Más contenido relacionado
La actualidad más candente (7)
What buddhist should know 2
- 9. หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล
“ ถ้าเราโกรธใคร เกลียดใคร มันก็อยู่ที่ใจ
แต่ถ้าใจเราไม่เกลียด ใจเราไม่โกรธ เราก็ไม่มีความทุกข์
เกลียดก็ทุกข์ โกรธก็ทุกข์ แล้วเราจะเกลียด จะโกรธไปให้เราเป็นทุกข์ทาไม
คนที่เราเกลียด คนที่เราโกรธ เขาไม่ทุกข์ไปกับเราหรอก
เราทาให้เราทุกข์เองทั้งสิ้น แต่ถ้าเราปล่อยวาง ไม่สนใจเขา
ไม่รับรู้เรื่องเขา ใจเราก็ไม่หมกหมุ่นกับเรื่องของเขาอีก
เราก็ไม่ทุกข์ เพราะใจมันสงบ”
- 12. หลวงพ่อพุธตอบ : อันนี้ต้องทาความเข้าใจ กรรมที่เราทาโดยมีคู่กรณี
เช่น ชกต่อยตีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันในเมื่อทาลงไปแล้วต่างคนต่าง
เจ็บแค้นใจ มันผูกกรรมจองเวรกัน คือคอยที่จะล้างผลาญกัน แก้แค้น
กันอยู่เสมอ ทีนี้ในเมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ต่างคนต่างก็ยกโทษ
ให้กัน อโหสิกรรมให้กัน การผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรมันก็หมดไป
เพราะเราไม่คิดที่จะทาร้ายกันต่อไปอีก แต่บาปกรรมที่ไปตีหัวเขานั้น
มันอโหสิไม่ได้ เพราะมันเป็นกฎแห่งธรรมชาติ เราไปด่าเขามันก็เป็น
บาป มันผิดศีลข้อมุสาวาท ตีเขาฆ่าเขามันก็เป็นฉายาแห่งปาณาติบาต
ถึงเขาไม่ตายก็ตาม ถ้าเขาตายก็เป็นปาณาติบาต แม้ว่าผู้ที่ถูกทาร้าย
จะอโหสิกรรมให้คือไม่จองเวรกันต่อไป กรรมที่ผู้นั้นกระทาลงไปแล้ว
ย่อมแก้ไม่ตก นี่ต้องเข้าใจกันอย่างนี้
คาถาม : การอโหสิกรรม เมื่อเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
ให้แล้ว ผู้นั้นยังจะต้องรับกรรมอีกหรือไม่?
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
- 14. ครัมีฝรั่งท่านหนึ่งถามหลวงพ่อชาว่า
“ พระอาจารย์ ในศาสนาพุทธ สอนอะไร ?
แทนการตอบคาถาม หลวงพ่อชาชี้ไปที่หินก้อนเขื่อง
แล้วพูดว่า “ ยกก้อนหินนั้นขึ้นมาซิโยม”
ฝรั่งนั้นทาตามอย่างว่าง่าย หลวงพ่อชาถามต่อไปว่า
“หนักไหม” ฝรั่งตอบว่า “ หนักครับ”
หลวงพ่อชาจึงไขปริศนาธรรมของท่านว่า
“อะไรมันหนักก็วางลงเถิด สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีเพียงเท่านี้”
หลวงพ่อชา สุภัทโท