SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 18
โรคเอดส์

เอดส์ คือ อะไร เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency
Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์
  ซึ่งจะเข้าไปทำาลายเม็ดเลือกขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค
ทำาให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึน เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมอง
                                 ้
 อักเสบ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการจะรุนแรง
                 และเป็นสาเหตุสำาคัญของการเสียชีวิต
       โรคเอดส์ ( AIDS ) คือ อะไร โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกัน
บกพร่อง เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึนเพราะร่างกายได้รับเชื้อไว
                                         ้
    รัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำาลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้าง
ภูมิคุ้มกันโรค ทำาให้ภูมิคุ้มกันโรคลดน้อยลง จึงทำาให้ติดเชื้อโรคฉวย
 โอกาสแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรคในปอด หรือ
 ต่อมนำ้าเหลือง เยือหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด
                    ่
  หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งสาเหตุของการเสีย
 ชีวิตมักเกิดขึ้นจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เหล่านี้ทำาให้อาการ
                  จะรุนแรง และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
  ปัจจุบันโรคเอดส์มีการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผู้เสีย
 ชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี
   พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็นโรคที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งของ
เอดส์ ติดต่อกันได้อย่างไร

  1. การร่วมเพศ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ไม่ว่า
   ชายกับชาย ชายกับหญิง หรือหญิงกับหญิง ทั้ง
   ช่องทางธรรมชาติ หรือไม่ธรรมชาติ ก็ล้วนมี
   โอกาสติดโรคนีได้ทงสิ้น และปัจจัยทีทำาให้มี
                 ้    ั้                ่
   โอกาสติดเชื้อมากขึ้น ได้แก่ การมีแผลเปิด
   และจากข้อมูลของสำานักระบาดวิทยา ประมาณ
   ร้อยละ 84 ของผู้ป่วยเอดส์ ได้รับเชื้อจากการมี
   เพศสัมพันธ์
2. การรับเชื้อทางเลือด ใช้เข็มหรือกระบอก
ฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ มักพบในกลุ่มผู้
ฉีดยาเสพติด และหากคนกลุ่มนี้ติดเชือ ก็
                                    ้
สามารถถ่ายทอดเชื้อเอดส์ ทางเพศสัมพันธ์
ได้อีกทางหนึ่ง
- รับเลือดในขณะผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรค
เลือดบางชนิด ในปัจจุบนเลือดที่ได้รับ
                         ั
บริจาคทุกขวด ต้องผ่านการตรวจหาการติด
เชือเอดส์ และจะปลอดภัยเกือบ 100%
   ้
– 3. ทารก ติดเชือจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์
                 ้
  การแพร่เชือจากแม่สู่ลูก ผูหญิงที่ติดเชือ
               ้             ้           ้
  เอดส์ หากตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการดูแล
  อย่างดี เชือเอช ไอ วี จะแพร่ไปยังลูกได้
             ้
  ในอัตราร้อยละ 30 จากกรณีเกิดจากแม่
  ติดเชือ จึงมีโอกาสที่จะรับเชือเอช ไอ วี
        ้                      ้
  จากแม่ได้
   3. ทารก ติดเชือจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ การ
                  ้
    แพร่เชือจากแม่สู่ลูก ผูหญิงที่ติดเชื้อเอดส์
           ้               ้
    หากตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการดูแลอย่างดี
    เชือเอช ไอ วี จะแพร่ไปยังลูกได้ ในอัตรา
       ้
    ร้อยละ 30 จากกรณีเกิดจากแม่ติดเชื้อ จึงมี
    โอกาสที่จะรับเชื้อเอช ไอ วี จากแม่ได้
เอดส์ มีอาการอย่างไร
   เอดส์ มีอ าการอย่า งไร คนที่สัมผัสกับ
    โรคเอดส์หรือคนที่ได้รับเชือเอดส์เข้าไปใน
                               ้
    ร่างกายไม่จำาเป็นต้องมีการติดเชือเอดส์
                                      ้
    เสมอไปขึ้นกับจำานวนครั้งที่สมผัสจำานวน
                                 ั
    และความดุร้ายของไวรัสเอดส์ที่เข้าสู่
    ร่างกายและภาวะภูมิต้านทานของร่างกาย
    ถ้ามีการติดเชื้ออาการที่เกิดขึ้นมีได้หลายรูป
    แบบหรือหลายระยะตามการดำาเนินของโรค
ระยะอาการ
   ระยะที่ 1 : ระยะที่ไ ม่ม ีอ าการอะไร
    – ภายใน2-3 อาทิตย์แรกหลังจากได้รับเชื้อเอดส์
      เข้าไป ราวร้อยละ 10 ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการ
      คล้ายๆ ไข้หวัด คือมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวด
      เมือยตามตัว ต่อมนำ้าเหลืองโต ผื่นตามตัว แขน
         ่
      ขาชาหรืออ่อนแรง เป็นอยู่ราว 10-14 วันก็จะ
      หายไปเอง ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจไม่สังเกต นึกว่า
      คงเป็นไข้หวัดธรรมดาราว 6-8 สัปดาห์ภาย
      หลังติดเชื้อ
– ระยะที่ 2: ระยะทีเ ริ่ม มีอ าการหรือ ระยะที่
                         ่
  มีอ าการสัม พัน ธ์ก บ เอดส์
                           ั
– เป็นระยะทีคนไข้เริ่มมีอาการ แต่อาการนั้นยัง
               ่
  ไม่มากถึงกับจะเรียกว่าเป็นโรคเอดส์เต็มขั้น
  อาการในช่วงนีอาจเป็นไข้เรื้อรัง นำ้า หนักลด
                    ้
  หรือท้องเสียงเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ
  นอกจากนีอาจมีเชื้อราในช่องปาก(รูปที่ 3),
             ้
  งูสวัด(รูปที่ 4), เริมในช่องปาก หรืออวัยวะ เพศ
  ผื่นคันตามแขนขา และลำาตัวคล้ายคนแพ้
  นำ้าลายยุง(รูปที่ 5) จะเห็นได้ว่า อาการทีเรียก
                                           ่
  ว่าสัมพันธ์กบเอดส์นน ไม่จำาเพาะสำาหรับโรค
                 ั           ั้
– ระยะที่ 3 : ระยะโรคเอดส์เ ต็ม ขั้น หรือ ที่
  ภาษาทางการเรีย กว่า โรคเอดส์
– เป็นระยะทีภมต้านทานของร่ายกายเสียไปมาก
             ่ ู ิ
  แล้วผู้ป่วยจะมีอาการของการติดเชื้อจำาพวก
  เชื้อฉกฉวยโอกาสบ่อยๆและเป็นมะเร็งบางชนิด
  เช่นแคโปซี่ซาร์โคมา(Kaposi'ssarcoma)และ
  มะเร็งปากมดลูก การติดเชื้อฉกฉวยโอกาส
  หมายถึงการติดเชื้อทีปกติมีความรุนแรงตำ่าไม่
                      ่
  ก่อโรคในคนปกติแต่ถ้าคนนันมีภมต้านทานตำ่า
                             ้   ู ิ
  ลงเช่นจากการเป็นมะเร็งหรือจากการได้รับยา
  ละทำาให้เกิดวัณโรคทีปอดต่อมนำ้าเหลืองตับหรือ
                        ่
อาการของเอดส์ มี 2 ระยะ
1. ระยะไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อจะมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มี
   อาการผิดปกติแต่อย่างใด ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะอยู่ใน
   ระยะนี้ และบางคนไม่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อ จึงอาจ
   แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
2. ระยะมีอาการ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะเริ่มแสดงอาการ
   ภายหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 7-8 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ
   คือ
- ระยะเริ่มปรากฎอาการ อาการที่พบคือ มีเชื้อราในปาก
   ต่อมนำ้าเหลืองโต งูสวัด มีไข้ ท้องเสีย นำ้าหนักลด มีตุ่ม
   คันบริเวณผิวหนัง
- ระยะโรคเอดส์ เป็นระยะที่มีภูมิต้านทานลดลงมาก ทำาให้
ป้องกันตัวเอง ไม่ให้ติดเชื้อเอดส์
ได้อย่างไร
  – รักเดียว ใจเดียว หากจะมีเพศสัมพันธ์กับหญิง
    ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ทีมเพศสัมพันธ์
                                 ่ ี
  – ขอรับบริการปรึกษา เรื่อง โรคเอดส์ ก่อน
    แต่งงาน และก่อนที่จะมีบุตรทุกท้อง
  – ไม่ดื่มเหล้า และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด
วิธีใช้ถุงยางอนามัย

   วิธ ใ ช้ถ ุง ยางอนามัย
        ี
วันเอดส์โลก

   วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งองค์การอนามัยโลก
    ได้กำาหนดให้เป็นวันเอดส์โลก
    วัต ถุป ระสงค์ข องวัน เอดส์โ ลก
    1. เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการ
    ติดต่อและการเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์
    2. เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนให้มมาตรการการ
                                       ี
    ป้องกันให้มากยิงขึ้นในสังคมทุกระดับ
                     ่
    3. เพื่อให้มการจัดกิจกรรมต่อต้านต่างๆ ดำาเนินไป
                  ี
    อย่างต่อเนือง
                ่
    4. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้
    ป่วยและผู้ติดเชื้อ
คำาขวัญวันเอดส์โลก
   คำา ขวัญ วัน เอดส์โ ลก ค.ศ.2000 หรือ พ.ศ. 2543 Men make a
    difference เอดส์ลดหรือเพิ่ม เริ่มที่ผู้ชาย
   ค.ศ.2001 หรือ พ.ศ. 2544 I care....Do you? เอดส์ลดแน่ ถ้าคุณ
    ร่วมแก้ไข
   ค.ศ.2002 หรือ พ.ศ. 2545 Stigma and Discrimination -- Live
    and Let Live ทุกชีวิตมีคุณค่า โปรดอย่าตัดสินด้วยเอดส์
   ค.ศ.2003 หรือ พ.ศ. 2546 Stigma and Discrimination -- Live
    and Let Live ทุกชีวิตมีคุณค่า โปรดอย่าตัดสินด้วยเอดส์
   ค.ศ.2004 หรือ พ.ศ. 2547 Woman, girls, HIV and AIDS
    เยาวชนรุ่นใหม่... เข้าใจเรื่องเพศ...ร่วมป้องกันเอดส์
                   ...
   ค.ศ.2005 หรือ พ.ศ. 2548 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์
    หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา
   ค.ศ.2006 หรือ พ.ศ. 2549 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์
    หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา
   ค.ศ.2007 หรือ พ.ศ. 2550 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์
    หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา
   ค.ศ.2008 หรือ พ.ศ. 2551 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์
คำา ถาม - คำา ตอบ

– คำา ถาม - คำา ตอบ
  1. เอดส์ รู้ไ ด้อ ย่า งไรว่า ติด แล้ว เนื่องจาก
  โรคนี้แสดงอาการช้า แต่สามารถทราบได้ โดย
  การตรวจเลือด หากต้องการผลทีแม่นยำา ควร
                                      ่
  ตรวจภายหลังจากมีพฤติกรรมเสียง 6 สัปดาห์
                                    ่
  ขึ้นไป
  2. เอดส์ รัก ษาได้ห รือ ไม่
– ขณะนียังไม่มยารักษาโรคเอดส์ให้หายได้ ยาที่
         ้       ี
  ใช้ปัจจุบันจะช่วยยับยัง ไม่ให้ไวรัสเอดส์เพิม
                          ้                    ่
  จำานวนมากขึ้น ในร่างกายผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วย
  เอดส์จะมีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำางานได้
คำา ถาม - คำา ตอบ
3. เอดส์ ใครบ้า งที่ค วรตรวจหาเชื้อ เอดส์
– - ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง และต้องการรู้ว่าตนเองติดเชื้อเอดส์หรือไม่
– - ผู้ที่ตัดสินใจจะมีคู่ หรืออยูกินฉันท์สามีภรรยา
                                     ่
– - ผู้ที่สงสัยว่า คู่นอนของตนจะมีพฤติกรรมเสี่ยง
– - ผู้ที่คิดจะมีบุตร ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของแม่และลูก
– - ผู้ที่ต้องการข้อมูลสนับสนุนเรื่องความปลอดภัย และสุขภาพของ
   ร่างกาย เช่น ผู้ที่ต้องไปทำางานในต่างประเทศ (บางประเทศ)
   4. เอดส์ เราอยู่ร ่ว มกัน ได้ อย่า งไร
– คนที่ติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถอยูร่วมกับสังคม และครอบครัวได้
                                        ่
   และทำางานได้เหมือนกับคนทั่วไป เพราะเชื้อเอช ไอ วี ไม่ได้ติดต่อ
   กันโดย การสัมผัส การกอดจูบ การรับประทานอาหาร การขับถ่าย
   การใช้ของร่วมกัน การอยูใกล้กัน การสนทนากัน หรือถูกยุงกัด
                                   ่
   ดังนั้น จึงไม่ต้องแยกวงรับประทานอาหาร ไม่ต้องแยกห้องนอน
   ห้องนำ้า อุปกรณ์ของใช้ต่างๆ หรือห้องทำางาน
คำา ถาม - คำา ตอบ
– 5. บริก ารปรึก ษา ปัญ หาสุข ภาพ ได้ท ี่ไ หน
– - กลุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำานักโรคเอดส์
       ่
  วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โทร. 0-2286-
  0431, 0-2286-4483
– - โรงพยาบาลบำาราศนราดูร โทร. 0-2590-3737, 0-
  2590-3510
– - กองควบคุมโรคเอดส์ กทม. โทร. 0-2860-8751-6 ต่อ
  407-8
– - มูลนิธิศนย์ฮอทไลน์ โทร. 0-2277-7699, 0-2277-
            ู
  8811 (โทรฟรี)
– - มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ โทร. 0-2372-2222
– - สถานบริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลของรัฐทุก
เรื่อ งโรคเอดส์
      จัดทำาโดย



   นายสิทธิศักดิ์ ติจะนา

   ชั้นปีที่ 4/2 เลขที่ 8

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Tee Teach
 
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
 
52010918560sce12
52010918560sce1252010918560sce12
52010918560sce12
tungmsu
 
โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปาก
sivapong klongpanich
 
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูกมะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูก
Wan Ngamwongwan
 
Vaccineคู่มือประชาชน
Vaccineคู่มือประชาชนVaccineคู่มือประชาชน
Vaccineคู่มือประชาชน
Witsalut Saetae
 
โรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดโรคไข้หวัด
โรคไข้หวัด
Wan Ngamwongwan
 
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีนกลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
Pawat Logessathien
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
pissamaiza Kodsrimoung
 
Infectious epidemic
Infectious epidemicInfectious epidemic
Infectious epidemic
taem
 

La actualidad más candente (20)

การใช้ยาต้านไวรัส
การใช้ยาต้านไวรัสการใช้ยาต้านไวรัส
การใช้ยาต้านไวรัส
 
Finalpresentationl20 23
Finalpresentationl20 23Finalpresentationl20 23
Finalpresentationl20 23
 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
 
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
 
แนวทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 2558
แนวทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 2558แนวทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 2558
แนวทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 2558
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
52010918560sce12
52010918560sce1252010918560sce12
52010918560sce12
 
วัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
วัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆวัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
วัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
 
โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปาก
 
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูกมะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูก
 
Vaccineคู่มือประชาชน
Vaccineคู่มือประชาชนVaccineคู่มือประชาชน
Vaccineคู่มือประชาชน
 
Ppt.aids
Ppt.aidsPpt.aids
Ppt.aids
 
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีแนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี
 
การให้วัคซีน VZV และ dT
การให้วัคซีน VZV และ dTการให้วัคซีน VZV และ dT
การให้วัคซีน VZV และ dT
 
โรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดโรคไข้หวัด
โรคไข้หวัด
 
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีนกลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
 
วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
 
STD
STD STD
STD
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
Infectious epidemic
Infectious epidemicInfectious epidemic
Infectious epidemic
 

Similar a โรคเอดส์

นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
nuting
 
วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)
Wan Ngamwongwan
 
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
นายสามารถ เฮียงสุข
 
Vis varicella-zoster
Vis varicella-zosterVis varicella-zoster
Vis varicella-zoster
Aimmary
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
Wan Ngamwongwan
 
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
Dr.Ratchaneewan Sinawat Poomsa-ad
 
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อยโรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
Loveis1able Khumpuangdee
 
วนิดา
วนิดาวนิดา
วนิดา
supphawan
 
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
Anny Na Sonsawan
 

Similar a โรคเอดส์ (20)

นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)
 
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
 
hand foot mouth
hand foot mouthhand foot mouth
hand foot mouth
 
Vis varicella-zoster
Vis varicella-zosterVis varicella-zoster
Vis varicella-zoster
 
Vis varicella-zoster
Vis varicella-zosterVis varicella-zoster
Vis varicella-zoster
 
แนะนำโรคต่างๆ ศิรินวล สันติรักษ์โยธิน
แนะนำโรคต่างๆ ศิรินวล สันติรักษ์โยธินแนะนำโรคต่างๆ ศิรินวล สันติรักษ์โยธิน
แนะนำโรคต่างๆ ศิรินวล สันติรักษ์โยธิน
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
 
02 lepto
02 lepto02 lepto
02 lepto
 
Vis hpv
Vis hpvVis hpv
Vis hpv
 
แนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อ
แนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อแนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อ
แนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อ
 
Vis hib
Vis hibVis hib
Vis hib
 
Vis hib
Vis hibVis hib
Vis hib
 
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
 
Factsheet hfm
Factsheet hfmFactsheet hfm
Factsheet hfm
 
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อยโรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
โรค มือ ปาก เท้าเปื่อย
 
Factsheet hfm
Factsheet hfmFactsheet hfm
Factsheet hfm
 
วนิดา
วนิดาวนิดา
วนิดา
 
Aids&hiv
Aids&hivAids&hiv
Aids&hiv
 
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
 

โรคเอดส์

  • 1. โรคเอดส์ เอดส์ คือ อะไร เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ ซึ่งจะเข้าไปทำาลายเม็ดเลือกขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำาให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึน เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมอง ้ อักเสบ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการจะรุนแรง และเป็นสาเหตุสำาคัญของการเสียชีวิต โรคเอดส์ ( AIDS ) คือ อะไร โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกัน บกพร่อง เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึนเพราะร่างกายได้รับเชื้อไว ้ รัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำาลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้าง ภูมิคุ้มกันโรค ทำาให้ภูมิคุ้มกันโรคลดน้อยลง จึงทำาให้ติดเชื้อโรคฉวย โอกาสแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรคในปอด หรือ ต่อมนำ้าเหลือง เยือหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด ่ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งสาเหตุของการเสีย ชีวิตมักเกิดขึ้นจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เหล่านี้ทำาให้อาการ จะรุนแรง และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันโรคเอดส์มีการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผู้เสีย ชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็นโรคที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งของ
  • 2. เอดส์ ติดต่อกันได้อย่างไร 1. การร่วมเพศ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ไม่ว่า ชายกับชาย ชายกับหญิง หรือหญิงกับหญิง ทั้ง ช่องทางธรรมชาติ หรือไม่ธรรมชาติ ก็ล้วนมี โอกาสติดโรคนีได้ทงสิ้น และปัจจัยทีทำาให้มี ้ ั้ ่ โอกาสติดเชื้อมากขึ้น ได้แก่ การมีแผลเปิด และจากข้อมูลของสำานักระบาดวิทยา ประมาณ ร้อยละ 84 ของผู้ป่วยเอดส์ ได้รับเชื้อจากการมี เพศสัมพันธ์
  • 3. 2. การรับเชื้อทางเลือด ใช้เข็มหรือกระบอก ฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ มักพบในกลุ่มผู้ ฉีดยาเสพติด และหากคนกลุ่มนี้ติดเชือ ก็ ้ สามารถถ่ายทอดเชื้อเอดส์ ทางเพศสัมพันธ์ ได้อีกทางหนึ่ง - รับเลือดในขณะผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรค เลือดบางชนิด ในปัจจุบนเลือดที่ได้รับ ั บริจาคทุกขวด ต้องผ่านการตรวจหาการติด เชือเอดส์ และจะปลอดภัยเกือบ 100% ้
  • 4. – 3. ทารก ติดเชือจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ ้ การแพร่เชือจากแม่สู่ลูก ผูหญิงที่ติดเชือ ้ ้ ้ เอดส์ หากตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการดูแล อย่างดี เชือเอช ไอ วี จะแพร่ไปยังลูกได้ ้ ในอัตราร้อยละ 30 จากกรณีเกิดจากแม่ ติดเชือ จึงมีโอกาสที่จะรับเชือเอช ไอ วี ้ ้ จากแม่ได้
  • 5. 3. ทารก ติดเชือจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ การ ้ แพร่เชือจากแม่สู่ลูก ผูหญิงที่ติดเชื้อเอดส์ ้ ้ หากตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการดูแลอย่างดี เชือเอช ไอ วี จะแพร่ไปยังลูกได้ ในอัตรา ้ ร้อยละ 30 จากกรณีเกิดจากแม่ติดเชื้อ จึงมี โอกาสที่จะรับเชื้อเอช ไอ วี จากแม่ได้
  • 6. เอดส์ มีอาการอย่างไร  เอดส์ มีอ าการอย่า งไร คนที่สัมผัสกับ โรคเอดส์หรือคนที่ได้รับเชือเอดส์เข้าไปใน ้ ร่างกายไม่จำาเป็นต้องมีการติดเชือเอดส์ ้ เสมอไปขึ้นกับจำานวนครั้งที่สมผัสจำานวน ั และความดุร้ายของไวรัสเอดส์ที่เข้าสู่ ร่างกายและภาวะภูมิต้านทานของร่างกาย ถ้ามีการติดเชื้ออาการที่เกิดขึ้นมีได้หลายรูป แบบหรือหลายระยะตามการดำาเนินของโรค
  • 7. ระยะอาการ  ระยะที่ 1 : ระยะที่ไ ม่ม ีอ าการอะไร – ภายใน2-3 อาทิตย์แรกหลังจากได้รับเชื้อเอดส์ เข้าไป ราวร้อยละ 10 ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการ คล้ายๆ ไข้หวัด คือมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวด เมือยตามตัว ต่อมนำ้าเหลืองโต ผื่นตามตัว แขน ่ ขาชาหรืออ่อนแรง เป็นอยู่ราว 10-14 วันก็จะ หายไปเอง ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจไม่สังเกต นึกว่า คงเป็นไข้หวัดธรรมดาราว 6-8 สัปดาห์ภาย หลังติดเชื้อ
  • 8. – ระยะที่ 2: ระยะทีเ ริ่ม มีอ าการหรือ ระยะที่ ่ มีอ าการสัม พัน ธ์ก บ เอดส์ ั – เป็นระยะทีคนไข้เริ่มมีอาการ แต่อาการนั้นยัง ่ ไม่มากถึงกับจะเรียกว่าเป็นโรคเอดส์เต็มขั้น อาการในช่วงนีอาจเป็นไข้เรื้อรัง นำ้า หนักลด ้ หรือท้องเสียงเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนีอาจมีเชื้อราในช่องปาก(รูปที่ 3), ้ งูสวัด(รูปที่ 4), เริมในช่องปาก หรืออวัยวะ เพศ ผื่นคันตามแขนขา และลำาตัวคล้ายคนแพ้ นำ้าลายยุง(รูปที่ 5) จะเห็นได้ว่า อาการทีเรียก ่ ว่าสัมพันธ์กบเอดส์นน ไม่จำาเพาะสำาหรับโรค ั ั้
  • 9. – ระยะที่ 3 : ระยะโรคเอดส์เ ต็ม ขั้น หรือ ที่ ภาษาทางการเรีย กว่า โรคเอดส์ – เป็นระยะทีภมต้านทานของร่ายกายเสียไปมาก ่ ู ิ แล้วผู้ป่วยจะมีอาการของการติดเชื้อจำาพวก เชื้อฉกฉวยโอกาสบ่อยๆและเป็นมะเร็งบางชนิด เช่นแคโปซี่ซาร์โคมา(Kaposi'ssarcoma)และ มะเร็งปากมดลูก การติดเชื้อฉกฉวยโอกาส หมายถึงการติดเชื้อทีปกติมีความรุนแรงตำ่าไม่ ่ ก่อโรคในคนปกติแต่ถ้าคนนันมีภมต้านทานตำ่า ้ ู ิ ลงเช่นจากการเป็นมะเร็งหรือจากการได้รับยา ละทำาให้เกิดวัณโรคทีปอดต่อมนำ้าเหลืองตับหรือ ่
  • 10. อาการของเอดส์ มี 2 ระยะ 1. ระยะไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อจะมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มี อาการผิดปกติแต่อย่างใด ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะอยู่ใน ระยะนี้ และบางคนไม่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อ จึงอาจ แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ 2. ระยะมีอาการ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะเริ่มแสดงอาการ ภายหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 7-8 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ - ระยะเริ่มปรากฎอาการ อาการที่พบคือ มีเชื้อราในปาก ต่อมนำ้าเหลืองโต งูสวัด มีไข้ ท้องเสีย นำ้าหนักลด มีตุ่ม คันบริเวณผิวหนัง - ระยะโรคเอดส์ เป็นระยะที่มีภูมิต้านทานลดลงมาก ทำาให้
  • 11. ป้องกันตัวเอง ไม่ให้ติดเชื้อเอดส์ ได้อย่างไร – รักเดียว ใจเดียว หากจะมีเพศสัมพันธ์กับหญิง ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ทีมเพศสัมพันธ์ ่ ี – ขอรับบริการปรึกษา เรื่อง โรคเอดส์ ก่อน แต่งงาน และก่อนที่จะมีบุตรทุกท้อง – ไม่ดื่มเหล้า และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด
  • 12. วิธีใช้ถุงยางอนามัย  วิธ ใ ช้ถ ุง ยางอนามัย ี
  • 13. วันเอดส์โลก  วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้กำาหนดให้เป็นวันเอดส์โลก วัต ถุป ระสงค์ข องวัน เอดส์โ ลก 1. เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการ ติดต่อและการเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์ 2. เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนให้มมาตรการการ ี ป้องกันให้มากยิงขึ้นในสังคมทุกระดับ ่ 3. เพื่อให้มการจัดกิจกรรมต่อต้านต่างๆ ดำาเนินไป ี อย่างต่อเนือง ่ 4. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ ป่วยและผู้ติดเชื้อ
  • 14. คำาขวัญวันเอดส์โลก  คำา ขวัญ วัน เอดส์โ ลก ค.ศ.2000 หรือ พ.ศ. 2543 Men make a difference เอดส์ลดหรือเพิ่ม เริ่มที่ผู้ชาย  ค.ศ.2001 หรือ พ.ศ. 2544 I care....Do you? เอดส์ลดแน่ ถ้าคุณ ร่วมแก้ไข  ค.ศ.2002 หรือ พ.ศ. 2545 Stigma and Discrimination -- Live and Let Live ทุกชีวิตมีคุณค่า โปรดอย่าตัดสินด้วยเอดส์  ค.ศ.2003 หรือ พ.ศ. 2546 Stigma and Discrimination -- Live and Let Live ทุกชีวิตมีคุณค่า โปรดอย่าตัดสินด้วยเอดส์  ค.ศ.2004 หรือ พ.ศ. 2547 Woman, girls, HIV and AIDS เยาวชนรุ่นใหม่... เข้าใจเรื่องเพศ...ร่วมป้องกันเอดส์ ...  ค.ศ.2005 หรือ พ.ศ. 2548 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์ หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา  ค.ศ.2006 หรือ พ.ศ. 2549 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์ หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา  ค.ศ.2007 หรือ พ.ศ. 2550 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์ หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา  ค.ศ.2008 หรือ พ.ศ. 2551 Stop AIDS Keep the promiss เอดส์
  • 15. คำา ถาม - คำา ตอบ – คำา ถาม - คำา ตอบ 1. เอดส์ รู้ไ ด้อ ย่า งไรว่า ติด แล้ว เนื่องจาก โรคนี้แสดงอาการช้า แต่สามารถทราบได้ โดย การตรวจเลือด หากต้องการผลทีแม่นยำา ควร ่ ตรวจภายหลังจากมีพฤติกรรมเสียง 6 สัปดาห์ ่ ขึ้นไป 2. เอดส์ รัก ษาได้ห รือ ไม่ – ขณะนียังไม่มยารักษาโรคเอดส์ให้หายได้ ยาที่ ้ ี ใช้ปัจจุบันจะช่วยยับยัง ไม่ให้ไวรัสเอดส์เพิม ้ ่ จำานวนมากขึ้น ในร่างกายผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วย เอดส์จะมีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำางานได้
  • 16. คำา ถาม - คำา ตอบ 3. เอดส์ ใครบ้า งที่ค วรตรวจหาเชื้อ เอดส์ – - ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง และต้องการรู้ว่าตนเองติดเชื้อเอดส์หรือไม่ – - ผู้ที่ตัดสินใจจะมีคู่ หรืออยูกินฉันท์สามีภรรยา ่ – - ผู้ที่สงสัยว่า คู่นอนของตนจะมีพฤติกรรมเสี่ยง – - ผู้ที่คิดจะมีบุตร ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของแม่และลูก – - ผู้ที่ต้องการข้อมูลสนับสนุนเรื่องความปลอดภัย และสุขภาพของ ร่างกาย เช่น ผู้ที่ต้องไปทำางานในต่างประเทศ (บางประเทศ) 4. เอดส์ เราอยู่ร ่ว มกัน ได้ อย่า งไร – คนที่ติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถอยูร่วมกับสังคม และครอบครัวได้ ่ และทำางานได้เหมือนกับคนทั่วไป เพราะเชื้อเอช ไอ วี ไม่ได้ติดต่อ กันโดย การสัมผัส การกอดจูบ การรับประทานอาหาร การขับถ่าย การใช้ของร่วมกัน การอยูใกล้กัน การสนทนากัน หรือถูกยุงกัด ่ ดังนั้น จึงไม่ต้องแยกวงรับประทานอาหาร ไม่ต้องแยกห้องนอน ห้องนำ้า อุปกรณ์ของใช้ต่างๆ หรือห้องทำางาน
  • 17. คำา ถาม - คำา ตอบ – 5. บริก ารปรึก ษา ปัญ หาสุข ภาพ ได้ท ี่ไ หน – - กลุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำานักโรคเอดส์ ่ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โทร. 0-2286- 0431, 0-2286-4483 – - โรงพยาบาลบำาราศนราดูร โทร. 0-2590-3737, 0- 2590-3510 – - กองควบคุมโรคเอดส์ กทม. โทร. 0-2860-8751-6 ต่อ 407-8 – - มูลนิธิศนย์ฮอทไลน์ โทร. 0-2277-7699, 0-2277- ู 8811 (โทรฟรี) – - มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ โทร. 0-2372-2222 – - สถานบริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลของรัฐทุก
  • 18. เรื่อ งโรคเอดส์  จัดทำาโดย  นายสิทธิศักดิ์ ติจะนา  ชั้นปีที่ 4/2 เลขที่ 8