SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 9
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1
  หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 New Kids on the Block                      ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
  เรื่องหลัก/หัวเรื่อง   Personal Identification                           เวลา 3 ชัวโมง
                                                                                    ่
      *****************************************************************************
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
       หน่วยการเรี ยนรู น้ ีมีจุดมุ่งหมายให้นกเรี ยนฝึ กฟัง-พูดภาษาในสังคม (ทักทาย ตอบรับคาทักทาย
                        ้                    ั
 แนะนาตนเองและผูอื่น ตอบรับการแนะนา กล่าวลา) ได้ถูกต้องตามกาลเทศะ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
                 ้
1. มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด
   สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่ อสาร
   มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/4, ต 1.2 ม.1/1
   สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม
   มาตรฐาน ต 2.1 ม.1/1
   สาระที่ 4 : ภาษากับความสั มพันธ์ กับชุมชนและโลก
   มาตรฐาน ต 4.1 ม.1/1
2. ความสั มพันธ์ กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
   สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
3. ความรู้
      คาศัพท์ และสานวนภาษา
      kid (n.):                    a child or young person (เด็ก)
      block (n.):                 a group of buildings with streets on all sides
                                          (กลุ่มอาคารที่มีถนนขนาบ 4 ด้าน)
      โครงสร้ างประโยค/ไวยากรณ์
          Verb: be
          Question words: What, How
          Subject pronouns: I, you, he, she
          Possessive adjectives: my, your, his, her
      ข้ อมูลด้ านวัฒนธรรม
          สานวนที่ใช้ ทักทายและบอกลาอย่ างเป็ นและไม่ เป็ นทางการ
              Good morning ใช้ในการทักทายอย่างสุ ภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนเช้า (6.00 a.m. -
              12.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Morning ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ
              Good afternoon ใช้ในการทักทายอย่างสุภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนบ่าย (12.00 p.m.
              - 6.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Afternoon ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ
Good evening ใช้ในการทักทายอย่างสุ ภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนเย็น (6.00 p.m. -
                   11.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Evening ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ
                   Good night ใช้ในการกล่าวลาในช่วงเวลาเย็นมาก ๆ หรื อก่อนเข้านอน บางครั้งใช้ Night ใน
                   กรณี ที่ไม่เป็ นทางการ
                   Hi และ Hello เป็ นสานวนที่ใช้ทกทายอย่างไม่เป็ นทางการ เช่น ทักทายเพือน
                                                   ั                                           ่
                   Goodbye, Bye, See you. เป็ นสานวนที่ใช้กล่าวลาอย่างไม่เป็ นทางการ
                   Nice to meet you. ใช้กล่าวแสดงความยินดีเมื่อได้รับการแนะนาให้รู้จก ซึ่ งผูฟังจะกล่าวตอบ
                                                                                           ั        ้
                   ในทานองเดียวกันว่า Nice to meet you, too.
               คานาหน้ าชื่อที่แสดงสถานภาพ (title)
                   Mr. ใช้นาหน้านามสกุล (family name) หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูชายทั้งที่้
                   แต่งงานแล้ว หรื อยังเป็ นโสด เช่น Mr. Hill หรื อ Mr. John Hill
                   Mrs. ใช้นาหน้านามสกุล หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่แต่งงานแล้ว เช่น
                                                                                         ้
                   Mrs. Hill หรื อ Mrs. Jane Hill
                   Ms. ใช้นาหน้านามสกุล หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่แต่งงานแล้วหรื อ
                                                                                       ้
                   ยังเป็ นโสด เช่น Ms. Hill หรื อ Ms. Jane Hill ใช้เมื่อไม่ตองการระบุสถานภาพของการสมรส
                                                                             ้
                   หรื อการเป็ นโสด มักใช้ในประเทศสหรัฐอเมริ กามากกว่าในประเทศอังกฤษ
                   Miss ใช้นาหน้านามสกุลหรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่ยงเป็ นโสด เช่น
                                                                                             ้        ั
                   Miss Brown หรื อ Miss Barbara Brown
4.   ทักษะ/กระบวนการ
          กระบวนการกลุ่ม, ทักษะการนาเสนอ
5.   สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
     ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การใช้ทกษะชีวต การใช้เทคโนโลยี
                                                     ั      ิ
6.   คุณลักษณะอันพึงประสงค์
     มีมารยาทสังคม : นักเรี ยนตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการทักทายและมารยาททางสังคม
7.   ความเข้ าใจที่ยั่งยืน
     ภาษาที่ใช้ในการกล่าวและตอบรับการทักทาย กล่าวลา แนะนาและตอบรับการแนะนาตนเองและผูอื่น                  ้
                              ั
     แตกต่างกันเมื่อใช้กบบุคคลทีมีสถานภาพทางสังคมที่แตกต่างกัน
                                       ่
8.   สิ่ งที่นักเรียนเรียนรู้ และปฏิบัตได้
                                         ิ
     1. พูดสะกดชื่อและบอกชื่อเล่นของตนเอง (ต 1.2 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1)
     2. พูดทักทายและตอบรับคาทักทาย แนะนาตนเองและผูอื่น ตอบรับการแนะนาให้รูจกและกล่าวลา
                                                                   ้                             ้ั
          (ต 2.1 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1)
3. ฟังถ้อยคาที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เข้าใจ (ต 1.1 ม.1/4)
   4. พูดแนะนาบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยน (ต 2.1 ม.1/1)
                                         ู้ ั
หลักฐานการเรี ยนรู ้
1. ผลงานปฏิบัติ/ชิ้นงาน
   1. กิจกรรมคู่ : การพูดโต้ตอบถามชื่อ ตัวสะกด และชื่อเล่น
   2. กิจกรรมกลุ่ม : การแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่กาหนด
   3. คาตอบที่ได้จากการฟังถ้อยคาที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
   4. กิจกรรมการพูดแนะนาบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยน
                                                   ู้         ั
2. การวัดผลและประเมินผล
   1. ประเมินผลกิจกรรมคู่โดยใช้แบบประเมินการสนทนากิจกรรมคู่
   2. ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมติโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ
   3. ประเมินการฟังโดยใช้เกณฑ์การประเมินดังนี้
          ร้อยละของคาตอบที่ถูกต้อง                              ระดับความสามารถ
                   90-100                                            ดีมาก
                   70-89                                             ดี
                   50-69                                             พอใช้
                   น้อยกว่า 50                                       ต้องปรับปรุ งแก้ไข
   4. ประเมินการพูดนาเสนอบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยนโดยใช้เกณฑ์การประเมินการนาเสนอ
                                                      ู้         ั
   หลักฐานอื่น ๆ
          การทาแบบฝึ กหัดในหนังสือเรี ยนและหนังสือแบบฝึ กหัด
   นักเรียนประเมินตนเอง
       นักเรี ยนประเมินการเรี ยนรู ้หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 1 โดยใช้แบบประเมิน Unit 1 Self-Evaluation
  สิ่ งที่นักเรียนเรียนรู้ และปฏิบัติได้
   1. พูดและตอบรับคาทักทาย แนะนาตนเองและเพือน ตอบรับคาแนะนาให้รู้จก
                                                            ่                           ั
   กิจกรรมการเรียนรู้
          ขั้นที่ 1 นาเข้ าสู่ บทเรียน
                      ครู แนะนาตัวเองโดยอาจใช้ภาษาไทยเพือให้นกเรี ยนรู ้สึกเป็ นกันเอง เล่าเรื่ องของครู ให้
                                                                   ่     ั
                      นักเรี ยนฟังเล็กน้อย        และเปิ ดโอกาสให้นกเรี ยนถามคาถามเกี่ยวกับตัวครู เพือสร้าง
                                                                            ั                        ่
                      ความคุนเคย
                              ้
ครู เขียนชื่อและนามสกุลของตนเองบนกระดานดา                       ชี้ ที่ ต ั ว ครู เองแล้ ว พูดเป็ น
           ภาษาอังกฤษ “Hello. I’m Mr./Mrs./Miss/Ms. ชื่อและนามสกุล.” ครู อธิบายการใช้
           คานาหน้าชื่อที่แสดงสถานภาพ ซึ่งดูรายละเอียดเพิมเติมได้จากข้อมูลด้านวัฒนธรรม
                                                                ่
ขั้นที่ 2 ให้นกเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียงกิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 2 ครู ช้ ีที่ภาพ
                 ั              ั
           ในหนังสือเรี ยนไปด้วยขณะที่นกเรี ยนฟัง หลังจากนั้นนักเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียงอีกครั้ง
                                              ั                                              ั
           ออกเสียงตาม พร้อมทั้งชี้ที่ภาพขณะฟัง
ขั้นที่ 3 ครู เขียน I’m และ I am บนกระดานดา ถามนักเรี ยนว่าคาทั้งสองต่างกันอย่างไร หลังจาก
           นั้นครู อธิบายว่า I’m เป็ นรู ปย่อของ I am
ขั้นที่ 4 นักเรี ยนดูคาอธิบายใน Language Note ในหนังสื อเรี ยน หน้า 2 การใช้ Good morning,
           Good afternoon, Good evening และ Good night ให้นกเรี ยนช่วยกันสรุ ปการใช้สานวน
                                                                     ั
           ดังกล่าว ถ้านักเรี ยนยังไม่เข้าใจ ครู ให้ขอมูลเพิมเติม โดยดูจากข้อมูลด้านวัฒนธรรม
                                                     ้       ่
           ครู วาดรู ป นาฬิ ก า 3 เรื อน บนกระดานดาเพืออธิบายให้นกเรี ยนเข้าใจการใช้สานวนใน
                                                           ่            ั
          Language Note ได้ดียงขึ้น
                                  ิ่


                                  6 a.m. – 12 p.m. = morning




                                 12 p.m.– 6 p.m. = afternoon




                                  6 p.m. – 11 p.m. = evening

            ครู สอนเรื่ องการใช้ a.m. และ p.m. คือ เราจะใช้ a.m. ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงก่อนเที่ยงวัน
            และเราจะใช้ p.m. ตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงก่อนเที่ยงคืน เช่น 12:00 midnight (a.m.) - 11:00
            a.m., 12:00 noon (p.m.) - 11:00 p.m.
ขั้นที่ 5   ครู เปิ ดซีดีบนทึกเสียง ให้นกเรี ยนฟังบทสนทนาของแต่ละภาพจากกิจกรรม New
                          ั                 ั
            Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 2 และฝึ กพูดตามบทสนทนา จากนั้นนักเรี ยนจับคูฝึก       ่
            สนทนาตามหนังสือ เมื่อสังเกตว่านักเรี ยนเข้าใจความหมายและออกเสียงสานวนต่าง ๆ
            ถูกต้องแล้ว ให้นกเรี ยนฝึ กสนทนาโดยเปลี่ยนใช้ชื่อจริ งของตนเองแทน
                              ั
ขั้นที่ 6   ให้นกเรี ยนดูภาพกิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 สนทนาเกี่ยวกับภาพ
                    ั
            เพือให้นกเรี ยนเข้าใจสถานการณ์และเนื้อหาของบทสนทนา จากนั้นให้นกเรี ยนฟังซีดี
                ่     ั                                                                        ั
            บันทึกเสียง โดยระหว่างฟั งให้นกเรี ยนสังเกต “My name’s ________.” และ “What’s
                                                  ั
            ________?” ที่ครู เขียนไว้บนกระดานดา เมื่อนักเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสี ยงจบ ครู ถามนักเรี ยน
                                                                                 ั
            เกี่ยวกับคาที่ครู เขียนบนกระดานดา เพือทดสอบความรู เ้ ดิมของนักเรี ยนเกี่ยวกับรู ปย่อของ
                                                         ่
            “is” และอธิบายเพิมเติมว่า “My name’s
                                  ่                             .” เป็ นรู ปย่อของ “My name is         .” และ
            “What’s          ?” เป็ นรู ปย่อของ “What is          ?”
            จากบทสนทนากิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 อธิบายให้นกเรี ยนทราบ          ั
            ว่าชาวตะวันตกไม่นิยมเรี ยกชื่อเล่น (nickname) แบบคนไทย แต่นิยมเรี ยกชื่อสั้น ๆ แทน
            ชื่อเต็ม เช่น Elizabeth เรี ยกเป็ น Liz หรื อ Beth ครู เขียนชื่ออื่น ๆ ให้นกเรี ยนดูเป็ นตัวอย่าง
                                                                                        ั
            อีก เช่น Susan - Sue, Daniel - Dan, Robert - Bob หรื อ Rob เป็ นต้น ครู ถามนักเรี ยนว่าใคร
            มีชื่อเล่นอะไร              แล้วเขียนชื่อนักเรี ยนและชื่อเล่นบนกระดานดาเพือใช้ในการฝึ กการ
                                                                                            ่
            สนทนาต่อไป
ขั้นที่ 7   ให้ นั ก เรี ยนฝึ กออกเสี ย งบทสนทนา ตามซีดีบนทึกเสียงในกิจกรรม New Language
                                                                       ั
            ใน หนังสือเรี ยน หน้า 3 ที่ครู เปิ ดให้ฟังจนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง จากนั้นครู สุ่ม
            เรี ยกนักเรี ยน 1-2 คน มาฝึ กพูดบทสนทนากับครู แล้วจึงให้นกเรี ยนจับคู่กบเพือนเพือฝึ ก
                                                                                   ั          ั ่ ่
            พูดสนทนา โดยให้นกเรี ยนฝึ กถาม-ตอบชื่อก่อน เช่น
                                      ั
            S1: Hi. My name’s (ชื่อ) . What’s your name?
            S2: Hello. My name’s (ชื่อ) . Please call me (ชื่อเล่น) .
ขั้นที่ 8   ให้นกเรี ยนเป็ นอาสาสมัครสาธิตการแนะนาบุคคลที่ 3 ตามบทสนทนา ดังนี้
                  ั
            S1: Hi. My name’s (ชื่อ) . What’s your name?
            S2: Hello. My name’s (ชื่อ) . Please call me (ชื่อเล่น) .
            S1: This is my friend, (ชื่อของ S3).
            S2: Nice to meet you.
            S3: Nice to meet you, too.
            จากนั้นให้นกเรี ยนที่เหลือฝึ กบทสนทนาโดยสมมติชื่อให้นกเรี ยนฝึ กก่อน
                          ั                                                    ั                   แล้วลบบท
            สนทนาทีละบรรทัด เมื่อนักเรี ยนจาได้แล้ว ให้นกเรี ยนจับกลุ่มฝึ กกับเพือน ครู สงเกตความ
                                                                  ั                       ่        ั
            ถูกต้องในการปฏิบติกิจกรรมของนักเรี ยน
                                    ั
ขั้นที่ 9   ครู เขียน He’s, She’s บนกระดานดา ถามนักเรี ยนว่าคาทั้งสอง เป็ นรู ปย่อของคาว่าอะไร
            ครู อธิบาย He’s เป็ นรู ปย่อของ He is และ She’s เป็ นรู ปย่อของ She is และครู เขียน He
            และ She บนกระดานดาเพือทบทวนการใช้อีกครั้ง โดยชี้ไปที่นกเรี ยนชายคนหนึ่งแล้วพูด
                                            ่                                        ั
ว่า He ชี้ไปที่นกเรี ยนหญิงแล้วพูดว่า She จากนั้นครู ช้ ี He บนกระดานดาให้นกเรี ยนชาย
                                       ั                                                         ั
           ทั้งหมดยืนขึ้น และเมื่อชี้ She ให้นกเรี ยนหญิงทั้งหมดยืนขึ้นเช่นกัน ครู สุ่มชี้คาทั้งสอง
                                                     ั
           สลับไปมาเพือดูความเข้าใจของนักเรี ยน แล้วครู สุ่มเรี ยกชื่อนักเรี ยนชาย เช่น ยงยุทธ
                                   ่
           นักเรี ยนที่เหลือช่วยกันตอบว่า He เรี ยกชื่อนักเรี ยนหญิง เช่น ดาริ กา ให้นกเรี ยนที่เหลือ
                                                                                             ั
           ตอบว่า She เป็ นต้น
ขั้นที่ 10 ให้นกเรี ยนทากิจกรรม Practice ข้อ A ในหนังสื อเรี ยน หน้า 3 โดยเติม He หรื อ She ใน
                 ั
           ช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็ จแล้วให้นกเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียง เพือตรวจคาตอบ (ดูเฉลยท้าย
                                                   ั           ั           ่
           เล่ม)
ขั้นที่ 11 ครู เขียนคาว่า His และ Her บนกระดานดา แล้วอธิบายให้นกเรี ยนฟังว่า His และ Her เป็ น
                                                                         ั
           possessive adjectives ของ He และ She ครู ช้ ีที่นกเรี ยนชายและพูดว่า His name’s Yongyut.
                                                             ั
           และ ชี้ที่นกเรี ยนหญิงและพูดว่า Her name’s Anong. จากนั้นครู ช้ ีไปที่ยงยุทธอีกครั้งและ
                             ั
           ถามว่า What’s his name? แล้วชี้ไปที่อนงค์อีกครั้งและถามว่า What’s her name? ครู
           กระตุนให้นกเรี ยนทั้งชั้นตอบทั้งสองคาถามนี้
                       ้         ั
           ครู อธิบายเพิมเติมให้นกเรี ยนฟังว่า His และ Her เป็ น possessive adjectives ของ He และ She
                               ่             ั
           เพือให้นกเรี ยนเข้าใจยิงขึ้น เมื่อนักเรี ยนเข้าใจโครงสร้างการถาม-ตอบชื่อและการใช้ His
               ่           ั                   ่
           และ Her แล้ว ให้นกเรี ยนทากิจกรรม Practice ข้อ B-C ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 เป็ นการฝึ ก
                                         ั
           ถาม-ตอบชื่อโดยฝึ กเป็ นกลุ่มย่อย
ขั้นที่ 12 ให้นกเรี ยนทาแบบฝึ กหัด ข้อ A-C ใน Workbook หน้า 1-2 (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
                   ั
ขั้นที่ 13 ครู แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน สร้างสถานการณ์สมมติให้เป็ นการพบกันครั้งแรก
           ให้พดทักทายแนะนาตนเอง ผูอื่นให้รู้จกกัน และตอบรับการแนะนาให้รู้จกตามแบบอย่าง
                     ู                           ้     ั                                  ั
           บทพูดโต้ตอบในหนังสือเรี ยน หน้า 3
กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
           ถ้ามีเวลาให้นกเรี ยนเล่น Memory Game โดยให้นกเรี ยนนังเป็ นกลุ่มย่อย 4-6 คน นักเรี ยน
                                     ั                           ั     ่
           คนที่ 1 บอกชื่อตนเอง เช่น My name’s Araya. คนที่ 2 บอกชื่อเพือนคนแรกและชื่อของ
                                                                                 ่
           ตนเอง เช่น Her name’s Araya. My name’s Anong. ในขณะที่พดให้ผพดผายมือไปยัง
                                                                                   ู    ู้ ู
           เจ้าของชื่อด้วย แต่หามชี้หน้า เพราะเป็ นการกระทาที่ไม่สุภาพ
                                           ้
            ครู อาจใช้แบบฝึ กหัด Review 1 ในหนังสือเรี ยน หน้า 20-23 เป็ นแบบทดสอบก่อนเรี ยนก็
            ได้ เพือ     ่
           ประเมินความรู ้เดิมของนักเรี ยนและเพื่อเป็ นการวางแผนการสอน                      หรื อครู อาจใช้
           แบบฝึ กหัดจาก Workbook เป็ น Pre-test และ Post-test เพือประเมินผลการเรี ยนรู ้ของ
                                                                             ่
           นักเรี ยนได้เช่นเดียวกัน
สื่ อ/แหล่ งการเรียนรู้
1. เพลง ABC
2. ตัวอักษร A-Z
3. รู ปภาพบุคคล
4. บัตรบอกเวลา
5. สื่ออิเล็กทรอนิกส์
     - http://www.greenwichmeantime.com/info/noon.htm
     - http://en.wikipedia.org/wiki/12-hour_clock
หลักเกณฑ์ การถอดอักษรไทยเป็ นอักษรโรมันแบบถ่ ายเสียง

พยัญชนะไทย                             อักษรโรมัน (ตัวต้ น)   อักษรโรมัน (ตัวสะกด)
ก                                               k                       k
ขฃคฅฆ                                         kh                        k
ง                                             ng                       ng
จฉชฌ                                          ch                        t
ญ                                               y                       n
ด ฎ ฑ (บางคา)                                  d                        t
ตฏ                                              t                       t
ถฐทฑธฒ                                         th                       t
นณ                                             n                        n
บ                                              b                        p
ป                                              p                        p
ผพภ                                           ph                        p
ฝฟ                                              f                       p
ม                                              m                       m
ย                                               y                       -
ร                                               r                       n
ลฬ                                              l                       n
ว                                              w                        -
ซ ทร ศ ษ ส                                      s                       t
หฮ                                             h                        -

สระไทย                                     อักษรโรมัน
อะ, -ั (อะ ลดรูป), รร (มีตวสะกด), อา            a
รร (ไม่มีตวสะกด)                               an
อา                                             am
อิ, อี                                          i
อึ, อื                                         ue
อุ, อู                                          u
เอะ, เ -ั (เอะ ลดรูป), เอ                       e
แอะ, แอ                                        ae
โอะ, - (โอะ ลดรูป), โอ, เอาะ, ออ                o
เออะ, เ -ัิ (เออะ ลดรูป), เออ                  oe
เอียะ, เอีย                                     ia
เอือะ, เอือ                                    uea
อวะ, อว, -ว- (อว ลดรูป)                         ua
ใอ, ไอ, อย, ไอย, อาย                            ai
เอา, อาว                                        ao
อุย                                             ui
โอย, ออย                                        oi
เอย                                            oei
เอือย                                          ueai
อวย                                            uai
อิว                                             io
เอว, เอว                                        eo
แอว, แอว                                       aeo
เอียว                                          iao
ฤ (เสียง รึ ), ฤๅ                              rue
ฤ (เสียง ริ )                                    ri
ฤ (เสียง เรอ)                                  roe
ฦ, ฦๅ                                          lue




ที่มา : http://www.royin.go.th/upload/246/FileUpload/416_2157.pdf
       (หลกเกณฑ์การถอดอกษรไทยเปนอกษรโรมนแบบถ่ายเสียง)

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้Netnapa Iamanupong
 
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6Nontaporn Pilawut
 
Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Aj Muu
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนWanida Keawprompakdee
 
โครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseโครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseJitti Jaikham
 
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำ
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำแบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำ
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำสมใจ จันสุกสี
 
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayสมใจ จันสุกสี
 
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshareนวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slidesharenunawanna
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3Tharinee Japhimai
 
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์Nattapon
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์
ใบงานที่ 1   เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์ใบงานที่ 1   เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์
ใบงานที่ 1 เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์ณัฐพล บัวพันธ์
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals Kartinee
 
สื่อการสอน Verb to be
สื่อการสอน Verb to beสื่อการสอน Verb to be
สื่อการสอน Verb to bethip .fiefy
 
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษ
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษTime การบอกเวลาภาษาอังกฤษ
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษKansinee Kosirojhiran
 

La actualidad más candente (20)

แนวข้อสอบประโยคคำสั่ง
แนวข้อสอบประโยคคำสั่งแนวข้อสอบประโยคคำสั่ง
แนวข้อสอบประโยคคำสั่ง
 
Indirectquestions
IndirectquestionsIndirectquestions
Indirectquestions
 
ใบความรู้ อังกฤษ ม.1
ใบความรู้ อังกฤษ ม.1ใบความรู้ อังกฤษ ม.1
ใบความรู้ อังกฤษ ม.1
 
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
 
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6
Pre onet59 ภาษาอังกฤษ ป.6
 
Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013
 
Present Perfect Tense
Present  Perfect  TensePresent  Perfect  Tense
Present Perfect Tense
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
 
พละ ม.1
พละ ม.1พละ ม.1
พละ ม.1
 
โครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseโครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tense
 
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำ
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำแบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำ
แบบทดสอบเรื่องการให้คำแนะนำ
 
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
 
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshareนวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
 
ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค
ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยคประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค
ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค
 
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์
ใบงานที่ 1   เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์ใบงานที่ 1   เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์
ใบงานที่ 1 เรื่อง รู้จักกับโปรแกรมเพ้นท์
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Animals
 
สื่อการสอน Verb to be
สื่อการสอน Verb to beสื่อการสอน Verb to be
สื่อการสอน Verb to be
 
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษ
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษTime การบอกเวลาภาษาอังกฤษ
Time การบอกเวลาภาษาอังกฤษ
 

Similar a แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมรแผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมรitnogkamix
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1Itnog Kamix
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมPignoi Chimpong
 
คม Smile ป.1_57_unit1
คม Smile ป.1_57_unit1คม Smile ป.1_57_unit1
คม Smile ป.1_57_unit1Prawly Jantakam
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plankhanidthakpt
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินKhuanruthai Pomjun
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินDarika Roopdee
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินBenjarat Meechalat
 
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1Teacher Sophonnawit
 
3.แผนการเรียนรู้ backward
3.แผนการเรียนรู้ backward3.แผนการเรียนรู้ backward
3.แผนการเรียนรู้ backwardparichat441
 
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...aphithak
 
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1chartphysic
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านKanjana Pothinam
 

Similar a แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 (20)

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมรแผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
บทที่ ๓
บทที่ ๓บทที่ ๓
บทที่ ๓
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถม
 
Smile1 unit1
Smile1 unit1Smile1 unit1
Smile1 unit1
 
คม Smile ป.1_57_unit1
คม Smile ป.1_57_unit1คม Smile ป.1_57_unit1
คม Smile ป.1_57_unit1
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plan
 
บทที่ ๒.๒
บทที่ ๒.๒บทที่ ๒.๒
บทที่ ๒.๒
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
 
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1
แผนการสอนวิชาภาษาจีน ม.1
 
1370228618
13702286181370228618
1370228618
 
Brands thai (o net)
Brands thai (o net)Brands thai (o net)
Brands thai (o net)
 
3.แผนการเรียนรู้ backward
3.แผนการเรียนรู้ backward3.แผนการเรียนรู้ backward
3.แผนการเรียนรู้ backward
 
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
 
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
 
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1
แผนการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษแผนที่1
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
 
000
000000
000
 

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

  • 1. แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 New Kids on the Block ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เรื่องหลัก/หัวเรื่อง Personal Identification เวลา 3 ชัวโมง ่ ***************************************************************************** สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด หน่วยการเรี ยนรู น้ ีมีจุดมุ่งหมายให้นกเรี ยนฝึ กฟัง-พูดภาษาในสังคม (ทักทาย ตอบรับคาทักทาย ้ ั แนะนาตนเองและผูอื่น ตอบรับการแนะนา กล่าวลา) ได้ถูกต้องตามกาลเทศะ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ้ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่ อสาร มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/4, ต 1.2 ม.1/1 สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 ม.1/1 สาระที่ 4 : ภาษากับความสั มพันธ์ กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ม.1/1 2. ความสั มพันธ์ กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3. ความรู้ คาศัพท์ และสานวนภาษา kid (n.): a child or young person (เด็ก) block (n.): a group of buildings with streets on all sides (กลุ่มอาคารที่มีถนนขนาบ 4 ด้าน) โครงสร้ างประโยค/ไวยากรณ์ Verb: be Question words: What, How Subject pronouns: I, you, he, she Possessive adjectives: my, your, his, her ข้ อมูลด้ านวัฒนธรรม สานวนที่ใช้ ทักทายและบอกลาอย่ างเป็ นและไม่ เป็ นทางการ Good morning ใช้ในการทักทายอย่างสุ ภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนเช้า (6.00 a.m. - 12.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Morning ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ Good afternoon ใช้ในการทักทายอย่างสุภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนบ่าย (12.00 p.m. - 6.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Afternoon ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ
  • 2. Good evening ใช้ในการทักทายอย่างสุ ภาพ เมื่อบุคคลพบกันครั้งแรกในตอนเย็น (6.00 p.m. - 11.00 p.m.) บางครั้งก็ใช้ Evening ในกรณี ที่ไม่เป็ นทางการ Good night ใช้ในการกล่าวลาในช่วงเวลาเย็นมาก ๆ หรื อก่อนเข้านอน บางครั้งใช้ Night ใน กรณี ที่ไม่เป็ นทางการ Hi และ Hello เป็ นสานวนที่ใช้ทกทายอย่างไม่เป็ นทางการ เช่น ทักทายเพือน ั ่ Goodbye, Bye, See you. เป็ นสานวนที่ใช้กล่าวลาอย่างไม่เป็ นทางการ Nice to meet you. ใช้กล่าวแสดงความยินดีเมื่อได้รับการแนะนาให้รู้จก ซึ่ งผูฟังจะกล่าวตอบ ั ้ ในทานองเดียวกันว่า Nice to meet you, too. คานาหน้ าชื่อที่แสดงสถานภาพ (title) Mr. ใช้นาหน้านามสกุล (family name) หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูชายทั้งที่้ แต่งงานแล้ว หรื อยังเป็ นโสด เช่น Mr. Hill หรื อ Mr. John Hill Mrs. ใช้นาหน้านามสกุล หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่แต่งงานแล้ว เช่น ้ Mrs. Hill หรื อ Mrs. Jane Hill Ms. ใช้นาหน้านามสกุล หรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่แต่งงานแล้วหรื อ ้ ยังเป็ นโสด เช่น Ms. Hill หรื อ Ms. Jane Hill ใช้เมื่อไม่ตองการระบุสถานภาพของการสมรส ้ หรื อการเป็ นโสด มักใช้ในประเทศสหรัฐอเมริ กามากกว่าในประเทศอังกฤษ Miss ใช้นาหน้านามสกุลหรื อนาหน้าทั้งชื่อและนามสกุลรวมกันของผูหญิงที่ยงเป็ นโสด เช่น ้ ั Miss Brown หรื อ Miss Barbara Brown 4. ทักษะ/กระบวนการ กระบวนการกลุ่ม, ทักษะการนาเสนอ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การใช้ทกษะชีวต การใช้เทคโนโลยี ั ิ 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีมารยาทสังคม : นักเรี ยนตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการทักทายและมารยาททางสังคม 7. ความเข้ าใจที่ยั่งยืน ภาษาที่ใช้ในการกล่าวและตอบรับการทักทาย กล่าวลา แนะนาและตอบรับการแนะนาตนเองและผูอื่น ้ ั แตกต่างกันเมื่อใช้กบบุคคลทีมีสถานภาพทางสังคมที่แตกต่างกัน ่ 8. สิ่ งที่นักเรียนเรียนรู้ และปฏิบัตได้ ิ 1. พูดสะกดชื่อและบอกชื่อเล่นของตนเอง (ต 1.2 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1) 2. พูดทักทายและตอบรับคาทักทาย แนะนาตนเองและผูอื่น ตอบรับการแนะนาให้รูจกและกล่าวลา ้ ้ั (ต 2.1 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1)
  • 3. 3. ฟังถ้อยคาที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เข้าใจ (ต 1.1 ม.1/4) 4. พูดแนะนาบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยน (ต 2.1 ม.1/1) ู้ ั หลักฐานการเรี ยนรู ้ 1. ผลงานปฏิบัติ/ชิ้นงาน 1. กิจกรรมคู่ : การพูดโต้ตอบถามชื่อ ตัวสะกด และชื่อเล่น 2. กิจกรรมกลุ่ม : การแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่กาหนด 3. คาตอบที่ได้จากการฟังถ้อยคาที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ 4. กิจกรรมการพูดแนะนาบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยน ู้ ั 2. การวัดผลและประเมินผล 1. ประเมินผลกิจกรรมคู่โดยใช้แบบประเมินการสนทนากิจกรรมคู่ 2. ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมติโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ 3. ประเมินการฟังโดยใช้เกณฑ์การประเมินดังนี้ ร้อยละของคาตอบที่ถูกต้อง ระดับความสามารถ 90-100 ดีมาก 70-89 ดี 50-69 พอใช้ น้อยกว่า 50 ต้องปรับปรุ งแก้ไข 4. ประเมินการพูดนาเสนอบุคคลใกล้ชิดให้ผอื่นรู ้จกในห้องเรี ยนโดยใช้เกณฑ์การประเมินการนาเสนอ ู้ ั หลักฐานอื่น ๆ การทาแบบฝึ กหัดในหนังสือเรี ยนและหนังสือแบบฝึ กหัด นักเรียนประเมินตนเอง นักเรี ยนประเมินการเรี ยนรู ้หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 1 โดยใช้แบบประเมิน Unit 1 Self-Evaluation สิ่ งที่นักเรียนเรียนรู้ และปฏิบัติได้ 1. พูดและตอบรับคาทักทาย แนะนาตนเองและเพือน ตอบรับคาแนะนาให้รู้จก ่ ั กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 นาเข้ าสู่ บทเรียน ครู แนะนาตัวเองโดยอาจใช้ภาษาไทยเพือให้นกเรี ยนรู ้สึกเป็ นกันเอง เล่าเรื่ องของครู ให้ ่ ั นักเรี ยนฟังเล็กน้อย และเปิ ดโอกาสให้นกเรี ยนถามคาถามเกี่ยวกับตัวครู เพือสร้าง ั ่ ความคุนเคย ้
  • 4. ครู เขียนชื่อและนามสกุลของตนเองบนกระดานดา ชี้ ที่ ต ั ว ครู เองแล้ ว พูดเป็ น ภาษาอังกฤษ “Hello. I’m Mr./Mrs./Miss/Ms. ชื่อและนามสกุล.” ครู อธิบายการใช้ คานาหน้าชื่อที่แสดงสถานภาพ ซึ่งดูรายละเอียดเพิมเติมได้จากข้อมูลด้านวัฒนธรรม ่ ขั้นที่ 2 ให้นกเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียงกิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 2 ครู ช้ ีที่ภาพ ั ั ในหนังสือเรี ยนไปด้วยขณะที่นกเรี ยนฟัง หลังจากนั้นนักเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียงอีกครั้ง ั ั ออกเสียงตาม พร้อมทั้งชี้ที่ภาพขณะฟัง ขั้นที่ 3 ครู เขียน I’m และ I am บนกระดานดา ถามนักเรี ยนว่าคาทั้งสองต่างกันอย่างไร หลังจาก นั้นครู อธิบายว่า I’m เป็ นรู ปย่อของ I am ขั้นที่ 4 นักเรี ยนดูคาอธิบายใน Language Note ในหนังสื อเรี ยน หน้า 2 การใช้ Good morning, Good afternoon, Good evening และ Good night ให้นกเรี ยนช่วยกันสรุ ปการใช้สานวน ั ดังกล่าว ถ้านักเรี ยนยังไม่เข้าใจ ครู ให้ขอมูลเพิมเติม โดยดูจากข้อมูลด้านวัฒนธรรม ้ ่ ครู วาดรู ป นาฬิ ก า 3 เรื อน บนกระดานดาเพืออธิบายให้นกเรี ยนเข้าใจการใช้สานวนใน ่ ั Language Note ได้ดียงขึ้น ิ่ 6 a.m. – 12 p.m. = morning 12 p.m.– 6 p.m. = afternoon 6 p.m. – 11 p.m. = evening ครู สอนเรื่ องการใช้ a.m. และ p.m. คือ เราจะใช้ a.m. ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงก่อนเที่ยงวัน และเราจะใช้ p.m. ตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงก่อนเที่ยงคืน เช่น 12:00 midnight (a.m.) - 11:00 a.m., 12:00 noon (p.m.) - 11:00 p.m. ขั้นที่ 5 ครู เปิ ดซีดีบนทึกเสียง ให้นกเรี ยนฟังบทสนทนาของแต่ละภาพจากกิจกรรม New ั ั Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 2 และฝึ กพูดตามบทสนทนา จากนั้นนักเรี ยนจับคูฝึก ่ สนทนาตามหนังสือ เมื่อสังเกตว่านักเรี ยนเข้าใจความหมายและออกเสียงสานวนต่าง ๆ ถูกต้องแล้ว ให้นกเรี ยนฝึ กสนทนาโดยเปลี่ยนใช้ชื่อจริ งของตนเองแทน ั
  • 5. ขั้นที่ 6 ให้นกเรี ยนดูภาพกิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 สนทนาเกี่ยวกับภาพ ั เพือให้นกเรี ยนเข้าใจสถานการณ์และเนื้อหาของบทสนทนา จากนั้นให้นกเรี ยนฟังซีดี ่ ั ั บันทึกเสียง โดยระหว่างฟั งให้นกเรี ยนสังเกต “My name’s ________.” และ “What’s ั ________?” ที่ครู เขียนไว้บนกระดานดา เมื่อนักเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสี ยงจบ ครู ถามนักเรี ยน ั เกี่ยวกับคาที่ครู เขียนบนกระดานดา เพือทดสอบความรู เ้ ดิมของนักเรี ยนเกี่ยวกับรู ปย่อของ ่ “is” และอธิบายเพิมเติมว่า “My name’s ่ .” เป็ นรู ปย่อของ “My name is .” และ “What’s ?” เป็ นรู ปย่อของ “What is ?” จากบทสนทนากิจกรรม New Language ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 อธิบายให้นกเรี ยนทราบ ั ว่าชาวตะวันตกไม่นิยมเรี ยกชื่อเล่น (nickname) แบบคนไทย แต่นิยมเรี ยกชื่อสั้น ๆ แทน ชื่อเต็ม เช่น Elizabeth เรี ยกเป็ น Liz หรื อ Beth ครู เขียนชื่ออื่น ๆ ให้นกเรี ยนดูเป็ นตัวอย่าง ั อีก เช่น Susan - Sue, Daniel - Dan, Robert - Bob หรื อ Rob เป็ นต้น ครู ถามนักเรี ยนว่าใคร มีชื่อเล่นอะไร แล้วเขียนชื่อนักเรี ยนและชื่อเล่นบนกระดานดาเพือใช้ในการฝึ กการ ่ สนทนาต่อไป ขั้นที่ 7 ให้ นั ก เรี ยนฝึ กออกเสี ย งบทสนทนา ตามซีดีบนทึกเสียงในกิจกรรม New Language ั ใน หนังสือเรี ยน หน้า 3 ที่ครู เปิ ดให้ฟังจนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง จากนั้นครู สุ่ม เรี ยกนักเรี ยน 1-2 คน มาฝึ กพูดบทสนทนากับครู แล้วจึงให้นกเรี ยนจับคู่กบเพือนเพือฝึ ก ั ั ่ ่ พูดสนทนา โดยให้นกเรี ยนฝึ กถาม-ตอบชื่อก่อน เช่น ั S1: Hi. My name’s (ชื่อ) . What’s your name? S2: Hello. My name’s (ชื่อ) . Please call me (ชื่อเล่น) . ขั้นที่ 8 ให้นกเรี ยนเป็ นอาสาสมัครสาธิตการแนะนาบุคคลที่ 3 ตามบทสนทนา ดังนี้ ั S1: Hi. My name’s (ชื่อ) . What’s your name? S2: Hello. My name’s (ชื่อ) . Please call me (ชื่อเล่น) . S1: This is my friend, (ชื่อของ S3). S2: Nice to meet you. S3: Nice to meet you, too. จากนั้นให้นกเรี ยนที่เหลือฝึ กบทสนทนาโดยสมมติชื่อให้นกเรี ยนฝึ กก่อน ั ั แล้วลบบท สนทนาทีละบรรทัด เมื่อนักเรี ยนจาได้แล้ว ให้นกเรี ยนจับกลุ่มฝึ กกับเพือน ครู สงเกตความ ั ่ ั ถูกต้องในการปฏิบติกิจกรรมของนักเรี ยน ั ขั้นที่ 9 ครู เขียน He’s, She’s บนกระดานดา ถามนักเรี ยนว่าคาทั้งสอง เป็ นรู ปย่อของคาว่าอะไร ครู อธิบาย He’s เป็ นรู ปย่อของ He is และ She’s เป็ นรู ปย่อของ She is และครู เขียน He และ She บนกระดานดาเพือทบทวนการใช้อีกครั้ง โดยชี้ไปที่นกเรี ยนชายคนหนึ่งแล้วพูด ่ ั
  • 6. ว่า He ชี้ไปที่นกเรี ยนหญิงแล้วพูดว่า She จากนั้นครู ช้ ี He บนกระดานดาให้นกเรี ยนชาย ั ั ทั้งหมดยืนขึ้น และเมื่อชี้ She ให้นกเรี ยนหญิงทั้งหมดยืนขึ้นเช่นกัน ครู สุ่มชี้คาทั้งสอง ั สลับไปมาเพือดูความเข้าใจของนักเรี ยน แล้วครู สุ่มเรี ยกชื่อนักเรี ยนชาย เช่น ยงยุทธ ่ นักเรี ยนที่เหลือช่วยกันตอบว่า He เรี ยกชื่อนักเรี ยนหญิง เช่น ดาริ กา ให้นกเรี ยนที่เหลือ ั ตอบว่า She เป็ นต้น ขั้นที่ 10 ให้นกเรี ยนทากิจกรรม Practice ข้อ A ในหนังสื อเรี ยน หน้า 3 โดยเติม He หรื อ She ใน ั ช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็ จแล้วให้นกเรี ยนฟังซีดีบนทึกเสียง เพือตรวจคาตอบ (ดูเฉลยท้าย ั ั ่ เล่ม) ขั้นที่ 11 ครู เขียนคาว่า His และ Her บนกระดานดา แล้วอธิบายให้นกเรี ยนฟังว่า His และ Her เป็ น ั possessive adjectives ของ He และ She ครู ช้ ีที่นกเรี ยนชายและพูดว่า His name’s Yongyut. ั และ ชี้ที่นกเรี ยนหญิงและพูดว่า Her name’s Anong. จากนั้นครู ช้ ีไปที่ยงยุทธอีกครั้งและ ั ถามว่า What’s his name? แล้วชี้ไปที่อนงค์อีกครั้งและถามว่า What’s her name? ครู กระตุนให้นกเรี ยนทั้งชั้นตอบทั้งสองคาถามนี้ ้ ั ครู อธิบายเพิมเติมให้นกเรี ยนฟังว่า His และ Her เป็ น possessive adjectives ของ He และ She ่ ั เพือให้นกเรี ยนเข้าใจยิงขึ้น เมื่อนักเรี ยนเข้าใจโครงสร้างการถาม-ตอบชื่อและการใช้ His ่ ั ่ และ Her แล้ว ให้นกเรี ยนทากิจกรรม Practice ข้อ B-C ในหนังสือเรี ยน หน้า 3 เป็ นการฝึ ก ั ถาม-ตอบชื่อโดยฝึ กเป็ นกลุ่มย่อย ขั้นที่ 12 ให้นกเรี ยนทาแบบฝึ กหัด ข้อ A-C ใน Workbook หน้า 1-2 (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ั ขั้นที่ 13 ครู แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน สร้างสถานการณ์สมมติให้เป็ นการพบกันครั้งแรก ให้พดทักทายแนะนาตนเอง ผูอื่นให้รู้จกกัน และตอบรับการแนะนาให้รู้จกตามแบบอย่าง ู ้ ั ั บทพูดโต้ตอบในหนังสือเรี ยน หน้า 3 กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา ถ้ามีเวลาให้นกเรี ยนเล่น Memory Game โดยให้นกเรี ยนนังเป็ นกลุ่มย่อย 4-6 คน นักเรี ยน ั ั ่ คนที่ 1 บอกชื่อตนเอง เช่น My name’s Araya. คนที่ 2 บอกชื่อเพือนคนแรกและชื่อของ ่ ตนเอง เช่น Her name’s Araya. My name’s Anong. ในขณะที่พดให้ผพดผายมือไปยัง ู ู้ ู เจ้าของชื่อด้วย แต่หามชี้หน้า เพราะเป็ นการกระทาที่ไม่สุภาพ ้ ครู อาจใช้แบบฝึ กหัด Review 1 ในหนังสือเรี ยน หน้า 20-23 เป็ นแบบทดสอบก่อนเรี ยนก็ ได้ เพือ ่ ประเมินความรู ้เดิมของนักเรี ยนและเพื่อเป็ นการวางแผนการสอน หรื อครู อาจใช้ แบบฝึ กหัดจาก Workbook เป็ น Pre-test และ Post-test เพือประเมินผลการเรี ยนรู ้ของ ่ นักเรี ยนได้เช่นเดียวกัน
  • 7. สื่ อ/แหล่ งการเรียนรู้ 1. เพลง ABC 2. ตัวอักษร A-Z 3. รู ปภาพบุคคล 4. บัตรบอกเวลา 5. สื่ออิเล็กทรอนิกส์ - http://www.greenwichmeantime.com/info/noon.htm - http://en.wikipedia.org/wiki/12-hour_clock
  • 8. หลักเกณฑ์ การถอดอักษรไทยเป็ นอักษรโรมันแบบถ่ ายเสียง พยัญชนะไทย อักษรโรมัน (ตัวต้ น) อักษรโรมัน (ตัวสะกด) ก k k ขฃคฅฆ kh k ง ng ng จฉชฌ ch t ญ y n ด ฎ ฑ (บางคา) d t ตฏ t t ถฐทฑธฒ th t นณ n n บ b p ป p p ผพภ ph p ฝฟ f p ม m m ย y - ร r n ลฬ l n ว w - ซ ทร ศ ษ ส s t หฮ h - สระไทย อักษรโรมัน อะ, -ั (อะ ลดรูป), รร (มีตวสะกด), อา a รร (ไม่มีตวสะกด) an อา am อิ, อี i อึ, อื ue อุ, อู u เอะ, เ -ั (เอะ ลดรูป), เอ e แอะ, แอ ae โอะ, - (โอะ ลดรูป), โอ, เอาะ, ออ o เออะ, เ -ัิ (เออะ ลดรูป), เออ oe
  • 9. เอียะ, เอีย ia เอือะ, เอือ uea อวะ, อว, -ว- (อว ลดรูป) ua ใอ, ไอ, อย, ไอย, อาย ai เอา, อาว ao อุย ui โอย, ออย oi เอย oei เอือย ueai อวย uai อิว io เอว, เอว eo แอว, แอว aeo เอียว iao ฤ (เสียง รึ ), ฤๅ rue ฤ (เสียง ริ ) ri ฤ (เสียง เรอ) roe ฦ, ฦๅ lue ที่มา : http://www.royin.go.th/upload/246/FileUpload/416_2157.pdf (หลกเกณฑ์การถอดอกษรไทยเปนอกษรโรมนแบบถ่ายเสียง)