Más contenido relacionado
Similar a ความหมายของดวงดาว.1 (20)
ความหมายของดวงดาว.1
- 3. ความหมายของโหราศาสตร์
• โหราศาสตร์เป็นวิชาพยากรณ์ ที่เนื่องมาจากอานาจของดวงดาวนพเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรอยู่
รอบจักรราศี เป็นวิชาที่มีหลักฐานและเหตุผล เป็นวิทยาการที่นับว่าทันสมัยอยู่ตลอดไป
• และเป็นวิชาที่คงทนถาวรตลอดกาลคู่ไปกับโลก เพราะเป็นเรื่องราวของวิชาที่เกี่ยวกับดวงดาว
และโลกมนุษย์ กล่าวถึงอานาจของดาวที่มีต่อสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก เป็นวิชาการทางนามและ
รูปแสดงกาลเวลาความส่องสว่าง ความรุ่งโรจน์ ความร้อน ความดึงดูด และพลังงานที่มีต่อ
พฤติกรรมของคนเราด้วย
• วิชาโหราศาสตร์ จึงเป็นวิชาที่เกี่ยวกับศาสตร์อันลึกซึ่ง เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งและอาจนับเนื่องอยู่
ในไสยศาสตร์ เป็นวิชาที่ลึกลับอยู่คู่กับดาราศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาคานวณ วิถีโคจรและขนาด
น้าหนัก ระยะ ฯลฯ ของดวงดาวในนภากาศ วิชานี้มีมาแต่โบราณสมัย
- 4. ดวงอาทิตย์
พระอาทิตย์ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวรผู้เป็นเจ้าร่ายพระเวทย์ให้ราชสีห์ ๖ ตัว ป่นเป็น
ธุลีแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงและพรมด้วยน้าอามฤตแล้วเกิดเป็นเทพ มีสีกายสีแดงวิมานสีแดง
ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ
ลักษณะทั่วไป- ดาวอาทิตย์เป็นดาวธาตุไฟ (ไฟลุกโชน เพราะเป็นดาวเกษตร(เจ้าเรือน) ราศีสิงห์
ราศีธาตุไฟ ซึ่งในบรรดาดาวทั้งหมดมีดาวอาทิตย์ กับ ราหู เท่านั้นที่เป็นเจ้าเรือน ราศีธาตุที่ตรงกับ
ธาตุตนเอง) ที่มีไฟลุกโชติช่วง มีแสง พลังงานในตัวเอง เป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล
เป็นดาวที่ให้แสงสว่างแก่ดาวเคราะห์ ดวงอื่น
ความหมายทั่วไป- จุดเจ้าชะตาชาย ร่างกาย สามี บิดา อานาจ ยศศักดิ์ ชื่อเสียง สูงศักดิ์ ผู้นา รัก
ศักดิ์ศรี มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ความเย่อหยิ่ง ทิฐิ หรูหราโอ่อ่า รักความยุติธรรม จริงจัง ใจร้อน
วู่วาม ไฟ ความร้อน ไฟฟ้า แสงสว่าง อุปกรณ์ไฟฟ้า
- 5. ดวงจันทร์
พระจันทร์ - ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวรผู้เป็นเจ้า ร่ายพระเวทย์ให้นางฟ้า ๑๕ องค์ เป็นธุลี
แล้วห่อด้วยผ้าสี นวล ประพรมด้วยน้าอามฤต บังเกิดเทพ ผิวกายสีนวล วิมานแก้วสีมุกดา ทรงม้า
เป็นพาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- ดาวจันทร์ เป็นบริวารของโลก เป็นดาวธาตุดิน (ดินชุ่มน้า เพราะดาวจันทร์เป็น
ดาวเกษตร แม่ธาตุน้า ราศีกรกฏ) ดาวจันทร์เป็นดาวที่คู่กับ ดาวอาทิตย์ อย่างสนิทแนบแน่น แต่
ก็เป็นไปในลักษณะคู่ขนานกันไป คือ พระราชา-พระราชินี ขวา-ซ้าย ภาคกลางวัน-ภาค
กลางคืน ดาวจันทร์โคจรรอบโลก ตามหลักจันทรคติ ประมาณ ๒๙ วันเศษ (๒๙ วัน ๑๒ ชม.
๔๔ นาที) จึงทาให้ไม่ตรงกับหลักสุริยะคติ และเมื่อวันที่คลาดเคลื่อนสะสมกันได้ ประมาณ ๒๙
วัน ก็จะทาให้ในปีนั้น มีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน
• ความหมายทั่วไป- ดาวจันทร์ ๒ สตรี จุดเจ้าชะตาหญิง ภรรยา มารดา ประชาชนคนทั่วไป
ครอบครัว หลักฐาน ฐานะ จิตใจ อารมณ์ จินตนาการ ช่างฝัน นัยน์ตา(ตาซ้าย) การเดินทาง
ขนส่ง น้า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้าใจ สุภาพอ่อนหวาน รักครอบครัว สิ่งที่ทาเป็นกิจวัตรประจาวัน
- 6. ดาวพุทธ
• พระพุธ - ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวร ร่ายพระเวทให้คชสาร ๑๗ เชือกป่นเป็นธุลี ห่อด้วย
ผ้าสีเขียวมรกต ประพรม น้าอามฤต บังเกิดเป็นเทพ สีกายเป็นสีแก้วมรกต ทรงช้างเป็นพาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- ดาวพุธ เป็นดาวดวงเล็กที่สุด ในระบบสุริยะจักรวาล และอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
มากที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ ดาวพุธจะอยู่ห่างจาก ดาวอาทิตย์ได้ไม่เกิน ๒๘ องศา ถ้าดาว
พุธอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ ตั้งแต่ ๒๗ –๒๘ องศา เรียกว่า “เพ็ญพุธ” ดาวพุธจะให้คุณในดวง
ชะตาอย่างเต็มที่ ดาวพุธเป็นดาวธาตุน้า (น้าทะเล ,น้าบ่อ เพราะดาวพุธได้ตาแหน่งเข้มแข็งใน
ราศีกันย์ ธาตุดิน เป็นทั้งเกษตรและอุจ ) ดาวพุธมีลักษณะการโคจรที่ปวนแปร รวนเร มักจะเดิน
วิกลคติ อยู่บ่อยๆ
• ความหมายทั่วไป- อ่อนวัย สิ่งใหม่ การติดต่อสื่อสาร ความคิด การวางแผน การเจรจา การ
ติดต่อสื่อสาร คาพูด ช่างพูด งานเขียน เอกสาร ตัวแทน นายหน้า เพื่อน ข้อมูลข่าวสาร ไหว
พริบปฏิภาณ เปลี่ยนใจง่าย รวนเร ปรับตัวเข้ากับคนอื่น หรือสภาพแวดล้อมได้ดี
- 7. ดาวศุกร์
• พระศุกร์ -ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวร ร่ายพระเวทให้โค ๒๑ ตัว ป่น เป็นธุลี ห่อด้วยผ้าสี
ประภัสสรประพรมน้าอามฤต บังเกิดเป็นเทพ มีกายเป็นสีประภัสสร มี วิมานสีทอง ทรงโคอุสุภ
ราชเป็นพาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- เป็นดาวธาตุน้า(น้าฝน น้าที่เคลื่อนไหวได้ เพราะดาวศุกร์เป็นเกษตร ในราศีตุลย์
ธาตุลม ) ดาวศุกร์มองเห็นได้เฉพาะในเวลาเช้ามืดหรือหัวค่าเท่านั้น ขณะปรากฏในท้องฟ้าเวลา
หัวค่าทางทิศตะวันตก เรียกว่า "ดาวประจาเมือง" และเมื่อปรากฏในท้องฟ้าเวลาเช้ามืดทางทิศ
ตะวันออก เรียกว่า "ดาวประกายพรึก" หรือ "ดาวรุ่ง" ดาวศุกร์จะมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ได้ไม่
เกิน ๔๘ องศา(ตามหลักดาราศาสตร์อยู่ห่างไม่เกิน ๔๗ องศา ๘ ลิปดา) ถ้าหากดาวศุกร์อยู่ห่าง
จากดวงอาทิตย์ไป ตั้งแต่ ๔๕- ๔๘ องศา เรียกว่า “เพ็ญศุกร์” จะให้คุณแก่ดวงชะตามาก ใน
ด้านความร่ารวย ความสุขสมหวัง ความรัก
• ความหมายทั่วไป- ผู้หญิง ภรรยา ความรัก ความหวัง ความสุข ความสวยงาม ศิลปะ บันเทิง
รื่นรมย์ ดนตรี เพศสัมพันธ์ กิเลส การเงิน เงินสด สิ่งหอมหวาน สิ่งฟุ่มเฟือย
- 8. ดาวอังคาร
• พระอังคาร - ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวรร่ายพระเวทย์ ให้กระบือ ๘ ตัวเป็นธุลี ห่อด้วยผ้า
สีแก้ว เพทาย ประพรม ด้วยน้าอามฤต บังเกิดเป็นเทพ สีกายเป็นสีแก้วเพทาย อาภรณ์คือ แก้ว
โกเมน วิมานสีทับทิม ทรงมหิงสาเป็นพาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- มีขนาดใกล้เคียงกับโลก เป็นดาวธาตุลม(ลมกรด เพราะดาวอังคาร เป็นเกษตร
เจ้าเรือนราศีเมษ ธาตุไฟ ซึ่งเด่นกว่า ที่ราศีพิจิก ธาตุน้า) ดาวอังคารมีสีแดง โหราศาสตร์ถือว่า
พระอังคารเป็นเทพแห่งสงคราม
• ความหมายทั่วไป- ผู้ชาย วัยฉกรรจ์ สามี การกระทา การงาน ความขยัน กล้าแข็ง กล้าหาญ เอา
จริงเอาจัง กระตือรือร้น ภาระ ความรุนแรง แตกหัก ความขัดแย้ง การต่อสู้ แข่งขัน อุบัติเหตุ
กะทันหัน ทาลาย ของแหลมคม โลหะ อาวุธ เครื่องจักรกล
- 9. ดาวพฤหัส
• พระพฤหัส – ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวร ร่ายพระเวทให้ฤาษี ๑๙ ตน เป็นธุลี แล้วห่อ
ด้วยผ้าสีแก้วไพฑูรย์ ประพรมน้าอามฤต บังเกิดเป็นเทพ มีสีกาย แก้วไพฑูรย์ มีวิมานบุษราคัม
ทรงกวางทองเป็น พาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ ดวงใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ทาง
โหราศาสตร์ ถือว่าเป็นประธานของฝ่ายศุภเคราะห์ ดาวพฤหัสบดีเป็น ดาวธาตุดิน (ดินแข็ง
เพราะดาวพฤหัสบดี เป็นเกษตร ราศีธนู ธาตุไฟ เรือนศุภะของโลก)
• อัตราการโคจร ราศีละ ประมาณ ๑ ปี
• ความหมายทั่วไป- คุณธรรมความดี ใฝ่ในบุญกุศล โชคลาภ ความสาเร็จ การเจริญเติบโต การ
เกิด การปกป้องคุ้มครอง การช่วยเหลือ กฎหมาย ระเบียบแบบแผน หลักการ ประเพณี การ
พิพากษา ตัดสินความต่างๆ ครูอาจารย์ พระ นักบวช ผู้ทรงศีล ความมีสติ การอดทนอดกลั้น
ยับยั้งชั่งใจ ศาสนา วิชาการ ความรู้ ต่างประเทศ
- 10. ดาวเสาร์
• พระเสาร์ - ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวร ร่ายพระเวทให้พยัคฆ์ ๑๐ ตัว ป่นเป็นธุลี ห่อด้วย
ผ้าสีดา ประพรมน้าอามฤต บังเกิด เป็นเทพ มีสีกายเป็นสีดา วิมานสีมรกต ทรงเสือเป็นพาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- เป็นดาวขนาดใหญ่รองจากดาวพฤหัสบดี เป็นประธานของดาว บาปเคราะห์
เป็นดาวธาตุไฟ (ไฟสุมขอน เพราะดาวเสาร์เป็นเกษตร ราศีมังกร ธาตุดิน)
• ความหมายทั่วไป- เป็นดาวที่ให้คุณให้โทษช้า ๆ แต่หนักแน่นมั่นคง สะสมใน ระยะยาว ในทาง
ลบ เป็นดาวที่ให้ความทุกข์ แต่ในทางบวกก็ให้ความทรหด อดทนต่อสภาพที่เลวร้ายได้ดี มี
ธรรมชาติเป็นไฟสุมขอน คุกรุ่นแล้วดับยาก เมื่อเข้าร่วมกับดาวดวงใดมักหน่วงเหนี่ยวให้เฉื่อยชา
ลง คิดรอบคอบ ตรึกตรอง วิตกกังวล ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ วัสดุ ล่าช้า เนิ่นนาน เก่าโบราณ
ของเก่า เหน็ดเหนื่อย โรคเรื้อรัง คนแก่ สันโดษ ความทุกข์ โทษ ความยากจน การพลัดพราก
โยกย้าย ความตระหนี่ มัธยัสถ์
- 11. ราหู
• มีตานานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ราหูและเกตุ ว่าในครั้งที่เหล่าเทพและยักษ์ ร่วมมือร่วมแรงกันกวน
เกษียรสมุทร ให้เป็นน้าอามฤต โดยมีพระนารายณ์ เป็นประธาน เมื่อได้น้าอามฤตแล้วฝ่ายเทพก็
แบ่งปันกันดื่ม แต่ออกอุบาย กลลวงกันไม่ให้ยักษ์ดื่มกิน มีแต่ราหู ที่เล็ดลอดไปแอบดื่มน้า
อามฤตได้ แต่พระอาทิตย์ และจันทร์เห็นเข้า จึงฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงขว้างจักรตัด
ร่างราหูเป็นสองท่อน ราหูนั้นได้ดื่มน้าอามฤตไปบ้างแล้วจึงทาให้เป็นอมตะ
• ลักษณะทั่วไป- ราหู ในทางโหราศาสตร์ ไม่จัดว่าเป็นดาว เพราะเป็นจุดคราส เกิดจากจุดตัดของ
การโคจรของโลก ราหูจึงเป็นเงา แต่ก็เรียกๆกันไปว่า ดาวราหู เพราะเรียกกันติดปาก(บางครั้ง
ผมก็เผลอเรียกว่าดาว เหมือนกันครับ) ราหูนั้นทาให้เกิดจันทรุปราคา และสุริยุปราคา
• ความหมายทั่วไป- ความมืดมัว เงา มายา ภาพยนตร์ โจร ความลุ่มหลง เล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบ
ปฏิภาณ การเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านดีและร้าย ผันผวน ไม่แน่นอน เสี่ยงโชค คดีความ
- 12. ๙ เกตุ
• พระเกตุ - ตามคัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระอิศวร ทรงร่ายพระเวท ให้พระยานาค ๙ ตัวเป็นธุลี
ห่อด้วยผ้าสีทองคา ประพรมด้วยน้าอามฤต บังเกิดเป็นเทพ มีสีกายทองคา อันสุกสกาวดัง
เปลวไฟ ทรงนาค เป็น พาหนะ
• ลักษณะทั่วไป- เกตุ ไม่มีเรือนเกษตรของตัวเอง เป็นวิญญาณธาตุ เป็นท่อนหางของราหู
โหราศาสตร์สากลทั่วไป กาหนดให้เกตุและราหู มีระยะเชิงมุมห่างกัน ๑๘๐ องศาเสมอ (อยู่ใน
มุมเล็งกันตลอด) แต่สาหรับโหราศาสตร์ไทย ใช้การคานวณแบบสุริยยาตร์ เกตุจึงไม่ได้อยู่ใน
ตาแหน่งเล็งราหูแบบสากล เกตุเมื่อเข้าร่วมกับ ดาวใด ก็มักจะสนับสนุนให้ดาวนั้นทาหน้าที่
ได้มากยิ่งขึ้น มีพลังมากขึ้น
• อัตราการโคจร ราศีละประมาณ ๕๕ วัน (เดินปกติ ไม่เดินแบบวิกลคติ (พักร มนท์ เสริด))
• ความหมายทั่วไป- แสง รังสี กระแสคลื่น ดาวหาง การเคลื่อนไหว คนบ้า วิกลจริต คนผิดปกติ
ความผันผวน วุ่นวาย กังวล ความผิดปกติ ผิดธรรมชาติ เหนือธรรมชาติ สัมผัสที่หก วิญญาณ
เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดินทางไกล ต่างแดนถิ่นไกล ต่างประเทศ โหราศาสตร์ อิทธิฤทธิ์
- 13. ๐ มฤตยู
• ดาวมฤตยู เป็นดาวใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ โดยชาวตะวันตก คือ เซอร์วิลเลียม เฮอร์เชล(Sir
William Herschel) พบในปี ค.ศ. 1781 หรือ พ.ศ. ๒๓๒๔ หรือเมื่อ ๒๓๒ ปีที่ผ่านมา จึง
ทาให้ไม่มีเรื่องราวตานาน ในคัมภีร์เฉลิมไตรภพ และหลังจากนั้นจึงได้เริ่มนามาใช้ในทาง
โหราศาสตร์ กาหนดให้เป็น อากาศธาตุ เป็นบาปเคราะห์
• ดาวมฤตยู ในด้านความหมาย รายละเอียดต่างๆ ที่ใช้ในทางโหราศาสตร์ ยังมีไม่มากนักและยัง
หาข้อสรุปที่แน่ชัดไม่ได้ เท่าที่ยอมรับและทราบก็ มีตามพิมพ์ไว้พอสังเขป เท่านี้ครับ
• อัตราการโคจร ราศีละ ๗ ปี
• ความหมายทั่วไป- กระแสคลื่นต่างๆ ที่มองไม่เห็น คลื่นวิทยุ-โทรทัศน์ ความเครียด วิกฤติ
กะทันหัน ความรุนแรงอย่างเฉียบพลัน ไม่รู้ตัว ความลับ ไม่เปิดเผย ความวิบัติ ความตาย การ
โยกย้าย ต่างแดนถิ่นไกล ต่างประเทศ วิญญาณ โหราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สิ่งลี้ลับ ว่างเปล่า
โรคภัย