2. จัดทำโดย
เด็กหญิงโสรยำ มำน้ อย เลขที่31
เด็กหญิงสำยรินทร์ ใจตั้ง เลขที่32
เด็กหญิงสุ ณิทรำ วงศ์ เรือง เลขที่33
เด็กหญิงสุทธิดำ จรรยำ เลขที่34
เด็กหญิงสุ พตรำ
ั เชี่ยวเวช เลขที่35
ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 3 / 1
เสนอ
ครู จิรำภรณ์ ไชยมงคล

3. ประเภทของเครื่องใช้ ไฟฟ้ ำ
เครื่องใช้ ไฟฟำมี 4 ประเภท ได้ แก่
้
1. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้แสงสว่าง
2. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล
4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานเสี ยง

4. อุปกรณ์ สำคัญและหลักกำรทำงำนของเครื่องใช้ ไฟฟ้ ำ
แต่ ละประเภท
เครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนแสง ได้แก่ หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา
้ ่
หลอดฟลูออเรเซนต์ หลอดไฟโฆษณา

5. อุปกรณ์ สำคัญของหลอดไฟฟ้ ำแบบธรรมดำ มีดังนี้
1. ไส้ หลอด ทาด้วยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสู ง ทนความร้อน
ได้มาก มีความต้านทานสู ง
2. หลอดแก้ว ทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สู บ
อากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์ กอน
เล็กน้อย

6. อุปกรณ์ สำคัญของหลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ มี
ดังนี้
1. ตัวหลอด ภายในสู บอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอท
และก๊าซอาร์ กอน เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบ
ด้วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ

7. 2. สตำร์ ตเตอร์ ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ไฟฟ้ าอัตโนมัติของวงจร
โดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุกาซ ๊
นีออนและแผ่นโลหะคู่ที่งอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน เมื่อ
กระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซนี ออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อน
ขึ้น ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ นวงจรปิ ด
ทาให้กระแสไฟฟ้ าผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร

8. ั ่
3. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยูบนแกนเหล็ก ขณะ
กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้ าทาให้
เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้ าเหนี่ยวนาขึ้น เมื่อแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ต
เตอร์ แยกตัวออกจากกันนั้นจะเกิดวงจรเปิ ด
ชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้ าเหนี่ยวนาที่เกิดขึ้นในแบลลัสต์จึง
่
ทาให้เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้หลอดทั้งสองข้างสู งขึ้นเพียง
พอที่จะทาให้กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไอปรอทจากไส้หลอดข้าง
หนึ่งไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึ่งได้

9. หลักกำรทำงำนของหลอดไฟฟำ ้
การที่หลอด ไฟฟ้ าให้แสงสว่างได้เป็ นไปตามหลักการ
ดังนี้ เมื่อกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไส้หลอด ซึ่ งมีความต้านทาน
สู ง พลังงานไฟฟ้ าจะเปลี่ยนเป็ นพลังงานความร้อน ทาให้ไส้
หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซึ่ งมีการเปลี่ยนรู ป
พลังงานดังนี้
พลังงำนไฟฟำ
้ พลังงำนควำมร้ อน พลังงำนแสง

10. เครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ ควำมร้ อน ได้แก่ เตารี ดไฟฟ้ า เตา
้ ่
ไฟฟ้ า กระทะไฟฟ้ า หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า

11. อุปกรณ์ สำคัญของเตำรีด มีดังนี้
1. ขดลวดควำมร้ อน หรื อแผ่นความร้อน มักทาจากโลหะผสม
ระหว่างนิเกิลกับโครเมียม เรี ยกว่า นิโครม ซึ่ งมีสมบัติคือมีจุด
หลอมเหลวสู งมากจึงทนความร้อนได้สูงเมื่อมีความร้อน
เกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาดและมีความต้านทานสู งมาก
2. เทอร์ โมสตำร์ ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ทาหน้าที่
ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะ
ต่างชนิ ดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน

12. หลักกำรทำงำนของเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ ควำมร้ อน
้ ่
เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านความต้านทานไฟฟ้ าสู ง
พลังงานไฟฟ้ าจะเปลี่ยนเป็ พลังงานความร้อน ดังนั้น จึงให้
กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านขดลวดนิโครมหรื อแผ่นความร้อนซึ่ งมี
ความต้านทานไฟฟ้ าสู ง พลังงานไฟฟ้ าจะเปลี่ยนเป็ นพลังงาน
ความร้อนมากแล้วถ่ายเทพลังงานความร้อนไปยังภาชนะ

13. เครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนกล ได้แก่ พัดลม เครื่ องซัก
้ ่
ผ้า เครื่ องปั่ น

14. อุปกรณ์ สำคัญของพัดลม มีดงนี้ ั
1. มอเตอร์ เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
พลังงานกล ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่
ั
่
วางอยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดยเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้ าเข้าไป
่
ยังขดลวดที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุน
2. เครื่องควบคุมควำมเร็วของมอเตอร์ ทาได้โดย การเพิ่ม
หรื อลดความต้านทานให้กระแสไฟฟ้ าผ่านได้มากหรื อ
น้อยภานในเครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้น ซึ่ งเป็ นผลให้ความเร็ วของ
การหมุนมอเตอร์เปลี่ยนไปจากเดิม

15. หลักกำรทำงำนของเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนกล
้ ่
เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านขดลวดตัวนาทางวางงออยู่
ระหว่างขั้นเหนือและขั้นใช้ของแท่งแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้ า
ขณะไหลผ่านขดลวดจะเกิดการเหนี่ยวนาเกิดสนามแม่เหล็ก
รอบเส้นลวดทาให้เส้นแรงแม่เหล็กของแท่งแม่เหล็กเบนไป
ซึ่งเส้นแรงแมเหล็กที่เบี่ยงเบนไปนี้ยดเส้นแรงออกให้ตรง
ึ
เส้นแรงผลักขดลวด เป็ นผลให้ขดลวดหมุนได้

16. เครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนเสี ยง ได้แก่ เครื่ องขยายเสี ยง
้ ่
วิทยุ เครื่ องบันทึกเสี ยง

17. อุปกรณ์ สำคัญของเครื่ องบันทันทึกเสี ยง มีดังนี้
1. ไมโครโฟน เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานเสี ยงเป็ น
สัญญาณไฟฟ้ า
2. ลำโพง เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนสัญญานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยง

18. หลักกำรทำงำนของเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนเสี ยง
้ ่
โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานีส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
่
ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรู ปของสัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อ
ผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้ไปยังลาโพงจะทาให้ลาโพงสั่นสะเทือน
เปลี่ยนเป็ นเสี ยงที่สามารถรับฟังได้

19. วิธีกำรใช้ เครื่องใช้ ไฟฟ้ ำแต่ ละประเภทอย่ ำงประหยัด
ประเภทเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ แสงสว่ำง
้ ่
1. เลือกใช้หลอดไฟที่มีกาลังวัตต์เหมาะสม
2. เปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ
3. ควรปิ ดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่
4. ไม่ควรเปิ ดไฟเมื่อยังไม่มืด

20. ประเภทเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ ควำมร้ อน
้ ่
เตำรีด
1. พรมน้ าให้ผาก่อนรี ด แต่ตองไม่มากเกินไป
้ ้
2. ควรรี ดผ้าครั้งละมากพอควร ไม่ควรรี ด ทีละชุด
3. ควรดึงปลักก่อนรี ดเสร็ จ ประมาณ 3-4 นาที เพราะความ
๊
ร้อนที่เหลือยังเพียงพอ
กำต้ มนำ ้
1. ถอดปลักทันทีที่น้ าเดือด
๊
2. ใส่ น้ าให้ปริ มาณพอเหมาะกับความต้องการ

21. ประเภทเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนกล
้ ่
พัดลม
1. เปิ ดพัดลมความเร็ วพอสมควร
2. เปิ ดเฉพาะเวลาใช้งาน
3. ควรเปิ ดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทาได้

22. ประเภทเครื่องใช้ ไฟฟำทีให้ พลังงำนเสี ยง
้ ่
วิทยุ
1. ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ไม่ควรเปิ ดทิ้งไว้
2. ควรปิ ดเครื่ องและดึงปลักออกเมื่อไม่ใช้งาน ไม่ควร
๊
เสี ยบปลักทิ้งไว้
๊