SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 16
Descargar para leer sin conexión
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ”

ความหมาย
โปรแกรมประยุกต์ หรื อ ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ แบ่งออกเป็ น
       1.ซอฟต์ แวร์ สำเร็จ เป็ นซอฟต์แวร์ที่บริ ษทพัฒนาขึ้น แล้วนําออกมาจําหน่าย เพื่อให้
                                                 ั
ผูใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรง ไม่ตองเสี ยเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์อีก
  ้                               ้
       2.ซอฟต์ แวร์ ใช้ งำนเฉพำะ มักเป็ นซอฟต์แวร์ที่ผพฒนาต้องเข้าไปศึกษารู ปแบบการ
                                                      ู้ ั
ทํางานหรื อความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ แล้วจัดทําขึ้น โดยทัวไปจะเป็ นซอฟต์แวร์ที่มีหลาย
                                                             ่
                                                                       ั
ส่วนรวมกันเพื่อร่ วมกันทํางาน ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะที่ใช้กนในทางธุรกิจ เช่น
ระบบงานทางด้านบัญชี ระบบงานจัดจําหน่าย ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม บริ หาร
การเงิน และการเช่าซื้อ เป็ นต้น

Credit : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=1bf12134f88bc8eb



ตัวอย่ างที่ 1
                       การประยุกต์ คอมพิวเตอร์ เพือพัฒนาโครงงาน
                                                  ่

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
                 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพือการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็ น
                                       ่
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่ อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อ
หน่วยการเรี ยน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม
       ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้
ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู้ รี ยน
เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนใน
วิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่ อเพื่อ
การศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปร
ต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้น
                                                                ํ
                  2. โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานที่
ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริ งในชีวิตประจําวัน อาทิเช่น
ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ
              ํ                                                       ํ
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
                ํ
ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็ นการคิดสร้างสิ่ งของขึ้นใหม่ หรื อปรับปรุ ง
                             ่
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา
                               ้
สิ่ งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่ งประดิษฐ์แล้ว
ปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผเู้ รี ยนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
                  3. โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกม
เพื่อความรู้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง
                                                ั
เพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น
เพื่อให้น่าสนใจแก่ผเู้ ล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผูพฒนาควรจะได้ทาการสํารวจ
                                                                  ้ ั              ํ
และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และนํามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึ้นใหม่
                                              ่ ั่
เพื่อให้เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผเู้ ล่นกลุ่มต่างๆ
                  4. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนา
เครื่ องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยูในรู ปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาด
                                                             ่
รู ป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้น สําหรับซอฟต์แวร์
เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคํา ซึ่งจะเป็ นเครื่ องมือให้เราใช้ในการ
พิมพ์งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรู ป พัฒนาขึ้นเพื่ออํานวยความ
สะดวกให้การวาดรู ปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ให้เป็ นไปได้ โดยง่าย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ
มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่ งของ อาทิเช่น ผูใช้วาดแจกันด้านหน้า และ
                              ํ                                      ้
                ่
ต้องการจะดูวาด้านบนและด้านข้างเป็ นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะ
                                                                  ํ
เป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
                5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จําลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย
สถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผทาต้องศึกษารวบรวม
                                                                    ู้ ํ
ความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่ องที่ตองการศึกษาแล้วเสนอเป็ น
                                                                       ้
                                            ่
แนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่ งอาจอยูในรู ปของสูตร สมการ หรื อคําอธิบาย พร้อมทั้งาร
                                                               ็
จําลองทฤษฏีดวยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้กจะเปลี่ยนไปตามสูตรหรื อสมการ
                  ้
                                                                                       ่ ู้ ํ
นั้น ซึ่งจะทําให้ผเู้ รี ยนมีความเข้าใจได้ดียงขึ้น การทําโครงงานประเภทนี้มีจุดสําคัญอยูที่ผทา
                                              ิ่
ต้องมีความรู้ในเรื่ องนั้นๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจําลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการ
ไหลของของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการ
มองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น

       จากการศึกษาประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ ทําให้ผจดทําได้ทราบว่า โครงงาน
                                                          ู้ ั
คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท รายละเอียดของแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง ทําให้ผจดทําสามารถนํา
                                                                   ู้ ั
ความรู้ท่ีได้รับไปสร้างสรรค์ผลงานให้ถูกประเภทยิงขึ้น และสามารถนําความรู้ที่ได้รับไป
                                               ่
เผยแพร่ แก่ผอื่นได้
              ู้
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
        1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
        2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
        3. จัดทําเค้าโครงของโครงงาน เมื่อผูเ้ รี ยนได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ และเลือกเรื่ องที่
จะทําโครงงานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวางแผนการทําโครงงานทุกขั้นตอน โดยปรึ กษากับอาจารย์
ที่ปรึ กษาหรื อผูทรงคุณวุฒิแล้ว จึงเขียนเค้าโครงของโครงงานเพื่อใช้เป็ นกรอบแนวคิดและ
                  ้
แนวทาง ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ในการทําโครงงานคอมพิวเตอร์ระหว่างผูเ้ รี ยน อาจารย์ และ
ผูเ้ กี่ยวข้อง นอกจากจะต้องใช้หลักการทางวิชาการแล้ว ยังจําเป็ นต้องมีขอตกลงและเงือนไข
                                                                      ้
ต่างๆ ด้วย เช่น การขออนุญาตใช้หองปฏิบติการคอมพิวเตอร์ การจัดหาลิขสิ ทธิ์ของซอฟต์แวร์
                                  ้     ั
เครื่ องมือและตัวแปลภาษาโปรแกรม เป็ นต้น เพื่อช่วยให้การทําโครงงานดําเนินไปอย่าง
ราบรื่ น
          4. การลงมือทําโครงงาน
          5. การเขียนรายงาน
          6. การนําเสนอและแสดงโครงงาน

คอมพิวเตอร์ กราฟิ กกับการประยุกต์ ใช้ ในงานด้านต่ างๆ
1. คอมพิวเตอร์ กราฟิ กกับการออกแบบ
        คอมพิวเตอร์กราฟิ กได้ถูกนํามาใช้ในการออกแบบมาเป็ นเวลานาน เราคงจะเคยได้ยนคํา ิ
ว่า CAD (Computer - Aided Design) ซึ่งเป็ นโปรแกรมสําหรับช่วยในการออกแบบทาง
วิศวกรรม โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้ผออกแบบหรื อวิศวกรออกแบบงานต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
                                       ู้
กล่าวคือ ผูออกแบบสามารถเขียนเป็ นแบบลายเส้นแล้วลงสี แสงเงา เพื่อให้ดูคล้ายกับของจริ ง
           ้
ได้ นอกจากนี้แล้วเมื่อผูออกแบบกําหนดขนาดของวัตถุลงในระบบ CAD แล้ว ผูออกแบบยัง
                        ้                                                    ้
สามารถย่อหรื อขยายภาพนั้น หรื อต้องการหมุนภาพไปในมุมต่างๆ ได้ดวย การแก้ไขแบบก็ทา
                                                                     ้                    ํ
ได้ง่ายและสะดวกกว่าการออกแบบบนกระดาษ
        ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์กราฟิ กถูกนํามาใช้ในการ
ออกแบบวงจรต่างๆ ผูออกแบบสามารถวาดวงจรบนจอภาพโดยใช้สญลักษณ์ต่างๆ ที่ระบบ
                      ้                                           ั
จัดเตรี ยมไว้ให้แล้วมาประกอบกันเป็ นวงจรที่ตองการ ผูออกแบบสามารถแก้ไข ตัดต่อ เพิ่มเติม
                                             ้        ้
วงจรได้โดยสะดวก นอกจากนี้ยงมีโปรแกรมสําหรับออกแบบ PCB (Printed Circuit
                                ั
Board) ซึ่งมีความสามารถจัดการให้แผ่นปริ นต์มีขนาดที่จะวางอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เหมาะสมที่สุด
        การออกแบบพาหนะต่างๆ เช่น รถยนต์ เครื่ องบิน หรื อเครื่ องจักรต่างๆ ในปัจจุบนก็ใช้
                                                                                   ั
ระบบ CAD นักออกแบบสามารถจะออกแบบส่วนย่อยๆ แต่ละส่วนก่อน แล้วนํามาประกอบ
กันเป็ นส่วนใหญ่ข้ ึนจนเป็ นเครื่ องจักรเครื่ องยนต์ที่ตองการได้ นอกจากนี้ในบางระบบยัง
                                                          ้
สามารถที่จะทดสอบแบบจําลองที่ออกแบบไว้ได้ดวย เช่น อาจจะออกแบบรถยนต์แล้วนํา
                                                        ้
โครงสร้างของรถที่ออกแบบนั้นมาจําลองการวิ่ง โดยให้วงที่ความเร็วต่างๆ กันแล้วตรวจดูผลที่
                                                              ิ่
ได้ ซึ่งการทดลองแบบนี้สามารถทําได้ในระบบคอมพิวเตอร์และจะประหยัดกว่าการสร้างรถ
จริ งๆ แล้วนําออกมาศึกษาทดสอบการวิ่ง
        การออกแบบโครงสร้าง เช่น ตึก บ้าน สะพาน หรื อโครงสร้างใดๆ ทางวิศวกรรมโยธา
และสถาปัตยกรรม ก็สามารถทําได้โดยใช้ CAD ช่วยในการออกแบบ หลังจากสถาปนิก
ออกแบบโครงสร้างในแบบ 2 มิติเสร็จแล้ว ระบบ CAD สามารถจัดการให้เป็ นภาพ 3 มิติ และ
ยังสามารถแสดงภาพที่มุมมองต่างๆ กันได้ตามที่ผออกแบบต้องการ นอกจากนี้ในบางระบบ
                                                     ู้
สามารถแสดงภาพให้ปรากฏต่อผูออกแบบราวกับว่าผูออกแบบสามารถเดินเข้าไปภายใน
                                    ้                       ้
อาคารที่ออกแบบได้ดวย  ้

2. กราฟและแผนภาพ
        คอมพิวเตอร์กราฟิ กถูกนํามาใช้ในการแสดงภาพกราฟและแผนภาพของข้อมูลได้เป็ น
อย่างดี โปรแกรมทางกราฟิ กทัวไปในท้องตลาดจะเป็ นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างภาพกราฟ
                                 ่
และแผนภาพ โปรแกรมเหล่านี้ยงสามารถสร้างกราฟได้หลายแบบ เช่น กราฟเส้น กราฟแท่ง
                                   ั
และกราฟวงกลม นอกจากนี้ยงสามารถแสดงภาพกราฟได้ท้งในรู ปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ทําให้
                               ั                       ั
ภาพกราฟที่ได้ดูดีและน่าสนใจ กราฟและแผนภาพทางธุรกิจ เช่น กราฟหรื อแผนภาพแสดง
การเงิน สถิติ และข้อมูลทางเศรษฐกิจ จะเป็ นประโยชน์ต่อผูบริ หารหรื อผูจดการกิจการมาก
                                                         ้           ้ั
เนื่องจากสามารถทําความเข้าใจกับข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม ในงานวิจยต่างๆ เช่น
                                                                        ั
การศึกษาทางฟิ สิ กส์ กราฟและแผนภาพมีส่วนช่วยให้นกวิจยทําความเข้าใจกับข้อมูลได้ง่ายขึ้น
                                                  ั ั
เมื่อข้อมูลที่ตองวิเคราะห์มีจานวนมาก
               ้             ํ

      ระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์ หรื อ GIS (Geographical Information System) ก็เป็ นรู ปแบบ
หนึ่งของการแสดงข้อมูลในทํานองเดียวกับกราฟและแผนภาพ ข้อมูลทางภูมิศาสตร์จะถูกเก็บ
ลงในระบบคอมพิวเตอร์ แล้วให้ระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ กจัดการแสดงข้อมูลเหล่านั้นออกมา
ทางจอภาพในรู ปของแผนที่ทางภูมิศาสตร์

3. ภาพศิลป์ โดยคอมพิวเตอร์ กราฟิ ก
         การวาดภาพในปัจจุบนนี้ใครๆ ก็สามารถวาดได้แล้วโดยไม่ตองใช้พ่กนกับจานสี แต่จะ
                            ั                                ้     ู ั
ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ กแทน ภาพที่วาดในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ กนี้เราสามารถกําหนดสี
แสงเงา รู ปแบบลายเส้นที่ตองการได้โดยง่าย ภาพโฆษณาทางโทรทัศน์หลายชิ้นก็เป็ นงานจาก
                          ้
การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ ก ข้อดีของการใช้คอมพิวเตอร์วาดภาพก็คือ เราสามารถแก้ไขเพิ่มเติม
ส่วนที่ตองการได้ง่าย นอกจากนี้เรายังสามารถนําภาพต่างๆ เก็บในระบบคอมพิวเตอร์ได้โดย
          ้
ใช้เครื่ องสแกนเนอร์ (Scanner) แล้วนําภาพเหล่านั้นมาแก้ไข

4. ภาพเคลือนไหวโดยใช้ คอมพิวเตอร์
             ่
        ภาพยนตร์การ์ตนและภาพยนต์ประเภทนิยายวิทยาศาสตร์หรื อภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิค
                         ู
พิเศษต่างๆ ในปัจจุบนมีการนําคอมพิวเตอร์กราฟิ กเข้ามาช่วยในการออกแบบและสร้าง
                       ั
ภาพเคลื่อนไหว (Computer Animation) มากขึ้น เนื่องจากเป็ นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายกว่า
วิธีอื่นๆ นอกจากนี้ภาพที่ได้ยงดูสมจริ งมากขึ้น เช่น ภาพยานอวกาศที่ปรากฏในภาพยนตร์
                              ั
                                                                            ่
ประเภทนิยายวิทยาศาสตร์ เป็ นต้น การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ กช่วยให้ภาพที่อยูในจินตนาการ
ของมนุษย์สามารถนําออกมาทําให้ปรากฏเป็ นจริ งได้ ภาพเคลื่อนไหวมีประโยชน์มากทั้งใน
ระบบการศึกษา การอบรม การวิจย และการจําลองการทํางาน เช่น จําลองการขับรถ การขับ
                                  ั
                                                      ็
เครื่ องบิน เป็ นต้น เกมส์คอมพิวเตอร์หรื อวิดีโอเกมส์กใช้หลักการทําภาพเคลื่อนไหนใน
คอมพิวเตอร์กราฟิ กเช่นกัน

5. อิเมจโปรเซสซิงก์
       คําว่าอิเมจโปรเซสซิงก์ (Image Processing) หมายถึง การแสดงภาพที่เกิดจากการถ่ายรู ป
หรื อจากการสแกนภาพให้ปรากฏบนจอภาพคอมพิวเตอร์ วิธีการทางอิเมจโปรเซสซิงก์จะต่าง
กับวิธีการของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก กล่าวคือ ในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ ก ตัวคอมพิวเตอร์เอง
จะเป็ นตัวที่สร้างภาพ แต่เทคนิกทางอิเมจโปรเซสซิงก์น้ นใช้คอมพิวเตอร์สาหรับการ
                                                     ั                ํ
                                 ่
จัดรู ปแบบของสี และแสงเงาที่มีอยูแล้วในภาพให้เป็ นข้อมูลทางดิจิตอล แล้วอาจจะมีวิธีการทํา
ให้ภาพที่รับเข้ามานั้นมีความชัดเจนมากขึ้นก่อน จากนั้นก็จดการกับข้อมูลดิจิตอลนี้ให้เป็ นภาพ
                                                        ั
ส่งออกไปที่จอภาพของคอมพิวเตอร์อีกที วิธีการนี้มีประโยชน์ในการแสดงภาพของวัตถุท่ีเรา
ไม่สามารถจะเห็นได้โดยตรง เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพจากทีวีสแกนของหุ่นยนต์
อุตสาหกรรม เป็ นต้น




      เมื่อภาพถ่ายถูกทําให้เป็ นข้อมูลดิจิตอลแล้ว เราก็สามารถจะจัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ภาพนั้นได้โดยจัดการกับข้อมูลดิจิตอลของภาพนันเอง ซึ่งเราก็จะใช้หลักการของคอมพิวเตอร์
                                                 ่
               ั
กราฟิ กมาใช้กบข้อมูลเหล่านี้ได้ เช่น ในภาพสําหรับการโฆษณา เราสามารถทําให้ภาพที่เห็นเห
มือภาพถ่ายนั้นแปลกออกไปจากเดิมได้โดยมีภาพบางอย่างเพิ่มเข้าไปหรื อบางส่วนของภาพนั้น
หายไป ทําให้เกิดภาพที่ไม่น่าจะเป็ นจริ งแต่ดูเหมือนกับเกิดขึ้นจริ งได้ เป็ นต้น
                                                        ั
      เทคนิคของอิเมจโปเซสซิงก์สามารถประยุกต์ใช้กบการแพทย์ได้ เช่น เครื่ องเอกซเรย์ โท
โมกราฟี (X-ray Tomography)ซึ่ งใช้สาหรับแสดงภาพตัดขวางของระบบร่ างกายมนุษย์ เป็ นต้น
                                        ํ
                                  ่
จากที่กล่าวมาแล้ว เราจะเห็นได้วาคอมพิวเตอร์กราฟิ กนั้นนับวันยิงมีความสําคัญในสาขาวิชา
                                                                   ่
ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นจึงเป็ นการดีที่เราควรจะมีความรู้ความเข้าใจในหลักการและทคนิคเบื้อง
ต้นต่างๆ ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์กราฟิ ก

ที่มา
http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/
http://www.rayongwit.ac.th/computer/m2fri49/g21m2fri/apply.htm
http://www.mc.ac.th/learning/chaiwbi/project/p111.html



ตัวอย่ างที่ 2
             โครงการ การทบทวนวรรณกรรมและพัฒนาเครื่ องมือประเมินความพิการ
                                  กันยายน 2554
                                 พญ.ศิรินาถ ตงศิริ
                        คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

                                       คํานํา
เอกสารฉบับนี้เป็ นรายงานปิ ดโครงการการทบทวนวรรณกรรม และพัฒนาเครื่ องมือเพื่อใช้ใน
การประเมินความพิการในชุมชนโดยใช้รหัส ICF ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนการ
ดําเนินงานจากสถาบันสร้างเสริ มสุขภาพคนพิการ (สสพ.) ได้เริ่ มดําเนินโครงการมาตั้งแต่
เดือนพฤษภาคม 2553 และกําหนดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2554 ดําเนินการโดย อ.ดร.พญ.ศิริ
นาถ ตงศิริ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

        ในระหว่างการดําเนินโครงการ ผูวิจยได้เขียนรายงานสรุ ปโครงการที่ได้ดาเนินการเสร็จ
                                     ้ ั                                      ํ
                                                   ั
สิ้นในแต่ละขั้นตอนเพื่อรายงานความก้าวหน้าให้กบสสพ. และเมื่อได้ดาเนินโครงการแล้ว
                                                                      ํ
เสร็จทั้งหมด ผูวิจยได้เขียนรายงานฉบับเต็มนี้ข้ ึนและได้มีการปรับปรุ งเนื้อหาบางส่วนให้มี
               ้ ั
                                                                                ่
ความถูกต้อง และปรับเนื้อความให้กระชับมากยิงขึ้น ดังนั้น เนื้อหาบางอย่างที่อยูในรายงาน
                                                 ่
ฉบับนี้อาจมีความแตกต่างกับรายงานย่อยที่ได้ส่งไปก่อนหน้านี้

       ความรู้ที่ผวิจยได้รับมากที่สุดในการดําเนินโครงการนี้ คือ การนํารหัส ICF ไปใช้ในการ
                  ู้ ั
เก็บข้อมูลคนพิการ ผูวจยได้รู้จกรหัส ICF ตั้งแต่ประมาณ 5-6 ปี ที่แล้ว แต่ยงไม่มีโอกาสได้
                       ้ิั     ั                                         ั
เรี ยนรู้ ทําความเข้าใจ และได้ทดลองนําไปใช้งานจนกระทังได้มาทํางานวิจยนี้ ผูวิจยเห็นว่า
                                                          ่              ั     ้ ั
การใช้รหัส ICF นี้มีประโยชน์อย่างยิงในการปรับมุมมองการทํางานกับคนพิการให้ครอบคลุม
                                       ่
                                                   ่
ทุกมิติ ใช้ในการสื่ อสารกับผูให้บริ การที่ไม่ได้อยูในสายงานอาชีพเดียวกันให้สามารถทํางาน
                                 ้
ไปด้วยกันได้ ประโยชน์สูงสุดที่เกิดขึ้น คือ คุณภาพชีวิตของคนพิการที่ควรจะได้รับการ
                                                                           ่
พัฒนาให้ดียงขึ้นจากการมีมุมมองรอบด้านและการสื่ อสารที่เป็ นไปอย่างดีอยูบนพื้นฐานของ
               ิ่
การเข้าใจและพูดถึงสิ่ งเดียวกันของผูปฏิบติงาน
                                         ้ ั
 หวังเป็ นอย่างยิงว่า ผูที่ได้นารหัส ICF ไปใช้ในงานของตน จะได้รับความรู้สึกอย่างนี้ และ
                  ่     ้      ํ
นําไปพัฒนาคุณภาพชีวตคนพิการอย่างได้ผลดีและมีประสิ ทธิภาพต่อไป..
                           ิ

ที่มา http://www.healthyability.com/detail_new.php?content_id=804




ตัวอย่ างที่ 3

โครงการ        เครื่ องมือวัดสเปกตรัมแสงสําหรับนาโนพลาสโมนิกส์และการ
               ประยุกต์ใช้งานทางชีวภาพ
โครงการวิจยนี้ ตัวอย่ างเครื่องมือที่ต้องการสร้ างขึนประกอบด้ วย
           ั                                        ้
       อุปกรณ์สาหรับวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสงสําหรับโครง สร้างระดับนาโนของโลหะ
                  ํ
             ั
สําหรับใช้กบกล้องจุลทรรศน์เชิงแสงทัวไป   ่
       ชุดทดลองสําหรับวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสง (Scattering spectrum) หรื อการลดทอน
แสง (Extinction spectrum) สําหรับสารตัวอย่างที่เป็ นสารละลายและมีปริ มาณน้อย เช่น มี
ปริ มาตร 10 - 100 ไมโครลิตร เป็ นต้น
อุปกรณ์และชุดทดลองเชิงแสงดังกล่าว จะช่วยให้นกวิจยในประเทศสามารถตรวจวัด
                                                          ั ั
คุณสมบัติเชิงแสงของโครงสร้างระดับ นาโนได้แม่นยํามากขึ้น โดยไม่ตองจัดหาเครื่ องมือ
                                                                       ้
วิเคราะห์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ
        เครื่ องมืออีกชนิดหนึ่งที่มีความสําคัญในการศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงของโครง สร้าง
ระดับนาโนคือ ซอฟต์แวร์สาหรับการจําลองเชิงตัวเลขโดยใช้เทคนิค Finite-different time-
                               ํ
domain (FDTD) ซอฟต์แวร์ดงกล่าวนิยมใช้ในการคํานวณหาสเปกตรัมแสงของอนุภาคและ
                                 ั
สนามไฟฟ้ ารอบๆ อนุภาค ผลการคํานวณสามารถนํามาอธิบายผลการทดลองได้ เพื่อให้เข้าใจ
หลักการทํางานของอนุภาคได้ชดเจนมากขึ้น ซอฟต์แวร์ FDTD มีใช้งานโดยทัวไป แต่การใช้
                                   ั                                         ่
งานกับโครงสร้างระดับนาโนของโลหะนั้นต้องใช้ความรู้ความชํานาญเฉพาะ ด้าน การพัฒนา
บุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้ข้ ึนในเนคเทค จะสามารถช่วยสนับสนุนการวิจยและ  ั
พัฒนาในสาขานี้ได้
        เพื่อแสดงความเป็ นไปได้ของการประยุกต์ใช้โครงสร้างระดับนาโนของโลหะกับการ
พัฒนาเป็ นไบโอเซนเซอร์ขนาดเล็ก ทีมวิจยจะเลือกตัวอย่างโครงสร้างนาโนที่ได้รับการ
                                             ั
ศึกษาวิจยไประดับหนึ่ง เช่น อนุภาคนาโนของทองหรื ออนุภาคนาโนคู่ของทอง (Gold
          ั
                                                                                   ั
nanoparticle dimers) ซึ่งเป็ นโครงสร้างที่มีอนุภาคนาโน 2 อนุภาค ถูกจับยึดเข้าใกล้กนด้วยสาย
                                       ั
ดีเอ็นเอเป้ าหมาย ดังรู ปที่ 4 (ดร.สุกญญา แซ่เอี๋ยว, BIOTEC) โครงสร้างดังกล่าวถูกนําไปใช้
เป็ นดีเอ็นเอเซนเซอร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงโดยละเอียด
โดยเฉพาะระดับอนุภาค ซึ่งทีมวิจยจะนําโครงสร้างนาโนดังกล่าวมาทดลองวัดคุณสมบัติเชิง
                                     ั
แสงเพิ่มเติม ด้วยอุปกรณ์และชุดทดลองที่สร้างขึ้น และเปรี ยบเทียบกับผลการจําลองด้วย
ซอฟต์แวร์ FDTD ทีมวิจยคาดหมายว่าจากผลการทดลองและการคํานวณที่ได้ จะทําให้สามารถ
                          ั
พัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาไบโอเซนเซอร์ดงกล่าวให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น
                                                       ั
สามารถตรวจวัดได้ที่ความเข้มข้นของดีเอ็นเอเป้ าหมายได้ต่าลงกว่าเดิม
                                                            ํ
ครุ ภณฑ์หลักที่สาคัญในการสร้างอุปกรณ์และชุดทดลองดังกล่าว เช่น กล้องจุลทรรศน์เชิงแสง
     ั             ํ
กล้องซีซีดีสาหรับแสงความเข้มตํ่า ซอฟต์แวร์ FDTD สเปกโตรมิเตอร์ เป็ นต้น ห้องปฏิบติการ
               ํ                                                                       ั
วิจยเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ได้จดหาไว้แล้วผ่านการจัดสรร ครุ ภณฑ์ประจําปี (Capacity
    ั                          ั                             ั
                          ่
building) และบางส่วนอยูในระหว่างการจัดหาเพิ่มเติม
        อนึ่ง โครงสร้างระดับนาโนของโลหะ (Metallic nanostructures) มีปรากฎการณ์เชิงแสง
ที่แตกต่างจากโครงสร้างโลหะทัวไปอย่างมาก เมื่อมองด้วยตาเปล่าเราจะพบว่าโครงสร้าง
                                     ่
ระดับนาโนของโลหะจะมีสีต่างๆ ขึ้นอยูกบขนาด ชนิดโลหะ และสภาพแวดล้อม
                                         ่ ั
ปรากฏการณ์ดงกล่าวสามารถอธิบายได้โดยใช้ทฤษฎีการกระเจิงแสงสําหรับโครงสร้าง ระดับ
                ั
นาโน และการเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าเนื่องจากการสันของอิเล็กตรอนอิสระที่ผวโลหะ คลื่น
                                                     ่                         ิ
แม่เหล็กไฟฟ้ าดังกล่าวเป็ นคลื่นผิวและสามารถเคลื่อนที่ได้ตามแนวพื้น ผิวเป็ นระยะทางสั้นๆ
นิยมเรี ยกคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าดังกล่าวว่า Surface plasmon polaritons (SPP) หรื อเรี ยกสั้นๆ ว่า
พลาสโมนิกส์หรื อนาโนพลาสโมนิกส์ (Plasmonics/Nanoplasmonics) ปรากฏการณ์น้ ีได้รับ
ความสนใจอย่างมากจากนักวิจยทัวโลก เพราะสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน
                                   ั ่
โดยเฉพาะในสาขาชีวภาพ เช่น การตรวจวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง ไบโอเซนเซอร์ที่มี
ขนาดเล็ก การศึกษากลไกการทํางานของเซลล์สิ่งมีชีวิต เป็ นต้น ปัจจุบนนี้โครงสร้างระดับนา
                                                                      ั
โนของโลหะกลายเป็ นวัสดุที่สาคัญสําหรับการ ประยุกต์ใช้ในทางชีวภาพหรื อในสาขาไบโอ
                                 ํ
นาโนเทคโนโลยี (Nanobiotechnology)

วัตถุ ประสงค์ของโครงการ
       1. สร้างชุดลองวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสงและสเปกตรัมการลดทอนของแสงสําหรับ
อนุภาค นาโนหรื อโครงสร้างระดับนาโนของโลหะ สําหรับใช้ในการวิจยและพัฒนา
                                                               ั
       2. ศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงโครงสร้างระดับนาโนของโลหะ เช่น อนุภาคนาโนเดี่ยวหรื อ
อนุภาคนาโนคู่ของทอง (Gold nanoparticle dimers) โดยใช้การศึกษาทางทฤษฎีและโปรแกรม
Finite difference time domain (FDTD) และการทดลองโดยใช้ชุดทดลองที่สร้างขึ้น
       3. ศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้อนุภาคนาโนของทองเป็ นไบโอเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็ก

บทคัดย่ อ
อนุภาค นาโนของทองขนาด 10 - 100 nm มีสเปกตรัมการกระเจิงแสงในช่วง 530 - 600
nm โดยเมื่อขนาดใหญ่ข้ ึนสเปกตรัมการกระเจิงแสงจะเลื่อนไปทางขวา คุณสมบัติเชิงแสง
ดังกล่าว ทําให้เมื่อสังเกตุอนุภาคนาโนของทองด้วยกล้องจุลทรรศน์ในโหมดดาร์คฟิ ลด์ (Dark-
field microscopy) จะพบว่าอนุภาคขนาด 40 nm จะมีสีเขียวและอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ข้ ึนจะมีสี
เขียว-เหลืองหรื อค่อนข้างแดง ดังรู ปที่ 1 ปรากฏการณ์ดงกล่าวได้ถูกประยุกต์ใช้เป็ นหลักการ
                                                      ั
วัดไบโอเซนเซอร์ที่มีขนาด เล็กและราคาถูก เช่น เมื่อเติมสารตัวอย่างที่มีโมเลกุลสารชีวภาพที่
ต้องการวัดปนอยู่ ลงไปในสารละลายที่มีอนุภาคนาโนของทองซึ่งติดผิวด้วยสารชีวภาพ
สําหรับตรวจจับ (Ligands) จะทําให้อนุภาคนาโนของทองเกิดการจับกลุ่มกัน (Aggregation)
ทําให้สเปกตรัมการกระเจิงเลื่อนไปทางขวา ซึ่งสังเกตการเปลี่ยนสี ได้ดวยตาเปล่า ดังรู ปที่ 2
                                                                     ้
และรู ปที่ 3 หรื อสามารถตรวจวัดด้วยเครื่ องมือเชิงแสงที่มีราคาถูก เหมาะสําหรับการใช้งาน
แบบภาคสนามและการใช้งานแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable)
       นอกจากอนุภาคนาโนของทองแล้ว โครงสร้างระดับนาโนของโลหะรู ปแบบอื่นๆ ยัง
ได้รับความสนใจอย่างมากนํามาประยุกต์ใช้เป็ นวัสดุตรวจวัดสําหรับไบโอเซน เซอร์ โดยมี
เป้ าหมายการใช้งานที่คล้ายคลึงกันคือ การพัฒนาเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กเหมาะสําหรับการใช้
งานภาคสนาม ตัวอย่างโครงสร้างระดับนาโนที่มีการรายงานไว้ เช่น นาโนโฮลและนาโนโฮล
อาร์เรย์ นาโนปิ ระมิด นาโนรอด สายอากาศนาโน เป็ นต้น ซึ่งเทคนิคการตรวจวัดคุณสมบัติ
โครงสร้างนาโนเหล่านิ้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้การวัดการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเชิงแสงของ
อนุภาคมากกว่าการ ตรวจวัดคุณสมบัติดานอื่นๆ เนื่องจากทําได้ง่ายกว่า
                                          ้

ระยะ เวลาดาเนินโครงการ : 1 พฤษภาคม พ.ศ.2554 ถึง 30 เมษายน พ.ศ.2555

คณะผู้ วิจยั
หัวหน้าโครงการ : นายบุญส่ง สุตะพันธ์
ผูร่วมวิจย : นายสถาพร จันทน์หอม, นายอาโมทย์ สมบูรณ์แก้ว, นายรัฐศาสตร์ อัมฤทธิ์
  ้      ั
ที่มา http://www.nectec.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=2314:r54-
&catid=340:2011-07-02-05-49-13&Itemid=1066



ตัวอย่างที่ 4
       โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์"(GameDevelopment)โครงงานพัฒนา
โปรแกรมประยุกต์หรื อโครงงานพัฒนาเกมโครงงานประเภทนีเป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์
เกมเพือความรู้หรื อเพือความเพลิดเพลินเกมทีพฒนาควรจะเป็ นเกมทีไม่รุนแรงเน้นการใช้
                                               ั
สมองเพือฝึ กคิดอย่างมีหลักการโครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การ
เล่นเพือให้น่าสนใจแก่ผเู้ ล่นพร้อมทังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วยผูพฒนาควรจะได้ทาการ
                                                                ้ ั          ํ
                                                 ่ ั
สํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียวกับเกมต่างๆทีมีอยูทวไปและนํามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึนใหม่
เพือให้เป็ นเกมทีแปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผเู้ ล่นกลุ่มต่างๆตัวอย่างโครงงานประเภทพัฒนา
โปรแกรมประยุกต์1.เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี 2.เกมอักษรเขาวงกต3.เกมเลือกตัง
สมาชิกสภาผูแทนราษฎร4.เกมผจญภัยกับภาษาอังกฤษ5.เกมหมากฮอส6.เกมบวกลบเลขแสน
              ้
สนุก7.เกมศึกรามเกียรติC8.เกมมวยไทย9.เกมอักษรไขว้

โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่ องสร้างเกมคณิ ตคิดเร็วออนไลน์
                                                                                 ่
โดย 1.เด็กชายธันธวัช เอียมสะอาด 2.เด็กชายเสนา สุภาวะหา 3.เด็กชายสิ ทธิกร สังข์อยูสุข
ครู ที่ปรึ กษา นายณรงค์ ศักดิ์เจริ ญสิ ทธิชย
                                           ั

บทคัดย่ อ
       โครงงานสร้างเกมคณิตคิดเร็วออนไลน์เป็ นโครงงานทีประยุกต์เอาซอฟแวร์ประเภท
ต่างๆมาใช้งานร่ วมกันเพือให้ได้โปรแกรมทีใช้งานได้ตามจุดมุ่งหมายตามทีตงจุดประสงค์ไว้
                                                                     ั
ได้แก่โปรแกรมออเธอร์แวร์โปรแกรมเฟรชแชตโปรแกรมแอปเซฟเวอร์โปรแกรมดรี มเว็บ
เวอร์และภาษาพีเฮชพีซึงโปรแกรมแบ่งออกเป็ น3ส่วนใหญ่ดงต่อไปนี1.เซฟเวอร์ทีทาหน้าที
                                                       ั                   ํ
รับส่งข้อมูลระหว่างผูใช้ใช้โปรแกรมแอปเซฟเวอร์เป็ นเซฟเวอร์และใช้ภาษาพีเฮชพีเขียนด้วย
                      ้
โปรแกรมดรี มเว็บเวอร์ใช้ในการรับส่งข้อมูลผูเ้ ล่น2.โปรแกรมติดต่อสื อสารระหว่างผูใช้งาน
                                                                                ้
โปรแกรมได้แก่โปรแกรมเฟรชแชต3.โปรแกรมออเธอร์แวร์ใช้ในการเขียนโปรแกรมเพือ
ผสมผสานการทํางานของโปรแกรมข้างต้นเพือให้ใช้งานได้ตามจุดประสงค์ผลการทําสร้าง
โปรแกรมปรากฏว่าสามารถสร้างโปรแกรมเกมคณิ ตคิดเร็วออนไลน์ทีสามารถเล่นผ่านระบบ
เครื อข่ายตามจุดมุ่งหมายทีตงไว้
                            ั

ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.gistda.or.th




ตัวอย่ างที่ 5

       โครงงานพัฒนาเครื องมือ(ToolsDevelopment)เป็ นโครงงานเพือพัฒนาเรื องมือมาใช้
ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆซึงโดยส่วนใหญ่จะเป็ นในรู ปซอฟต์แวร์ตวอย่างของเครื องมือ
                                                                ั
ช่วยงานเช่นซอฟต์แวร์วาดรู ปซอฟต์แวร์พิมพ์งานซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆเป็ น
ต้นสําหรับซอฟต์แวร์เพือการพิมพ์งานนั-นสร้างขึ-นเป็ นโปรแกรมประมวลผลภาษาซึงจะเป็ น
เครื องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่างๆบนเครื องคอมพิวเตอร์เป็ นไปได้โดยง่ายซึงรู ปทีได้
สามารถนําไปใช้งานต่างๆได้มากมายสําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่างๆใช้
สําหรับช่วยในการออกแบบสิ งของต่างๆตัวอย่างเช่น1.โปรแกรมการค้นหาคําภาษาไทย2.
โปรแกรมอ่านอักษรไทย3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ4.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล5.โปรแกรม
ประมวลผลคําไทยบนระบบปฏิบติการลีนุกซ์ั
            ตัวอย่างโครงงานชื่อโครงงานระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลือนทีเพือการดําเนินธุรกิจ
ชื่อผูทาโครงงานนาย ฑีฆวัฒน์ เทพานวล, นาย ปวีณวัช สุรินทร์, นาย ปิ ยะพงษ์ บุญมี ชื่อ
        ้ ํ
อาจารย์ทีปรึ กษาผศ.ดร.สุ ขมาลกิติสินสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ระดับชั8
                               ุ
นปริ ญญาตรี หมวดวิชาคอมพิวเตอร์วน/เดือน/ปี ทําโครงงาน1/1/2549บทคัดย่อโครงการนี-มี
                                      ั
วัตถุประสงค์เพือนําเทคนิคการสร้างบาร์โค้ดบนจอภาพโทรศัพท์เคลือนทีมาใช้ในการพัฒนา
ระบบทีประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีและเว็บเซอร์วิสเพือรองรับการ
ทํางานดังนี-คือการขอรับใบแจ้งค่าบริ การการขอทําบัตรสมาชิกการจองและการซื-อตัCวต่างๆ
จากเว็บเซอร์วิสผูให้บริ การคือหน่วยงานของรัฐและเอกชนทีมีการใช้ใบแจ้งค่าบริ การหรื อบัตร
                      ้
สมาชิกผูให้บริ การในระบบธุรกิจทีมีการใช้ตCวตามลําดับผ่านโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์
               ้                            ั
เคลือนทีเพือใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีแทนใบแจ้งค่าบริ การบัตรสมาชิกตัC
วต่างๆและใช้ในการยืนยันการออกตัCวจริ งจากจองตัCวต่างๆโดยระบบมีการทํางานดังนี-คือ
เว็บเซอร์วิสของระบบจะทําหน้าทีรวบรวมบริ การและเป็ นตัวกลางในการเชือมต่อประสานการ
ทํางานเพือส่งผ่านข้อมูลใบแจ้งค่าบริ การข้อมูลบัตรสมาชิกข้อมูลหมายเลขเฉพาะหรื อข้อมูล
หมายการจองของตัCวต่างๆระหว่างเว็บเซอร์วิสผูให้บริ การกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์
                                                ้
เคลือนทีโดยลักษณะข้อมูลทีใช้ในการแลกเปลียนเป็ นรู ปแบบเอกสารXMLซึงโปรแกรม
ประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีของระบบสามารถนําข้อมูลหมายเลขบาร์โค้ดบนใบแจ้ง
ค่าบริ การหมายเลขบาร์โค้ดบนบัตรสมาชิกและหมายเลขเฉพาะหรื อหมายเลขการจองของตัC
วต่างๆทั-งจากการเชือมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบการรับข้อความSMSจากผูให้บริ การและ
                                                                         ้
การพิมพ์ขอมูลโดยตรงมาทําการสร้างเป็ นบาร์โค้ดบนจอภาพโทรศัพท์เคลือนทีเพือรองรับการ
                 ้
อ่านจากเครื องอ่านบาร์โค้ดในการใช้งานต่อไปโดยระบบทีพฒนาขึ้นจะเป็ นนวัตกรรม
                                                         ั
            ใหม่ซึงช่วยอํานวยความสะดวกและช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการดําเนินธุรกิจโดยทํา
ให้ผใช้ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีของระบบสามารถลดภาระการ
     ู้
เก็บดูแลรักษาบัตรสมาชิกใบแจ้งค่าบริ การและตัCวต่างๆเพิมความสะดวกรวดเร็วในการยืนยัน
ออกตัCวจริ งจากการจองตัCวต่างๆด้านผูให้บริ การต่างๆสามารถลดการใช้ตนทุนและ
                                    ้                              ้
ทรัพยากรธรรมชาติจากการผลิตบัตรสมาชิกใบแจ้งค่าบริ การและตัCวต่างๆเช่นพลาสติก
กระดาษหมึกพิมพ์เป็ นต้นโครงการนี-ได้มีการสร้างส่วนจําลองเพือใช้ในการทดสอบระบบ
สองส่วนส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สาขาของผูให้บริ การส่วนทีสอง
                                                                 ้
คือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริ ษทตัวแทนรับชําระเงิน
                               ั

ทีมา:
http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7http://namkwanmay.wordpress.com
/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0
%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8
%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD
%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/https://sites.google.com/site/luks
aduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-khxmphiwtexr

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Puifai Sineenart Phromnin
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
BKc BiGgy
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
Soldic Kalayanee
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
Nuchy Geez
 
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
Mymi Santikunnukan
 
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
sa_jaimun
 
งานๆๆๆๆๆ
งานๆๆๆๆๆงานๆๆๆๆๆ
งานๆๆๆๆๆ
Wi Nit
 
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
miiztake
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
miiztake
 
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 107 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
Natchanon Srinuan
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
mcf_cnx1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Surasak Piengta
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Saipanyarangsit School
 

La actualidad más candente (19)

ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
 
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 1.2ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานๆๆๆๆๆ
งานๆๆๆๆๆงานๆๆๆๆๆ
งานๆๆๆๆๆ
 
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานประเภทพัฒนาเครื่องมือ 5
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Comp2 4
Comp2 4Comp2 4
Comp2 4
 
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 107 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
07 ใบเนื้อหา หน่วยที่ 1
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

Similar a 08

ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
Aungkana Na Na
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
Aungkana Na Na
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Aungkana Na Na
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Aungkana Na Na
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
JoyCe Zii Zii
 
ขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน
Ratanamon Suriya
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
cartoon656
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
natnardtaya
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
Kamonthip Konkaew
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
Mookmanee Paiopree
 

Similar a 08 (20)

ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงาน3
ใบงาน3ใบงาน3
ใบงาน3
 
ขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน
 
K3
K3K3
K3
 
K4
K4K4
K4
 
3.3
3.33.3
3.3
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงาน 2-8
ใบงาน 2-8ใบงาน 2-8
ใบงาน 2-8
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
5 6-7-8
5 6-7-85 6-7-8
5 6-7-8
 

Más de Visarut Keatnima (20)

โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอม
 
โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอม
 
16
1616
16
 
15
1515
15
 
14 (1)
14 (1)14 (1)
14 (1)
 
010
010010
010
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสฝรั่งเศส
ฝรั่งเศส
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
07
0707
07
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
11คอม
11คอม11คอม
11คอม
 
09คอม
09คอม09คอม
09คอม
 
06 คอม
06 คอม06 คอม
06 คอม
 
05คอม
05คอม05คอม
05คอม
 
03
0303
03
 
K02
K02K02
K02
 

08

  • 1. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ” ความหมาย โปรแกรมประยุกต์ หรื อ ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ แบ่งออกเป็ น 1.ซอฟต์ แวร์ สำเร็จ เป็ นซอฟต์แวร์ที่บริ ษทพัฒนาขึ้น แล้วนําออกมาจําหน่าย เพื่อให้ ั ผูใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรง ไม่ตองเสี ยเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์อีก ้ ้ 2.ซอฟต์ แวร์ ใช้ งำนเฉพำะ มักเป็ นซอฟต์แวร์ที่ผพฒนาต้องเข้าไปศึกษารู ปแบบการ ู้ ั ทํางานหรื อความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ แล้วจัดทําขึ้น โดยทัวไปจะเป็ นซอฟต์แวร์ที่มีหลาย ่ ั ส่วนรวมกันเพื่อร่ วมกันทํางาน ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะที่ใช้กนในทางธุรกิจ เช่น ระบบงานทางด้านบัญชี ระบบงานจัดจําหน่าย ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม บริ หาร การเงิน และการเช่าซื้อ เป็ นต้น Credit : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=1bf12134f88bc8eb ตัวอย่ างที่ 1 การประยุกต์ คอมพิวเตอร์ เพือพัฒนาโครงงาน ่ ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพือการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็ น ่ โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่ อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อ หน่วยการเรี ยน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู้ รี ยน เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนใน
  • 2. วิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่ อเพื่อ การศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปร ต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้น ํ 2. โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานที่ ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริ งในชีวิตประจําวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ ํ ํ ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ํ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็ นการคิดสร้างสิ่ งของขึ้นใหม่ หรื อปรับปรุ ง ่ เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ วิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา ้ สิ่ งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่ งประดิษฐ์แล้ว ปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผเู้ รี ยนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่ อง คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 3. โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกม เพื่อความรู้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง ั เพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผเู้ ล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผูพฒนาควรจะได้ทาการสํารวจ ้ ั ํ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และนํามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึ้นใหม่ ่ ั่ เพื่อให้เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผเู้ ล่นกลุ่มต่างๆ 4. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนา เครื่ องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยูในรู ปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาด ่ รู ป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้น สําหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคํา ซึ่งจะเป็ นเครื่ องมือให้เราใช้ในการ พิมพ์งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรู ป พัฒนาขึ้นเพื่ออํานวยความ สะดวกให้การวาดรู ปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ให้เป็ นไปได้ โดยง่าย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ
  • 3. มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่ งของ อาทิเช่น ผูใช้วาดแจกันด้านหน้า และ ํ ้ ่ ต้องการจะดูวาด้านบนและด้านข้างเป็ นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะ ํ เป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จําลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย สถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผทาต้องศึกษารวบรวม ู้ ํ ความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่ องที่ตองการศึกษาแล้วเสนอเป็ น ้ ่ แนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่ งอาจอยูในรู ปของสูตร สมการ หรื อคําอธิบาย พร้อมทั้งาร ็ จําลองทฤษฏีดวยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้กจะเปลี่ยนไปตามสูตรหรื อสมการ ้ ่ ู้ ํ นั้น ซึ่งจะทําให้ผเู้ รี ยนมีความเข้าใจได้ดียงขึ้น การทําโครงงานประเภทนี้มีจุดสําคัญอยูที่ผทา ิ่ ต้องมีความรู้ในเรื่ องนั้นๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจําลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการ ไหลของของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการ มองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น จากการศึกษาประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ ทําให้ผจดทําได้ทราบว่า โครงงาน ู้ ั คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท รายละเอียดของแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง ทําให้ผจดทําสามารถนํา ู้ ั ความรู้ท่ีได้รับไปสร้างสรรค์ผลงานให้ถูกประเภทยิงขึ้น และสามารถนําความรู้ที่ได้รับไป ่ เผยแพร่ แก่ผอื่นได้ ู้ ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 3. จัดทําเค้าโครงของโครงงาน เมื่อผูเ้ รี ยนได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ และเลือกเรื่ องที่ จะทําโครงงานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวางแผนการทําโครงงานทุกขั้นตอน โดยปรึ กษากับอาจารย์ ที่ปรึ กษาหรื อผูทรงคุณวุฒิแล้ว จึงเขียนเค้าโครงของโครงงานเพื่อใช้เป็ นกรอบแนวคิดและ ้ แนวทาง ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ในการทําโครงงานคอมพิวเตอร์ระหว่างผูเ้ รี ยน อาจารย์ และ
  • 4. ผูเ้ กี่ยวข้อง นอกจากจะต้องใช้หลักการทางวิชาการแล้ว ยังจําเป็ นต้องมีขอตกลงและเงือนไข ้ ต่างๆ ด้วย เช่น การขออนุญาตใช้หองปฏิบติการคอมพิวเตอร์ การจัดหาลิขสิ ทธิ์ของซอฟต์แวร์ ้ ั เครื่ องมือและตัวแปลภาษาโปรแกรม เป็ นต้น เพื่อช่วยให้การทําโครงงานดําเนินไปอย่าง ราบรื่ น 4. การลงมือทําโครงงาน 5. การเขียนรายงาน 6. การนําเสนอและแสดงโครงงาน คอมพิวเตอร์ กราฟิ กกับการประยุกต์ ใช้ ในงานด้านต่ างๆ 1. คอมพิวเตอร์ กราฟิ กกับการออกแบบ คอมพิวเตอร์กราฟิ กได้ถูกนํามาใช้ในการออกแบบมาเป็ นเวลานาน เราคงจะเคยได้ยนคํา ิ ว่า CAD (Computer - Aided Design) ซึ่งเป็ นโปรแกรมสําหรับช่วยในการออกแบบทาง วิศวกรรม โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้ผออกแบบหรื อวิศวกรออกแบบงานต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ู้ กล่าวคือ ผูออกแบบสามารถเขียนเป็ นแบบลายเส้นแล้วลงสี แสงเงา เพื่อให้ดูคล้ายกับของจริ ง ้ ได้ นอกจากนี้แล้วเมื่อผูออกแบบกําหนดขนาดของวัตถุลงในระบบ CAD แล้ว ผูออกแบบยัง ้ ้ สามารถย่อหรื อขยายภาพนั้น หรื อต้องการหมุนภาพไปในมุมต่างๆ ได้ดวย การแก้ไขแบบก็ทา ้ ํ ได้ง่ายและสะดวกกว่าการออกแบบบนกระดาษ ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์กราฟิ กถูกนํามาใช้ในการ ออกแบบวงจรต่างๆ ผูออกแบบสามารถวาดวงจรบนจอภาพโดยใช้สญลักษณ์ต่างๆ ที่ระบบ ้ ั จัดเตรี ยมไว้ให้แล้วมาประกอบกันเป็ นวงจรที่ตองการ ผูออกแบบสามารถแก้ไข ตัดต่อ เพิ่มเติม ้ ้ วงจรได้โดยสะดวก นอกจากนี้ยงมีโปรแกรมสําหรับออกแบบ PCB (Printed Circuit ั Board) ซึ่งมีความสามารถจัดการให้แผ่นปริ นต์มีขนาดที่จะวางอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เหมาะสมที่สุด การออกแบบพาหนะต่างๆ เช่น รถยนต์ เครื่ องบิน หรื อเครื่ องจักรต่างๆ ในปัจจุบนก็ใช้ ั ระบบ CAD นักออกแบบสามารถจะออกแบบส่วนย่อยๆ แต่ละส่วนก่อน แล้วนํามาประกอบ
  • 5. กันเป็ นส่วนใหญ่ข้ ึนจนเป็ นเครื่ องจักรเครื่ องยนต์ที่ตองการได้ นอกจากนี้ในบางระบบยัง ้ สามารถที่จะทดสอบแบบจําลองที่ออกแบบไว้ได้ดวย เช่น อาจจะออกแบบรถยนต์แล้วนํา ้ โครงสร้างของรถที่ออกแบบนั้นมาจําลองการวิ่ง โดยให้วงที่ความเร็วต่างๆ กันแล้วตรวจดูผลที่ ิ่ ได้ ซึ่งการทดลองแบบนี้สามารถทําได้ในระบบคอมพิวเตอร์และจะประหยัดกว่าการสร้างรถ จริ งๆ แล้วนําออกมาศึกษาทดสอบการวิ่ง การออกแบบโครงสร้าง เช่น ตึก บ้าน สะพาน หรื อโครงสร้างใดๆ ทางวิศวกรรมโยธา และสถาปัตยกรรม ก็สามารถทําได้โดยใช้ CAD ช่วยในการออกแบบ หลังจากสถาปนิก ออกแบบโครงสร้างในแบบ 2 มิติเสร็จแล้ว ระบบ CAD สามารถจัดการให้เป็ นภาพ 3 มิติ และ ยังสามารถแสดงภาพที่มุมมองต่างๆ กันได้ตามที่ผออกแบบต้องการ นอกจากนี้ในบางระบบ ู้ สามารถแสดงภาพให้ปรากฏต่อผูออกแบบราวกับว่าผูออกแบบสามารถเดินเข้าไปภายใน ้ ้ อาคารที่ออกแบบได้ดวย ้ 2. กราฟและแผนภาพ คอมพิวเตอร์กราฟิ กถูกนํามาใช้ในการแสดงภาพกราฟและแผนภาพของข้อมูลได้เป็ น อย่างดี โปรแกรมทางกราฟิ กทัวไปในท้องตลาดจะเป็ นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างภาพกราฟ ่ และแผนภาพ โปรแกรมเหล่านี้ยงสามารถสร้างกราฟได้หลายแบบ เช่น กราฟเส้น กราฟแท่ง ั และกราฟวงกลม นอกจากนี้ยงสามารถแสดงภาพกราฟได้ท้งในรู ปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ทําให้ ั ั ภาพกราฟที่ได้ดูดีและน่าสนใจ กราฟและแผนภาพทางธุรกิจ เช่น กราฟหรื อแผนภาพแสดง การเงิน สถิติ และข้อมูลทางเศรษฐกิจ จะเป็ นประโยชน์ต่อผูบริ หารหรื อผูจดการกิจการมาก ้ ้ั เนื่องจากสามารถทําความเข้าใจกับข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม ในงานวิจยต่างๆ เช่น ั การศึกษาทางฟิ สิ กส์ กราฟและแผนภาพมีส่วนช่วยให้นกวิจยทําความเข้าใจกับข้อมูลได้ง่ายขึ้น ั ั เมื่อข้อมูลที่ตองวิเคราะห์มีจานวนมาก ้ ํ ระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์ หรื อ GIS (Geographical Information System) ก็เป็ นรู ปแบบ หนึ่งของการแสดงข้อมูลในทํานองเดียวกับกราฟและแผนภาพ ข้อมูลทางภูมิศาสตร์จะถูกเก็บ
  • 6. ลงในระบบคอมพิวเตอร์ แล้วให้ระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ กจัดการแสดงข้อมูลเหล่านั้นออกมา ทางจอภาพในรู ปของแผนที่ทางภูมิศาสตร์ 3. ภาพศิลป์ โดยคอมพิวเตอร์ กราฟิ ก การวาดภาพในปัจจุบนนี้ใครๆ ก็สามารถวาดได้แล้วโดยไม่ตองใช้พ่กนกับจานสี แต่จะ ั ้ ู ั ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ กแทน ภาพที่วาดในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ กนี้เราสามารถกําหนดสี แสงเงา รู ปแบบลายเส้นที่ตองการได้โดยง่าย ภาพโฆษณาทางโทรทัศน์หลายชิ้นก็เป็ นงานจาก ้ การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ ก ข้อดีของการใช้คอมพิวเตอร์วาดภาพก็คือ เราสามารถแก้ไขเพิ่มเติม ส่วนที่ตองการได้ง่าย นอกจากนี้เรายังสามารถนําภาพต่างๆ เก็บในระบบคอมพิวเตอร์ได้โดย ้ ใช้เครื่ องสแกนเนอร์ (Scanner) แล้วนําภาพเหล่านั้นมาแก้ไข 4. ภาพเคลือนไหวโดยใช้ คอมพิวเตอร์ ่ ภาพยนตร์การ์ตนและภาพยนต์ประเภทนิยายวิทยาศาสตร์หรื อภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิค ู พิเศษต่างๆ ในปัจจุบนมีการนําคอมพิวเตอร์กราฟิ กเข้ามาช่วยในการออกแบบและสร้าง ั ภาพเคลื่อนไหว (Computer Animation) มากขึ้น เนื่องจากเป็ นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายกว่า วิธีอื่นๆ นอกจากนี้ภาพที่ได้ยงดูสมจริ งมากขึ้น เช่น ภาพยานอวกาศที่ปรากฏในภาพยนตร์ ั ่ ประเภทนิยายวิทยาศาสตร์ เป็ นต้น การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิ กช่วยให้ภาพที่อยูในจินตนาการ ของมนุษย์สามารถนําออกมาทําให้ปรากฏเป็ นจริ งได้ ภาพเคลื่อนไหวมีประโยชน์มากทั้งใน ระบบการศึกษา การอบรม การวิจย และการจําลองการทํางาน เช่น จําลองการขับรถ การขับ ั ็ เครื่ องบิน เป็ นต้น เกมส์คอมพิวเตอร์หรื อวิดีโอเกมส์กใช้หลักการทําภาพเคลื่อนไหนใน คอมพิวเตอร์กราฟิ กเช่นกัน 5. อิเมจโปรเซสซิงก์ คําว่าอิเมจโปรเซสซิงก์ (Image Processing) หมายถึง การแสดงภาพที่เกิดจากการถ่ายรู ป หรื อจากการสแกนภาพให้ปรากฏบนจอภาพคอมพิวเตอร์ วิธีการทางอิเมจโปรเซสซิงก์จะต่าง
  • 7. กับวิธีการของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก กล่าวคือ ในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ ก ตัวคอมพิวเตอร์เอง จะเป็ นตัวที่สร้างภาพ แต่เทคนิกทางอิเมจโปรเซสซิงก์น้ นใช้คอมพิวเตอร์สาหรับการ ั ํ ่ จัดรู ปแบบของสี และแสงเงาที่มีอยูแล้วในภาพให้เป็ นข้อมูลทางดิจิตอล แล้วอาจจะมีวิธีการทํา ให้ภาพที่รับเข้ามานั้นมีความชัดเจนมากขึ้นก่อน จากนั้นก็จดการกับข้อมูลดิจิตอลนี้ให้เป็ นภาพ ั ส่งออกไปที่จอภาพของคอมพิวเตอร์อีกที วิธีการนี้มีประโยชน์ในการแสดงภาพของวัตถุท่ีเรา ไม่สามารถจะเห็นได้โดยตรง เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพจากทีวีสแกนของหุ่นยนต์ อุตสาหกรรม เป็ นต้น เมื่อภาพถ่ายถูกทําให้เป็ นข้อมูลดิจิตอลแล้ว เราก็สามารถจะจัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ภาพนั้นได้โดยจัดการกับข้อมูลดิจิตอลของภาพนันเอง ซึ่งเราก็จะใช้หลักการของคอมพิวเตอร์ ่ ั กราฟิ กมาใช้กบข้อมูลเหล่านี้ได้ เช่น ในภาพสําหรับการโฆษณา เราสามารถทําให้ภาพที่เห็นเห มือภาพถ่ายนั้นแปลกออกไปจากเดิมได้โดยมีภาพบางอย่างเพิ่มเข้าไปหรื อบางส่วนของภาพนั้น หายไป ทําให้เกิดภาพที่ไม่น่าจะเป็ นจริ งแต่ดูเหมือนกับเกิดขึ้นจริ งได้ เป็ นต้น ั เทคนิคของอิเมจโปเซสซิงก์สามารถประยุกต์ใช้กบการแพทย์ได้ เช่น เครื่ องเอกซเรย์ โท โมกราฟี (X-ray Tomography)ซึ่ งใช้สาหรับแสดงภาพตัดขวางของระบบร่ างกายมนุษย์ เป็ นต้น ํ ่ จากที่กล่าวมาแล้ว เราจะเห็นได้วาคอมพิวเตอร์กราฟิ กนั้นนับวันยิงมีความสําคัญในสาขาวิชา ่ ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นจึงเป็ นการดีที่เราควรจะมีความรู้ความเข้าใจในหลักการและทคนิคเบื้อง ต้นต่างๆ ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์กราฟิ ก ที่มา http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/
  • 8. http://www.rayongwit.ac.th/computer/m2fri49/g21m2fri/apply.htm http://www.mc.ac.th/learning/chaiwbi/project/p111.html ตัวอย่ างที่ 2 โครงการ การทบทวนวรรณกรรมและพัฒนาเครื่ องมือประเมินความพิการ กันยายน 2554 พญ.ศิรินาถ ตงศิริ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คํานํา เอกสารฉบับนี้เป็ นรายงานปิ ดโครงการการทบทวนวรรณกรรม และพัฒนาเครื่ องมือเพื่อใช้ใน การประเมินความพิการในชุมชนโดยใช้รหัส ICF ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนการ ดําเนินงานจากสถาบันสร้างเสริ มสุขภาพคนพิการ (สสพ.) ได้เริ่ มดําเนินโครงการมาตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2553 และกําหนดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2554 ดําเนินการโดย อ.ดร.พญ.ศิริ นาถ ตงศิริ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในระหว่างการดําเนินโครงการ ผูวิจยได้เขียนรายงานสรุ ปโครงการที่ได้ดาเนินการเสร็จ ้ ั ํ ั สิ้นในแต่ละขั้นตอนเพื่อรายงานความก้าวหน้าให้กบสสพ. และเมื่อได้ดาเนินโครงการแล้ว ํ เสร็จทั้งหมด ผูวิจยได้เขียนรายงานฉบับเต็มนี้ข้ ึนและได้มีการปรับปรุ งเนื้อหาบางส่วนให้มี ้ ั ่ ความถูกต้อง และปรับเนื้อความให้กระชับมากยิงขึ้น ดังนั้น เนื้อหาบางอย่างที่อยูในรายงาน ่ ฉบับนี้อาจมีความแตกต่างกับรายงานย่อยที่ได้ส่งไปก่อนหน้านี้ ความรู้ที่ผวิจยได้รับมากที่สุดในการดําเนินโครงการนี้ คือ การนํารหัส ICF ไปใช้ในการ ู้ ั เก็บข้อมูลคนพิการ ผูวจยได้รู้จกรหัส ICF ตั้งแต่ประมาณ 5-6 ปี ที่แล้ว แต่ยงไม่มีโอกาสได้ ้ิั ั ั
  • 9. เรี ยนรู้ ทําความเข้าใจ และได้ทดลองนําไปใช้งานจนกระทังได้มาทํางานวิจยนี้ ผูวิจยเห็นว่า ่ ั ้ ั การใช้รหัส ICF นี้มีประโยชน์อย่างยิงในการปรับมุมมองการทํางานกับคนพิการให้ครอบคลุม ่ ่ ทุกมิติ ใช้ในการสื่ อสารกับผูให้บริ การที่ไม่ได้อยูในสายงานอาชีพเดียวกันให้สามารถทํางาน ้ ไปด้วยกันได้ ประโยชน์สูงสุดที่เกิดขึ้น คือ คุณภาพชีวิตของคนพิการที่ควรจะได้รับการ ่ พัฒนาให้ดียงขึ้นจากการมีมุมมองรอบด้านและการสื่ อสารที่เป็ นไปอย่างดีอยูบนพื้นฐานของ ิ่ การเข้าใจและพูดถึงสิ่ งเดียวกันของผูปฏิบติงาน ้ ั หวังเป็ นอย่างยิงว่า ผูที่ได้นารหัส ICF ไปใช้ในงานของตน จะได้รับความรู้สึกอย่างนี้ และ ่ ้ ํ นําไปพัฒนาคุณภาพชีวตคนพิการอย่างได้ผลดีและมีประสิ ทธิภาพต่อไป.. ิ ที่มา http://www.healthyability.com/detail_new.php?content_id=804 ตัวอย่ างที่ 3 โครงการ เครื่ องมือวัดสเปกตรัมแสงสําหรับนาโนพลาสโมนิกส์และการ ประยุกต์ใช้งานทางชีวภาพ โครงการวิจยนี้ ตัวอย่ างเครื่องมือที่ต้องการสร้ างขึนประกอบด้ วย ั ้ อุปกรณ์สาหรับวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสงสําหรับโครง สร้างระดับนาโนของโลหะ ํ ั สําหรับใช้กบกล้องจุลทรรศน์เชิงแสงทัวไป ่ ชุดทดลองสําหรับวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสง (Scattering spectrum) หรื อการลดทอน แสง (Extinction spectrum) สําหรับสารตัวอย่างที่เป็ นสารละลายและมีปริ มาณน้อย เช่น มี ปริ มาตร 10 - 100 ไมโครลิตร เป็ นต้น
  • 10. อุปกรณ์และชุดทดลองเชิงแสงดังกล่าว จะช่วยให้นกวิจยในประเทศสามารถตรวจวัด ั ั คุณสมบัติเชิงแสงของโครงสร้างระดับ นาโนได้แม่นยํามากขึ้น โดยไม่ตองจัดหาเครื่ องมือ ้ วิเคราะห์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ เครื่ องมืออีกชนิดหนึ่งที่มีความสําคัญในการศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงของโครง สร้าง ระดับนาโนคือ ซอฟต์แวร์สาหรับการจําลองเชิงตัวเลขโดยใช้เทคนิค Finite-different time- ํ domain (FDTD) ซอฟต์แวร์ดงกล่าวนิยมใช้ในการคํานวณหาสเปกตรัมแสงของอนุภาคและ ั สนามไฟฟ้ ารอบๆ อนุภาค ผลการคํานวณสามารถนํามาอธิบายผลการทดลองได้ เพื่อให้เข้าใจ หลักการทํางานของอนุภาคได้ชดเจนมากขึ้น ซอฟต์แวร์ FDTD มีใช้งานโดยทัวไป แต่การใช้ ั ่ งานกับโครงสร้างระดับนาโนของโลหะนั้นต้องใช้ความรู้ความชํานาญเฉพาะ ด้าน การพัฒนา บุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้ข้ ึนในเนคเทค จะสามารถช่วยสนับสนุนการวิจยและ ั พัฒนาในสาขานี้ได้ เพื่อแสดงความเป็ นไปได้ของการประยุกต์ใช้โครงสร้างระดับนาโนของโลหะกับการ พัฒนาเป็ นไบโอเซนเซอร์ขนาดเล็ก ทีมวิจยจะเลือกตัวอย่างโครงสร้างนาโนที่ได้รับการ ั ศึกษาวิจยไประดับหนึ่ง เช่น อนุภาคนาโนของทองหรื ออนุภาคนาโนคู่ของทอง (Gold ั ั nanoparticle dimers) ซึ่งเป็ นโครงสร้างที่มีอนุภาคนาโน 2 อนุภาค ถูกจับยึดเข้าใกล้กนด้วยสาย ั ดีเอ็นเอเป้ าหมาย ดังรู ปที่ 4 (ดร.สุกญญา แซ่เอี๋ยว, BIOTEC) โครงสร้างดังกล่าวถูกนําไปใช้ เป็ นดีเอ็นเอเซนเซอร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงโดยละเอียด โดยเฉพาะระดับอนุภาค ซึ่งทีมวิจยจะนําโครงสร้างนาโนดังกล่าวมาทดลองวัดคุณสมบัติเชิง ั แสงเพิ่มเติม ด้วยอุปกรณ์และชุดทดลองที่สร้างขึ้น และเปรี ยบเทียบกับผลการจําลองด้วย ซอฟต์แวร์ FDTD ทีมวิจยคาดหมายว่าจากผลการทดลองและการคํานวณที่ได้ จะทําให้สามารถ ั พัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาไบโอเซนเซอร์ดงกล่าวให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น ั สามารถตรวจวัดได้ที่ความเข้มข้นของดีเอ็นเอเป้ าหมายได้ต่าลงกว่าเดิม ํ ครุ ภณฑ์หลักที่สาคัญในการสร้างอุปกรณ์และชุดทดลองดังกล่าว เช่น กล้องจุลทรรศน์เชิงแสง ั ํ กล้องซีซีดีสาหรับแสงความเข้มตํ่า ซอฟต์แวร์ FDTD สเปกโตรมิเตอร์ เป็ นต้น ห้องปฏิบติการ ํ ั
  • 11. วิจยเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ได้จดหาไว้แล้วผ่านการจัดสรร ครุ ภณฑ์ประจําปี (Capacity ั ั ั ่ building) และบางส่วนอยูในระหว่างการจัดหาเพิ่มเติม อนึ่ง โครงสร้างระดับนาโนของโลหะ (Metallic nanostructures) มีปรากฎการณ์เชิงแสง ที่แตกต่างจากโครงสร้างโลหะทัวไปอย่างมาก เมื่อมองด้วยตาเปล่าเราจะพบว่าโครงสร้าง ่ ระดับนาโนของโลหะจะมีสีต่างๆ ขึ้นอยูกบขนาด ชนิดโลหะ และสภาพแวดล้อม ่ ั ปรากฏการณ์ดงกล่าวสามารถอธิบายได้โดยใช้ทฤษฎีการกระเจิงแสงสําหรับโครงสร้าง ระดับ ั นาโน และการเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าเนื่องจากการสันของอิเล็กตรอนอิสระที่ผวโลหะ คลื่น ่ ิ แม่เหล็กไฟฟ้ าดังกล่าวเป็ นคลื่นผิวและสามารถเคลื่อนที่ได้ตามแนวพื้น ผิวเป็ นระยะทางสั้นๆ นิยมเรี ยกคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าดังกล่าวว่า Surface plasmon polaritons (SPP) หรื อเรี ยกสั้นๆ ว่า พลาสโมนิกส์หรื อนาโนพลาสโมนิกส์ (Plasmonics/Nanoplasmonics) ปรากฏการณ์น้ ีได้รับ ความสนใจอย่างมากจากนักวิจยทัวโลก เพราะสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ั ่ โดยเฉพาะในสาขาชีวภาพ เช่น การตรวจวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง ไบโอเซนเซอร์ที่มี ขนาดเล็ก การศึกษากลไกการทํางานของเซลล์สิ่งมีชีวิต เป็ นต้น ปัจจุบนนี้โครงสร้างระดับนา ั โนของโลหะกลายเป็ นวัสดุที่สาคัญสําหรับการ ประยุกต์ใช้ในทางชีวภาพหรื อในสาขาไบโอ ํ นาโนเทคโนโลยี (Nanobiotechnology) วัตถุ ประสงค์ของโครงการ 1. สร้างชุดลองวัดสเปกตรัมการกระเจิงแสงและสเปกตรัมการลดทอนของแสงสําหรับ อนุภาค นาโนหรื อโครงสร้างระดับนาโนของโลหะ สําหรับใช้ในการวิจยและพัฒนา ั 2. ศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงโครงสร้างระดับนาโนของโลหะ เช่น อนุภาคนาโนเดี่ยวหรื อ อนุภาคนาโนคู่ของทอง (Gold nanoparticle dimers) โดยใช้การศึกษาทางทฤษฎีและโปรแกรม Finite difference time domain (FDTD) และการทดลองโดยใช้ชุดทดลองที่สร้างขึ้น 3. ศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้อนุภาคนาโนของทองเป็ นไบโอเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็ก บทคัดย่ อ
  • 12. อนุภาค นาโนของทองขนาด 10 - 100 nm มีสเปกตรัมการกระเจิงแสงในช่วง 530 - 600 nm โดยเมื่อขนาดใหญ่ข้ ึนสเปกตรัมการกระเจิงแสงจะเลื่อนไปทางขวา คุณสมบัติเชิงแสง ดังกล่าว ทําให้เมื่อสังเกตุอนุภาคนาโนของทองด้วยกล้องจุลทรรศน์ในโหมดดาร์คฟิ ลด์ (Dark- field microscopy) จะพบว่าอนุภาคขนาด 40 nm จะมีสีเขียวและอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ข้ ึนจะมีสี เขียว-เหลืองหรื อค่อนข้างแดง ดังรู ปที่ 1 ปรากฏการณ์ดงกล่าวได้ถูกประยุกต์ใช้เป็ นหลักการ ั วัดไบโอเซนเซอร์ที่มีขนาด เล็กและราคาถูก เช่น เมื่อเติมสารตัวอย่างที่มีโมเลกุลสารชีวภาพที่ ต้องการวัดปนอยู่ ลงไปในสารละลายที่มีอนุภาคนาโนของทองซึ่งติดผิวด้วยสารชีวภาพ สําหรับตรวจจับ (Ligands) จะทําให้อนุภาคนาโนของทองเกิดการจับกลุ่มกัน (Aggregation) ทําให้สเปกตรัมการกระเจิงเลื่อนไปทางขวา ซึ่งสังเกตการเปลี่ยนสี ได้ดวยตาเปล่า ดังรู ปที่ 2 ้ และรู ปที่ 3 หรื อสามารถตรวจวัดด้วยเครื่ องมือเชิงแสงที่มีราคาถูก เหมาะสําหรับการใช้งาน แบบภาคสนามและการใช้งานแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable) นอกจากอนุภาคนาโนของทองแล้ว โครงสร้างระดับนาโนของโลหะรู ปแบบอื่นๆ ยัง ได้รับความสนใจอย่างมากนํามาประยุกต์ใช้เป็ นวัสดุตรวจวัดสําหรับไบโอเซน เซอร์ โดยมี เป้ าหมายการใช้งานที่คล้ายคลึงกันคือ การพัฒนาเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กเหมาะสําหรับการใช้ งานภาคสนาม ตัวอย่างโครงสร้างระดับนาโนที่มีการรายงานไว้ เช่น นาโนโฮลและนาโนโฮล อาร์เรย์ นาโนปิ ระมิด นาโนรอด สายอากาศนาโน เป็ นต้น ซึ่งเทคนิคการตรวจวัดคุณสมบัติ โครงสร้างนาโนเหล่านิ้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้การวัดการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเชิงแสงของ อนุภาคมากกว่าการ ตรวจวัดคุณสมบัติดานอื่นๆ เนื่องจากทําได้ง่ายกว่า ้ ระยะ เวลาดาเนินโครงการ : 1 พฤษภาคม พ.ศ.2554 ถึง 30 เมษายน พ.ศ.2555 คณะผู้ วิจยั หัวหน้าโครงการ : นายบุญส่ง สุตะพันธ์ ผูร่วมวิจย : นายสถาพร จันทน์หอม, นายอาโมทย์ สมบูรณ์แก้ว, นายรัฐศาสตร์ อัมฤทธิ์ ้ ั
  • 13. ที่มา http://www.nectec.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=2314:r54- &catid=340:2011-07-02-05-49-13&Itemid=1066 ตัวอย่างที่ 4 โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์"(GameDevelopment)โครงงานพัฒนา โปรแกรมประยุกต์หรื อโครงงานพัฒนาเกมโครงงานประเภทนีเป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์ เกมเพือความรู้หรื อเพือความเพลิดเพลินเกมทีพฒนาควรจะเป็ นเกมทีไม่รุนแรงเน้นการใช้ ั สมองเพือฝึ กคิดอย่างมีหลักการโครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การ เล่นเพือให้น่าสนใจแก่ผเู้ ล่นพร้อมทังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วยผูพฒนาควรจะได้ทาการ ้ ั ํ ่ ั สํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียวกับเกมต่างๆทีมีอยูทวไปและนํามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึนใหม่ เพือให้เป็ นเกมทีแปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผเู้ ล่นกลุ่มต่างๆตัวอย่างโครงงานประเภทพัฒนา โปรแกรมประยุกต์1.เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี 2.เกมอักษรเขาวงกต3.เกมเลือกตัง สมาชิกสภาผูแทนราษฎร4.เกมผจญภัยกับภาษาอังกฤษ5.เกมหมากฮอส6.เกมบวกลบเลขแสน ้ สนุก7.เกมศึกรามเกียรติC8.เกมมวยไทย9.เกมอักษรไขว้ โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่ องสร้างเกมคณิ ตคิดเร็วออนไลน์ ่ โดย 1.เด็กชายธันธวัช เอียมสะอาด 2.เด็กชายเสนา สุภาวะหา 3.เด็กชายสิ ทธิกร สังข์อยูสุข ครู ที่ปรึ กษา นายณรงค์ ศักดิ์เจริ ญสิ ทธิชย ั บทคัดย่ อ โครงงานสร้างเกมคณิตคิดเร็วออนไลน์เป็ นโครงงานทีประยุกต์เอาซอฟแวร์ประเภท ต่างๆมาใช้งานร่ วมกันเพือให้ได้โปรแกรมทีใช้งานได้ตามจุดมุ่งหมายตามทีตงจุดประสงค์ไว้ ั ได้แก่โปรแกรมออเธอร์แวร์โปรแกรมเฟรชแชตโปรแกรมแอปเซฟเวอร์โปรแกรมดรี มเว็บ เวอร์และภาษาพีเฮชพีซึงโปรแกรมแบ่งออกเป็ น3ส่วนใหญ่ดงต่อไปนี1.เซฟเวอร์ทีทาหน้าที ั ํ
  • 14. รับส่งข้อมูลระหว่างผูใช้ใช้โปรแกรมแอปเซฟเวอร์เป็ นเซฟเวอร์และใช้ภาษาพีเฮชพีเขียนด้วย ้ โปรแกรมดรี มเว็บเวอร์ใช้ในการรับส่งข้อมูลผูเ้ ล่น2.โปรแกรมติดต่อสื อสารระหว่างผูใช้งาน ้ โปรแกรมได้แก่โปรแกรมเฟรชแชต3.โปรแกรมออเธอร์แวร์ใช้ในการเขียนโปรแกรมเพือ ผสมผสานการทํางานของโปรแกรมข้างต้นเพือให้ใช้งานได้ตามจุดประสงค์ผลการทําสร้าง โปรแกรมปรากฏว่าสามารถสร้างโปรแกรมเกมคณิ ตคิดเร็วออนไลน์ทีสามารถเล่นผ่านระบบ เครื อข่ายตามจุดมุ่งหมายทีตงไว้ ั ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.gistda.or.th ตัวอย่ างที่ 5 โครงงานพัฒนาเครื องมือ(ToolsDevelopment)เป็ นโครงงานเพือพัฒนาเรื องมือมาใช้ ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆซึงโดยส่วนใหญ่จะเป็ นในรู ปซอฟต์แวร์ตวอย่างของเครื องมือ ั ช่วยงานเช่นซอฟต์แวร์วาดรู ปซอฟต์แวร์พิมพ์งานซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆเป็ น ต้นสําหรับซอฟต์แวร์เพือการพิมพ์งานนั-นสร้างขึ-นเป็ นโปรแกรมประมวลผลภาษาซึงจะเป็ น เครื องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่างๆบนเครื องคอมพิวเตอร์เป็ นไปได้โดยง่ายซึงรู ปทีได้ สามารถนําไปใช้งานต่างๆได้มากมายสําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่างๆใช้ สําหรับช่วยในการออกแบบสิ งของต่างๆตัวอย่างเช่น1.โปรแกรมการค้นหาคําภาษาไทย2.
  • 15. โปรแกรมอ่านอักษรไทย3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ4.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล5.โปรแกรม ประมวลผลคําไทยบนระบบปฏิบติการลีนุกซ์ั ตัวอย่างโครงงานชื่อโครงงานระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลือนทีเพือการดําเนินธุรกิจ ชื่อผูทาโครงงานนาย ฑีฆวัฒน์ เทพานวล, นาย ปวีณวัช สุรินทร์, นาย ปิ ยะพงษ์ บุญมี ชื่อ ้ ํ อาจารย์ทีปรึ กษาผศ.ดร.สุ ขมาลกิติสินสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ระดับชั8 ุ นปริ ญญาตรี หมวดวิชาคอมพิวเตอร์วน/เดือน/ปี ทําโครงงาน1/1/2549บทคัดย่อโครงการนี-มี ั วัตถุประสงค์เพือนําเทคนิคการสร้างบาร์โค้ดบนจอภาพโทรศัพท์เคลือนทีมาใช้ในการพัฒนา ระบบทีประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีและเว็บเซอร์วิสเพือรองรับการ ทํางานดังนี-คือการขอรับใบแจ้งค่าบริ การการขอทําบัตรสมาชิกการจองและการซื-อตัCวต่างๆ จากเว็บเซอร์วิสผูให้บริ การคือหน่วยงานของรัฐและเอกชนทีมีการใช้ใบแจ้งค่าบริ การหรื อบัตร ้ สมาชิกผูให้บริ การในระบบธุรกิจทีมีการใช้ตCวตามลําดับผ่านโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์ ้ ั เคลือนทีเพือใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีแทนใบแจ้งค่าบริ การบัตรสมาชิกตัC วต่างๆและใช้ในการยืนยันการออกตัCวจริ งจากจองตัCวต่างๆโดยระบบมีการทํางานดังนี-คือ เว็บเซอร์วิสของระบบจะทําหน้าทีรวบรวมบริ การและเป็ นตัวกลางในการเชือมต่อประสานการ ทํางานเพือส่งผ่านข้อมูลใบแจ้งค่าบริ การข้อมูลบัตรสมาชิกข้อมูลหมายเลขเฉพาะหรื อข้อมูล หมายการจองของตัCวต่างๆระหว่างเว็บเซอร์วิสผูให้บริ การกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์ ้ เคลือนทีโดยลักษณะข้อมูลทีใช้ในการแลกเปลียนเป็ นรู ปแบบเอกสารXMLซึงโปรแกรม ประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีของระบบสามารถนําข้อมูลหมายเลขบาร์โค้ดบนใบแจ้ง ค่าบริ การหมายเลขบาร์โค้ดบนบัตรสมาชิกและหมายเลขเฉพาะหรื อหมายเลขการจองของตัC วต่างๆทั-งจากการเชือมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบการรับข้อความSMSจากผูให้บริ การและ ้ การพิมพ์ขอมูลโดยตรงมาทําการสร้างเป็ นบาร์โค้ดบนจอภาพโทรศัพท์เคลือนทีเพือรองรับการ ้ อ่านจากเครื องอ่านบาร์โค้ดในการใช้งานต่อไปโดยระบบทีพฒนาขึ้นจะเป็ นนวัตกรรม ั ใหม่ซึงช่วยอํานวยความสะดวกและช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการดําเนินธุรกิจโดยทํา ให้ผใช้ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลือนทีของระบบสามารถลดภาระการ ู้ เก็บดูแลรักษาบัตรสมาชิกใบแจ้งค่าบริ การและตัCวต่างๆเพิมความสะดวกรวดเร็วในการยืนยัน
  • 16. ออกตัCวจริ งจากการจองตัCวต่างๆด้านผูให้บริ การต่างๆสามารถลดการใช้ตนทุนและ ้ ้ ทรัพยากรธรรมชาติจากการผลิตบัตรสมาชิกใบแจ้งค่าบริ การและตัCวต่างๆเช่นพลาสติก กระดาษหมึกพิมพ์เป็ นต้นโครงการนี-ได้มีการสร้างส่วนจําลองเพือใช้ในการทดสอบระบบ สองส่วนส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สาขาของผูให้บริ การส่วนทีสอง ้ คือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริ ษทตัวแทนรับชําระเงิน ั ทีมา: http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7http://namkwanmay.wordpress.com /2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0 %B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8 %A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD %E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/https://sites.google.com/site/luks aduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-khxmphiwtexr