายผสม (ชุบสีประมาณ 1/3 ของความยาวก้าน)
2. แช่ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นนาขึ้นจากสีย้อมฝ้ายมาตากพักไว้ให้แห้ง
3. ชั่งส่วนผสม ผงขี้เลื่อย 50 กรัม ผงก้อ 5 กรัม และกายาน 13 กรัม

29. 22
4. ผสมขี้เลื่อยที่ร่อนแล้วผสมกับผงก้อในกะละมัง เติมน้าเปลือกมังคุดลงไป คลุกให้เข้ากัน
5. ใส่กายานลงไป เติมน้าไปเล็กน้อย แล้วคลุกผสมเข้ากันให้เหนียวจนสามารถปั้นได้
6. เอาเนื้อธูปที่ผสมกันดีแล้วใส่ลงรอบๆ ที่ก้านธูปให้ทั่วก้าน
7. ปั้นเนื้อธูปให้ติดรอบไม้ไผ่ยาวประมาณ 2/3 ของก้านธูป

30. 23
8. คลึงก้านธูปที่ปั้นแล้วบนแผ่นกระดานชนวนให้เรียบ
9. เมื่อปั้นธูปจนสวยงามดีแล้ว ให้นามาปักไว้บนแผ่นโฟม
10. นาธูปที่ได้ไปตากแดดจนแห้งดี (ห้ามตากแดดจัดๆ เพราะจะทาให้ธูปแตกได้)

31. บทที่ 4
ผลกำรดำเนินงำน
โครงงานฉบับนี้เป็นการทาโครงงานเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการทาธูปหอมโดยใช้น้าที่ได้จากการคั้นเปลือก
มังคุดเป็นส่วนผสมหลัก
การนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าข้อมูล และผลการดาเนินงานของการทาโครงงานฉบับนี้ คณะผู้จัดทา
จะนาเสนอข้อมูลแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังต่อไปนี้
1. ธูปหอมเปลือกมังคุด
2. สไลด์นาเสนอผลงาน
3. โปสเตอร์โครงงาน
1. ธูปหอมเปลือกมังคุด

32. 25
2. สไลด์นำเสนอผลงำน
สไลด์ที่ 1 สไลด์ที่ 2
สไลด์ที่ 3 สไลด์ที่ 4
สไลด์ที่ 5 สไลด์ที่ 6

33. 26
สไลด์ที่ 7 สไลด์ที่ 8
สไลด์ที่ 9 สไลด์ที่ 10
สไลด์ที่ 11 สไลด์ที่ 12

34. 27
สไลด์ที่ 13 สไลด์ที่ 14

35. 28
3 . โปสเตอร์โครงงำน

36. บทที่ 5
สรุปผล และข้อเสนอแนะ
การจัดทำโครงงานอาชีพ เรื่อง ธูปหอมเปลือกมังคุด คณะผู้จัดทำได้ทำการกำหนดวัตถุประสงค์และ
ขอบเขตของการทำโครงงานไว้ดั้งนี้
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อจัดทำธูปหอมกำยานจากน้ำเปลือกมังคุด
2. เพื่อเป็นการศึกษาวิธีการทำธูปหอมกำยาน
3. เพื่อเป็นการนำเปลือกมังคุดมาใช้ให้เกิดประโยชน์
5.1.สรุปผลการดำเนินงาน
ธูปหอมเปลือกมังคุด เป็นธูปหอมกำยานที่ใช้ส่วนผสมจากน้ำที่ได้จากเปลือกมังคุดนำมาเป็นส่วนผสม
เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมจากเปลือกมังคุดและกำยาน ธูปหอมเปลือกมังคุดนี้ เมื่อจุดจะเกิดกลิ่นหอมช่วยคลาย
เครียด ทำให้รู้สึกสบายใจ และนอกจากนี้ กลิ่นจากกำยานยังช่วยเป็นยาไล่ยุง มดและแมลงได้อีกด้วย

37. 30
5.2.ข้อเสนอแนะ
1. เปลือกมังคุดนอกจากจะต้มอย่างเดียว อาจจะเอาเนื้อมาบดเป็นส่วนผสมในเนื้อธูปได้
2. ควรลองใช้สารเคมี หรือวิธีการกลั่นน้ำจากเปลือกมังคุด เพื่อให้ได้กลิ่นที่หอมขึ้น
3. เนื้อธูปที่ผสมได้นั้น อาจนำมาปั้นเป็นธูปแบบแท่งแล้ว ก็สามารถทำเป็นธูปหอมแบบกรวยได้

38. 31
บรรณานุกรม
ภาษาไทย
Kapook. ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562,
จาก https://health.kapook.com/view93601.html
MedThai. 5 สิงหาคม 2560. มังคุด สรรพคุณและประโยชน์ของมังคุด 45 ข้อ !. สืบค้นเมื่อวันที่ 11
กันยายน 2562, จาก https://medthai.com/มังคุด/
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. 31 สิงหาคม 2561. มังคุด. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562, จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/มังคุด
กันตพร สวนศิลป์พงศ์. 12 มีนาคม 2561. ธูปรักษ์โลก : ธูปจากฝีมือคนรักธูปที่ทำให้รู้ว่าทุกอย่างคิด
เพื่อโลกและตัวเราได้. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562, จาก
https://blog.bluebasket.market/2018/03/12/raklokincense/
YesSpaThailand. สูตร-วิธีการทำผลิตภัณฑ์- ธูปหอมสปา กลิ่นกำยาน. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน
2562, จาก http://www.yesspathailand.com/สูตรผลิตภัณฑ์สปา/ธูปหอมสปากลิ่นกำยาน.
html?fbclid=IwAR1MVLbbuc1W8TRTLbYePTxzG1b-B71HvXT3uYR_pmNi4ul7OWtKi
1nwtIE
YesSpaThailand. สูตร-วิธีการทำผลิตภัณฑ์- ธูปหอมสมุนไพรสปา แบบกรวย กลิ่นตะไคร้. สืบค้น
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562, จาก http://www.yesspathailand.com/สูตรผลิตภัณฑ์สปา/ธูป
หอมสมุนไพร-แบบกรวย.html
MedThai. 31 กรกฎาคม 2560. กำยาน สรรพคุณและประโยชน์ของกำยานต้น 17 ข้อ !. สืบค้นเมื่อ
วันที่ 11 กันยายน 2562, จาก https://medthai.com/กำยาน/

39. 32
ประวัติผู้จัดทำ
นายภูมินทร์ จันทานวน
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/4 เลขที่ 11
โรงเรียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพฯพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ประวัติส่วนตัว
วันเกิด วันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2545
อายุ 17 ปี
ประวัติการศึกษา
อนุบาล โรงเรียนอรวินวิทยา
ประถมศึกษา โรงเรียนอรวินวิทยา
มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง

40. 33
นางสาวธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/4 เลขที่ 18
โรงเรียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพฯพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ประวัติส่วนตัว
วันเกิด วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2546
อายุ 16 ปี
ประวัติการศึกษา
อนุบาล 1-2 โรงเรียนอรวินวิทยา
อนุบาล 3 โรงเรียนกุญแจคริสเตียนวิทยา
ประถมศึกษา 1 โรงเรียนกุญแจคริสเตียนวิทยา
ประถมศึกษา 2-5 โรงเรียนมารีวิทย์ บ่อวิน
ประถมศึกษา 6 โรงเรียนอารีย์วัฒนา
มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง
มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง